ตอนที่ 2 ข่าวหลุด
ตึก ตึก ตึก
เสียงฝีเท้าที่เดินย่ำลงบันไดมาบ่งบอกอารมณ์ของเจ้าของฝีเท้าได้เป็นอย่างดีว่าตอนนี้อยู่ในอารมณ์ไม่สู้ดีนัก น้ำหวานที่มาถึงบ้านสไมล์แต่เช้าเพราะข่าวของลูกรักของเธออย่างสไมล์กำลังว่อนไปทั่วเน็ตเพียงชั่วข้ามคืน เมื่อเห็นหญิงสาวกำลังเดินลงมาจากชั้นบนของบ้านก็ดีดตัวลุกขึ้นทันที
“พี่หวาน!!”
“สไมล์!!”
สองสาวประสานเสียงเรียกชื่อของอีกฝ่ายขึ้นพร้อมกันแต่อารมณ์ไม่ต่างกันมากนัก
“ทำไมมันเป็นอย่างนี้ไปได้คะพี่หวานไหนพี่หวานบอกสไมล์ว่าคลินิกนี้ไว้ใจได้ แล้วทำไมเพียงแค่คืนเดียวถึงมีรูปสไมล์เข้าคลินิกว่อนไปทั่วโลกโซเชียลแบบนี้ล่ะคะ” ท่าทีไม่สบอารมณ์ของดาราสาวในสังกัดทำเอาน้ำหวานต้องตั้งสติเพื่อช่วยหาทางแก้ปัญหาที่มีอยู่อย่างใจเย็น
“เจ๊ก็ไม่รู้ สไมล์ใจเย็น ๆ ก่อนตอนนี้เราไม่รู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นคนแอบถ่ายและปล่อยภาพลงโซเชียล ถ้าหากว่าเราไปปรักปรำว่าเป็นฝีมือของทางคลินิกแล้วสุดท้ายเกิดมันไม่ได้มาจากเขาล่ะเราจะซวยเอานะ” น้ำหวานพยายามมีสติและเตือนสติดาราสาวในสังกัดของเธอ ในขณะที่สไมล์กำลังเลื่อนดูข่าวของตนเองจากมือถือยี่ห้อดังด้วยใบหน้าที่บึ้งตึง
เนื้อหาข่าวในโซเชียล
ดาราสาววัยรุ่นชื่อดังผู้ที่มีเบ้าหน้าสมบูรณ์แบบดั่งฟ้าประทาน แต่วันนี้เหมือนที่ฟ้าประทานมาให้ไม่เป็นที่พอใจอีกต่อไป เมื่อมีคนตาดีเห็นเธอเดินออกมาจากคลินิกเสริมความงามชื่อดัง ซึ่งแหล่งข่าวยังไม่มีใครสามารถยืนยันได้ว่าเธอเข้าไปทำอะไรหรือเข้าไปปรึกษาปัญหาเล็ก ๆ น้อย ๆ เฉย ๆ หรือเธออาจจะพาเพื่อนไปก็ได้นะคะ”
“สไมล์จะไปที่คลินิกค่ะ ไปพบเจ้าของคลินิกแล้วถามให้รู้เรื่องว่าพวกเขามีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้หรือเปล่า ถ้าหากว่าเขาไม่ได้ทำเขาก็ต้องหาหลักฐานมายืนยันความบริสุทธิ์ของตัวเองให้สไมล์เห็น ไม่อย่างนั้นสไมล์ไม่ยอมแน่” ท่าทีเอาจริงของดาราสาวทำเอาผู้จัดการอย่างน้ำหวานเกินทัดทาน เพราะลึก ๆ แล้วน้ำหวานก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าข่าวที่เกิดขึ้นส่งผลกระทบกับงานของหญิงสาวไม่น้อย
“งั้นรอตอนบ่ายได้ไหมเดี๋ยวเจ๊มารับ เพราะช่วงสายนี้เจ๊มีนัดพาดาราหน้าใหม่เข้าไปให้ผู้จัดดูตัว” น้ำหวานเอ่ยด้วยสีหน้าเป็นกังวลไม่แพ้กัน เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องนอกเหนือตารางชีวิตที่เธอจัดไว้ทั้งของตนเองและสไมล์แถมยังมีงานของดาราคนอื่นในสังกัดต้องจัดการอีก
“สไมล์จะไปเองค่ะ” น้ำเสียงและสีหน้าจริงจังของสไมล์หันไปบอกกับผู้จัดการส่วนตัว เธอไม่อาจทนรอได้แม้แต่นาทีเดียวกับเรื่องที่เกิดขึ้น จึงต้องการไปที่คลินิกนั้นเร็วที่สุดเพื่อสอบถามถึงความรับผิดชอบ เพราะตอนนี้ยังไงเธอก็คิดว่าเป็นฝีมือของพนักงานคลินิกแน่นอน
“สติค่ะสติ เราต้องมีสติในการแก้ปัญหา”
“สไมล์จะไปคุยดี ๆ ค่ะพี่หวานไม่ต้องห่วง”
“ไม่ห่วงได้ยังไงล่ะ ดูท่าทางของเธอตอนนี้บอกตรง ๆ เจ๊ยิ่งกว่าห่วงอีกนะสไมล์” เมื่อมีเรื่องวุ่นวายเกิดขึ้นในวันที่คิวงานล้นมือ แถมลูกรักในสังกัดยังทำท่าดื้อรั้นเอาแต่ใจ น้ำหวานจึงหัวหมุนเหมือนคนที่ไม่รู้จะจัดการสิ่งไหนก่อนดี
“เชื่อสไมล์เถอะค่ะ สไมล์จัดการได้”
“เชื่อจ๊ะว่าจัดการได้ แต่เจ๊ไม่เชื่อว่าจะออกมาดีโดยไม่มีเรื่องงอกมาเพิ่ม รอเดี๋ยวเจ๊ขอโทรเลื่อนผู้จัดเป็นช่วงบ่ายก่อนแล้วเดี๋ยวเจ๊ไปด้วย” น้ำหวานส่ายหัวกับความรั้นของดาราสาวก่อนจะหยิบโทรศัพท์ต่อสายหาผู้จัดละครเพื่อขอเลื่อนนัด ยังไงเรื่องของสไมล์ก็เป็นเรื่องที่ต้องให้ความสำคัญมาเป็นอันดับหนึ่ง
ธิปติพัศคลินิก
สไมล์กลับมาที่คลินิกอีกครั้งโดยไม่ได้มาใช้บริการแต่วันนี้เธอมีธุระกับคุณหมอหนุ่มเจ้าของคลินิก ที่รูปที่เธอมาใช้บริการที่คลินิกถูกถ่ายและเผยแพร่ออกไปโดยเธอเชื่อว่าเป็นฝีมือของพนักงานของคลินิก
“ฉันต้องการพบหมอเจ้าของคลินิกตอนนี้ค่ะ” เธอแจ้งจุดประสงค์ชัดเจนที่เดินมาถึง
“คุณหมอติดเคสอยู่ค่ะ ไม่ทราบว่าคุณสไมล์มีธุระอะไรกับคุณหมอหรือเปล่าคะ” เจ้าหน้าที่เอ่ยถามขึ้นอย่างใจเย็นเพราะตามตารางนัดแล้วคนไข้คนสุดท้ายของวันนี้คือคนที่อยู่ในห้อง แต่ตอนนี้ดาราสาวพรวดพราดเข้ามาและแจ้งว่าต้องการพบคุณหมอตอนนี้
เสียงเอะอะโวยวายดังมาจากข้างนอกขณะที่เวย์กำลังดูแลคนไข้อยู่ในห้องจนแล้วเสร็จ แล้วเดินออกมาข้างนอกก็เจอกับดาราสาวที่ยืนโวยวายเสียงดังหน้าแดงอยู่ด้านนอก เวลานี้เป็นเวลาเย็นตอนนี้ไม่มีคนไข้รอคิวแล้ว ภายในคลินิกจึงมีแต่คนไข้คนสุดท้ายที่เวย์พึ่งรักษาเสร็จ และคนไข้อีกคนที่มาโดยไม่ได้นัดและตอนนี้กำลังโวยวายเสียงดังเข้าข่ายก่อกวนอยู่ข้างนอกโดยที่ยังไม่มีใครทราบสาเหตุว่าที่เธอมายืนโวยวายอยู่ตรงนี้เพราะอะไร รู้แค่เพียงว่าเธอต้องการพบเจ้าของคลินิกเพียงเท่านั้น
“เสียงดังเอะอะโวยวายอะไรครับ” เวย์ในชุดกาวน์สีขาวเปิดประตูเดินออกมาสีหน้าเรียบนิ่ง
“คุณสไมล์แจ้งว่าเธอต้องการพบคุณหมอค่ะ”
“วันนี้คนไข้ครบตามตารางนัดแล้วนี่ครับ” เวย์ถามกลับเสียงเรียบไม่แสดงท่าทีตกใจที่ดาราสาวมายืนหน้าบึ้งอยู่ในคลินิกเขาตอนนี้
“ฉันไม่ได้นัดมารักษาหน้าค่ะ แต่ฉันมีเรื่องมาเคลียร์กับคุณ” เสียงใสเน้นเสียงตรงประโยคสุดท้ายเพื่อสื่อให้คนฟังรู้ใจความสำคัญของประโยคที่เธอพูดได้โดยไม่ต้องอธิบายซ้ำ
“สไมล์ใจเย็น ๆ จำคำที่เจ๊บอกให้ขึ้นใจอย่าใช้อารมณ์” น้ำหวานที่เดินตามหญิงสาวเข้ามาในคลินิกหลังจากขับรถไปหาที่จอดเรียบร้อยแล้วก็เอ่ยเตือนขึ้น เพราะตอนนี้ดูเหมือนว่าสไมล์กำลังอารมณ์ขึ้นจนฉุดไม่อยู่
“เชิญเข้าไปคุยกันในห้องดีกว่าครับ” ร่างสูงหุ่นนายแบบเดินนำหน้าหญิงสาวเข้าไปยังห้องทำงานส่วนตัว เสื้อกาวน์สีขาวถูกถอดออกและแขวนไว้ราวอเนกประสงค์จากนั้นหย่อนสะโพกหนาลงบนเก้าอี้
“เชิญครับ ว่าธุระของคุณมาได้เลย” มือเรียวยาวผายไปข้างหน้าเป็นสัญญาณว่าให้อีกฝ่ายเริ่มพูดได้เลย
“คลินิกของคุณเปิดเผยความลับของคนไข้ คุณจะรับผิดชอบกับเรื่องนี้ยังไง” สไมล์แจ้งรายละเอียดความเดือดร้อนที่ตัวเองได้รับความเสียหายให้คุณหมอเจ้าของคลินิกทราบ
“ทางเราไม่เคยนำข้อมูลของคนไข้ไปเปิดเผย และเรามีจรรยาบรรณมากพอที่จะรักษาความลับของคนไข้แน่นอนครับ”
“แล้วรูปที่หลุดและข่าวที่เสนออกมานี่คืออะไรคะ” โทรศัพท์เครื่องหรูที่เปิดหน้าข่าวของตัวเองวางลงตรงหน้าชายหนุ่ม
“ข่าวคุณนี่ครับเอามาให้ผมดูทำไม ผมไม่สนใจเรื่องข่าวดารา” ดวงตาสีน้ำตาลเข้มโฟกัสไปที่หน้าจอเพียงครู่ก่อนจะเบนสายตาไปมองหน้าดาราสาวที่นั่งนิ่งตั้งแต่ก้าวเท้าเข้ามาภายในห้อง
“แต่ในรูปเป็นตอนที่ฉันมาใช้บริการที่คลินิกคุณและดูจากรูปที่ถ่ายมองยังไงก็ดูออกว่าถ่ายจากด้านในไม่ใช่ถ่ายจากด้านนอกเพราะฉะนั้นคนที่จะสามารถถ่ายรูปฉันได้ก็มีเฉพาะพนักงานของคุณ” สไมล์เริ่มโวยวายเสียงดังขึ้นอีกรอบ
“วันนั้นคนไข้มาใช้บริการที่คลินิกของผมค่อนข้างเยอะคุณแน่ใจได้อย่างไรว่าเป็นฝีมือของพนักงานคลินิกผม” เวย์ยังถามกลับเสียงเรียบนิ่งไม่มีทีท่าจะตกใจกับหลักฐานที่ดาราสาวพยายามผลักให้เขาเป็นฝ่ายผิด
“นี่คุณกำลังจะบอกฉันว่าคุณจะไม่รับผิดชอบใช่ไหม คลินิกออกจะใหญ่โตแต่ไร้ความรับผิดชอบต่อคนไข้แบบนี้เหรอคะ”
“ผมยังไม่ได้บอกว่าจะไม่รับผิดชอบ ถ้าคนของผมทำผิดจริงผมยินดีจะรับผิดชอบกับเรื่องนี้ทั้งหมด แต่ตอนนี้ผมถามว่าคุณแน่ใจได้อย่างไรว่าเป็นฝีมือคนของผม คุณก็ได้แต่เอาความคาดเดามาตอบผมว่า คิดว่าน่าจะใช่”
“งั้นคุณก็พิสูจน์สิว่าไม่ใช่ฝีมือคนของคุณ”
“ครับ ผมต้องพิสูจน์ให้คนของผมแน่ แต่ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเป็นฝีมือของใคร คุณก็อย่าพึ่งปรักปรำหรือด่วนสรุปว่าใครเป็นคนผิด”
“งั้นฝากคุณหมอด้วยนะคะ อีกสามวันฉันจะกลับมาเอาคำตอบ เตรียมคำขอโทษไว้ดี ๆ ด้วยนะคะ”
“ครับ ไม่ต้องห่วงถ้าหากว่าทางผมผิดจริงผมยินดีที่จะขอโทษและรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างแน่นอน แล้วผมก็หวังว่าถ้าหากว่าทางผมและพนักงานของผมไม่ได้ผิดอย่างที่คุณกล่าวหา คุณจะมีคำขอโทษให้โดยที่ผมไม่ต้องร้องขอเช่นกัน” สายตาคมที่มองมายังสไมล์พร้อมคำพูดของหมอหนุ่มทำเอาสไมล์ออกจะหวั่นเล็กน้อย แต่ความมั่นใจในความคิดของตัวเองที่ว่าพนักงานของคลินิกเป็นคนปล่อยภาพของเธอมีมากกว่า ใบหน้างามเชิดขึ้นเล็กน้อยก่อนจะตอบกลับด้วยท่าทีเหมือนคนรั้นที่มีความมั่นใจเต็มเปี่ยม
“จะต้องไม่ใช่ฉันแน่นอนที่พูดคำว่าขอโทษ” น้ำเสียงและท่าทางที่แสดงความมั่นใจของสไมล์บอกกับคุณหมอหนุ่ม ก่อนจะเดินออกไปหาน้ำหวานที่นั่งรออยู่ด้านนอกแล้วพากันกลับ
หลังจากที่สไมล์เดินออกจากห้องไปพ้นขอบประตู เวย์ก็รีบเปิดเทปบันทึกกล้องวงจรปิดในวันที่เกิดเหตุทันที ใช้เวลานั่งดูอยู่นานนับสิบนาทีก็เจอกับตัวต้นเหตุของเรื่องนี้ คือญาติของคนไข้ที่มาใช้บริการในวันนั้นได้แอบถ่ายรูปดาราสาวและน่าจะเอาไปโพสต์ในโซเชียลจนเป็นกระแสและเพจข่าวออนไลน์เจอก็เลยเอาไปเสนอข่าวต่อ
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูห้องตรวจดังขึ้นหลังจากที่สไมล์กลับออกไปแล้ว
“เชิญครับ”
“คุณหมอคะ เรื่องของคุณสไมล์..”
“ผมเชื่อว่าไม่ใช่ฝีมือของพวกคุณ เพราะผมมั่นใจในการคัดเลือกคนมาทำงานของผมว่าพวกคุณมีวุฒิภาวะและจรรยาบรรณมากพอที่จะมาทำงานด้านนี้ร่วมกับผม ผมจึงเลือกพวกคุณ ผมกำลังเปิดดูกล้องวงจรปิดในวันนั้นอยู่ว่าเป็นฝีมือใคร" ท่าทางที่ดูไม่สบายใจของพนักงานและกำลังจะพูดบางอย่าง ทำให้เวย์รู้ทันทีว่าเป็นเรื่องอะไรจึงพูดคั่นขึ้นมาก่อนเพื่อให้พนักงานคลายกังวล พร้อมกับที่สายตากำลังจ้องดูภาพบางอย่างบนหน้าจอคอมพิวเตอร์อย่างตั้งใจ
“ขอบคุณค่ะคุณหมอที่เชื่อใจพวกเรา” เสียงที่ดูโล่งใจมากกว่าตอนแรกที่เดินเข้ามาของพนักงานบอกกับเวย์ก่อนที่จะขอตัวออกไปทำงานตามเดิม ชายหนุ่มพยักหน้าให้กับลูกน้องแล้วหันมาจัดการกับสิ่งที่เห็นจากกล้องวงจรปิดที่กำลังเปิดดูอยู่ เวย์ไม่ได้บอกกับพนักงานของเขาว่าภาพวงจรปิดที่เขากำลังเปิดดูอยู่นั้น เป็นหลักฐานที่ยืนยันความบริสุทธิ์ให้กับทุกคนได้เป็นอย่างดีเพราะเขาต้องการที่จะเก็บไว้จัดการกับคนที่พึ่งมายัดเยียดความผิดที่ไม่ได้ก่อของเขาและพนักงานให้ได้รับรู้ก่อน
แต่ถ้าหากว่าจะรีบติดต่อคนที่มาแสดงตัวว่าเป็นเจ้าทุกข์กับเขาก่อนหน้านี้ให้มาดูหลักฐานที่เขามีในเวลานี้ก็ดูจะทำให้อีกฝ่ายคิดว่าทางเขาร้อนตัว เมื่อนึกถึงท่าทีมั่นใจในตัวเองของสไมล์แล้วคุณหมอหนุ่มก็นึกอยากจะให้อีกฝ่ายรอด้วยความรุ่มร้อนต่อไปจนกว่าจะถึงวันที่หญิงสาวนัดมาเอาคำตอบจากเขาคงจะดีกว่า เวย์คิดว่ายังไงตอนนี้ทางเขาก็ไม่ได้ผิดแน่นอนจึงไม่เดือดร้อนอะไร ที่สำคัญทางดาราสาวก็ยังไม่ได้กระทำอะไรที่เป็นการโจมตีคลินิกของเขาให้เสียหาย มีแต่ฝ่ายนั้นที่เดือดร้อนกับชื่อเสียงของตนเองที่กำลังตกเป็นเป้าให้สังคมโซเชียลได้แชร์กันอย่างแพร่หลายไปทั่วในเวลานี้
เมื่อคิดว่ามีคำตอบและหลักฐานพร้อมสำหรับปัญหาที่เจอในวันนี้ให้กับดาราสาวแล้ว เวย์ก็จัดการบันทึกภาพนิ่งและวิดีโอเหตุการณ์ทั้งหมดลงโทรศัพท์และเก็บเข้ากระเป๋ากางเกง จากนั้นก็เก็บของบนโต๊ะและเดินออกทางประตูด้านหลังเพื่อไปเอารถที่จอดอยู่ลานจอดรถด้านหลัง