T.EP 7 : ไม่อยากเจอ
EP 7
...“มินตรา”...
แล้วเราก็ไม่สบายจริงๆด้วยตื่นขึ้นมาอีกครั้งปวดหัวแล้วเวียนหัวมากๆแต่ยังไม่สว่างเลย
“โอ้ยทำไมถึงปวดหัวแบบนี้นะ”มือขวาของเราบีบ ไปที่ขมับของตนเองรู้สึกปวดหัวจนเหมือนจะทนไม่ไหว
พรึ่บ!! จู่ๆไฟในห้องเราเปิดโดยที่เรายังไม่ได้ขยับไปเปิดสวิตช์เลยด้วยซ้ำ และต้องตกใจไปมากกว่านั้น คนที่เปิดโคมไฟและเขานั่งอยู่บนเตียงกับเราด้วยก็คือคุณภูผา
“คุณ”เราสะดุ้งตกใจจนร้องออกมาเสียงดัง
“จะตกใจอะไรขนาดนั้น”
“คุณมาที่นี่ได้ยังไงคุณกลับไปแล้ว แล้วคุณเข้ามาในห้องของฉันทำไม”
“ที่นี่คือบ้านเพื่อนของฉัน! แต่ทำไมฉันจะเข้ามาในห้องนี้ไม่ได้ห้องนี้เป็นห้องของเธอและเธอก็เป็นของฉัน”
ผวะ! เราบอกตามตรงว่าเราเกลียดเขาเกลียดในสิ่งที่เขาทำกับเรา และยิ่งได้ยินเขาพูดแบบนี้อารมณ์ของเราควบคุมไม่อยู่จึงทำให้มือของเราฟาดตกลงใบหน้าของเขาทันที
“มินตราเธอกล้ามากนะที่ตบหน้าของฉันห้ะ”เราหลับตาและร้องไห้ออกมาไม่เพียงแต่เขาตะคอกแต่เขายังจับข้อมือของเรากระชาก
“ฮื่อๆ”
“เก่งมากไม่ใช่หรอห้ะ! ลืมตาสิ”เรายังคงหลับตาอยู่เขาบอกให้เราลืมตาแต่เราไม่ยอมลืม
“อะอื้ม”จากมือเขาที่จับข้อมือเรา ปล่อยออกแต่มาจับต้นคอแทนและดึงเข้าไปจูบจึงทำให้เราเบิกตากว้างทันที
“ปล่อยนะ”เรารู้สึกตัวจึงใช้สองมือผลักหน้าอกของเขาออก
“อย่าอวดดี ถ้าไม่ติดว่าเธอป่วยเธอโดนดีแน่มินตรา”สายตาที่จ้องมองหน้าเราและคำพูดที่ขู่ ยอมรับนะว่ากลัวและเราก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ คุณกรไปไหน
“ออกไปจากห้องของมินตราเดี๋ยวนี้”
“กินยาและนอนอย่าพูดมาก”คุณภูผาเขาหันหลังกลับไปหยิบถาดยา และแก้วน้ำที่วางอยู่โต๊ะหัวเตียง
“ไม่กิน”ปึก! เราปัดแก้วน้ำและก็ถาดยาของเขาออกจากตัวเราจนล้นออกจากมือเขากะดินลงไปที่พื้น
“นี่มินตราจะมากไปแล้วนะ”เขาลุกขึ้นและใช้มือของเขาจับตรงช่วงต้นแขนของเรากระชากขึ้นจนตัวลอยขึ้นตามแรงกระชากของเขา
“ฮื่อๆทำขนาดนี้ไม่ฆ่ากันให้ตายไปเลยเล่า”
“มีอะไรนะ”คุณกรหรือพ่อเลี้ยงนั่นแหละเขาเปิดประตูเข้ามาเห็นทุกอย่างในตอนนี้
“ฮื่อๆ”
“ไอ้ภูผาปล่อย”
“คุณกรฮื่อๆ”คุณกรเดินมาจับมือของคุณภูผาออกจากแขนเราและดึงเราเข้าไปกอดก่อนที่เราจะกอดคุณกรแน่นพร้อมกับร้องไห้ออกมา
“มินตราตัวของหนูร้อนจี๋เลย”คุณกรเอามือลูบหัวของเราก่อนที่จะจับไหล่ของเราทั้งสองข้างและมองหน้า
“ฮื่อๆ”
“เอายามาให้กินดีๆแต่ทำเป็นอวดเก่ง”
“มินตราทำไมไม่กินยา”
“ฮื่อๆให้เขาออกไปจากห้องนี้”
“ภูผานายออกไปก่อน”หลังจากที่คุณภูเขาออกไปแล้วพอเลี้ยงได้คุยกับเราและถามเราว่าเกิดอะไรขึ้น เราบอกกับพ่อเลี้ยงไปตามความจริงแต่ไม่ได้บอกเรื่องนั้นเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน
“ภูผามันย้ายมาอยู่ที่นี่ชั่วคราวนะมินตรา มันบอกว่ามันเดินผ่านห้องแค่ได้ยินเสียงมินตราละเมอทมันเลยเปิดประตูเข้ามาดูว่ามีตาไม่สบายก็เลยออกไปเอายามาให้”
“ฮึ๊ก”
“เป็นอะไรทำไมถึงไม่ชอบมันทำไมถึงเกลียดกันล่ะ หรือว่าเป็นเพราะเรื่องเมื่อวานที่มันทำร้ายจริงๆแล้วภูผามันเป็นคนจิตใจดีนะ”
“ไม่จริงเขาเป็นคนที่ใจร้ายที่สุด”
“พูดเหมือนกับว่ามันทำร้ายจนสาหัส”คุณกรไม่รู้หรอกว่าในสิ่งที่เขาทำกับเรามันสาหัสขนาดไหน
“ไม่เอาค่ะ มินตราไม่อยากพูดกับเขาไม่อยากอยู่ใกล้เขา”
“โอเคอย่างนั้นต่างคนต่างอยู่ เดี๋ยวฉันจะบอกกับมันให้ว่าให้อยู่ข้างๆเธอแต่ตอนนี้ถึงต้องกินยาแล้วพักผ่อนตัวร้อนมากๆ”
“ค่ะ”คุณกรไปเก็บแก้วที่หล่น และเศษแก้วที่แตก ทำให้เขาลำบากอีกแล้วเราเลยลุกจากเตียงและไปนั่งลงช่วยเขาเก็บ
“มินตราหยุดเลยนะเดี๋ยวเศษแก้วบาดมือ”เขาจับมือของเราไว้ทั้ง 2 ข้างไม่ให้ทำกลัวว่าเศษแก้วจะบาดมือ
“แต่มินตราเป็นคนทำแตกนะคะจะให้คุณเก็บได้ยังไง”
“ไม่เป็นอะไรหรอกเชื่อฉันนะไปนั่งรอแล้วฉันจะเอายากับน้ำมาให้ ห้ามดื้อด้วยถ้าดื้อฉันจะไม่รักเธอ”
“แล้วถ้าไม่ดื้อคุนจะรักมินตราหรอค่ะ”
“รักได้หรือเปล่าล่ะ”ก่อนที่คุณกรเขาจะเดินออกจากประตูเขาพูดทิ้งท้ายไว้พร้อมกับรอยยิ้มจากที่เรากำลังเสียใจจากที่เรากำลังร้องไห้กลายเป็นรอยยิ้มและความเขิน
“ฮึ้ก”เราเอามือเช็ดน้ำตาตัวเองถึงแม้ว่าจะมีเรื่องที่ให้เจ็บตัวและให้เสียใจก็เถอะ
“มาแล้ว”เขาเดินเข้ามาพร้อมกับถาดน้ำและก็ยาที่สำคัญมีนมมาอีกต่างหาก
“กินนมก่อนนะแล้วค่อยกินยา”เราพยักหน้าให้กับเขากินทุกอย่างที่เขายื่นให้
“เรียบร้อยแล้วนอนพักผ่อนนะเด็กดี”เราพยักหน้าให้กับคุณกร ก่อนที่เขาจะปิดไฟและเดินออกจากห้องไปในช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ใกล้จะสว่างแล้วแหละ
ตัดตอนเช้า
เมื่อเราลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง มีคนคนหนึ่งที่นั่งอยู่ข้างเตียงเรา ในตอนแรกเราก็ตกใจคิดว่าเป็นคุณภูผาแต่ไม่ใช่เขาคือคุณกร
“กำลังจะปลูกพอดีเลยรู้สึกตัวก่อนเป็นยังไงบ้างตัวเบาร้อนแล้วนี่”
“ไม่เป็นอะไรหรอกค่ะขอบคุณนะคะ”
“อย่างนั้นตื่นไปอาบน้ำแล้วก็ลงไปทานข้าวกันนะจะได้กินยาพักผ่อนจะได้หาย”
“แล้ว...
“มันจะไม่ยุ่งกับมินตราแล้วแหละ ฉันสั่งกับมันไว้แล้ว ถ้ามันพูดอะไรก็อย่าไปเถียงมันมันเป็นคนที่โมโหร้ายและอารมณ์ร้อนแต่จริงๆแล้วมันเป็นคนดีนะ”
“ค่ะ”เราไม่เคยเข้าไปยุ่งกับคุณภูผาก่อนเลยนะ มีแต่เขานั่นแหละที่เข้ามาทำให้เราเจ็บตัวตั้งแต่แรก จนทำร้ายเราหลายๆอย่าง
เมื่อเราลงมาทานข้าวก็เห็นเขานั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารแล้ว เราได้เพียงแต่สูดลมหายใจเข้าลึกๆ อย่างที่คุณกรบอกเราอย่าไปสนใจเขาอย่าไปพูดกับเขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเขาจะมาอยู่ที่นี่ทำไม
“ทานเยอะๆนะจะได้หายเร็วๆ”พ่อเลี้ยงตักกับข้าวใส่จานให้กับเราพร้อมกับรอยยิ้มทำไมเราถึงมีความสุขจังไม่คิดเลยนะว่าการเป็นลูกหนี้จะมีความสุขแบบนี้
“ขอบคุณนะคะ”
“หึ รออยู่กับฉันสองคนก่อนเถอะ”จู่ๆภูผาเขาพูดออกมาแบบนั้น เราไม่เข้าใจความหมายเหมือนกันว่าอยู่กับเขาสองคนหมายความว่ายังไง