บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 2 โลกเหวี่ยงให้พบเจอ

พ่อของปลายฟ้าเกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรงกลางดึก หญิงสาวจึงพาพ่อของเธอไปโรงพยาบาลเพื่อเข้ารับการตรวจ

“โอ๊ย! ปวด ปลายฟ้าพ่อปวดจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว” เสียงร้องโอดครวญของชายวัยห้าสิบปลาย ๆ ที่ตอนนี้นอนขดตัวเอามือกุมที่หน้าท้องตัวเองอยู่บนเตียงรถเข็นของโรงพยาบาล

“พ่อใจเย็น ๆ นะหมอกำลังมาค่ะ” ใบหน้าหวานที่ตอนนี้แทบจะร้องไห้ออกมาเมื่อเห็นความเจ็บปวดของคนเป็นพ่อที่นอนกุมท้องด้วยใบหน้าบิดเบี้ยวเพราะปวดท้องอย่างหนัก

“เจ็บเหมือนไส้จะขาดเลยฟ้าเอ๊ย” น้ำเสียงที่แหบและขาดช่วงนั้นทำเอาปลายฟ้าใจคอไม่ดี ก่อนที่จะได้ยินเสียงพยาบาลเรียกเข้าห้องตรวจใบหน้าหวานที่น้ำตาคลออยู่รู้สึกโล่งอย่างบอกไม่ถูกเมื่อพ่อของเธอถึงมือหมอสักที ปลายฟ้ารีบเดินตามบุรุษพยาบาลที่เข็นพ่อของเธอเข้าไปในห้องตรวจทันที พ่อของปลายฟ้าถูกย้ายให้ขึ้นนอนบนเตียงเพื่อให้คุณหมอตรวจโดยมีปลายฟ้ายืนมองอยู่ไม่ห่าง

“จากที่หมอตรวจดูรวมถึงอาการที่คนไข้และญาติบอกหมอเกี่ยวกับอาการที่เป็นแล้ว เบื้องต้นคาดว่าเป็นอาการจากโรคกระเพาะนะคะแต่อาจจะอยู่ในภาวะที่กำเริบอย่างรุนแรง เดี๋ยวหมอจะฉีดยาบรรเทาอาการปวดให้ก่อน เนื่องจากคนไข้ทานยาแล้วอาการยังไม่ค่อยทุเลา แล้วพรุ่งนี้หมอจะส่งคนไข้ไปเอกซเรย์ดูอีกทีเพื่อความแน่ใจอีกครั้ง ยังไงคืนนี้หมอจะให้แอดมิดดูอาการที่โรงพยาบาลก่อนนะคะ” คุณหมอของขวัญผู้เป็นแพทย์เจ้าของไข้และเป็นผู้ตรวจบอกกับญาติคนไข้ที่ตอนนี้มีปลายฟ้าและแม่ยืนฟังอย่างตั้งใจ

“คุณหมอคะคุณพ่อของดิฉันไม่ได้เป็นอะไรมากใช่ไหมคะ” ปลายฟ้าหันไปถามหมอท่าทางกังวลจนเห็นได้ชัด

“เดี๋ยวรอดูผลเอกซเรย์พรุ่งนี้อีกทีค่ะถ้าหากว่าผลออกมาปกติก็แสดงว่าเป็นเพียงโรคกระเพาะธรรมดา ก็คงจะต้องทานยาร่วมกับการปรับพฤติกรรมเรื่องอาหารการกินและงดอาหารบางชนิดด้วยค่ะ” คำอธิบายเบื้องต้นของคุณหมอสาวถึงแม้จะยังไม่สามารถคลายความกังวลของปลายฟ้าลงได้แต่อย่างน้อยหญิงสาวก็เบาใจที่คืนนี้ยังไงก็ยังอยู่ใกล้หมอ

เช้าวันถัดมา

“ขออนุญาตพาคนไข้ไปเอกซเรย์ครับ” รถเข็นแบบนั่งถูกบุรุษพยาบาลเข็นมารอที่ปลายเตียงเพื่อรอรับคนไข้ในเช้าของวันใหม่ หลังจากที่เมื่อคืนปลายฟ้าเลือกที่จะอยู่เฝ้าพ่อของเธอโดยให้ผู้เป็นแม่กลับไปพักที่บ้าน

“ฉันสามารถไปด้วยได้ไหมคะ” เสียงหวานเอ่ยถามบุรุษพยาบาลเวรที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อย่างตั้งใจ

“ได้ครับแต่รบกวนรออยู่ด้านนอกนะครับ”

“โอเคค่ะ” ปลายฟ้าเดินตามบุรุษพยาบาลที่เข็นพ่อของเธอไปยังห้องเอกซเรย์ เช้านี้อาการของพ่อของเธอเริ่มดีขึ้นเมื่อได้รับยาไปตอนเช้ามืดที่ผ่านมา เมื่อไม่เห็นสีหน้าที่เจ็บปวดของคนเป็นพ่อปลายฟ้าก็เบาใจลงบ้างและภาวนาให้ผลเอกซเรย์ออกมาปกติดี

ระหว่างที่หญิงสาวยืนรอพ่อของเธออยู่สายตาก็เหลือบไปเห็นคุณหมอหนุ่มสามคนกำลังเดินผ่านตรงที่เธอยืนอยู่ไม่ไกลนัก สีหน้าท่าทางดูเคร่งเครียด และหนึ่งในสามของกลุ่มนั้นปลายฟ้าจำได้ว่าคือหมอภีร์พ่อของลูกศิษย์ตัวน้อยของเธอที่ชื่อมินนี่ ปลายฟ้าคิดว่าเธอจำคนไม่ผิดแม้ว่าจะเห็นเพียงด้านข้างก็ตาม หญิงสาวเคยได้ยินลูกศิษย์ตัวน้อยของเธอพูดถึงคุณพ่อบ่อย ๆ มินนี่ดูภูมิใจทุกครั้งที่เอ่ยถึง คนเป็นพ่อรวมถึงเรื่องที่ภีร์เป็นหมออยู่ที่โรงพยาบาลนี้ปลายฟ้าก็รู้มาจากเด็กสาวเช่นกัน

ผลตรวจเอกซเรย์ออกมาช่วงบ่ายหมอเจ้าของไข้ได้ถือฟิล์มเอกซเรย์เข้ามาในห้องแล้วมาหยุดอยู่ที่เตียงพ่อปลายฟ้า โดยขณะที่หมอกำลังดูผลแผ่นฟิล์มเอกซเรย์อยู่ ๆ ก็มีเคสด่วนที่ต้องรีบไปดู คุณหมอสาวจึงเสียบชาร์จคนไข้พร้อมผลเอกซเรย์ไว้ที่ปลายเตียงก่อนจะรีบออกจากห้องไป เวลาผ่านไปราวหนึ่งชั่วโมงเศษหมอเจ้าของไข้ก็ไม่มีท่าทีจะกลับมาตรวจ ปลายฟ้าที่ใจจดจ่ออยู่กับผลตรวจนั้นก็เริ่มนั่งไม่ติด

“ขอโทษนะคะคุณพยาบาล ไม่ทราบว่าหมอเจ้าของไข้คนไข้เตียงหนึ่งจะกลับมาตรวจคนไข้อีกเมื่อไหร่คะ พอดีคุณหมอยังไม่ได้แจ้งผลเอกซเรย์ให้ทราบค่ะว่าคุณพ่อของดิฉันเป็นอะไรกันแน่” ปลายฟ้าเดินเข้าไปหาเจ้าหน้าที่พยาบาลตรงเคาน์เตอร์ เพื่อถามหาหมอเจ้าของไข้พ่อของเธอด้วยท่าทางสุภาพ

“ตอนนี้คุณหมอของขวัญกำลังติดคนไข้เคสฉุกเฉินอยู่ค่ะ ยังไงรบกวนญาติรอสักครู่นะคะเดี๋ยวคุณหมอเสร็จจากการดูคนไข้แล้วจะรีบกลับมาค่ะ” ใบหน้ายิ้มแย้มสมกับทำงานด้านบริการผู้ป่วยของพยาบาลสาวบอกกับปลายฟ้าให้รับทราบ แต่ก็ไม่สามารถลดระดับความร้อนใจของปลายฟ้าให้เบาลงได้

ปลายฟ้าที่ร้อนใจอยากทราบผลตรวจของผู้เป็นบิดาไว ๆ จึงแอบหยิบชาร์จคนไข้ที่มีประวัติการตรวจรักษาทั้งหมดแนบอยู่นั้นขึ้นมาดูและแอบยกโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป ซึ่งการกระทำของหญิงสาวเป็นการทำผิดกฎของโรงพยาบาลที่ห้ามถ่ายรูปในโรงพยาบาล

จังหวะนั้นภีร์ซึ่งเป็นเจ้าของไข้เตียงข้าง ๆ ที่พ่อปลายฟ้านอนรักษาตัวก็กำลังเดินเข้ามาเพื่อตรวจอาการคนไข้ในความดูแลของเขา คุณหมอหนุ่มเหลือบไปเห็นปลายฟ้าตั้งแต่หยิบชาร์จที่เสียบไว้ตรงปลายเตียงขึ้นมาเปิดดูรวมถึงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูป ภีร์หยุดมองดูการกระทำที่เป็นข้อห้ามของโรงพยาบาลจากหญิงสาวตรงหน้าแต่อีกฝ่ายยังไม่รู้ตัวว่ามีคนมอง คุณหมอหนุ่มจึงเดินไปหยิบชาร์จผลตรวจในมือหญิงสาวมาถือไว้เอง

พรึ่บ!!

ชาร์จคนไข้ในมือของปลายฟ้าถูกดึงออกจากมือไปอย่างรวดเร็วจนหญิงสาวตกใจ ก่อนที่ปลายฟ้าจะหันไปมองคนที่แย่งประวัติการรักษาพ่อของเธอทันที

“คุณ!!” ดวงตากลมเบิกกว้างเมื่อได้เห็นว่าคนที่แย่งชาร์จผลตรวจพ่อของเธอคือคุณหมอหนุ่มที่พ่วงตำแหน่งคุณพ่อของลูกศิษย์ตัวน้อยของเธอนั่นเอง

ปลายฟ้ายืนมองภีร์ตัวสั่น ตอนนี้นอกจากอาการกลัวเพราะถูกตำหนิเรื่องการแอบถ่ายรูปแล้ว ปลายฟ้ายังใจเต้นรัวเมื่อได้เห็นภีร์แบบใกล้ ๆ หญิงสาวไม่เคยตั้งใจมองชายหนุ่มเลยสักครั้งถึงแม้ว่าภีร์จะไปรับไปส่งลูกสาวของเขาอยู่บ่อยครั้งก็ตาม ต่างจากตอนนี้ที่ห่างกันเพียงแค่หนึ่งช่วงแขน ปลายฟ้าจึงมีโอกาสได้พิจารณาใบหน้าของคุณหมอหนุ่มใกล้ ๆ แม้ตอนนี้ภีร์จะมีสีหน้าที่เรียบเฉยสายตาคมดูเรียบนิ่งไม่บ่งบอกความรู้สึกใด ๆ แต่นั่นกลับทำให้ปลายฟ้ารู้สึกแปลก ๆ ใบหน้าคมที่แฝงไปด้วยเสน่ห์ล้ำลึกชวนให้หญิงสาวออกอาการหน้าแดงโดยไม่รู้ตัวทั้งที่สถานการณ์ไม่ได้เอื้อต่อความรู้สึกแบบนี้เลยสักนิด ภีร์ถือชาร์จที่แย่งมาจากมือของปลายฟ้าแล้วเดินเข้ามาใกล้หญิงสาวช้า ๆ หลังจากที่ยืนตะลึงในความสวยหวานของปลายฟ้าอยู่นานเช่นกัน

“ทางโรงพยาบาลไม่อนุญาตให้ถ่ายรูปผลการรักษาที่ถือว่าเป็นความลับของคนไข้และทางโรงพยาบาลนะครับ ซึ่งเป็นกฎที่ทางโรงพยาบาลได้แจ้งปิดประกาศไว้ตรงหัวเตียงทุกเตียงถ้าหากว่าคุณจะอ่านบ้าง การกระทำของคุณถือเป็นการละเมิดกฎนะครับรู้ตัวหรือเปล่า” น้ำเสียงเรียบของคุณหมอหนุ่มสร้างความรู้สึกผิดแก่ปลายฟ้าจนต้องก้มหน้าหลบสายตาคมคู่นั้น

“คือ คือฉันแค่ร้อนใจที่ยังไม่เห็นคุณหมอเจ้าของไข้มาบอกเรื่องผลเอกซเรย์ของคุณพ่อสักทีน่ะค่ะ” เสียงหวานออกอาการสั่นเล็กน้อยบอกออกไปตามความจริง

“คุณก็เลยจะถ่ายรูปเพื่อไปโพสต์ลงโซเชียลให้ชาวเน็ตช่วยอ่านผลการรักษาอย่างนั้นหรือ” คำแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้นของปลายฟ้าทำให้ภีร์สวนกลับทันที

“ไม่ใช่นะคะคุณภีร์ เอ่อ คุณหมอ คุณกำลังเข้าใจผิด ฉันแค่จะถ่ายเก็บไว้” ความเคยชินในการเรียกชื่อผู้ปกครองนักเรียนของปลายฟ้าทำให้หญิงสาวหลุดเรียกชื่อคุณหมอหนุ่มเหมือนรู้จักกัน ก่อนจะรีบกลับมาเรียกคุณหมอตามตำแหน่งงานชายหนุ่ม เมื่อตอนนี้ภีร์ไม่ได้อยู่ในบทบาทของคุณพ่อแต่เป็นคุณหมอที่กำลังรักษาคนไข้

“ถ่ายเก็บไว้เพื่ออะไรครับเพราะยังไงคุณก็อ่านผลไม่เป็นอยู่ดี ยังไงหมอเจ้าของไข้เขาก็ต้องมาอธิบายผลให้ฟังอยู่แล้ว คุณเป็นครูสอนนักเรียนควรจะมีวุฒิภาวะมากพอที่จะรู้ว่าอะไรควรไม่ควรคราวหลังอย่าทำอีกนะครับเพราะคุณอาจจะโดนทางโรงพยาบาลเอาผิดได้” ภีร์พูดกับปลายฟ้าด้วยสีหน้าจริงจังค่อนไปทางไม่พอใจ ปลายฟ้าพยักหน้าเป็นเชิงรับรู้พร้อมกับสีหน้าที่รู้สึกผิดเมื่อถูกคุณหมอหนุ่มตักเตือนและต่อว่า ภีร์มองดูเจ้าของใบหน้าหวานที่เครื่องหน้าลงตัวแบบไร้ที่ตินั้นอีกครั้งก่อนจะเดินไปตรวจคนไข้ของตนเองที่อยู่เตียงถัดไป แม้ใบหน้าหวานนั้นจะดูตรึงใจสำหรับเขาแต่เมื่อนึกถึงพฤติกรรมของหญิงสาวที่กระทำที่หน้าโรงเรียนของลูกสาวบวกกับพฤติกรรมที่ขาดวุฒิภาวะในวันนี้ภีร์ก็รู้สึกไม่ชอบใจปลายฟ้าโดยไม่มีสาเหตุ

ชาร์จประวัติที่อยู่ในมือเกี่ยวกับการรักษาพ่อของปลายฟ้าถูกภีร์สแกนอ่านด้วยสายตาอย่างรวดเร็ว คิ้วหนาขมวดเข้าหากันเล็กน้อยเหมือนไม่แน่ใจอะไรบางอย่างแต่ก็ไม่มีเวลาอ่านมากนัก เพราะต้องรับไปตรวจคนไข้แล้วอีกอย่างเคสนี้ก็เป็นเคสของเพื่อนหมอด้วยกันจึงอยากให้หมอเจ้าของไข้เป็นคนวิเคราะห์จะเป็นการดีกว่า ภีร์วางชาร์จคนไข้ลงบนโต๊ะหมอของขวัญแพทย์เจ้าของไข้อย่างไม่สนใจอีก

สองชั่วโมงผ่านไป

“ขอโทษนะคะพอดีก่อนหน้านี้หมอมีเคสด่วนเลยต้องรีบไปดู ผลเอกซเรย์ออกมาแล้วนะคะคนไข้เป็นแผลในกระเพาะอาหารซึ่งเกิดได้จากการที่ทานอาหารไม่เป็นเวลา ทานอาหารรสจัด รสเค็ม หรือโดยเฉพาะการดื่มสุราอย่างหนักเป็นประจำ สิ่งเหล่านี้เป็นพิษต่อโรคนี้ทั้งนั้น ถ้าไม่อยากทรมานกับอาการปวดท้องอีกคนไข้ควรปรับพฤติกรรมการทานอาหารให้ดีควบคู่ไปกับการทานยาที่หมอให้นะคะ” คุณหมอแพทย์หญิงเจ้าของไข้รายงานผลเอกซเรย์ให้คนไข้และญาติทราบหลังจากกลับเข้ามาพร้อมผลตรวจอีกครั้ง ปลายฟ้ายืนฟังรายงานผลเอกซเรย์จากหมอเจ้าของไข้อย่างตั้งใจก่อนจะถอนหายใจอย่างโล่งอกเมื่อผลออกมาไม่เป็นอะไรร้ายแรงอย่าที่เธอและแม่กังวล

“งั้นวันนี้คุณพ่อของดิฉันก็สามารถกลับบ้านได้แล้วใช่ไหมคะ”

“เดี๋ยวรับยาแล้วก็กลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านได้ค่ะ พยายามปฏิบัติตัวตามที่หมอแนะนำนะคะอาการจะค่อย ๆ ดีขึ้นค่ะ”

ขณะที่ปลายฟ้ากำลังนั่งรอรับยาให้คนเป็นพ่ออยู่นั้น หญิงสาวก็เห็นภีร์กำลังเดินออกมาจากห้องฉุกเฉิน ส่วนภีร์นั้นก็มองเห็นหญิงสาวที่นั่งอยู่เช่นกัน

“คุณหมอคะ คุณหมอภีร์คะ” เสียงหวานใสที่เอ่ยเรียกชื่อคุณหมอหนุ่มเสียงดังทำให้ภีร์ที่กำลังจะเดินกลับไปห้องพักแพทย์หยุดเดินแล้วหันมามองก่อนจะเห็นว่าเป็นใคร

“ครับมีอะไรหรือครับ” ใบหน้าที่เรียบเฉยไม่บ่งบอกอารมณ์ใด ๆ พร้อมน้ำเสียงที่ดูไม่ค่อยเป็นมิตรของภีร์ทำเอาปลายฟ้าแทบอยากหันหลังกลับแต่ก็ทำใจดีสู้เสือพูดออกไป

“เอ่อ..พอดีฉันกำลังจะพาคุณพ่อกลับบ้านค่ะ คุณหมอของขวัญอนุญาตให้กลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านได้ค่ะ” ไม่รู้อะไรดลใจปลายฟ้าให้บอกชายหนุ่มออกไปแบบนั้น

“ครับ ก็ดีแล้วนี่ครับ ขอตัวก่อนนะครับผมมีตรวจคนไข้ต่อ” พูดจบภีร์ก็ปลีกตัวเดินออกไปทันที

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel