บทย่อ
นิยายเรื่อง หมอผี ที่ไม่มีผีสักตัว มีแต่หมอผีหล่อล่ำ อบอุ่น ใจดี และลีลาเร่าร้อน... ...สาวน้อย ผู้มีชะตาชีวิตแสนอาภัพ ถูกผู้เป็นแม่แท้ ๆ ขายให้กับชายแก่ตัณหากลับ ซ้ำร้าย เมื่อเขาเบื่อหน่ายก็ทอดทิ้งดังเช่นขยะชิ้นหนึ่ง เธอมืดแปดด้าน มองไปทางไหนก็ไม่มีใครให้พึ่งพิง มีเพียงสิ่งเดียวที่เธอมองเห็น...ไสยศาสตร์ เท่านั้น จึงจับพลัดจับผลูให้ได้มาเจอกับหมอผีรูปหล่อ กล้ามใหญ่ จิตใจดี มีซิคแพ็ค งานนี้ พิธีกรรมชนิดเนื้อแนบเนื้อจึงเกิดขึ้น มันจะทำให้เธอได้กลับไปเป็นที่รักของชายแก่ตัณหากลับ หรือจะหลุดพ้นจากอเวจี โดยมีอ้อมกอดของผู้ที่ได้ชื่อว่า “ หมอผี ” โอบอุ้มให้เธอผ่านพ้น EX “ พี่ กอดบัวหน่อยได้ไหม ” “ กอดยังไงบัว ” “ ก็แบบนี้ไง ” เธอดึงมือข้างหนึ่งของเขาไปยังโนมเนื้อเบื้องหน้า ทำให้ชายหนุ่มต้องก้มตัวลงประกบซ้อนลงกับสะโพกสวย การก้มลงทำให้หัวลำใหญ่เลื่อนไหลเข้าไปในรูรักลึกขึ้น “ อา ” เดชเผลอระบายสุ้มเสียงกระเส่าสั่นออกมาอย่างเก็บไม่อยู่ มือใหญ่ที่ถูกมือน้อยนำพาไปเกาะกุมเต้าตูมเต่งข้างหนึ่งตอนนี้เริ่มมีการบีบขยำเคล้าคลึง มืออีกข้างแตะต้องที่สะโพกสวยคล้ายจะยั้งจังหวะไม่ให้ดุ้นยักษ์ผลุบเข้าไปมากกว่านั้น เอวสอบถอนหัวลำออกมาแล้วดันกลับเข้าไปเบา ๆ แค่สุดคอหยักก่อนจะแช่ไว้ กระนั้นเล่นเอาสาวเจ้าครางเครือ “ อูย.. พี่เดชจ๋า” “ จ๋า ” “ ลึกอีกได้ไหมจ๊ะ ” “ ดะ.. ได้ ” เขาตอบก่อนจะกระทั้นบั้นเด้าเข้าหาสะโพกสวยลึกอีกนิด ถอนออก ดันเข้า ออก เข้า ออก เข้า... อย่างไม่ทันตั้งตัว สาวเจ้าก็เป็นฝ่ายดันสะโพกเข้าหาดุ้นเอ็นใหญ่ยาวเสียเองอย่างแรง เอ็นใหญ่ผลุบหายเข้าไปในกลีบอูมจนเกือบครึ่ง ! “ บัว ! ” เขาอุทานอย่างตกใจ แต่เธอไม่รีรอ ขยับจังหวะสะโพกให้กลืนกินความยิ่งใหญ่ ออก เข้า ออก เข้า อย่างแสนเร้าใจ “ บัวอยากเป็นของพี่เดชจ้ะ ” เพียงเท่านั้น สติของเดชก็ขาดผึง !
แตะเนื้อต้องตัว
ลูกบอลที่ส้มแก่คล้อยบ่ายไปทางทิศตะวันตก สำแดงรัศมีร้อนเร่าเผาแผดให้ทุกสิ่งอย่างเหี่ยวเฉา รวมไปถึงสิ่งมีชีวิตเฉกเช่นมนุษย์ที่ต้องดำรงชีพภายใต้หลังคาแห่งผืนฟ้า และแสงสว่างจากดวงตะวัน
ร่างอ้อนแอ้นอรชร สวมเสื้อแขนกุดสีโอรสอ่อน ผ้าถุงสีเดียวกันหากแต่เข้มกว่า ขับผิวสีเปลือกไข่ให้ขาวนวลราวกับมีรัศมีทอประกายออกมาท่ามกลางแสงแดดจัดจ้า ผมยาวดำขลับราวเส้นไหมคลอเคลียกระจายทั่วแผ่นหลังไปจนถึงสะเอวคอด เหงื่อเป็นเม็ดผดขึ้นทั่วใบหน้างามรูปไข่ ไหลเปียกคิ้วโก่งที่พาดวางอยู่บนดวงตากลมโต ขนตางอนเป็นแพ จมูกเล็กโด่งรั้นที่ปลายเชิดนั้นมีเม็ดเหงื่อเกาะอยู่เช่นกัน ปากอวบอิ่มเผยอนิด ๆ เพื่อเป็นการระบายองศาสูงในร่างกายให้ออกไปบ้าง
ความร้อนของอากาศและแสงแดด บวกกับสิ่งของที่อยู่เต็มตะกร้า ก็ทำให้กายเหนื่อยพอแรง แต่เมื่อผสานเข้ากับความร้อนเร่าในจิตใจยิ่งทำให้หนักหน่วงและรวดร้าว น้ำตามันไหลออกมาทางหางตามิได้ขาด น้อยกว่าน้ำเหงื่อเสียเมื่อไหร่
ข้าวกลางวันก็ยังไม่ตกถึงท้อง นี่ก็น่าจะร่วมบ่ายสาม อากาศก็ร้อน สาวเจ้าสาวเท้าที่สวมรองเท้าหูคีบ เดินออกห่างจากตลาดมุ่งหน้าไปทางทิศเหนือมากว่าสี่กิโลเมตร อันเป็นทิศทางกลับบ้าน จากที่เป็นตลาดผู้คนพลุกพล่าน กลับกลายเป็นไร่อ้อยสูงหนาทึบมีสลับกับทุ่งนาบ้าง ต้นไม้ใหญ่ที่พอจะให้ร่มเงาก็หายากเหลือเกิน แดดก็ยิ่งแผดเผาอย่างไม่คณาลงเลย ฝีเท้าที่มันรวดเร็วในคราแรกกลับเริ่มช้าลง ช้าลง สุดท้ายเธอก็ทรุดฮวบลงบนริมถนนเปลี่ยว
รถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบ๊ค์คันใหญ่สีดำสนิทที่แล่นมาไม่รวดเร็วนัก จอดเทียบข้างทางทันทีที่เห็นร่างหนึ่งล้มบนถนนต่อหน้าต่อตา คนขับเป็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่ห่อหุ้มกายด้วยเสื้อหนังแจ็คเก็ตแขนยาวสีดำ ข้างในเป็นเสื้อยืดและกางเกงยีนสีเดียวกัน รีบถอดหมวกกันน็อคแขวนไว้แล้ววิ่งตรงไปยังร่างที่นอนอยู่ทันที
เมื่อเห็นเป็นร่างของหญิงสาว ที่รอบตัวกระจายไปด้วยของในตะกร้าที่ซื้อมาจากตลาด ทั้งผัก เนื้อสัตว์ และผลไม้ในคราแรกเขาก็ชะงัก แต่พอเห็นใบหน้าซีดเซียวไร้สีเลือด เขาก็รีบเข้าไปช้อนอุ้มเธอเข้ามาในวงแขนแล้วเขย่า
“ น้อง น้อง ”
ร่างนั้นอ่อนปวกเปียก เขาจึงรีบวิ่งกลับไปหยิบขวดน้ำที่เก็บไว้ในช่องเก็บของแล้ววิ่งกลับมาประคองเธอขึ้น ก่อนจะเทน้ำใส่ฝ่ามือแล้วลูบไล้ทั่วใบหน้านวลนั้น ก่อนใช้ฝ่ามือใหญ่พัดพอให้มีลมโบกโชยให้เธอรู้สึกเย็นขึ้นบ้าง ถึงเล็กน้อยก็ยังดี
เธอเริ่มขยับตัวและปรือตาขึ้นมาบ้างเล็กน้อย ปากอวบอิ่มที่ตอนนี้ซีดเหลือหลายเผยอเอ่ยเบา ๆ
“ น้ำ.. หิวน้ำ ”
“ โอเค ผมมีน้ำ เดี๋ยวจะจรดขวดน้ำที่ปากนะ ค่อย ๆ กิน เดี๋ยวสำลัก ”
“ จ้ะ ”
เขาประคองเธอให้ลุกขึ้นนั่งทว่าก็ยังพิงที่หน้าอกหนา ก่อนจรดขวดน้ำที่ปาก หญิงสาวยกมือข้างหนึ่งขึ้นประคองขวดทำให้ทาบทับไปบนมือใหญ่พอดิบพอดี
เมื่อได้น้ำเข้าสู่ร่างกาย ๆ อะไร ๆ ก็รู้สึกจะสดชื่นขึ้น เธอค่อย ๆ ลืมตาให้เต็มที่ ก่อนจะพบว่าตนเองพิงอยู่กับอกอุ่นของชายร่างใหญ่ ใบหน้าเขาอยู่ห่างเธอเพียงไม่ถึงฟุต ทำให้เห็นทุกรายละเอียดแห่งความคมเข้มหล่อเหลาอย่างที่บุรุษพึงมีทุกประการ คิ้วเข้ม ตาคมกริบ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากไม่บางนักแต่ก็หยักสวย ใบหน้ายาวล้อมกรอบไปด้วยไรเคราเข้มครึ้ม ทำให้เขาดูคมสันมากขึ้น สายตาคมมองมาที่เธออย่างปิดความเป็นห่วงเป็นใยไม่มิด เสียงทุ้มเอ่ยถาม
“ ดีขึ้นไหม ”
เธอพยักหน้าแล้วรีบพยุงตัวให้ออกห่างจากอ้อมอกของชายแปลกหน้า หน้าแดงซ่านอย่างบอกไม่ถูกเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่โดนชายอื่นแตะเนื้อต้องตัวนอกเสียจากผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นผัว
ผัวที่ไม่เคยสนใจใยดี ผัวผู้ที่ทิ้งให้เธอเดินกลับบ้าน ทั้งที่ระยะทางจากตลาดถึงบ้านนั้นร่วมสิบห้ากิโลเมตร ผัวผู้ที่ไม่เคยพึงพอใจในรสกามาทั้งที่อายุร่วมหกสิบ ยังใช้เงินซื้อผู้หญิงมากหน้าหลายตามาปรนนิบัติเรื่องอย่างว่าอยู่ร่ำไป โดยไม่สนใจว่าผู้เป็นเมียจะรู้สึกเช่นไร