นั่งตักผู้กองน้ำแข็ง -Ep.8-
Ep.8
ฉันเหวี่ยงมือลงไปวางบนมืออีตาผู้กองน้ำแข็งหลังโดนพูดจาประชดประชันใส่ ฉันโดดลงน้ำให้หมอนี่ถูกเบื้องบนกัดให้ตายไปเลยดีไหมนะ หมั่นไส้จริง!
“อ๊ะ!” ฉันเอามือไปเกาะแขนทั้งสองข้างของผู้กองลักษณ์ไว้โดยอัตโนมัติเมื่อเท้าฉันดันพลิกตอนก้าวลงมา มาพลิกอะไรตอนนี้เนี่ย! ฉันเลยต้องกลายเป็นคนที่กอดหมอนี่เอาไว้อย่างโรแมนติกเลย พวกคุณคินก็หันมามองกันอย่างอึ้งๆ กรี๊ดดด!! ฉันอยากจะกรี๊ดออกมาดังๆ เลย เสียหน้าชะมัด เกลียดความซุ่มซ่ามของตัวเองจริงๆ
“เฮ้อออ”
“นี่คุณจะทำอะไร!?” ฉันได้ยินเสียงอีตาผู้กองถอนหายใจ แล้วจู่ๆ ไหล่ฉันทั้งสองข้างก็ถูกมือหนาจับแล้วบังคับให้มานั่งลงตรงที่ที่มีไว้สำหรับให้คนนั่ง แล้วหมอนั่นก็นั่งลงยองๆ ชันเข่าขึ้นมาหนึ่งข้างเหมือนท่าที่ผู้ชายนั่งขอผู้หญิงแต่งงาน ฉันผงะเอนหลังไปจนติดที่พิง ก่อนจะต้องกลับมานั่งหลังตรงเมื่อเขาดึงเข็มขัดมาล็อคให้ฉัน แล้วตรวจสอบดึงนู่นดึงนี่จนมันตึงไปหมด นี่คิดว่าฉันเป็นเด็กสามขวบหรือไงยะ! จัดการกับตัวฉันเสร็จเขาก็เดินไปคุยกับพวกคุณตาร์ซึ่งฉันฟังไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ จากนั้นเขาก็ไปยืนประจำตำแหน่งคนขับเรือ แล้วเรือทุกลำก็ทะยอยออกโดยเรือลำที่ฉันนั่งอยู่ออกไปเป็นลำสุดท้าย
พอเรือออกมาได้สักพักฉันก็พึ่งนึกได้ว่าควรจะเขียนรายละเอียดตรงนี้ลงสมุดโน้ตสักหน่อย เผื่อจะเอาไปเสริมเข้าในบางฉาก ฉันเหลือบตามองอีตาผู้กองที่กำลังลงจากที่คนขับแล้วเปลี่ยนคุณแดนขึ้นไปขับแทน หมอนั่นลงไปนั่งข้างคุณแดนแล้วเอากล้องส่องข้างหน้า คุณแดนเองก็หัวเกรียนๆ หล่อเหมือนนายทหารในหนังจีนเลยค่ะ นี่พวกเขาคัดหน้าตาเข้ากลุ่มกันไหมเนี่ย ทำไมถึงได้หน้าตาดีทำผู้หญิงอย่างฉันตะลึงได้ขนาดนี้ อืม...สมุดโน้ตฉันเหน็บอยู่หลังกระเป๋าใช่ไหมนะ หมอนั่นก็วางกระเป๋าฉันไว้ซะไกลเชียว!
ฉันค่อยๆ แกะเข็มขัดออกเพราะกะไว้ว่าจะย่องไปเอาสมุดแค่แป๊บเดียว พอปลดเข็มขัดได้ฉันเลยค่อยๆ เกาะข้างๆ ไปหากระเป๋าที่อยู่ข้างหลังอีตาผู้กองน้ำแข็ง แต่จู่ๆ คุณคินก็หันมาเห็นฉันแล้วส่งเสียงเตือน คือตอนนี้ทุกคนก็นั่งแล้วล็อคตัวเองอยู่กับที่
“คุณพระพายระวังครับข้างหน้ามีคลื่นลูกใหญ่!”
ห๊า!! คะ..คลื่นอะไรเหรอ?
บรื๊นนน!!!
“กรี๊ดดดด!!!” สิ้นเสียงคุณคินที่เตือนไปไม่ถึงห้าวิ ฉันก็ได้ยินเสียงเครื่องยนต์เรือกระชากแล้วตัวฉันก็หงายท้องลงไปเลยค่ะ ฉันหลับตาปี๋เพราะคิดว่าหัวตัวเองคงฟาดหรือไม่ก็ตกน้ำจมน้ำตายไปแล้วแน่ๆ แต่ว่าความรู้สึกมันไม่ได้บอกแบบนั้นค่ะ เพราะเหมือนฉันกำลังอยู่ในที่ที่มั่นคงสักที่ คงไม่ใช่ที่ชอบที่ชอบใช่ไหมคะ
“ผู้หญิงอย่างคุณนี่มัน!...ก่อเรื่องไม่เว้นเลยจริงๆ คุณพระพาย!”
“….?” ฉันค่อยๆ ลืมตาก็พบว่าตัวเองนั่งอยู่บนตักของอีตาผู้กองน้ำแข็ง มือทั้งสองข้างของเขาประคองหลังและโอบไหล่ฉันอยู่ค่ะ งั้นก็แสดงว่า...ตัวฉันที่หงายท้องลงมาจนหูมันดับวืด คือมือของหมอนี่ที่เอื้อมมากระชากฉันให้ลงมานั่งตักตอนเรือขับลุยคลื่นลูกใหญ่ใช่ไหม
“คะ..คือว่าฉัน!...”
“ไม่มีคืออะไรทั้งนั้น! ที่ผมล็อคคุณไว้ก็เพราะว่ามันอันตราย คุณไม่เห็นคนอื่นหรือไงว่ามีใครนั่งตัวเปล่าๆ กันบ้าง ถ้าผมเอื้อมไปรับตัวคุณไม่ถึงคุณได้ไปหายมบาลแน่คุณพระพาย! อย่าทำให้ทุกคนต้องเดือดร้อนเพราะความซุ่มซ่ามของคุณเข้าใจไหม?”
“….!” ฉันนั่งเม้มปากเงียบกริบไม่เถียงอะไรสักคำแม้ว่าจะโกรธคำพูดแรงๆ ของเขาก็เถอะ ครั้งนี้ฉันผิดฉันยอมรับ ฉันลืมคิดไปว่ามันอาจเกิดอันตรายถึงชีวิต แล้วก็ลืมตัวด้วยว่าฉันกำลังนั่งอยู่บนเรือไม่ใช่ในรถ
“คุณพระพายจะเอาอะไรเหรอครับ?” คุณคินเอ่ยถามขึ้นมาทำลายบรรยากาศที่มันกำลังอึมครึมเหมือนฟ้าจะถล่มดินจะทลายเพราะหน้าดุๆ และสายตาโกรธจัดของอีตาผู้กองน้ำแข็ง ตอนนี้ฉันยังนั่งตัวแข็งทื่ออยู่บนตักเขาเหมือนเดิมค่ะ แล้วเขาก็กระชับอ้อมแขนกอดฉันไว้แน่นขึ้นเมื่อเรือมันเหวี่ยง
“อืม...สมุดโน๊ตน่ะค่ะ” ฉันบอกแล้วก้มหน้าลง ทำไมหมอนี่ไม่ปล่อยฉันสักทีนะ
แล้วจู่ๆ ตัวฉันก็ขยับตามตัวอีตาผู้กองที่ก้มตัวลงแล้วเอื้อมไปดึงสมุดโน้ตหลังกระเป๋ามาให้ฉัน ไม่ได้ยื่นหรือวางให้ดีๆ เหมือนชาวบ้านเขานะคะ แต่โยนลงบนตักฉันเหมือนไม่พอใจ ก็ใช่น่ะสิ เขาไม่พอใจฉันอยู่นี่นา
“เสียใจด้วยที่ต้องบอกว่าคุณต้องนั่งอยู่แบบนี้จนกว่าจะถึง เพราะผมคงไม่เสี่ยงลุกแล้วเดินพาคุณกลับไปนั่งที่เดิม แล้วก็คงไม่กล้าปล่อยคุณให้เดินกลับไปเองด้วย” เสียงเรียบตึงเอ่ยบอกกับฉันแล้วเบือนหน้าหนีไปมองทางข้างหน้า ชิ! ฉันก็เสียใจเหมือนกันที่ต้องนั่งอยู่แบบนี้ แล้วฉันจะกล้าเขียนได้ยังไงกัน สถานการณ์ไม่เป็นใจเลย เขียนไม่ลงค่ะ
“คิกๆๆๆ”
“คิกๆๆ”
ฉันหันไปมองพวกคุณตาร์ที่ส่งเสียงหัวเราะเบาๆ แต่ไม่ว่าพวกเขาจะพยายามกลั้นไว้แค่ไหนฉันก็ได้ยินอยู่ดีค่ะ แถมอีตาผู้กองน้ำแข็งก็ยังได้ยินด้วย ใบหน้าหล่อเลยหันไปส่งสายตาดุๆ ใส่พวกเขา ทุกคนเลยพากันสำลักน้ำลายตัวเองกันใหญ่เลย จากนั้นก็นั่งเงียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น พอหมอนี่หันหน้ากลับไป คุณตาร์กับคุณคินก็หันมาขำต่อแบบไม่มีเสียง แล้วชูสองนิ้วให้ฉันบอกว่าสู้ๆ ฉันเลยยู่หน้าให้พวกเขาแล้วขมุบขมิบปากบ่น พวกเขาเองก็ได้แต่ยักไหล่แล้วส่ายหน้าเหมือนอยากบอกว่า ‘เอาน่า..ไม่เป็นไรหรอก’ ไม่เป็นไรกับผีน่ะสิ ฉันเหมือนอยู่ในกำมือเขาเลยนะตอนนี้ บีบฉันนิดเดียวฉันได้ตายคาตักเขาแน่
อะ..อ่าว ทำไมทุกคนหันหน้าหนีฉันไปกันหมดล่ะ เมื่อกี๊ยังขมุบขมิบปากนินทาอีตาผู้กะ..กอง! ผู้กองลักษณ์ แหะๆ เขากำลังจ้องหน้าฉันค่ะตอนนี้ จ้องตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ทำไมไม่มีใครส่งสัญญาณบอกฉันเลย ก้มหน้าหนีสิคะ จะสบตาสู้กับเขาอยู่ทำไมล่ะ ระยะนี้มันใกล้เกินไป ปากดีใส่เขาก็เดินหนีไม่ได้เหมือนตอนอยู่ที่หน่วย นาทีนี้ต้องเอาตัวรอดค่ะ เพราะพวกคุณคิน คุณตาร์ก็เอาตัวเองรอดตายไปก่อนฉันแล้ว
ฉันแอบๆ เหลือบตาขึ้นมองผู้กองลักษณ์ ก็พบว่าดวงตาคมคู่นั้นสะบัดหางตาใส่ฉันกลับไปมองทางข้างหน้าต่อ แล้วเอากล้องส่องทางไกลขึ้นมาส่องดูโดยไม่สนใจฉันเลย ก็ฉันนั่งอยู่บนตักเขา พอเขาส่องกล้องตัวฉันก็แนบชิดไปกับแผงอกกำยำอุ่นๆ ฉันจะรู้สึกอบอุ่นและฟินมากๆ ถ้านี่ไม่ใช่อีตาผู้กองน้ำแข็งที่สายตาไม่มีความโรแมนติกเอาซะเลย แต่ท่าส่องกล้องของเขานี่มัน...เหมือนกอดฉันอยู่ในอ้อมอกเลย โอ๊ยย!...ใจเต้นแรงจนจะเป็นบ้าตายอยู่แล้วค่ะ