ตอนที่ 3 ความจริงเปิดเผย
สามวันถัดมา
สไมล์ปรากฏตัวที่คลินิกของเวย์อีกครั้งเมื่อครบกำหนดที่เธอเคยให้ไว้กับเวย์ว่าจะกลับมาเอาคำตอบและคำขอโทษจากเจ้าของคลินิก
สไมล์ขับรถสปอร์ตยี่ห้อปอร์เช่สีขาวคันโปรดมาโดยลำพังไร้ผู้จัดการส่วนตัวเหมือนอย่างเช่นทุกครั้งที่เคยมา ร่างระหงดูสง่างามเดินเข้ามาในคลินิกด้วยความมั่นใจเต็มร้อยว่าจะต้องได้รับคำขอโทษและความรับผิดชอบจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
“ฉันมาขอพบคุณหมอเวย์ค่ะ”
“คุณสไมล์ได้นัดไว้ไหมคะ พอดีวันนี้คุณหมอไม่ได้เข้าคลินิกค่ะ”
“ไม่ได้นัดอย่างเป็นทางการ แต่ครั้งก่อนฉันได้แจ้งเขาไว้แล้วค่ะว่าฉันจะมาหาเขาอีกครั้งวันนี้” สไมล์แจ้งเจ้าหน้าที่ไปตามความจริงและเดินดุ่ม ๆ เข้าไปนั่งรอในห้องทำงานส่วนตัวของคุณหมอหนุ่มท่ามกลางสายตาและความตกใจของพนักงานทั้งคลินิก เมื่อไม่สามารถต้านทานดาราสาวได้ พนักงานหญิงวัยสามสิบต้น ๆ รีบยกหูโทรศัพท์ต่อสายหาคุณหมอเจ้าของคลินิกทันที และแจ้งว่าดาราสาวมารอพบและตอนนี้เธอนั่งรออยู่ในห้องทำงานส่วนตัวของคุณหมอ
ทางด้านเวย์
ครืด ครืด ครืด โทรศัพท์เครื่องที่ใช้ติดต่องานดังขึ้นขณะที่ชายหนุ่มกำลังนั่งหารือเกี่ยวกับคนไข้เคสพิเศษกับภีร์และภาคย์
“กูขอรับโทรศัพท์แป๊บหนึ่ง” ร่างสูงลุกจากเก้าอี้เดินแยกตัวออกไปรับโทรศัพท์ด้านนอกไม่นานก็เดินกลับเข้ามา
ใบหน้าคมเข้มเดินกลับมาสีหน้าเคร่งเครียด คิ้วคมเข้มขมวดเข้าหากันเป็นปม
“มีอะไรเวย์”
“ที่คลินิกมีเรื่องนิดหน่อย”
“งั้นมึงก็รีบไปจัดการเถอะ” ภาคย์พูดขึ้นเมื่อเห็นสีหน้าเป็นกังวลของเพื่อน
“คุยงานต่อเถอะ เดี๋ยวค่อยจัดการทีหลัง” แม้ตอนนี้ในใจจะเริ่มเป็นห่วงที่คลินิกว่าพนักงานของเขาจะรับมือกับดาราสาวไม่ไหว แต่ความรับผิดชอบงานตรงหน้าร่วมกับเพื่อนยังเป็นสิ่งที่เวย์ให้ความสำคัญมาเป็นอันดับแรก
ทางด้านสไมล์
“คุณหมอจะเข้ามาคลินิกกี่โมงคะ” สไมล์เอ่ยถามเจ้าหน้าที่ที่ยกน้ำและของว่างเข้ามาต้อนรับเธอ
“คุณหมอติดธุระด่วนอยู่ค่ะ คุณหมอแจ้งว่าถ้าเสร็จแล้วจะรีบมาค่ะ” พนักงานแจ้งไปตามความจริงเหมือนอย่างที่คุณหมอหนุ่มบอก
“ฉันขอคุยกับเขาได้ไหมคะ”
“เอ่อ..มันจะดีเหรอคะ” เมื่อได้ยินสิ่งที่ดาราสาวร้องขอพนักงานสาวจึงรู้สึกเป็นกังวลและลำบากใจ
“กดเบอร์เขาให้ฉันที” โทรศัพท์เครื่องหรูถูกยื่นไปตรงหน้าพนักงานสาว แม้จะยังไม่ทันได้ตัดสินใจว่าจะทำตามที่สไมล์ขอได้หรือไม่ แต่โทรศัพท์ที่ถูกยื่นมาตรงหน้าก็เป็นการกดดันให้พนักงานต้องทำตามที่หญิงสาวบอก
โรงพยาบาล
ครืด ครืด ครืด โทรศัพท์เวย์ดังขึ้นอีกครั้งและยังคงดังต่อเนื่อง แต่เบอร์ที่โทรเข้ามานั้นไม่ใช่เบอร์ของพนักงานที่คลินิกแต่เป็นเบอร์ที่ไม่รู้จัก ชายหนุ่มลังเลที่จะรับสายเพราะยังคุยงานกับเพื่อนไม่เสร็จแต่เนื่องจากเสียงโทรศัพท์ที่ดังขึ้นต่อเนื่องจากเบอร์ที่ไม่รู้จักนั้นหลายรอบ ทำให้เวย์ต้องกดรับสาย
“สวัสดีครับ”
“นี่คุณ ฉันมารอคุณเป็นชั่วโมงแล้วนะเมื่อไหร่คุณจะมา คุณนี่เป็นหมอที่ใช้ไม่ได้เลยนะไม่เคยรักษาเวลาเลย” ทันทีที่อีกฝ่ายกดรับสายสไมล์ก็รัวคำถามใส่น้ำเสียงไม่พอใจ
“ผมติดธุระสำคัญอยู่ที่โรงพยาบาล อีกครึ่งชั่วโมงเดี๋ยวผมเข้าไป แล้วอีกอย่างคุณก็ไม่ได้แจ้งผมว่าคุณจะมาหาผมและผมไม่ได้มีงานที่คลินิกที่เดียวนะครับ งานที่โรงพยาบาลผมก็ต้องรับผิดชอบ” น้ำเสียงนิ่งตอบกลับทันทีเมื่อรู้ว่าเป็นใครโทรมา
“แต่วันนั้นฉันแจ้งคุณชัดเจนแล้วนี่ว่าฉันจะเข้ามาเอาคำตอบกับคุณวันนี้ อย่าบอกนะว่าคุณตั้งใจจะหลบหน้าฉัน”
“ครับแจ้งแล้วว่าวันนี้ แต่วันนี้คือถึงเที่ยงคืนคุณไม่ได้ระบุเวลาและอีกอย่างผมไม่จำเป็นต้องหลบหน้าคุณเพราะผมไม่ได้ทำอะไรผิด”
“นี่คุณจะกวนฉันเหรอ” สไมล์เริ่มโมโหที่ถูกอีกฝ่ายพูดจาเหมือนยียวน
“เปล่าครับคุณสไมล์ผมแค่จะบอกคุณว่า ถ้าขืนคุณยังโวยวายไม่หยุดผมอาจจะเคลียร์ธุระเสร็จช้าเพราะต้องเสียเวลานั่งอธิบายให้คุณเข้าใจอยู่แบบนี้ เพราะฉะนั้นนั่งดื่มน้ำเย็น ๆ รอไปก่อนครับอีกครึ่งชั่วโมงผมจะเข้าไป” จากนั้นคุณหมอหนุ่มก็กดตัดสายทันทีพร้อมกับถอนหายใจเสียงดังจนภีร์ที่นั่งฟังเพื่อนมาตั้งแต่ต้นอดสงสัยไม่ได้จึงถามขึ้น
“ใครโทรตามยิก ๆ ลูกค้าที่คลินิกเหรอวะ” ภีร์ถามขึ้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“เปล่า” เวย์ตอบสั้น ๆ ด้วยน้ำเสียงที่ไม่สบอารมณ์
“แต่เอ๊ะ! สไมล์ สไมล์ที่เป็นดาราเหรอวะ” ภีร์ถามขึ้นเมื่อนึกขึ้นได้ว่าลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการที่คลินิกเพื่อนตนนั้นล้วนแต่เป็นดาราดังและเซเลบแถวหน้าของเมืองไทยทั้งนั้น
“เลิกสนใจเรื่องของกู แล้วสนใจเคสของมึงดีกว่าไหม” เวย์พูดสวนตัดบททันทีจนภีร์ที่อ้าปากจะถามต่อต้องหุบและเงียบปากลง
“ไอ้ห่า แอบเก็บไว้กินคนเดียวระวังท้องเสียเอานะโว้ยไม่แบ่งเพื่อนฝูง” ภีร์ยังไม่ยอมแพ้พูดใส่เวย์ด้วยท่าทางหมั่นไส้
“มึงจะเลิกสนใจเรื่องไอ้เวย์แล้วมาสนใจเคสของมึงได้ยัง ถ้ายังกูจะกลับไปทำงานของกู” เป็นภาคย์ที่ทนไม่ไหวพูดขึ้นสีหน้าจริงจังจนสามารถเรียกสติของภีร์กลับมาสนใจเคสตรงหน้าได้ สามหมอหนุ่มจึงกลับมาสู่โหมดจริงจังอีกครั้งแล้วร่วมระดมสมองในการหารือเกี่ยวกับปัญหาเคสคนไข้ของภีร์ ทั้งสามหนุ่มงัดความรู้และประสบการณ์ที่มีมาคุยกันพร้อมดูแฟ้มเคสคนไข้ของภีร์อย่างตั้งใจ
เวย์เสร็จงานที่โรงพยาบาลก็รีบตรงดิ่งมาที่คลินิกทันที จะเรียกว่าเสร็จก็ไม่ได้ต้องเรียกว่าปลีกตัวออกมาซะมากกว่า ใช้เวลาเดินทางแค่ยี่สิบนาทีก็มาถึงคลินิก
“รออยู่ข้างในค่ะคุณหมอ” พนักงานของคลินิกรีบบอกทันทีที่ร่างสูงของเวย์ก้าวเข้ามาในคลินิกด้วยอาการหอบนิด ๆ จากความเร่งรีบ เวย์พยักหน้ารับรู้ก่อนจะถอนหายใจอีกครั้งแล้วเดินเข้าไปยังห้องทำงานของตนเอง
“กว่าจะมาได้นะคะ หวังว่าที่บอกติดงานที่โรงพยาบาลจะไม่ใช่ข้ออ้างในการหลบไปเตรียมตัวที่จะให้คำตอบกับฉันหรอกนะคะ” สไมล์ที่นั่งไขว่ห้างรอชายหนุ่มเอ่ยขึ้นแบบคนหาเรื่องทันทีที่ร่างสูงเดินเข้ามา เวย์เพียงแต่ชายตามองหญิงสาวที่นั่งอยู่ในห้องทำงานตนเล็กน้อยก่อนจะเดินเลยไปนั่งยังโต๊ะทำงานของตนเอง
“ผมไม่จำเป็นต้องหลบอะไรเพราะผมไม่ได้ผิดอะไร” เวย์ตอบกลับหญิงสาวอย่างใจเย็นโดยไม่มีท่าทีหวั่นเกรงกับความผิดที่อีกฝ่ายพยายามยัดเยียดให้ตั้งแต่เมื่อสามวันก่อนแม้แต่น้อย
“มั่นใจจังเลยนะคะว่าไม่ผิด แล้วไหนล่ะคะหลักฐานที่จะยืนยันว่าลูกน้องของคุณไม่ได้เป็นคนปล่อยภาพของฉัน”
“ดูคุณมั่นใจจังเลยนะครับว่าภาพของคุณถูกปล่อยจากฝีมือพนักงานของผม”
“ไม่ใช่มั่นใจแต่ฉันแน่ใจว่ามันต้องใช่ ถ้าไม่ใช่พนักงานของคุณแล้วจะมาจากใคร คุณก็เห็นข่าวไม่ใช่เหรอว่าภาพมันถูกถ่ายมาจากในคลินิก นี่ฉันแทบจะออกไปไหนไม่ได้เพราะไม่อยากต้องมาคอยตอบคำถามนักข่าวเพราะรูปบ้า ๆ จากคลินิกคุณ”
“ไม่อยากออกไปไหนแต่คุณก็มาหาผมได้ ไม่กลัวว่าจะมีใครจำคุณได้หรือไง ผมไม่ค่อยสนใจเรื่องของดาราเลยไม่เคยรู้ว่าดาราคนไหนมีข่าวอะไรรวมถึงเรื่องของคุณด้วย เพราะฉะนั้นผมจึงไม่รู้ว่าตอนนี้โลกโซเชียลข่าวคุณจะดังแค่ไหน” เป็นครั้งแรกตั้งแต่เดินเข้ามาในห้องทำงานแล้วเวย์พูดยาวที่สุดและเป็นคำพูดที่ทำเอาคนที่ฟังแทบอยากกรี๊ดออกมาดัง ๆ
“นี่คุณ!!” สไมล์เรียกเวย์ท่าทางไม่พอใจแต่หมอหนุ่มไม่ได้สนใจเพราะกำลังเปิดกล้องวงจรปิดย้อนหลังในวันเกิดเหตุบนหน้าจอคอมพิวเตอร์โต๊ะทำงานของตนเองเพื่อให้หญิงสาวดู
“เชิญมาดูตรงนี้ครับ” เวย์เรียกสไมล์ให้ดูกล้องวงจรปิดที่ในวันที่หญิงสาวมาใช้บริการด้วยน้ำเสียงราบเรียบ คอมพิวเตอร์ที่หน้าจอกำลังรันภาพเหตุการณ์ในวันเกิดเหตุฉายชัดให้สไมล์ได้ดู หญิงสาวหันไปมองหมอหนุ่มแวบเดียวก่อนจะนั่งมองหน้าจออย่างตั้งใจ จนเมื่อกล้องบันทึกมาถึงช่วงที่หญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเป็นญาติของคนไข้ที่มาใช้บริการในวันเดียวกับสไมล์ยกกล้องมือถือขึ้นมาแอบถ่ายดาราสาวระหว่างที่เดินเข้ามาใช้บริการของทางคลินิก สไมล์ตัวแข็งทื่อเมื่อดูมาถึงตรงนี้เพราะมุมกล้องวงจรปิดที่บันทึกเหตุการณ์ไว้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่ารูปที่ถูกถ่ายไปลงโซเชียลเป็นมุมที่ถ่ายมาจากจุดที่ญาติคนไข้ที่เป็นตัวต้นเหตุนั่งอยู่
“ภาพจากกล้องวงจรปิดที่คุณดูตอนนี้พอจะเป็นหลักฐานได้หรือเปล่า ทีนี้คุณคงจะเลิกยัดเยียดความผิดให้พนักงานของผมได้สักทีนะครับ” เวย์มองมาที่สไมล์ด้วยสายตาที่นิ่งพร้อมน้ำเสียงและพูดด้วยน้ำเสียงราบเรียบ สไมล์ที่รู้สึกหน้าแตกยังคงนั่งนิ่งเพราะไม่รู้จะพูดอะไรกับหลักฐานที่เวย์นำมายืนยันความบริสุทธิ์ของพนักงาน
“ฉันก็ไม่ได้จะยัดเยียดความผิดอะไรให้พนักงานคุณนี่คะฉันแค่บอกว่าจะมาเอาคำตอบ แล้วถ้าหากว่าคนทำเป็นพนักงานของคุณก็แค่ให้ขอโทษ” สไมล์ยังคงตอบชายหนุ่มแบบข้าง ๆ คูๆ พร้อมกับยืดไหล่ขึ้นนั่งหลังตรงหน้าเชิดไม่ยอมเสียเหลี่ยมง่าย ๆ แม้จะเสียหน้าแค่ไหนก็ตาม เวย์ส่ายหัวกับท่าทีของคนตรงหน้าที่ไม่ยอมรับในความผิดของตัวเอง
“คราวหลังคุณควรจะไตร่ตรองให้ดีนะก่อนที่จะไปโวยวายหรือปรักปรำใคร ถ้าคุณเองก็ยังไม่รู้ว่าเขาผิดจริงหรือเปล่า”
“ก็ใครจะไปรู้ล่ะว่าจะมีคนแอบถ่ายก็ไหนว่าคลินิกคุณเป็นระดับพรีเมี่ยม ก็นึกว่าจะมีมาตรการเข้มงวดด้านการละเมิดสิทธิส่วนบุคคลของผู้มาใช้บริการ”
“ผมเปิดคลินิกไม่ได้เปิดสำนักงานคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลแล้วอีกอย่างกฎระเบียบก็ไม่ได้ช่วยทั้งหมดเพราะบางอย่างขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของบุคคลนั้นด้วย” เวย์สวนกลับแบบนิ่ม ๆ ด้วยท่าทางเยือกเย็น
“คุณนี่ไม่น่าจะเป็นหมอเลยนะวาจาเชือดเฉือนยิ่งกว่าผู้หญิงอีก”
“ถ้าคุณไม่มีอะไรแล้วผมจะขออนุญาตเคลียร์งานต่อนะครับแล้วถ้าหากคุณยังติดใจสงสัยอะไรเกี่ยวกับพนักงานและคลินิกของผม ผมยินดีให้ความร่วมมือ” เมื่อเห็นว่าการเถียงกับสไมล์ไม่ได้ก่อประโยชน์อะไรพานจะทำให้ตนเสียเวลา เวย์จึงตัดบทการสนทนากับหญิงสาวอย่างมีมารยาท
สไมล์ที่เริ่มรู้สึกผิดที่หลายวันก่อนหอบเอาพายุอารมณ์มาสาดใส่คุณหมอแบบไม่ยอมฟังเหตุผลใดๆ แต่จะให้เธอเอ่ยขอโทษคนตรงหน้าเธอก็ไม่กล้าทำตรง ๆ
“ฉันยังไม่ได้เอาคลินิกคุณไปพูดในทางที่เสีย ๆ หาย ๆ คุณสบายใจได้” น้ำเสียงที่เบาลงอย่างเห็นได้ชัดเอ่ยบอกด้วยสีหน้าเจื่อนลง
“ผมก็ไม่ได้คิดว่าคุณจะทำแบบนั้น และต่อให้คุณทำผมก็ไม่ได้เดือดร้อนอะไรเพราะคลินิกผมไม่ได้ทำความเสียหายอะไรให้คุณ” น้ำเสียงเรื่อย ๆ ที่ตอบกลับมาโดยไม่หันมามองทำให้สไมล์รู้สึกเสียหน้าที่เวย์ทำเหมือนเธอไม่มีตัวตน หญิงสาวลุกขึ้นยืนมองคุณหมอหนุ่มก่อนจะเดินออกจากห้องไป เวย์มองตามหลังของดาราสาวด้วยสายตานิ่งลึก ก่อนจะหันกลับมาสนใจงานของตนเองเหมือนเดิม