ตอนที่ 18
แพรวาเดินมาหยุดหน้าห้องทำงานของโยชิ เธอยืนชั่งใจก่อนแสยะยิ้มมุมปาก ในที่สุดก็มีวันนี้ วันที่เธอจะได้สำรวจข้อมูลผู้ต้องสงสัยที่อาจจะมีบางอย่างเกี่ยวข้องกับเอเย่นต์ค้ายาเสพติดข้ามชาติ ห้องทำงานนายน้อยมาเฟียตระกูลใหญ่นี่ต้องมีบางสิ่งที่เธอต้องการไม่มากก็น้อยซุกซ่อนอยู่
หญิงสาวเอื้อมมือจับลูกบิดก่อนจะเปิดมันออกช้าๆ พร้อมกับกวาดสายตามองลวกๆ หนึ่งทีก่อนก้าวเท้าเข้าไปอย่างคนปกติ
ภายในห้องทำงานของโยชิเน้นการลงสีโทนขาวและครีมเป็นส่วนใหญ่ ทำให้คนอาศัยมองดูถึงความสะอาดตา ผ้าม่านผืนโปร่งมีลมพัดกระพือขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากหน้าต่างถูกเปิดแง้มไว้ ข้าวของด้านในเป็นโต๊ะไม้ราคาเหยียบแสนและโซฟาหนังชุดหนึ่ง ตามผนังเรียบลื่นมีตู้เก็บเอกสารและแฟ้มหนาเรียงกันหลากหลายสี ว่าไปแล้วบนโต๊ะไม้ราคาแพงยังมีกรอบรูปขนาดเล็กตั้งอยู่ใกล้กับแฟ้มเอกสารกองโต
ขณะที่มือของเธอกำลังจะเอื้อมไปยังกรอบรูปเล็ก พลันได้ยินเสียงฝีเท้าหนักเบาไม่เสมอกันหยุดลงหน้าประตู แพรวาจำต้องเก็บมือกลับที่เดิมก่อนมองทอดยาวไปยังเจ้าของห้องที่เปิดเข้ามาด้วยใบหน้าไม่สบอารมณ์เท่าไรนัก
ให้เดา...โยชิคงไม่พอใจที่คู่ค้าธุรกิจเปลี่ยนแผนกะทันหันโดยไม่มีการแจ้งข้อมูลล่วงหน้า
"นั่งก่อนสิ"
โยชิผายมือออกด้านข้างเป็นเชิงให้อีกฝ่ายทำตาม หญิงสาวไม่เอ่ยให้มากความก่อนนั่งลงบนโซฟาตรงข้ามกัน เมื่อเห็นนายน้อยมาเฟียผู้ยิ่งใหญ่หย่อนตัวลงบนเบาะหนังราคาหลายหมื่น ริมฝีปากอวบอิ่มได้รูปถึงเปิดปากถามขึ้นอย่างเป็นการเป็นงาน
"คุณโยชิมีอะไรให้ผมรับใช้ครับ"
คิ้วหนาดกดำของฝ่ายตรงข้ามเลิกขึ้นน้อยๆ ประกอบกับเค้าโครงหน้าคมเข้มส่งผลให้เขาเป็นคนน่ามองจนแทบไม่อยากละสายตา แพรวามองอีกฝ่ายอย่างชั่งใจก่อนจะกล่าวย้ำลงไป
"ต้องการจะสั่งงานผมรึเปล่าครับ?"
"รู้ใช่มั้ยวันนี้ที่ฉันต้องเจอคือใคร"
โยชิเลี่ยงที่จะตอบคำถามของหญิงสาวแต่กลับพูดประเด็นอื่นขึ้นมา แต่นั่นก็ไม่เหนือความคาดหมายของเธอเท่าไหร่
"รู้ครับ เขาเป็นนักธุรกิจที่วันนี้คุณโยชิจะต้องเจรจา"
"แล้วไงต่อ"
เขาว่าพลางขยับตัวนั่งไขว้ขาหย่อนอารมณ์ สองมือผสานไว้บนหน้าตัก ปฏิกิริยาทำตัวตามสบายช่างต่างกับก่อนหน้าที่อารมณ์ราวพายุพัดถล่ม แถมเสียงกระซิบที่คุยกับริวยะยังคล้ายกับจะกดให้ฝ่ายนั้นตายลงต่อหน้า
ถ้าคิดว่าการไล่ให้เธอมาห้องทำงานก่อนจะทำให้ไม่ได้ยินความเคลื่อนไหวรอบตัวเขาละก็คงคิดผิด มันยากถ้าจะเอาเครื่องดักฟังติดไว้ตามตัวโยชิ แต่มันง่ายถ้าหย่อนลงไปในหลังเสื้อของริวยะที่ชอบผ่อนปรนการป้องกันตัวชั่วขณะตอนที่เธอคุยกับเขาเมื่อกี้
แพรวาตัดความคิดชั่วครู่ออกก่อนกลับมาลอบสังเกตสีหน้าอีกฝ่ายอยู่ไม่กี่วินาที แล้วจึงกล่าวน้ำเสียงราบเรียบ
"เขาอ้างว่าติดธุระสำคัญจึงมาด้วยตัวเองไม่ได้ เลยส่งหลานชายเพื่อมาคุยกับคุณโยชิแทน"
" 'อ้าง' เหรอ?"
โยชิหรี่ตามองหญิงสาวคล้ายกำลังมองดูการวิเคราะห์แนวทางสืบสวนของตำรวจ มุมปากลอบกระตุกรอยยิ้มเล็กน้อยโดยที่หญิงสาวไม่ทันสังเกตเห็น
"ครับ"
"ทำไมถึงคิดว่าฝั่งนั้น 'อ้าง' ว่ามีธุระด่วน?"
"ผมขอเรียกคำตอบของผมว่าเป็น 'การคาดเดา' แล้วกันนะครับ ฝ่ายนั้นรู้ทั้งรู้ว่าการเจรจาธุรกิจครั้งนี้สำคัญมาก แต่ก็ยังใช้ตัวแทนมาคุยกับคุณ"
"แล้ว?"
"นั่นก็หมายความว่าอีกฝ่ายต้องการ 'หยั่งเชิง' ยังไงล่ะครับ"
ธุรกิจที่โยชิทำร่วมกับตระกูลมินาโตะในครั้งนี้คือการส่งออกเฟอร์นิเจอร์ซึ่งทำจากไม้แท้หายาก และไม้ที่ว่าเป็นไม้ที่ตระกูลมินาโตะทำการค้า โดยไม้หายากพวกนี้นำเข้าจากต่างประเทศโดยการเสียภาษีอย่างถูกต้อง แน่นอนว่าตระกูลมินาโตะเองก็ใช้ธุรกิจสีขาวบังหน้าเช่นกัน
เพื่อที่จะได้ไม่ถูกจับตามองจากธุรกิจอื่นๆ ในเครือข่ายของตนมากนัก ตระกูลเซคุนาวะเลยจำเป็นต้องหาเพื่อนร่วม 'วงการ' เดียวกันมาเสริมกำลัง แต่นี่ก็เป็นเพียงธุรกิจบังหน้าฉากหนึ่งที่ตระกูลเซคุนาวะต้องการปกปิดซุกซ่อนฉากหลังของตนเองเท่านั้น
แต่จะบอกว่าการเจรจาครั้งนั้นไม่สำคัญคงไม่ได้ เพราะการบังหน้าจำเป็นต้องอาศัยการสร้างหลักฐานเพื่อใช้ยืนยันหนึ่งในธุรกิจขาวสะอาดของพวกมาเฟีย ถึงแม้พวกเขาจะเสียภาษีให้กับภาครัฐอย่างถูกต้องก็ตาม