6 เขาไม่เรียกโชคดีหรอกค่ะ
กรัณย์กรเดินวนอยู่หน้าห้องตรวจฉุกเฉินจนถึงเวลาสิบเจ็ดนาฬิกาก็เห็นปิ่นปินัทธ์เดินมากับเด็กชายออมสิน
“สวัสดีครับคุณหมอ” เด็กชายออมสินรีบยกมือไหว้คุณหมอคนที่เย็บแผลให้กับตนเองเมื่อวาน
“เป็นไงบ้างครับออมสิน เจ็บแผลอยู่ไหม”
“เจ็บนิดหน่อยครับ”
“สวัสดีครับครูปิ่น”
“สวัสดีค่ะหมอ” ปิ่นปินัทธ์ยกมือไหว้ทำให้เขารีบยกมือรับไหว้แทบไม่ทัน
“ครูไม่ต้องไหวผมหรอกครับผมยังไม่อยากแก่”
“ค่ะ ปิ่นขอตัวพาออมสินไปทำแผลก่อนนะคะ”
“ผมก็จะเข้าไปดูเหมือนกันอยากรู้ว่าแผลที่เย็บไปเมื่อวานเป็นยังไงบ้าง”
“ค่ะหมอ”
หญิงสาวส่งบัตรนัดทำแผลให้กับผู้ช่วยพยาบาลจากนั้นก็พอออมสินไปนอนบนเตียงให้พยาบาลล้างแผล
“แผลติดดีนะคะหมอ พี่ว่าไม่ต้องมาล้างทุกวันก็ได้มั้งคะ”
“ถ้างั้นล้างพรุ่งนี้อีกวันก็ได้ครับแล้วก็มาอีกทีวันตัดไหมเลย”
“จะไม่เป็นไรใช่ไหมคะ” ปิ่นปินัทธ์ถามเพราะเธอไม่ค่อยมีความรู้เรื่องนี้
“ไม่หรอกหรอกครับ แต่ถ้าระหว่างนี้มีไข้หรือเลือดซึมก็ต้องพามาครับ”
“เจ็บไหม” กรัณย์กรถามเด็กชายที่วันนี้นั่งนอนนิ่งให้พยาบาลทำแผลไม่ได้งอแงอย่างเมื่อวาน
“ไม่เจ็บครับ”
“ตั้งแต่กลับไปบ้านเมื่อวานล่ะเจ็บไหม”
“เมื่อคืนเจ็บครับ” เด็กชายนึกอยู่นานก่อนจะตอบ
“แล้วได้กินยาหรือเปล่า” คุณหมอถามอย่างใจเย็น
“แม่ให้กินยาครับ แต่ผมไม่รู้ว่าตอนกี่โมงแต่รู้ว่ามันดึกมาก”
“แล้วทั้งวันวันนี้ออมสินกินยาหรือเปล่า”
“กินครับ”
คุณหมอมองหน้าปิ่นปินัทธ์ด้วยความสงสัยเพราะเด็กบอกไม่เจ็บแต่ทำไมเธอถึงให้เด็กกินยา
“วันนี้ทั้งวันออมสินกินแค่ยาแก้อักเสบที่คุณหมอให้ไปค่ะ ส่วนยาพาราไม่ได้กิน” หญิงสาวอธิบายให้คุณหมอหนุ่มฟังเพราะเขาทำหน้างงตอนที่ออมสินบอกว่าวันนี้ก็ทานยาทั้งที่เด็กชายบอกว่าไม่ได้ปวดแผลแล้ว
“แผลไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนะ เดี๋ยวให้พี่พยาบาลปิดแผลและออมสินก็กลับบ้านได้เลยครับ”
“ขอบคุณครับคุณหมอ”
“ขอบคุณค่ะหมอ ขอบคุณค่ะคุณพยาบาล” ปิ่นปินัทธ์ขอบคุณพยาบาลที่ทำแผลให้และไม่ลืมที่จะขอบคุณหมอเจ้าของไข้อีกครั้ง
ทำแผลเสร็จเธอก็พาออมสินเดินมาที่รถโดยมีคุณหมอเดินตามมาด้วย
“ปกติคุณต้องพาเขามาทำแผลแบบนี้ทุกวันเลยเหรอ”
“ผู้ปกครองเขาไม่ค่อยสะดวกค่ะ แล้วอีกอย่างเวลาปิ่นกลับบ้านก็จะต้องผ่านบ้านออมสินอยู่แล้วก็เลยรับมาทำแผลทีเดียวเลย ค่ะ ถ้ายังไงปิ่นขอตัวก่อนนะคะ เดี๋ยวจะพาออมสินกลับไปส่งที่บ้านกลับค่ำคุณยายของออมสินจะเป็นห่วง” หญิงสาวเปิดประตูให้ออมสินเขาไปนั่งจากนั้นตนเองก็วนมาด้านฝั่งคนขับ
“คืนนี้ผมขอโทรหาคุณได้ไหม”
“คุณหมอมีธุระอะไรกับปิ่นหรือเปล่าคะ”
“เปล่า ก็แค่อยากโทรไปหาได้ไหมล่ะ”
“ถ้าปิ่นว่างก็จะรับนะคะ แต่ถ้าไม่รับก็แสดงว่าหลับไปแล้ว”
“ผมให้ผมคงไม่โทรดึกเหมือนเมื่อคืนหรอก แต่ยังไงก็ต้องขอโทษอีกครั้งนะที่ทำให้คุณต้องตื่นกลางดึก”
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะ คนเรามันก็ผิดพลาดกันได้ปิ่นไปก่อนนะคะ ขอบคุณมากนะคะ” หญิงสาวกล่าวขอบคุณเขาอีกครั้ง จากนั้นก็ขับรถออกจากหน้าโรงพยาบาลไป
หมอกรัณย์กรมองไปจนสุดสายตาจากนั้นเขาก็เดินกลับมาบ้านพักของตัวเองที่อยู่ด้านหลังโรงพยาบาล
ไม่รู้เพราะอะไรเขาถึงอยากจะคุยกับคุณครูคนนี้มากคุณพิเศษไม่ใช่ว่าไม่เคยเจอผู้หญิงสวย แต่ปิ่นปินัทธ์เป็นผู้หญิงที่สวยหวาน ดูจิตใจอ่อนโยนเอามากๆ การที่เธอพาลูกศิษย์มาทำแผลทั้งที่ไม่ใช่ธุระของตัวเองเลยก็เป็นข้อพิสูจน์อย่างหนึ่งแล้วว่าหญิงสาวเป็นคนที่จะจิตใจดีมากๆ คนหนึ่ง
มันทำให้เขารู้สึกสนใจและอยากรู้จักผู้หญิงคนนี้ให้มากขึ้น เขาอยากไปทานอาหารกับเธอตามที่คุยกันไว้แต่ แต่ก็คงต้องรอให้ลูกศิษย์ของเธอตัดใหม่เสร็จเรียบร้อยก่อน
กรัณย์กรทำธุระส่วนตัวของตัวเองเสร็จจากนั้นเขาก็โทรศัพท์ไปคุยกับมารดาซึ่งชายหนุ่มจะโทรไปหาท่านอยู่เป็นประจำ ถ้าหากวันไหนตนเองไม่ได้ขึ้นเวร
เมื่อคุยกับมารดาเสร็จแล้วก็โทรศัพท์ไปหาปิ่นปินัทธ์ตามที่บอกกับเธอไว้
“สวัสดีค่ะหมอ”
“สวัสดีครับครูปิ่น ครับผมโทรมารบกวนครูปิ่นหรือเปล่า”
“ไม่หรอกค่ะ หมอไม่ต้องเรียกปิ่นว่าครูก็ได้นะคะ”
“ครับ ผมอยากถามปิ่นลืมอะไรไปหรือเปล่า”
“ลืมอะไรคะ” หญิงสาวนึกไม่ออกว่าตนเองลืมอะไรเพราะวันนี้ก็พาลูกศิษย์ไปทำแผลตามนัดแล้ว
“ปิ่นสัญญาว่าจะเลี้ยงข้าวผมไงล่ะครับ” เขารีบทวงสัญญา
“อ๋อ...เรื่องนั้นปิ่นไม่ลืมหรอกค่ะ แต่ช่วงนี้ปิดไม่ว่างเลยตอนเย็นยังต้องไปออมสินไปล้างแผลรอให้ออมสินหายดีก่อนได้ไหมคะ”
“ได้ครับไม่มีปัญหา ตอนนี้ปิ่นกำลังทำอะไรอยู่ครับ”
“กำลังทำใบงานให้เด็กๆ อยู่ค่ะ”
“ใบงานนี้มันคล้ายๆ แบบฝึกหัดหรือเปล่าครับ”
“ก็ประมาณนั้นค่ะ”
“ปิ่นสอนนักเรียนชั้นอะไรครับ”
“ปิ่นสอนคณิตศาสตร์ค่ะ ป.1 ถึง ป.3 ค่ะ”
“สอนทั้งสามชั้นเลยเหรอครับ แบบนี้คงสับสนแย่”
“แรกๆ ก็มีสับสนอยู่บ้างค่ะ แต่ปิ่นสอนนักเรียนมาสามปีแล้วก็เริ่มจะชินค่ะ แล้วหมอรัณย์มาตรวจที่โรงพยาบาลนี้นานหรือยังคะ ปิ่นเคยพานักเรียนไปหาหมออยู่หลายครั้งไม่เคยเจอหมอเลย”
“ผมมาประจำที่นี่ได้สองปีกว่าแล้วครับ แปลกมากที่เราไม่เคยเจอกัน”
“หมอประจำอยู่ห้องฉุกเฉินเหรอคะ”
“ผมวนไปตามแผนกต่างๆ ครับ โชคดีจังนะครับที่เราได้เจอกัน”
“ปิ่นว่าเจอกันแบบนี้เขาไม่เรียกโชคดีหรอกค่ะ โชคร้ายมากกว่า”
“ปิ่นหมายถึงการเจอผมเหรอครับที่โชคร้าย”
“ไม่ได้หมายความอย่างนั้นค่ะ ปิ่นหมายความว่าการเจอกันในสถานการณ์แบบนี้มันไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เพราะถ้าลูกศิษย์ของปิ่นเป็นอะไรไปมากกว่านี้ปิ่นก็คงแย่”