หน่วยพิทักษ์ ดักใจผู้กองน้ำแข็ง

192.0K · จบแล้ว
Chomjan ชมจันทร์
81
บท
2.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

ผู้กองหนุ่มสุดฮอตที่ได้ฉายาว่าเป็นน้ำแข็งจอมเย็นชาต้องมาใกล้ชิดกับนักเขียนสาวคนสวยด้วยความจำใจความเซ่อซ่าซุ่มซ่ามของพระพายจึงเป็นเหตุให้น้ำแข็งอย่างผู้กองลักษณ์ละลายกลายเป็นน้ำอุ่นที่คอยปกป้องเธอ

นิยายรักโรแมนติกนิยายรักนิยายปัจจุบันรักหวานๆตำรวจพระเอกเก่งผู้ชายอบอุ่นฟินๆ18+

งานเข้า -Ep.1-

ก่อนจะเข้าสู่เรื่องราวจินตนาการที่ชมจันทร์สร้างขึ้น ชมจันทร์ขอชี้แจงตรงนี้นิดนึงนะคะ คือเรื่องนี้เขียนเกี่ยวกับความรักของพระเอกที่เป็นหน่วยสวาตกับนางเอกที่เป็นนักเขียน ซึ่งชมจันทร์อยากชี้แจงว่า ภารกิจหรือการทำงาน สถานที่ คำพูด สัญลักษณ์ที่หน่วยสวาตในเรื่องไปหรือว่าทำ อาจไม่เหมือนกับหน่วยสวาตในชีวิตจริงอย่างมาก เป็นเพราะชมจันทร์ไม่มีความรู้เรื่องของหน่วยสวาตมากนัก แต่ชมจันทร์อยากสร้างนิยายที่พระเอกได้ปกป้องนางเอก เน้นเรื่องเส้นทางความรักของคู่พระนางเป็นหลัก เน้นความฟินจิกหมอน โรแมนติก ไม่ได้เน้นเกี่ยวกับอาชีพของตำรวจหน่วยสวาต หากชมจันทร์ใช้สถานการหรือคำพูดและการทำงานของหน่วยสวาตที่ผิดไปจากความเป็นจริง ชมจันทร์ก็ขออภัยด้วยค่ะ ทั้งนี้ชมจันทร์ก็ไม่ได้เขียนให้คนมองหน่วยสวาตไม่ดี ในเรื่องนี้หน่วยสวาตก็ยังเป็นเจ้าหน้าที่ที่ทำความดีปกป้องประชาชนค่ะ

EP.1

บ้านเช่าสีคราม

ติ๊งๆๆๆ!

เสียงแชทในมือถือที่สวมตัวอยู่ในเคสลายการ์ตูนสีชมพูดังขึ้นรัวๆ ราวกับกลองจังหวะสามช่าอยู่บนหัวเตียง ทำให้หญิงสาวที่ยังนอนแผ่หลาขากับแขนฉีกกันไปคนละทางรู้สึกตัวตื่นขึ้นมา มือบางเกาหัวยุ่งๆ อย่างงัวเงียพร้อมกับส่งเสียงงึมงำ เปลือกตาปรือขึ้นมาช้าๆ จนดวงตากลมโตสีน้ำตาลสะท้อนกับแสงแดดที่เล็ดลอดผ่านช่องผ้าม่านเข้ามา

 

“อืออ~” ร่างบางพลิกตัวนอนคว่ำแล้วใช้มือตบๆ คลำๆ หาต้นตอของเสียงที่นอนแอ้งแม้งอยู่บนหัวเตียง พอเจอตัวมันแล้วก็หยิบมาเปิดแชทกลุ่มดู เพราะเสียงแจ้งเตือนดังรัวๆ แบบนี้มันเป็นแชทอื่นไปไม่ได้แน่ นอกจากแชทกลุ่มนักเขียนในสำนักพิมพ์ที่เธอมีสัญญาอยู่

 

“ประชุมด่วน?” เสียงหวานอ่านแชทขึ้นพลางขมวดคิ้วสงสัย กองบรรณาธิการแชทมาเรียกรัวๆ ขนาดนี้แสดงว่ามีงานใหญ่เข้าแน่ๆ นึกได้ดังนั้น หญิงสาวก็รีบลุกออกจากเตียงนอนทันที

 

ตุบ!

 

แต่ยังไม่ทันจะได้ก้าวไปไหน สาวเจ้าก็สะดุดขาตัวเองล้มหน้าทิ่มซะก่อน ก็นะ...เรื่องเซ่อซ่าซุ่มซ่ามไว้ใจเธอได้เลย อย่างน้อยเธอก็มีเรื่องดีกับเขาอยู่เรื่องนึง คือเป็นนักเขียนที่มีผู้ติดตามครึ่งล้าน และยอดขายเป็นอันดับหนึ่งทุกเล่ม!

 

สำนักพิมพ์โดรามิ

 

“มาแล้วเหรอพระพาย!”

 

(Phraphai talk)

 

“ค่าพี่นูน่า ว่าแต่...พี่อันอันเรียกมาทำไมเหรอคะ?” เสียงพี่นูน่าตะโกนมาแต่ไกลเมื่อเท้าฉันกำลังจะก้าวขึ้นบันไดหน้าสำนักพิมพ์ที่เป็นเหมือนบ้านหลังที่สองของฉัน เห็นว่าพี่อันอันเรียกประชุมด่วน ฉันก็เลยรีบขับรถมา ดีนะที่วันนี้รถไม่ติด

 

สวัสดีค่ะฉันชื่อพระพายค่ะ เป็นนักเขียน ผลงานของฉันมีทั้งเผยแพร่ในโลกออนไลน์และตีพิมพ์เป็นเล่ม แต่ไม่ว่าจะเผยแพร่ทางไหนนิยายของฉันก็ปังระเบิดทุกช่องทางค่ะ คงเพราะฉันมันพวกจินตนาการสูง ช่างเพ้อฝันเป็นตุเป็นตะ นักเขียนอย่างฉันเลยไม่ไส้แห้งยังไงล่ะคะ แถมสำนักพิมพ์ยังดูแลดีอีก ก็แหงล่ะ ฉันหาเงินเข้าสำนักพิมพ์เป็นล้านๆ เชียวนะ ปล่อยลอยแพฉันได้เหรอ

 

“เห็นว่าสำนักพิมพ์เราเข้าร่วมกิจกรรมของสำนักพิมพ์เอสทีทีเลยเรียกประชุมด่วนน่ะ เพราะกิจกรรมมันมีระยะเวลาจำกัด คงจะรีบๆ บอกรายละเอียดพวกเราล่ะมั้ง” พี่นูน่าวิ่งขึ้นบันไดมากระซิบบอกกับฉัน ว่าแต่สำนักพิมพ์เอสทีทีนี่มัน....

 

“นั่นมันสำนักพิมพ์ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นนี่คะ! ต้นสังกัดของนักเขียนชื่อดังอย่างดับเบิ้ลยูด้วย พระพายเข้าใจถูกแล้วใช่ไหมคะ?”

 

“ใช่ๆๆ หล่อมากด้วยนะ” พี่นูน่ายกแขนขึ้นมาแนบอกแล้วบีบตัวตื่นเต้นประหนึ่งยืนคุยกับไอดอลที่ชอบ ซึ่งความเป็นจริงคือคุยกับฉันอยู่ค่ะ ต้องตื่นเต้นอยู่แล้วล่ะ เพราะดับเบิ้ลยูดังระดับโลก เขาคือลูกครึ่งไทยญี่ปุ่นที่มีผลงานตีพิมพ์มาเป็นร้อยเล่ม แถมยอดขายไม่ต้องพูดถึง คำว่าระดับโลกถ้าไม่ปังเป็นร้อยล้านคงไม่เรียกระดับโลกหรอกค่ะ คนติดตามเป็นสิบล้านคน ฉันก็เคยฝันว่าสักวันนึงจะประสบความสำเร็จแบบนั้นบ้าง แต่วันนี้ยอดผู้ติดตามยังไม่ถึงครึ่งของครึ่งของครึ่งดับเบิ้ลยูเลยค่ะ ขอฝันก่อนนะ

 

“งั้นรีบเข้าไปข้างในกันเถอะค่ะ” ฉันเร่งพี่นูน่าให้รีบวิ่งเข้าไปในตึกสำนักพิมพ์โดรามิ ตึกที่สูงสี่ชั้น ตัวตึกเป็นรูปทรงสามเหลี่ยมพีระมิด ไม่รู้คนสั่งสร้างมีแรงบันดาลใจจากอะไร ล้อมด้วยกระจกสีฟ้าอ่อนเหมือนน้ำทะเล รวมๆ ก็หรูหราหมาไม่เห่าค่ะ ระดับนี้ต้องสิงโตคำรามแล้ว

 

ในห้องประชุม

 

“ทั้งหมดที่พี่พูดมานี้ พี่มีความคิดอยากจะให้เทียนเป็นคนเขียนเรื่องนี้ส่ง แต่เทียนต้องไปเรียนรู้ชีวิตความเป็นอยู่ของหน่วยปฏิบัติการพิเศษหรือหน่วยสวาตเป็นเวลา 3 เดือน เพื่อที่เราจะได้มีความเข้าใจและเขียนออกมาได้อย่างถูกต้อง” ฉันนั่งฟังพี่อันอันพูดถึงกิจกรรมของสำนักพิมพ์เอสทีทีที่ไม่ได้มีแต่สำนักพิมพ์โดรามิเข้าร่วม แต่มีเป็นยี่สิบสำนักพิมพ์เลย ฟังไปก็หาวไปค่ะ เพราะพี่อันอันกำลังนำเสนอเทียนอยู่ ฉันเลยได้แต่นั่งแคะขี้เล็บเล่น อ่อ ฉันกับยัยเทียนไม่ค่อยลงรอยกันเท่าไหร่นะคะ ฉันไม่เคยคิดแข่งขันกับหล่อนเลย แต่หล่อนน่ะมองฉันเป็นคู่แข่งตลอด เพราะการที่ได้อันดับสองมายาวนานทำให้ยัยนั่นไม่ชอบฉัน ก็ฉันได้ที่หนึ่งยังไงล่ะคะ

 

“พี่อันอันคะ” ขณะที่พี่อันอันกำลังพูด ยัยเทียนก็ยกมือขึ้นเหมือนจะพูดอะไรสักอย่าง การที่หล่อนปรายตามามองฉันแล้วเหยียดยิ้มใส่มันทำให้ฉันรู้สึกไม่ชอบมาพากลยังไงก็ไม่รู้

 

“ว่าไงเทียน”

“ทำไมไม่ให้นักเขียนเบอร์หนึ่งของพี่อันอันเขียนเรื่องนี้ล่ะคะ?” อ้าว ทำไมโยนมาให้ฉันล่ะ พี่อันอันอุตส่าห์ดันเธอแท้ๆ นะยะ เอาความจริงไหมล่ะคะ ยัยนั่นน่ะไม่อยากไปตากแดดตากฝนทนอยู่กับพวกหน่วยสวาตที่ออกฝึกกลางดินกินกลางทราย ฉันก็ไม่รู้หรอกนะคะว่าตำรวจพวกนั้นฝึกกันยังไง จะสุขสบายหรือว่าตากแดดหน้าดำ เพราะฉันเองก็ไม่อยากไปค่ะ ตั้งสามเดือนเชียวนะ!

 

“นี่เป็นโอกาสดีนะเทียน เธออยากจะขึ้นเป็นที่หนึ่งไม่ใช่เหรอ พี่เห็นศักยภาพในตัวเธอนะ ส่วนพระพายพี่ว่าจะให้ออกนิยายเรื่องใหม่รอกิจกรรมต่อไปของเอสทีทีน่ะ” ใช่ๆๆ ฉันนั่งเขียนเรื่องใหม่อยู่ในร้านกาแฟนานาเพื่อนรักยังสบายกว่าอีก อย่าเคลิ้มตามยัยนี่เด็ดขาดนะคะพี่อันอัน

 

“ไหนพี่อันอันบอกว่าการเขียนนิยายเกี่ยวกับหน่วยสวาตเรื่องนี้มีความสำคัญต่อองค์กรในประเทศเราไงคะ เทียนเขียนให้ทุกคนมองตำรวจเป็นวีรบุรุษไม่ได้หรอกค่ะ แต่พระพายคงทำได้แน่” ยัยนั่นกอดอกโยนงานมาให้ฉันเฉยเลย แล้วเหมือนพี่อันอันก็กำลังคิดตามคำพูดของยัยนั่นด้วย ไม่นะ!

 

“อืม ถ้าอย่างนั้นกิจกรรมรอบนี้พี่ให้พระพายแล้วกัน” นั่นไงงานเข้าฉันแล้ว

 

“คะ!?”

 

“พี่ลืมคิดไปว่ามันมีผลต่อองค์กรในประเทศเราด้วย ถ้าอย่างนั้นพี่ฝากพระพายแล้วกัน”

 

 

10 นาทีต่อมา

 

ตอนนี้ฉันนั่งเท้าคางหมดอาลัยตายอยากอยู่ที่โต๊ะทำงานของฉันค่ะ กำหนดการย้ายเข้าไปอยู่ในหน่วยสีครามคลุมดินจะเริ่มหลังจากนี้อีกสามวัน นั่นหมายถึงฉันมีเวลาสามวันในการทำใจ เสร็จแล้วก็ต้องเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋าไปอยู่กับพวกผู้ชายร่างบึกบึนที่วันๆ ถือแต่ปืนและออกไปปฏิบัติหน้าที่ทันทีที่มีเหตุเข้ามา

 

“นี่ๆๆๆ อย่าทำหน้าเซ็งเป็ดอย่างนั้นเลยน้องพระพาย ดูๆๆ ผู้กองลักษณ์คนเนี๊ยเป็นหัวหน้าอยู่ในหน่วยจู่โจมสีครามคลุมดิน หน่วยสวาตที่กำลังดังอยู่ตอนนี้เลย หล่อมากกกกก!!” น้ำเสียงลากยาวที่ดูตื่นเต้นจนประกายวาววับในดวงตาพี่นูน่ามันจะระเบิดออกมาเป็นฟองสบู่ ทำให้ฉันต้องชะโงกหน้าลงไปมองมือถือของพี่เขาที่ยื่นเข้ามา เอิ่ม...ตำรวจที่อยู่หน่วยปฏิบัติการพิเศษไม่ได้สูงดำบึกบึนเหมือนยักษ์หรอกเหรอ ผู้ชายในรูปทั้งขาวทั้งหล่อแม้จะโดนแอบถ่ายมาก็เถอะ แต่นี่ใช่ตำรวจในหน่วยสวาตจริงเหรอคะ แน่ใจว่าไม่ใช่ดาราใส่เครื่องแบบแล้วถ่ายหนังหรือกำลังเดินอยู่ในกองละคร

 

“พี่นูน่าแน่ใจเหรอคะว่านี่ตำรวจหน่วยสวาตไม่ใช่ดาราช่องไหนสักช่อง”

 

“หืม...น้องพระพายก็ นี่น่ะตัวจริงเสียงจริงค่ะ ใครได้หลงเข้าไปในนั้นเป็นต้องถ่ายรูปมาลงโซเชียลตลอด แล้วนี่น้องพระพายกำลังจะได้ไปกินไปนอนอยู่ท่ามกลางหนุ่มๆ ผู้ทรงพลังทั้งหลาย พี่ล่ะอิจฉาค่ะ”

 

ฉันยิ้มแหยๆ ให้พี่นูน่า ถึงอย่างนั้นฉันก็ยังไม่มั่นใจหรอกค่ะว่าจะได้ไปยืนกลางดงลูกปืนด้วยหรือเปล่า ก็พี่อันอันบอกว่าต้องติดตามพวกเขาทุกฝีก้าว เวลามีเหตุก็ต้องไปด้วย เพื่อดูการทำงานและนำมาเขียนนิยาย ดูการเป็นอยู่ ถ้าพี่อันอันเธอไม่เกรงใจฉันล่ะก็...คงจะสั่งให้ฉันเข้าไปสำรวจเวลาพวกตำรวจอาบน้ำด้วยแน่ๆ และถ้าเป็นแบบนั้นนิยายของฉันคงออกมาในแนวยี่สิบบวก ขายเข้าตลาดหนังโป๊ยอดปังปุริเย่แน่นอนค่ะ