ตอนที่ 3 : ฆ่าตัดตอน
เธอยิ้มอย่างเหี้ยมเกรียม เล่นเอาตำรวจพวกเดียวกันถึงกับสะดุ้งเสียวสันหลัง กลัวแทนผู้ต้องหาที่โชคร้ายทั้งสอง
"คือผม...ผม"
ชายคนที่สองมีท่าทางที่หวาดกลัว ไม่ใช่แค่หวาดกลัวหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเพียงอย่างเดียว แต่มีอีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้เขากลัวมากกว่าสิ่งที่เผชิญอยู่ข้างหน้าเสียอีก
"เอาล่ะ...ถ้างั้นก็บอกมาได้แล้วว่าไอ้ชิดะมันขนยาไปส่งที่ไหน”
"คือ ผม...ผม...ผมบอกไม่ได้จริงๆ ครับ"
เป็นอย่างที่หญิงสาวพูด ชายคนนี้มีข้อมูลที่เธอต้องการจริงๆ ซะด้วย
"ฉันถามดีๆ นะ แกบอกมาได้แล้วว่าพวกมันขนยาไปส่งที่ไหน!"
ความคิดของตำรวจที่มาด้วยกันแทบจะมีความคิดแบบเดียวกันว่า 'นี้พูดดีแล้วเหรอเนี่ย' เท่าที่เห็น ทั้งขู่ ทั้งตะคอก แถมยังใช้กำลังอีกต่างหาก
"ผมบอกไม่ได้จริงๆ ถ้าพวกมันรู้ ผมถูกฆ่าแน่!"
หมดแล้วความอดทนที่เธอมีให้กับผู้ต้องหา ในเมื่อใช้ไม้อ่อนไม่ได้ผลก็คงต้องใช้ไม้ซุงกันแล้วล่ะ
"อย่างนั้นเหรอ...งั้นแกก็ทิ้งชีวิตไว้ตรงนี้ก็แล้วกัน"
พูดจบเธอยกปืนที่อยู่ในมือหันไปทางผู้ต้องหาทันที สองคนนั่นเมื่อเห็นปลายกระบอกปืนถึงกับเนื้อตัวสั่นเทิ่มกลัวกันจนหัวหด เกรงว่าหญิงสาวจะทำปืนลั่น
"เฮ้ย! ใจเย็นก่อนหมวด จะฆ่าผู้ต้องหาทิ้งกลางป่ากลางเขาเลยเหรอ!"
สารวัตรวิชัยรีบเอ่ยห้าม เขาเดินมากดปลายกระบอกปืนลง รู้อยู่ว่าหญิงสาวเป็นคนใจร้อน แต่บ้านเมืองมีขื่อมีแป จะปล่อยให้ผู้ต้องหาถูกเก็บก็กระไรอยู่ แม้ใจเขาก็อยากจะซัดไอ้สองตัวข้างหน้าเหมือนกันก็ตาม
"ก็มันไม่ยอมปริปาก ถามจนเหนื่อยก็ไม่บอกสักที คนแบบนี้อยู่ไปก็รกโลก สมควรตาย ให้เป็นผีเฝ้าป่าไปเลยแล้วกัน!"
"ไม่ได้นะหมวด มันผิดกฎหมาย...เราเป็นตำรวจจะทำผิดซะเองไม่ได้"
สารวัตรวิชัยรีบเตือนสติ ได้ยินดังนั้น เธอจึงลดอาวุธปืนลง พยายามใจเย็นและมีน้ำอดน้ำทน
"เอาล่ะ...ฉันจะให้โอกาสแกเป็นครั้งสุดท้าย เลือกเอาว่าจะตายในคุกหรือตายข้างถนน"
"..."
"บอกมา...ไอ้ชิดะมันขนยาไปส่งที่ไหน!"
คราวนี้เธอตะเบ็งเสียงดังกว่าทุกครั้ง
"ครับๆ ผมยอมแล้วครับ คือว่ามันให้พวกผมสองคนขับรถผ่านมาทางนี้ เพื่อที่จะเบี่ยงเบนความสนใจของตำรวจ แล้วมันก็...."
ปัง ปัง!
กระสุนปืนซึ่งมาจากทิศทางไหนไม่มีใครรู้ เจาะเข้ากะโหลกศีรษะของผู้ต้องหาทั้งสองด้วยความแม่นยำ สร้างความตกใจให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นอย่างมาก
"เสียงปืนมาจากทางไหนไปดูสิ!"
สารวัตรวิชัยสั่งลูกน้องไปหาที่มาต้นเสียงของปืนทันที
"บัดซบเอ้ย! จะรู้อยู่แล้วเชียว!"
หญิงสาวสบถออกมาอย่างหัวเสีย เธอเดินเข้าไปวัดชีพจรของสองคนนั้นก่อนจะมีสีหน้าย่ำแย่กว่าเดิม
"เป็นไงหมวด รอดมั้ย"
สารวัตรวิชัยเข้ามาถาม แพรวาส่ายหน้าเป็นคำตอบ แววตาแข็งกร้าวพลันปรากฏให้เห็น ยูกับคิมจึงรีบแจ้งให้มูลนิธิรีบเข้ามาที่เกิดเหตุทันที
"สุดท้ายก็ไม่เป็นไปตามแผน"
คิมกล่าวออกมา พลันเห็นแววตาของผู้หมวดถึงกับรีบสะกิดยูทันที
"ผมว่าเรากลับไปตั้งหลักกันก่อนเถอะครับ"
ยูกล่าวขึ้นทำลายบรรยากาศที่น่าอึดอัดเพราะรู้ตัวว่าขืนปล่อยให้ผู้หมวดสาวทำหน้าอยู่แบบนั้น บางทีคนที่ซวยอาจเป็นพวกเขาแทน
"ฉันว่าก็ดีเหมือนกัน เอาเป็นว่าเราค่อยวางแผนกันใหม่ ว่าไงหมวด"
สารวัตรวิชัยหันไปขอความเห็นจากแพรวา เธอลุกขึ้นยืนก่อนผ่อนคลายสีหน้าลง
"ก็ได้ค่ะ”
"งั้นก็ตามนั้น เอ้าที่เหลือ...กลับกรมกันก่อน ส่วนคนที่มีหน้าที่อะไรก็ทำให้เรียบร้อย จ่าจ้อยจัดการที่เหลือให้เรีบบร้อย แล้วเจอกันที่เดิม"
สารวัตรวิชัยประกาศ
"รับทราบ/รับทราบ!"