ตอนที่ 9 : ผู้ชนะการประลอง
ใครวะ?
เธอมองสำรวจเขาอย่างละเอียด ดูจากรูปร่างหน้าตาแล้วคงจะเป็นลูกผู้ดี เหมือนพวกลูกครึ่ง ผิวขาว ผมสีน้ำตาลอมแดงซอยสไลด์ยาวถึงต้นคอ ดวงตาสีนิลวาววับเป็นประกาย เหมือนคนกำลังคิดอะไรอยู่ในใจ ไม่สิ...ดูเจ้าเล่ห์มากกว่า
สรุป คนๆ นี้ดูใจดีแต่แฝงไปด้วยอันตราย
เสียงปรบมือดังจากอีกฝ่ายดึงความสนใจของทุกคนในสนามประลอง
"นายสินะที่ชนะผู้ชายร่างยักษ์นั่น ฝีมือไม่เลว ขอแสดงความยินดีด้วย"
ไม่ใช่ฝีมือไม่เลว แต่ยอดเยี่ยมจนน่าตกใจ ใครก็รู้พละกำลังของร่างกายต่างกัน เจ้าตัวคงเข้าใจข้อเสียเปรียบ แต่นั่นแหละ...เพราะรู้จึงปรับเปลี่ยนการต่อสู้ของตนเอง
หญิงสาวหลุดจากภวังค์ทันทีเมื่อชายคนนี้ยืนต่อหน้า เขาพยักพเยิดไปทางผู้ชายตัวโตที่สู้กับเธอในขณะกำลังถูกหน่วยกู้ชีพตระกูลเซคุนาวะหามใส่เปลออกไป
"แล้วไง"
เธอตอบแบบกวนๆ พร้อมยักไหล่ แสดงกริยาชนิดไม่ไว้หน้าใคร ท่าทางกวนบาทานั่นบางคนถึงกับหมั่นไส้ แต่ก็มีบางคนที่เอ็นดูหญิงสาวในร่างหนุ่มน้อยวัยกระเตาะ
ด้านชายหนุ่มก็เช่นเดียวกัน แทนที่จะโกรธ แต่กลับเข้ามาชิดตัวหญิงสาวด้วยความรวดเร็วจนเธอเองตั้งตัวไม่ติด
เร็วมาก!
เป็นสิ่งเดียวที่คิดได้ในเวลานี้ ร่างกายของเธอตื่นตัวโดยฉับพลันจึงขยับถอยเว้นระยะห่างพอสมควร
เมื่อเห็นท่าทีระวังภัย ชายหนุ่มถึงนึกได้ว่าอีกฝ่ายเป็นประเภทเชื่อ 'สัญชาตญาณ' เขานั้นจู่โจมเธอโดยที่ตัวเขาเองไม่ทันคิด จึงเผลอทำให้อีกฝ่ายไม่ไว้ใจ
เห็นทีต้องค่อยเป็นค่อยไป พฤติกรรมของเขาช่างเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่นแท้ๆ
"ก็ไม่แล้วไง แค่คิดว่าชีวิตคงมีอะไรสนุกๆ เพิ่มมากขึ้น"
"..."
"แล้วเจอกัน หนุ่มน้อย"
รอยยิ้มของชายหนุ่มช่างเป็นภาพบาดตาบาดใจคนดู แต่กับเธอ มันเหมือนสาส์นท้ารบ
ไอ้หมอนี่เป็นใครวะ
เกิดคำถามในใจที่ต้องหาคำตอบด้วยตัวเอง
หลังจากชายหนุ่มกล่าวเสร็จเขาจึงเดินออกไป ทำให้ผู้คนรอบสนามถึงกับถอนหายใจกันเลยทีเดียว เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา พิธีกรของงานจึงเริ่มกล่าวต่อ
"เอาล่ะครับ เหตุการณ์อันน่าตื่นเต้นก็ผ่านพ้นไปแล้ว งั้นก็ขอเสียงปรบมือให้กับเขาคนนี้ด้วยครับ!"
เสียงปรบมือดังกึกก้องไปทั่วบริเวณสนามประลอง หญิงสาวถึงกลับยิ้มไม่หยุด ในที่สุดเธอก็สามารถคว้าตำแหน่งมือขวาของเซคุนาวะ โยชิ มาเป็นของตัวเองจนได้
เอาล่ะ ต่อไปคืองานของเธอ ยังไงซะ...เธอต้องล้วงข้อมูลสำคัญมาเป็นหลักฐานเอาผิดไอ้ชิดะให้ได้
รอก่อนเถอะ เซคุนาวะ โยชิ
หลังเดินออกมาจากสนามประลอง ชายหนุ่มจึงแวะห้องรับแขกภายในบ้าน ซึ่งถูกตกแต่งด้วยศิลปะขนานแท้ของญี่ปุ่น ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ ที่นั่ง แจกัน ถ้วยชามที่ประดับตามมุมของห้อง หรือแม้กระทั่งภาพแขวนยังเป็นรูปดอกซากุระซึ่งเป็นลวดลายภาพวาดแบบญี่ปุ่นชั้นสูง โดยเน้นการลงสีและความสมจริงของภาพ
ไม่นานนักมีชายคนหนึ่งเดินเข้ามา เขาคนนั้นหยุดยืนตรงหน้าชายหนุ่ม
"นายน้อยให้คนเรียกผมมามีอะไรรึเปล่าครับ"
ชายคนดังกล่าวเอ่ยขึ้นกับทายาทผู้นำตระกูลเซคุนาวะ ชายหนุ่มทิ้งตัวนั่งบนโซฟาก่อนไขว้ขาหย่อนอารมณ์
"ริวยะ ฉันมีงานให้นายทำ"
'ริวยะ' หรือ คิชิน ริวยะ เป็นลูกน้องฝีมือดีของโยชิ มีหน้าที่คอยติดตามดูแลโยชิอย่างใกล้ชิด เขาเป็นเหมือนพี่ชายและลูกน้องคนสนิท ด้วยความที่ริวยะกับโยชิรู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ริวยะจึงรักโยชิเหมือนน้องชาย และพร้อมจะเสียสละได้ทุกอย่างเพื่อเจ้านายของตน
"งานอะไรเหรอครับ?"
"ถ้ามือขวาคนใหม่มาแล้ว บอกให้เขาเข้าพักห้องติดกับฉัน"
"เอ่อ...นายน้อยหมายถึงห้องที่มีประตูเชื่อมต่อกับห้องนอนของนายน้อยนั่นเหรอครับ"
ริวยะถามออกมาด้วยความแปลกใจ คิดสงสัยตั้งแต่ที่นายน้อยสั่งคนรื้อของในห้องหนังสือซึ่งติดกับห้องนอนเจ้านายเมื่อสองวันก่อน แต่ตอนนี้ห้องหนังสือที่ว่ากลายเป็นห้องนอนไปแล้ว โดยใช้ตู้หนังสือเป็นประตูกลไกสำหรับเชื่อมต่อ
นี่นายน้อยของเขาคิดจะทำอะไรกันแน่
"ใช่ ห้องนั้นแหละ"
เขายกยิ้มมุมปากโดยริวยะไม่ทันสังเกต
"ผมขอถามเรื่องนึงได้มั้ยครับ"
"อือ ว่ามาสิ"
"คือว่า...ทำไมต้องให้มือขวาคนใหม่พักติดห้องนายน้อยด้วยล่ะครับ ทั้งๆ ที่นี่ก็มีห้องว่างมากมายให้เลือกนอน แต่นายน้อยถึงกลับเปลี่ยนห้องหนังสือสุดโปรด แสดงว่ามีอะไรพิเศษกว่าที่เห็นใช่มั้ยครับ"
"หึ...นายนี่รู้ทันฉันซะหมดเลยนะ แต่เอาเถอะ ไม่ว่ามันจะพิเศษหรือไม่เดี๋ยวก็รู้ ถ้าฉันบอกก่อนมันจะสนุกได้ไง ฉะนั้นนายคอยดูเองแล้วกันรับรองได้เลยว่าเรื่องสนุกๆ จะต้องตามมาไม่เว้นแต่ละวันแน่"
คราวนี้ชายหนุ่มยิ้มอย่างเปิดเผยให้ริวยะเห็น เรื่องสนุกของนายน้อย แต่มันเป็นงานหนักสำหรับผู้ร่วม ยิ้มแบบนี้ทีไร ไม่ว่าตัวเขาหรือคนรอบข้างได้ปวดหัวกันวุ่นวายไปหมด เห็นทีต้องเตรียมแผนคอยรับมือซะแล้ว