เบียดบด แนบชิด
“ แล้วนี่ไปยังไงมายังไงถึงมาเดินอยู่คนเดียวแบบนี้ ไร่อ้อยก็ยิ่งทึบยิ่งสูง ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนเดียวมันอันตราย ” เสียงทุ้มเอ่ยถามขึ้น ทำให้เธอหลุดจากภวังค์ เธอยิ้มแหย ๆ แล้วตอบ
“ บัวมากับผัว วานให้เขาไปช่วยถือของ แต่เขาร้อน หงุดหงิดใส่แล้วขับรถหนีไปเลยจ้ะ ” ชายหนุ่มทำหน้าเหลือเชื่อ
“ อะไรนะ อยู่ดี ๆ ก็ทิ้งเมียแบบนี้ง่าย ๆ เนี่ยนะ ”
เธอพยักหน้าหงึกหงัก ก่อนจะตอบพร้อมรอยยิ้มเช่นเคย
“ ไม่เป็นไรหรอกจ้ะพี่ บัวเคยเดินแล้ว แต่วันนี้มันร้อนนักก็เลยเป็นลม ยังไงก็ขอบใจพี่มากนะจ๊ะที่ช่วยบัวไว้ ”
“ เคยเดินแล้ว แปลว่าผัวน่ะทิ้งให้เดินกลับหลายหนแล้วงั้นเหรอ ” เธอก้มหน้า เลี่ยงที่จะตอบ ชายหนุ่มพิจารณาใบหน้าหวาน อายุอานามไม่น่าจะเกินยี่สิบ แต่ใบหน้าสวยงามอ่อนเยาว์นั้นฉายแววระทมทุกข์เกินอายุอย่างเห็นได้ชัด
เขารู้สึกว่าตนเองคงจะถามมากไป จึงเลิกที่จะซักไซ้ในเรื่องผัวเธอต่อ
“ ชื่อบัวใช่ไหม บ้านอยู่ไหน ”
“ ใช่จ้ะ ชื่อบัว บ้านอยู่ภาคอีสานโน่น แต่ตอนนี้อยู่บ้านผัวที่ห้วยหนองตรม ” เธอตอบซื่อ ๆ ชายหนุ่มยิ้ม
“ เดี๋ยวพี่ไปส่ง ”
“ จะดีเหรอจ๊ะพี่ บัวเกรงใจ ”
“ ไม่เป็นไร ดีกว่าปล่อยให้บัวเดินอยู่คนเดียว เปลี่ยว อันตราย ”
เขาบอกพร้อมลุกขึ้นเก็บของที่กระจัดกระจายใส่ตะกร้าให้ หญิงสาวค่อยพยุงตัวให้ลุกขึ้น แต่เลือดลมคงยังไม่เข้าที่จึงรู้สึกวูบและเซถลา เคราะห์ดีที่ร่างสูงใหญ่นั้นไวเหลือเกิน เขาเอื้อมมือไปเหนี่ยวร่างเธอให้เข้าหา แต่ความที่มือหนึ่งถือตะกร้าทำให้ทรงตัวไม่ดีนัก จึงไถลล้มลงไปข้างถนน โดยที่มีร่างนุ่มนิ่มอยู่บนตัวเขา
...เบียดบด แนบชิด
จมูกโด่งชนเข้ากับแก้มนวลสาวโดยไม่รู้ตัว
หน้าอกอวบเคร่งครัดเบียดบดอยู่บนแผ่นอกแกร่งมือใหญ่ที่เกาะกอดเอวคอดเอาไว้รัดเข้ามาโดยอัตโนมัติ ทำให้เบื้องล่างก็แนบสนิทกันอย่างมิได้ตั้งใจ
กุหลาบสาวนูนอูมเบียดบดอยู่กับความยิ่งใหญ่แห่งบุรุษเพศ...
ทั้งสองนิ่งค้างอยู่อย่างนั้น ทั้งความตกใจ และอีกความรู้สึกที่เต้นเร่าไหวระริกอันเป็นธรรมชาติแห่งกายหนุ่มสาว
มันเกิดขึ้นได้ แต่เพราะมิใช่สัตว์เดรัจฉาน มนุษย์จึงควรมีสติที่จะควบคุมมัน
ชายหนุ่มเป็นฝ่ายได้สติก่อน จึงรีบประคองเธอให้ลุกขึ้น แล้วเอ่ยขอโทษ
“ ขอโทษทีนะ พี่ไม่ได้ตั้งใจ พอดีมันลื่น ” เธอส่ายศีรษะ แก้มนวลซับสีแดงระเรื่อ เสียงหวานเอ่ยอ้อมแอ้ม
“ บัวต่างหากที่ต้องขอโทษ เซล้มไปทับตัวพี่เอง ”
“ ไม่เป็นไร พี่ไม่เจ็บหรอก ตัวหนาขนาดนี้ ไป เดี๋ยวพี่ไปส่งบ้านนะ ” เขาบอกพร้อมหยิบของที่กระจุยกระจายเป็นรอบที่สองเพราะหลุดมือเขาใส่ตะกร้าอีกครั้ง มือใหญ่จับแขนเรียวไว้หลวม ๆ
“ ให้พี่จับเถอะนะ เผื่อจะวูบลงไปอีก ”
หญิงยิ้มก่อนเดินตามเขาไปที่รถ เขาส่งตะกร้าให้เธอถือ ก่อนหยิบหมวกกันน็อคมาสวมแล้วขึ้นสตาร์ท เธอยืนเก้ ๆ กัง ๆ ด้วยไม่เคยซ้อนมอเตอร์ไซค์คันใหญ่แบบนี้
ชายหนุ่มเปิดกระจกขึ้นมามองอย่างแปลกใจ
“ ทำไมไม่ขึ้น ”
“ บัวขึ้นไม่เป็นจ้ะพี่ ไม่เคยนั่งรถใหญ่แบบนี้ ”
เขายิ้ม ยิ่งทำให้ใบหน้าคมสันนั้นน่ามองขึ้นมากโข เธอเผลอมองแล้วยิ้มตามอย่างไม่รู้ตัว
“ พี่ขอโทษนะที่ไม่ได้บอก งั้นส่งตะกร้ามาให้พี่ จับเอวพี่ไว้แล้วนั่งไขว้ขามาทางเดียวกัน ”
เขาบอก เธอทำตาม ยื่นตะกร้าส่งให้เขาถือ มือเล็กเอื้อมไปจับเอวสอบไว้แล้วพยุงตัวขึ้นนั่ง มันสูงมากเธอเลยเสียว สองแขนรีบกอดเอวเขาไว้แน่นจนเขาหัวเราะ
“ บัวต้องถือตะกร้ามือหนึ่ง เอาวางบนตักแล้วประคองไว้ เพราะพี่ต้องขับรถ ถือให้ไม่ได้ อีกมือหนึ่งกอดเอวพี่ ”
“ แล้วจะตกไหมพี่ บัวเสียวจัง ”
“ ไม่ตกหรอก พี่ไม่ขับเร็ว ”
“ ก็ได้จ้ะ ”
เธอพูด เขาจึงค่อยส่งตะกร้าให้เธอถือ รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ค่อย ๆ เคลื่อนออก กระนั้นมือเล็กก็เอื้อมไปรัดเอวสอบเสียแน่นพร้อมแนบกายซบแผ่นหลังแกร่งเพราะกลัวแสนกลัว ไม่รู้เหตุผลกลใดไปดลใจให้มือใหญ่เอื้อมมาสัมผัสมือเล็กเบา ๆ แล้วบีบ คล้ายกับจะบอกว่า
“ ไม่ต้องกลัวนะ ”
แปลกที่ความรู้สึกนั้นส่งผ่านไปยังเธอ หญิงสาวขยับมือเล็กน้อยเป็นสัญญาณว่ารับรู้แล้ว เขาจึงผละมือไปขับรถต่อ
ทั้งที่เป็นคนแปลกหน้าของกันและกันทั้งคู่ แต่แปลกไหมที่เขายังมีความห่วงใยให้เธอ มากกว่าคนที่ได้ชื่อว่าผัวเสียอีก
หญิงสาวแนบใบหน้าลงกับแผ่นหลังแกร่ง หลับตาพริ้ม คล้ายจะกำซาบความอบอุ่นเล็ก ๆ น้อย ๆ จากชายแปลกหน้าเข้าไปในหัวใจ เพราะเมื่อกลับบ้านไปแล้ว เธอจะหาความอบอุ่นใด ๆ ไม่ได้เลยจากที่นั่น