8 นึกว่าจะได้เจอกัน
หลังจากที่โทรศัพท์คุยกับปิ่นปินัทธ์ทุกคืน วันนี้กรัณย์กรก็รู้สึกตื่นเต้นมากที่จะได้เจอเธออีกครั้ง เพราะเธอบอกเขาว่าวันนี้จะต้องพาลูกศิษย์มาตัดไหมที่โรงพยาบาล
ชายหนุ่มตรวจคนไข้คนอื่นเสร็จแล้วก็นั่งรอว่าเมื่อไหร่หญิงสาวจะเดินเข้ามา แต่กรัณย์กรก็ต้องผิดหวังเพราะวันนี้คนที่พาออมสินมาตัดไหมเป็นมารดาของเด็กชายแทนที่จะเป็นคุณครูปิ่นปินัทธ์
“สวัสดีครับคุณหมอ / สวัสดีค่ะคุณหมอ” ออมสินและมารดายกมือไหว้
“สวัสดีครับ น้องเป็นยังไงบ้างครับคุณแม่มีอาการผิดปกติอะไรไหม”
“ไม่มีค่ะ”
“หมอขอดูแผลหน่อยนะครับ”
กรัณย์กรตรวจบาดแผลแล้วก็เห็นว่าแผลติดสนิทดีชายหนุ่มตัดไหมออกทั้งหมดจากนั้นก็ปิดพลาสเตอร์กันน้ำไว้อย่างเดิม
“อย่าเพิ่งให้แผลโดนน้ำนะครับ รอให้ครบสามวันก่อนแล้วค่อยแกะพลาสเตอร์ออก”
“แล้วต้องมาทำแผลอีกมั้ยคะ”
“ไม่แล้วครับระหว่างนี้ก็ดูว่ามีเลือดซึมออกมาจากพลาสเตอร์ที่ปิดไว้หรือเปล่าถ้ามีอาการผิดปกติหรือรู้สึกว่าบริเวณแผลบวมขึ้นหรือมีไข้ก็ให้มาหาหมอ”
“ขอบคุณมากค่ะหมอ”
“ไม่วิ่งซนอีกแล้วนะครับออมสิน”
“ครับคุณหมอ”
“วันนี้แม่พาน้องกลับบ้านได้เลยนะครับ”
“มีค่าใช้จ่ายอะไรหรือเปล่าคะคุณหมอ”
“ไม่มีครับเดี๋ยวพยาบาลจะพาไปเซ็นชื่อที่แผนกการเงินครับเสร็จแล้วก็กลับบ้านได้”
“ขอบคุณมากๆ นะคะ” มารดาของเด็กชายกล่าวขอบคุณอีกครั้ง ส่วนเด็กชายก็ยกมือไหว้ตามมารดาก่อนจะเดินกลับออกไป
หลังจากออมสินเดินออกจากห้องไปแล้วชายหนุ่มก็หยิบโทรศัพท์ของมือถือตัวเองขึ้นมาแล้วไลน์ไปถามปิ่นปินัทธ์เพราะเมื่อคืนก็คุยกันแล้วว่าเธอจะพาออมสินมาตัดไหม
“ปิ่นเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมวันนี้ถึงไม่พาออมสินมาตัดไหม” เขาถามไปด้วยความเป็นห่วง
“เปล่าค่ะ”
“ผมโทรหาตอนนี้ได้ไหม” เพราะขี้เกียจจะพิมพ์เขาเลยคิดว่าโทรศัพท์ไปคุยน่าจะรู้เรื่องกว่าแล้วตอนนี้ที่ห้องฉุกเฉินก็ไม่มีคนไข้เลย
“ได้ค่ะ”
เมื่อได้รับคำตอบแล้วเขาก็เดินกลับเข้ามาที่ห้องตรวจ
“สวัสดีค่ะหมอ”
“สวัสดีครับปิ่น ผมนึกว่าวันนี้เราจะได้เจอกัน”
“พอดีวันนี้แม่ของออมสินเลิกงานเร็ว ก็เลยเป็นคนพาออมสินมาหมอมีอะไรหรือเปล่าคะ แผลออมสินมีปัญหาอะไรมั้ย”
“ไม่มีปัญหาอะไรครับระวังแค่อยากโดนน้ำอีกสามวันก็พอ”
“โล่งใจไปหน่อยค่ะ ขอบคุณหมอมากนะคะที่ช่วยออมสิน”
“ปิ่นขอบคุณผมหลายรอบแล้วนะครับ แล้วเมื่อไหร่จะเลี้ยงข้าวผมสักทีล่ะ”
“ปิ่นไม่รู้ว่าคุณหมอจะว่างเวลาไหนบ้างก็เลยไม่กล้าชวนค่ะ หมอลองบอกเวลาว่างของหมอมาสิคะ” เพราะรู้ว่าคนที่มีอาชีพอย่างเขาหาเวลาว่างยากมากปิ่นปินัทธ์เลยคิดว่าที่เขาบอกให้เธอเลี้ยงข้าวเขาก็แค่อาจจะพูดเล่นเท่านั้น
“ถ้าเป็นบ่ายวันเสาร์ปิ่นจะว่างไหม พอดีช่วงเช้าผมมีราวคนไข้น่ะครับ”
“ว่างค่ะ คุณหมออยากทานอะไรคะ”
“ปิ่นเป็นคนที่นี่ปิ่นแนะนำผมมาสิ”
“ปกติแล้วปิ่นก็ไม่ค่อยได้ออกไปทานข้าวนอกบ้านหรอกนะคะ”
“ปิ่นทำกับข้าวเองเหรอ”
“เปล่าค่ะคุณยายจะเป็นคนทำค่ะปิ่นก็แค่ลูกมือ”
“ถ้าไม่รังเกียจผมไปทานที่บ้านปิ่นก็ได้นะ”
“แต่อาหารที่ยายทำจะเป็นอาหารบ้านๆ นะคะหมอจะทานได้เหรอ”
“ผมเป็นคนทานง่ายครับขอแค่ไม่เผ็ดมาก เอาเป็นว่าผมจะไปทานข้าวบ้านปิ่นวันเสาร์เย็นดีไหม”
“ได้ค่ะเดี๋ยวปิ่นจะบอกให้คุณยายทำอาหารไว้รอ หมอมีเมนูไหนชอบทานเป็นพิเศษไหมคะ”
“ไม่นะครับผมกินอะไรก็ได้”
“ลองบอกของโปรดหมอมาสักอย่างสิคะ ปิ่นจะได้บอกคุณยายให้ค่ะ”
“ของโปรดของผมก็ง่ายๆ เลยครับหมูทอด”
“ถ้ายังงั้นเดี๋ยวปิ่นจะให้คุณยายทำหมูทอดและกับข้าวอย่างอื่นไว้รอหมอนะคะ”
“ปิ่นอย่าลืมส่งพิกัดบ้านของปิ่นให้ผมด้วยนะครับ”
“ได้ค่ะเดี๋ยวปิ่นส่งให้ ถ้าหมอมาไม่ถูกโทรมาถามได้ค่ะ บ้านปิ่นอยู่ในซอยค่อนข้างหายากสักหน่อย”
“ขอบคุณครับ วันนี้ผมเข้าเวรจนถึงเที่ยงคืนไม่รู้ว่าคืนนี้จะว่างโทรหาปิ่นหรือเปล่านะครับ” การเข้าเวรที่ห้องฉุกเฉินมันคาดเดาได้ยากมาก บางครั้งก็ว่างตลอดเวรแต่บางครั้งก็แทบไม่ได้นั่ง
“ไม่เป็นไรค่ะ ปิ่นรู้ว่าหมองานยุ่งค่ะ ถ้างั้นปิ่นว่างแล้วนะคะไม่อยากรบกวนเวลาทำงานของหมอ”
“ก็ได้ครับเอาไว้ถ้าว่างคืนนี้ผมจะโทรไปหานะปิ่นนอนเที่ยงคืนเหมือนเดิมใช่ไหม”
“ก็ประมาณนั้นค่ะหมอไลน์มาก่อนก็ได้ถ้าปิ่นไม่อ่านก็แสดงว่าปิ่นหลับ”
“แล้วได้ครับ แค่นี้ก่อนนะครับพอดีมีคนไข้เข้ามา”
“ค่ะ ขอบคุณหมออีกครั้งนะคะที่ดูแลออมสินเป็นอย่างดี”
หลังจากวางสายจากคุณหมอแล้วปิ่นปินัทธ์ก็เดินไปหาคุณยายที่ตอนนี้กำลังนั่งอยู่หน้าทีวีเพื่อรอดูละครเรื่องโปรด
“ยายขาปิ่นมีเรื่องจะรบกวนยาอย่างหนึ่งค่ะ”
“จะรบกวนอะไรยายล่ะลูก”
“ยายจำได้ไหมที่ปิ่นเล่าว่าปิ่นให้คุณหมอช่วยเขียนในประวัติของออมสินว่าหกล้มทั้งที่จริงๆ แล้วออมสินเล่นฟุตบอลแล้วหกล้ม”
“จำได้สิ ทำไมล่ะมีปัญหาอะไรหรือเปล่า” คุณยายละมัยมีสีหน้าไม่ค่อยดีเพราะกลัวเรื่องที่หลานสาวทำจะมีปัญหาตามมา
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ แต่หมอเขาขอให้ปิ่นเลี้ยงข้าวเขาสักมื้อ เขาให้ปิ่นแนะนำร้านอาหารค่ะ แต่ปิ่นไม่ค่อยได้ออกไปกินข้าวนอกบ้านก็เลยบอกไปตามตรงว่าปกติแล้วปิ่นกินข้าวที่บ้าน เขาเลยอยากมากินข้าวที่บ้านเราด้วยค่ะ ยายพอจะทำกับข้าวเลี้ยงคุณหมอสักมื้อได้ไหมคะ”
“ได้สิลูก ยายจัดการให้แล้วหมอเขาจะกินอะไรล่ะ”
“หมอเขาบอกว่ากินอะไรก็ได้แต่ขอไม่เผ็ดมากค่ะ แล้วก็ขอหมูทอดอีกอย่างค่ะ”
“ปิ่นคิดว่ายายจะทำอะไรให้หมอกินดีล่ะ” เพราะปกติก็ทำอาหารทานกันแค่ยายกับหลานพอจะมีคนอื่นมาทานเพิ่มยายละมัยก็นึกเมนูอาหารไม่ออก
“ทำพะแนงไก่ดีไหมคะ ไม่ได้ทำนานแล้วปิ่นอยากกินค่ะ แล้วก็ปลาช่อนผัดคื่นช่ายค่ะ เช้าวันเสาร์ปิ่นจะไปซื้อปลาที่ตลาดแล้วให้แม่ค้าเขาทำให้เลย เราจะได้ไม่ต้องเอาปลามาทำเอง”
“สะดวกดีเหมือนกัน หนูซื้อผักบุ้งมาด้วยนะยายว่าจะทำผักบุ้งไฟแดงอีกอย่าง”
“ได้ค่ะยาย ถ้างั้นคืนนี้ปิ่นขอตัวไปทำใบงานก่อนนะคะ”
“จ้ะ เดี๋ยวยายดูละครจบก็จะเข้านอนเหมือนกัน”