บทที่ ๗ เป็นของหมอ
เวลาผ่านไปยี่สิบนาที มื้อเช้าก็เสร็จเรียบร้อย ไม่รู้ว่าทัชชกรทานมื้อเช้าไหม แต่เธอก็ทำแซนด์วิชไข่ดาวเผื่อเขาด้วย พอทำเตรียมเสร็จตัวเองกินอิ่มในส่วนของตัวเองก็เดินเข้าห้องไปอาบน้ำ แต่พอกลับเข้าห้องก็เห็นคนตัวโตนอนตะแคงมองตนอยู่บนเตียง
“มะ...หมอหมาตื่นแล้วเหรอคะ”
“อือ...แล้วไปทำงานไหวเหรอ เดินแบบนั้นลาดีไหม”
คำพูดของทัชชกรทำให้เธอก้มหน้าเขินอาย ก็เพราะเขาไง เธอถึงเดินขา ‘ถ่าง’ แบบนี้
“ค่ะ นิ่มต้องไปทำงาน ไม่อยากลาและสลับเวรกับพี่คนอื่น อีกอย่างนิ่มต้องใช้เงิน ต้องหาเงินมาใช้หนี้หมอ”
“จะรีบไปทำไม มีเวลาตั้งหนึ่งปี”
“แต่ถ้านิ่มหาเงินมาใช้หมดก่อนสัญญาก็จะสิ้นสุดไม่ใช่เหรอคะ” เธอเงยหน้าขึ้นสบตาของเขาพร้อมตอบ
“เหรอ แต่เราเซ็นสัญญากันหนึ่งปีนะ”
เขามองร่างเล็กที่ยืนอยู่แล้วภาพหวามเมื่อคืนก็ทำให้เขาอมยิ้ม นวิยาเป็นผู้หญิงที่ซ่อนรูปได้ดีจริงๆ ภายนอกเรียบร้อย แต่พอเปลื้องผ้าสุดเอ็กซ์
“ไปอาบน้ำทำงานเถอะถ้าไหวน่ะ แต่หมอไม่รีบหรอกนะเรื่องเงิน มีก็คืน ไม่มีก็นอนขัดดอก” ใช่ เขาอยากให้นวิยาขัดดอกเขาทุกวันแล้วสิ
“ค่ะ มื้อเช้านิ่มทำเผื่ออยู่ที่บนโต๊ะนะคะหมอหมา” เธอตอบสั้นๆ เดินเข้าห้องน้ำแล้วเสียงทุ้มก็ดังตามหลังมา
“อือ...ออกไปอย่าลืมซื้อยาคุมฉุกเฉินมากินด้วยล่ะ และซื้อยาคุมติดตัวไว้กินด้วย เพราะหมอไม่ชอบใส่ถุงยาง เข้าใจไหมนิ่ม”
เธอไม่ตอบ แต่ปิดประตูห้องน้ำแล้วก็น้ำตาคลอ เธอเองก็ลืมไปเสียสนิทว่าเมื่อคืนเขาไม่ได้ป้องกัน
นายแพทย์หนุ่มเห็นประตูห้องน้ำปิดก็ลุกเดินลงจากเตียงไปหยิบผ้าขนหนูผืนเมื่อคืนของตนมาพันรอบเอวสอบแล้วเดินออกไปนอกห้องก็เห็นบนโต๊ะมีแซนด์วิชสองชิ้นในจานวางอยู่ที่โต๊ะทานข้าวขนาดเล็กที่ได้นั่งทานเมื่อวานก็เดินไปหยิบขึ้นทานแล้วก็เดินไปเปิดตู้เย็นรินน้ำทำเหมือนกับว่านี่คือห้องตัวเอง ทัชชกรผู้รอบคอบทุกอย่าง แต่เมื่อคืนเขาลืมป้องกันได้ยังไง พยาบาลสาวทำให้เขาเผลอลืมตัวไปได้มากขนาดนี้ได้ยังไงกัน แต่ก็รู้สึกดีที่ได้สอดใส่กายสาวแบบสด ไม่มีสิ่งป้องกัน มันให้ความรู้สึกอิ่มเอมทั้งๆ ที่จัดสี่ยกเอง ปกติเขาไม่เช้าไม่แยกร่างออกจากสาว แถมวันหยุดแบบนี้ต้องมีซ้ำตอนเช้าอีกรอบ
“อืม...อร่อยดี แซนด์วิชไข่ดาวไส้กรอก” เขาพึมพำเมื่อกัดกินคำแรกเคี้ยวกลืนแล้วก็ดึงลากเก้าอี้ออกมานั่งทานดีๆ ทัชชกรรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นสามีแล้วนวิยาเป็นภรรยาตื่นมาเตรียมมื้อเช้าให้ ปกติเขาไม่เคยได้รับการปฏิบัติจากคู่นอนแบบนี้สักครั้ง ตื่นเช้ามาก็แยกจากกันเหมือนกับว่าค่ำคืนที่ผ่านมาไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่นวิยากลับตรงกันข้ามกับผู้หญิงที่เคยหลับนอนด้วย
สิบนาทีกับการอาบน้ำแล้วแต่งตัว พอแต่งตัวเสร็จก็มาปกปิดรอยดูดเม้มของทัชชกรตามลำคอด้วยครีมรองพื้น พอจัดการปกปิดทุกอย่างเรียบร้อยร่างเล็กในชุดพยาบาลก็เดินออกมาจากห้องนอนก็เห็นเขานั่งบนโซฟาเอนตัวพิงพนักโซฟาดูโทรทัศน์อยู่ ‘เขาคิดว่าเนี่ยคือห้องเขารึไงกัน ทำไมยังไม่กลับอีก กินก็กินแล้ว’ เธอพึมพำในใจเมื่อมองไปทางโต๊ะทานข้าวไม่เห็นแซนด์วิชสองชิ้นแล้ว
“ไปทำงานเหรอ เอากุญแจห้องสำรองมาสิ หมอจำเป็นต้องพกติดตัวไว้หนึ่งดอก เวลามาหามารอที่ห้องจะได้ไม่ยาก คีย์การ์ดด้วย” เขาบอกหญิงสาวในชุดพยาบาลขาวสะอาด
“แต่นิ่มว่า...” ทัชชกรพูดแทรกไม่รอฟังสาวพยาบาลพูดจบ
“หนึ่งปีนะ สัญญาของเรา”
“แต่นิ่มไม่สะดวกค่ะหมอหมา”
“ยังมีอะไรไม่สะดวกอีก ตอนนี้นิ่มเป็น ‘เมีย’ หมอนะ เดี๋ยวโอนเงินให้นะ จำได้เมื่อวานบอกว่ามีเงินติดตัวไม่ถึงสิ้นเดือนนี้”
“ไม่เป็นไรค่ะหมอหมา แค่หมอหมาให้เงินมาใช้หนี้ก็มากพอแล้ว”
“นั่นเงินส่วนใช้หนี้ให้พ่อแม่เธอ แต่เงินนี้ฉันให้เธอไว้ใช้จ่ายและซื้อของเข้าตู้เย็นมาไว้ทำกับข้าวให้ฉันทาน”
“หมายความว่ายังไงคะ”
“ฉันจะมาอยู่ด้วย”
“แต่หมอหมาคะ นิ่มว่า...” เธอพูดยังไม่จบความ เสียงทุ้มก็แทรกขึ้น
“อย่าขัดใจฉันสิ สัญญาหนึ่งปีนะ อีกอย่างฉันก็ไม่ได้มาอยู่ทุกวันสักหน่อย เอากุญแจห้องให้ฉันหนึ่งดอกและคีย์การ์ดเข้าตึกด้วย เธอก็ไปซื้อคีย์การ์ดใหม่อีกใบเอา”
นวิยาไม่ตอบ แต่เดินมาถอดกุญแจห้องสำรองให้เขาพร้อมคีย์การ์ดออกให้เขาจากพวงกุญแจ
“อย่าลืมแวะซื้อยาคุมฉุกเฉินกินล่ะ และซื้อยาคุมแบบรายเดือนติดตัวไว้ด้วย เพราะหมอไม่อยากใส่ถุงยางกับนิ่ม”
“ค่ะ แค่นี้ใช่ไหมคะหมอหมา”
“อือ...ไม่มีอะไรแล้ว ไปทำงานเถอะเดี๋ยวสาย”
“ค่ะ” แล้วเธอก็เดินจากไปพร้อมหยิบกระเป๋าผ้าที่ห้อยติดผนังไว้เมื่อวานมาสะพายเปิดประตูห้องออกไป
ปึก!
เสียงประตูห้องปิดสนิท เขาก็ดูโทรทัศน์ต่อ กดช่องนั้นช่องนี้ไปเรื่อยอย่างอารมณ์ดี