บทที่ ๘ สัญญาทาสหรือสัญญาหนี้กันแน่
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา...
มันสัญญาหนี้หรือสัญญาทาสกันแน่ เธอตื่นมาทุกเช้าเจอกับทัชชกรทุกเช้าก็ว่าได้ และเพิ่งรู้ตอนนี้เองว่าเขามัน ‘เซ็กซ์’ จัด
“วันนี้หยุดเหรอนิ่ม”
“ค่ะ หมอหมา”
“วันนี้หมออยู่เวรดึกน่ะสิ ไม่ได้กลับมานอนด้วยนะ”
คนฟังได้ยินยิ้มมุมปากเมื่อรู้ว่าเขามีเวรดึกไม่ได้กลับมาค้างกับตน
“ยิ้มอะไรนิ่ม ดีใจเหรอที่ฉันไม่มานอนด้วย” เขาเห็นมุมปากน้อยพยาบาลสาวแย้มยิ้มจึงถามด้วยความน้อยใจ
“ปะ...เปล่าค่ะ หมอหมาทานมื้อเช้าเถอะค่ะ เดี๋ยวออกไปสายรถติด”
“แล้ววันนี้จะทำอะไร จะออกไปข้างนอกไหม”
“วันนี้ก็จะเก็บกวาดห้อง ซักผ้า ถ้ามีเวลาเหลือก็จะออกไปซื้อของเข้าห้องค่ะ”
อือ!
เขาพยักหน้ารับรู้แล้วก็ล้วงกระเป๋ากางเกงสแล็คของตนเองหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมาเปิดหยิบบัตรเครดิตหนึ่งใบออกมาแล้วส่งยื่นให้หญิงสาว
“เอาไว้ใช้จ่าย เพราะฉันก็อยู่ที่นี่ด้วย”
“ไม่เป็นไรค่ะหมอหมา เงินสดที่โอนให้มาก็ยังมีอยู่”
“เอาไว้เถอะน่า อย่าเรื่องมากได้ไหมนิ่ม วันนี้ทำข้าวผัดกุ้งเหรอ หอมน่ากินเชียว”
คนไม่เคยทานมื้อเช้า จะทานเพียงกาแฟแล้วก็ไปทำงาน แต่ตั้งแต่อยู่กับนวิยา เขาทานมื้อเช้าทุกวันและเหมือนจะติดรสมือพยาบาลสาวไปเสียแล้ว
แล้วบรรยากาศก็เงียบเมื่อทั้งสองต่างฝ่ายต่างทานมื้อเช้าของตนเอง พอทานอิ่มนายแพทย์หนุ่มก็หยิบเสื้อสูทของตัวเองที่วางพาดไว้พนักเก้าอี้ด้านหลังขึ้นมาพาดแขน
“หอมแก้มหน่อยสิ”
“คะ...” คนที่ทานยังไม่อิ่มเงยหน้าขึ้นจากจานข้าวก็เห็นเขาโน้มตัวเอียงแก้มรอให้หอมแก้มส่งก่อนไปทำงาน และเป็นแบบนี้มาสามวันแล้ว
“ค่ะ” เธอจึงลุกขึ้นโน้มหน้าไปจะจุ๊บแก้มสากของเขา แต่เขาก็หันมาปากจุ๊บปากกับเธอ
อื้อ!
“ชื่นใจ ไปทำงานก่อนนะ”
“ค่ะ”
“เดินไปส่งที่ประตูหน่อยสิ”
“ค่ะ”
“พูดเป็นคำเดี๋ยวรึไงนิ่ม”
“เปล่าค่ะ แต่ไม่รู้จะพูดอะไรนี่คะ”
เธอเดินมาส่งเขาหน้าประตูห้อง ก่อนจะไปทัชชกรก็ก้มโน้มลงมาจุ๊บหน้าผากมนของเธอก่อนจะเดินจากไป
นวิยามองตามแผ่นหลังกว้างบุรุษเดินห่างไปจากประตูแล้วก็ปิดล็อกห้องเดินกลับมาทานมื้อเช้าของตนต่อ
เวลา 12.00 น.
ก๊อก! ก๊อก! ก๊อก!
คนไข้คนสุดท้ายของตอนเช้าเพิ่งออกไป และพยาบาลผู้ช่วยในห้องตรวจก็ไปทานมื้อเช้าแล้วประตูห้องก็ดังขึ้นพร้อมถูกเปิดผลักเข้ามา
“ไปกินข้าวกันหมอหมา”
“เดี๋ยวปิดคอมแป๊บหมอแทน แต่ไปกินข้างนอกไม่ได้นะวันนี้ หมอมีประชุมตอนบ่ายกับคณะผู้บริหารน่ะ”
“ก็ไม่ได้จะชวนไปกินข้างนอกสักหน่อยหมอหมา หมอจะชวนไปกินที่โรงอาหารของเราเนี่ยแหละ”
อือ!
“รอข้างนอกนะ” แล้วนายแพทย์หนุ่มก็ปิดประตูห้องทำงาน
รอไม่ถึงห้านาที ทัชชกรก็ออกมาจากห้องตรวจ
“ไปกันเถอะหมอแทน”
แล้วนายแพทย์หนุ่มหล่อประจำโรงพยาบาลก็พากันเดินไปพร้อมกันและพูดคุยกันอย่างสนิทสนม ทั้งสองเป็นเพื่อนรุ่นเดียวกัน สมัยเรียนก็สนิทกัน พอมาทำงานที่เดียวกันก็ยิ่งสนิทกันเข้าไปใหญ่
“เดี๋ยวนี้ไม่เห็นไปเลาจน์ หรือเตรียมตัวจะแต่งงานล่ะ เห็นคุณหญิงป้าบอกว่าคู่หมั้นจะกลับมาแล้วนี่”
“คงงั้นมั้ง” ไม่อยากตอบความยาวสาวความยืด แทนยิ่งขี้ฉลาดอยู่ด้วย ถ้าตอบยาวกว่านี้ได้เผยพิรุธให้อีกฝ่ายสงสัยแน่
“ดีแล้วแหละ คือวันนี้มีเรื่องจะปรึกษาด้วยนะถึงมาชวนไปกินข้าว”
“เรื่องอะไร”
“ก็ว่าจะมีแฟนเป็นตัวเป็นตนน่ะ เจอสาวที่คิดว่าใช่แล้วน่ะ”
“ใครล่ะถึงทำให้หมอแทนอยากหยุดที่เธอได้”
“อยู่ในโรงพยาบาลเนี่ยแหละ หมอหมารู้จัก”
“หมอหรือพยาบาล”
“พยาบาลคู่หูของหมอหมา พยาบาลนิ่มน่ะ ได้ทำงานด้วยกันบ่อยหลังๆ นี้รู้สึกว่าเธอน่ารักดี” คำพูดของแทนทำให้ทัชชกรสะดุดลมหายใจไปชั่วครู่พร้อมสีหน้าเปลี่ยน แต่ก็แค่ครู่เดียวเท่านั้น
“นิ่มเขามีแฟนแล้วไม่ใช่เหรอ”
“ไม่มีนะ ฉันถามเมื่อวานตอนทำงานด้วยกันน่ะ”
‘จะไม่มีแฟนได้ไง ทั้งๆ ที่มีผัวอยู่แล้วนิ่ม’ เขาพึมพำในใจแล้วฝืนยิ้มแห้งๆ ตอบเพื่อน
“เหรอ นึกว่ามีแฟนแล้วซะอีก”
“ยังน่ะสิ เลยจะปรึกษาหมอหมาเนี่ยแหละ ถ้าหมอจะจีบพยาบาลนิ่มจะติดไหม อีกอย่างอยากให้หมอหมาช่วยด้วย”
“ลองดูสิ” อยากรู้นักว่านวิยาจะทำยังไงหากโดนแทนตามจีบ
“ช่วยหมอด้วยนะหมอหมา”
“เออ! ไปสั่งข้าวเถอะ จะกินอะไรวันนี้” แล้วทัชชกรก็เอ่ยเปลี่ยนเรื่องเมื่อเดินมาถึงโรงอาหารที่ตอนนี้คนเต็มแน่นแทบจะไม่มีที่นั่งเหลือให้ตนสองคนนั่ง
“กินข้าวราดแกงเถอะ ประหยัดเวลา” แล้วแทนก็ดึงแขนเพื่อนพาไปยังหน้าร้านข้าวราดแกง