ตอนที่ 17 : ไม่เกี่ยวกัน
เมื่อรถของโยชิเคลื่อนตัวไปไกล โซจิจึงหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาต่อสายยังเบอร์ล่าสุด
[เรียบร้อยดีมั้ย...]
ปลายสายกดรับเมื่อเห็นเบอร์ของคนที่ตนส่งไป
"ดูเหมือนว่าการเจรจาจะล้มเหลว ไม่สิ ผมยังไม่ได้ยื่นข้อเสนออะไรให้กับเขาเลย"
[งั้นเหรอ...ฝ่ายนั้นดูเป็นยังไง]
"ก็ดูเหมือนจะไม่พอใจนิดๆ แต่ก็ไม่มีท่าทีอะไรมาก"
[หึ...งั้นก็ช่วยไม่ได้ ฉันคงต้องไปจัดการด้วยตัวเอง]
"ก็คงต้องเป็นอย่างงั้น อ้อ! แต่ผมมีคำเตือนนิดหน่อยน่ะครับ"
[อะไร...]
"คุณปู่อย่าเผลอให้ความสนใจกับมือขวาของโยชิมากก็แล้วกัน เพราะเดี๋ยวจะหาว่าผมไม่เตือน"
[หมายความว่ายังไง...]
"เอาไว้คุณปู่ไปลุ้นด้วยตัวเองดีกว่า"
ติ๊ด!
เมื่อทิ้งคำใบ้ไว้ให้กับปู่เสร็จ เขาก็ตัดสายทันที
หึ...แค่เขาให้ความสนใจยังมองตาขวางเลย จากนี้ไปคงมีเรื่องสนุกมากมายเกิดขึ้น
อยากจะรู้จริงเชียวมือขวาคนนั้นมีทีเด็ดอะไรถึงทำให้นายน้อยตระกูลเซคุนาวะหวงได้ขนาดนั้น
เมื่อขำให้กับความคิดตัวเองเสร็จ เขาจึงเดินกลับรถอย่างอารมณ์ดี จากนั้นรถก็เคลื่อนตัวออกไปยังจุดหมายปลายทาง
"กลับมาเร็วจังเลยนะครับ"
ริวยะเอ่ยทักโยชิทันทีที่เห็นหน้า แต่ก็ไม่ได้รับการตอบรับจากนายน้อยของเขา โยชิเดินผ่านริวยะไปโดยไม่สนใจอีกฝ่ายเลย
"นี่มันเกิดอะไรขึ้นวะเนี่ย?"
ริวยะพึมพำในขณะที่แพรวาก็กำลังจะเดินผ่านไปอีกคน เขาจึงรีบเรียกเธอไว้ซะก่อน
"เอ่อ...คุณพีครับ ไม่ทราบว่านายน้อยเป็นอะไร ทำไมดูอารมณ์ไม่ดีล่ะครับ หรือว่าการเจรจาล้มเหลว"
เมื่อหาข้อมูลจากที่อื่นไม่ได้ก็ต้องถามจากคนที่ไปด้วยกันนี่แหละ
"ไม่ล้มเหลวหรอกครับ เพราะยังไม่ได้พูดอะไรเกี่ยวกับเรื่องการค้าเลย เพราะฝ่ายนั้นส่งตัวแทนมาคุย อ้างว่าติดธุระสำคัญจึงมาไม่ได้ คุณโยชิก็เลยไม่พอใจแต่ก็ไม่ได้ยกเลิกการเจรจา แค่ต้องการพูดกับเจ้าตัวเท่านั้นเพื่อไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดตามมา"
แพรวาชี้แจงรายละเอียดให้ฟัง ริวยะพยักหน้าเป็นอันเข้าใจเรื่องราว
"แล้วตัวแทนที่ฝ่ายนั้นส่งมาเป็นใครเหรอครับ"
"เขาบอกว่าเป็นหลานชาย ชื่อมินาโตะ โซจิ ครับ"
"มินาโตะ โซจิ งั้นเหรอ รู้สึกว่าเขาจะเป็นคนที่ฉลาดมากคนหนึ่งเลยทีเดียว ได้ยินว่าคนๆ นี้ทั้งเจ้าเล่ห์เจ้าแผนการ ผมว่าคุณพีต้องอยู่ให้ห่างจากเขาหน่อยนะครับ"
ริวยะเริ่มมีความกังวลขึ้นมาบ้าง สาเหตุที่ทำให้เจ้านายอารมณ์เสียคงไม่ใช่แค่คู่ค้าทางธุรกิจไม่มาเพียงอย่างเดียว แต่คงจะมาจากคนที่ชื่อโซจิด้วย เพราะถ้าแค่เรื่องธุรกิจคงไม่ทำให้นายน้อยของเขาอารมณ์เน่าขนาดนี้
"ผมเหรอครับ?"
แพรวาชี้นิ้วมาที่ตัวเองอย่างงงๆ ทำไมคนที่ถูกเตือนไม่ใช่โยชิแต่เป็นเธอ ซึ่งมันไม่เกี่ยวอะไรกับเธอเลยเรื่องนี้
"เพื่อความสบายใจ เอาอย่างนี้ดีกว่าผมจะไปปรึกษากับนายน้อย"
ก่อนที่ริวยะจะไปหาโยชิ เธอจึงรีบเรียกเขาไว้ก่อน
"เดี๋ยวก่อนครับ! ผมว่าเรื่องราวมันฟังดูสับสนแปลกๆ ช่วยอธิบายให้เข้าใจหน่อยว่าเกี่ยวกับผมยังไง"
เมื่อนึกได้ว่าตนเผลอพูดจาแปลกๆ ริวยะจึงรีบหาทางออกทันที
"คือว่า..."
ยังไม่ทันที่ริวยะจะแก้ต่างให้ตัวเอง ก็มีเสียงหนึ่งแทรกเข้ามาซะก่อน
"พีระมาที่ห้องทำงาน"
คนที่เอ่ยแทรกบทสนทนาก็คือโยชินั่นเอง เขายืนฟังมาสักพักแล้วตั้งแต่ริวยะเรียกตัวเธอไว้
"ครับ"
แพรวาหันไปสบตากับโยชิแล้วหันมาเอ่ยกับริวยะ
"ผมขอตัวก่อนนะครับ คุณโยชิเรียกแล้ว"
หญิงสาวจึงเดินนำไปก่อน
แต่แทนที่โยชิจะเดินตามหญิงสาวไปเขากลับเดินตรงมาหาริวยะ แล้วทิ้งคำพูดที่ทำให้คนฟังต้องเก็บไปฝันร้าย
"ถ้าปากไม่มีหูรูดถึงเป็นนายก็ฆ่าได้เหมือนกัน"
พูดจบโยชิก็ตรงไปที่ห้องทำงานโดยไม่หันมาดูเลยว่าคนฟังต้องลอบกลืนน้ำลายตามหลัง แถมมีเหงื่อผุดตามใบหน้าไหลลงมาไม่ขาดสาย
ถ้าเขายังเผลอพูดอีก คราวหน้าชีวิตดับแน่