บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3

เขาร้องเรียกหล่อน ที่รีบหันหน้ามาหาด้วยสีหน้าที่เผือดซีด

“มาทำอะไรหรือลูก”

“กัณมาดูเนค่ะพ่อ”

“หนูก็บาดเจ็บอยู่นะลูก กลับไปพักเถอะนะ”

“ค่ะพ่อ กัณหายดีเมื่อไหร่จะมาอยู่เฝ้าเนเองนะคะ”

กัณรญาบอกพ่อแล้วรีบออกมาด้วยหัวใจที่เต้นแรง และนึกเสียดายว่านายดิเรกฤทธิ์ไม่น่ารีบเข้าไป หากเขาเข้าไปช้าอีกสักนิดเดียวหล่อนจะต้องทำให้เนริกาหมดลมหายใจได้อย่างแน่นอน

“วันพระไม่มีหนเดียวหรอกน่า ฉันพยายามฆ่ามันมาตั้งหลายครั้ง คราวนี้มันเจ็บขนาดนี้ แสดงว่าโชคเข้าข้างฉันบ้างแล้ว มันอยู่ได้อีกไม่นานหรอก”

กัณรญาคิดในใจก่อนจะกลับมาที่ห้องของตน ซึ่งในขณะนั้นมีชายหญิงคู่หนึ่งแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่บ่งบอกว่าเป็นชนชั้นกลางเดินตามกัณรญาเข้ามา

“พ่อ แม่!?..”

เมื่อกัณรญาเห็นว่าใครที่เปิดประตูตามหลังตนเข้ามา ก็ต้องตกใจอย่างมาก หล่อนรีบเดินมาที่ประตู เปิดออกไปมองด้านนอกแล้วกดล็อคอย่างรวดเร็ว

“มาทำไมกันจ๊ะ”

หล่อนเอ่ยถามชายหญิงวัยเกือบห้าสิบ

“พวกเราเป็นห่วงลูกไงจ๊ะ”

ประภารวบมือเรียวของกัณรญามากุมไว้พลางมองสำรวจใบหน้าของลูกสาวคนโตของหล่อน เมื่อเกือบสามสิบปีก่อน หล่อนกับนภดลลักลอบได้เสียกันในโรงเรียนแล้วตั้งครรภ์ ก็พยายามเก็บเป็นความลับ เพราะพ่อและแม่มีฐานะยากจน ยามเมื่อท้องโตขึ้นก็หาผ้ามาผูกรัดไว้และใส่ชุดนักเรียนหลวม ๆ

เมื่อถึงกำหนดคลอดก็ต้องไปคลอดที่โรงพยาบาล แต่หล่อนไม่สามารถเลี้ยงลูกได้และยังไม่สามารถเปิดเผยให้พ่อแม่รู้ได้ เวลานั้นนภดลสามีของหล่อนหรือพ่อของกัณรญาได้แอบไปได้ยินนายดิเรกฤทธ์กับสิริจรรยาที่มาปรึกษาหมอเพื่อหาทางมีลูก

เขาจึงไปบอกประภา ซึ่งก็รีบมาหาสิริจรรยาพร้อมลูกน้อย ในขณะนั้นประภามีอายุแค่สิบห้าปีพอ ๆ กับนภดลที่ยังเรียนอยู่ระดับมัธยม ฐานะยากจนแต่แอบชอบพอกันและด้วยความเป็นวัยรุ่นอยากรู้อยากเห็นและไม่รู้จักระงับก็ทำให้มีลูกด้วยกันและคบหากันอย่างลับ ๆ เรื่อยมา

ประภาขอร้องให้สิริจรรยาช่วยเลี้ยงลูกของหล่อนด้วย เพราะหล่อนไม่สามารถเลี้ยงลูกได้ แต่นายดิเรกฤทธิ์มีท่าทีแข็งขันจะไม่ยอมรับ แต่สิริจรรยาก็ใจอ่อนเพราะสงสารเด็กและเห็นแล้วว่าประภามีสภาพอย่างไร แต่นายดิเรกฤทธิ์ก็ปฏิเสธแล้วพาสิริจรรยาเดินหนี

แต่ทว่านภดลรีบแย่งลูกของตนไปวางไว้ที่หน้ารถของนายดิเรกฤทธิ์และสิริจรรยาก่อนจะพากันหลบซ่อนเพื่อแอบดูเหตุการณ์ สิริจรรยาใจอ่อนเพราะอยากได้ลูก หล่อนคิดว่า หากมีลูกบุญธรรมสักคน หล่อนอาจจะท้องก็ได้ จึงขอเอาทารกนั้นไปเลี้ยงดูและให้ความรัก ควงามเอ็นดูราวกับเป็นลูกในไส้

นภดลกับประภาก็แอบตามไปดูจนรู้ว่าบ้านของนายดิเรกฤทธิ์อยู่ที่ไหน ฐานะเป็นอย่างไร เมื่อกัณรญาเติบโตขึ้นมา ทั้งสองก็แอบไปแสดงตนว่าเป็นพ่อแม่ กัณรญาไม่เชื่อ ทั้งสองจึงบอกให้ไปถามนายดิเรกฤทธิ์ว่าเขาไม่ใช่พ่อ แม่แท้ ๆ อีกทั้งยังบอกด้วยว่า ทั้งสองพาทารกน้อยนั้นไปวางไว้ที่ไหน ซึ่งตรงกับที่นายดิเรกฤทธิ์บอก

หลังจากนั้นสองสามีภรรยาก็มักจะมาขอเงินจากกัณรญาเพื่อไปเลี้ยงน้อง ๆ ของหล่อนที่เกิดตามมาอีกสามคน ซึ่งทั้งสองได้หนีมาอยู่ด้วยกันทั้งที่ยังเรียนไม่จบ รับจ้างทั่วไปบ้าง ค้าขายบ้าง จนมีลูกออกมาก็ลำบากมากขึ้น กระทั่งกัณรญาเติบโตพวกเขาก็มาขอเงิน เมื่อนั้นก็ดีขึ้นแล้วไม่ยอมทำงานอีกเลย

“หนูปลอดภัยก็ดีแล้วนะลูก”

ประภาพูดอออกมาพลางมองหน้าหล่อน ในขณะที่กัณรญามองหน้าพ่อกับแม่ของตนเช่นกัน

“ฉันจะต้องเป็นเจ้าของมรดกทั้งหมดของคุณพ่อกับคุณแม่แต่เพียงผู้เดียวเท่านั้น”

นภดลกับประภาหันหน้ามามองกันเมื่อได้ยินกัณรญาพูดออกมาแบบนั้น

“ใช่ ทุกอย่างต้องเป็นของหนู เพราะหนูมาก่อน หากไม่มีเนริกา ทั้งคุณพ่อคุณแม่ต้องรักหนูมากกว่านี้ เนริกามาแย่งความรักไปจากหนูนะลูก”

นายนภดลช่วยเสริม

“มีอะไรให้พ่อกับแม่ช่วยก็บอกนะลูกนะ”

ประภาเอ่ยสมทบคำพูดของสามี

“ตอนนี้รอแค่ให้มันตายสนิทเท่านั้นก็จบ”

กัณรญาเปรยออกมาก่อนจะนั่งลงบนเตียงโดยที่ประภากับนภดลรีบเข้าประคอง

“พ่อกับแม่กลับไปเถอะ และอย่ามาที่นี่อีก”

กัณรญามองหน้าทั้งสองคน

“เลือดต้องเข้มข้นกว่าน้ำวันยังค่ำนะลูก หนูคือลูกของเราสองคน จะไม่ให้ห่วงได้ยังไง”

ประภาร้องบอก พลางทำท่าเหมือนจะร้องไห้

“แม่กับพ่อมาแบบนี้ น้องอยู่กับใคร”

ทั้งสองหันหน้าไปมองกัน จะบอกได้ยังไงว่า น้องของกัณรญาก็ได้เดินตามรอยของพวกเขาแล้ว ด้วยการลักลอบอยู่กินกับผู้ชายคนหนึ่ง

“อยู่บ้านนั่นแหละลูก แต่ว่าตอนนี้ค้าขายมันก็ฝืด เศรษฐกิจไม่ดีเลย มันค่อนข้างลำบาก ไหนจะค่าเทอมน้องอีก”

นายนภดลเปรยออกมาด้วยสีหน้าเผือดสลด ทำให้กัณรญายื่นมือไปหยิบกระเป๋าเงิน ดึงเงินสดปึกหนึ่งออกมาส่งให้

“ที่พ่อกับแม่มา ไม่ได้มาเพราะต้องการเงินจากลูกนะ ที่เรามาเพราะว่าจิตใต้สำนึกรับผิดชอบของเรามันสั่ง เราสองคนทำบาปไว้กับลูก ที่ไม่ได้เลี้ยงหนูมา แต่กลับให้เติบโตในอ้อมกอดของพ่อแม่บุญธรรม”

ประภาพูดขึ้นมาพลางมองหน้ากัณรญาแล้วบีบน้ำตา

“หากว่าฉันอยู่กับพ่อและแม่ ฉันจะมี โอกาสได้กินดีอยู่ดีแบบนี้หรือ พ่อกับแม่มีพระคุณกับฉันมากต่างหาก ที่ทำให้ฉันได้อยู่ดีกินดีแบบนี้ เงินแค่นี้เล็กน้อยด้วยซ้ำ ต่อไป ฉันจะเป็นเจ้าของมรดกทั้งหมดนี้ เมื่อนั้นฉันจะรับพ่อกับแม่และน้องมาอยู่ด้วยกัน”

นภดลฟังคำพูดของลูกสาวคนโตแล้วรู้สึกซาบซึ้งอย่างมาก

“จริงหรือลูก”

เขาถามย้ำทันที

“จริงสิจ๊ะ ชีวิตฉันสำคัญกับพ่อแม่มากที่สุดนี่ พ่อกับแม่และน้องคือครอบครัวของฉัน”

ประภาพยักหน้า

“ใช่ หนูสำคัญที่สุดสำหรับพ่อและแม่ หนูคือดวงใจของพ่อกับแม่นะลูก”

ประภาและนภดลโน้มตัวเข้าไปกอดกัณรญา

“พ่อกับแม่รีบกลับไปเถอะนะ เดี๋ยวคุณพ่อกับคุณแม่ท่านจะมาเห็นเข้า ฉันไม่อยากให้ท่านรู้ว่า ฉันได้พบพ่อกับแม่ของฉันแล้ว”

“ได้ลูก”

“ไม่ต้องมาที่นี่อีกแล้วนะ ฉันจะไปเยี่ยมเอง”

ประภารีบยกมือโบก

“อย่าไปเลยลูก ที่นั่นมันไม่ค่อยสะอาด แม่อยากให้หนูดูดีที่สุด ไม่อยากให้เท้าของหนูต้องเหยียบสิ่งสกปรกใด ๆ ทั้งนั้น”

“เราโทรนัดเจอกันเหมือนก่อนดีกว่านะลูกนะ”

นภดลและประภาช่วยกันพูดทำให้กัณรญาพยักหน้า จากนั้นสองสามีก็ออกไปด้วยความดีใจเพราะจำนวนเงินนั้นมากพอที่จะอยู่กินได้อีกเป็นเดือนโดยไม่ต้องทำอะไรเลย

เมื่อเนริกาถูกจับตัวไป เธอก็พยายามดิ้นรนต่อสู้กับชายสองคนที่รูปร่างสูงใหญ่ตัวดำทมึฬและมีพละกำลังมากมาย

“ปล่อยฉัน มาจับฉันทำไม ปล่อย”

เธอร้องบอกและพยายามดิ้นรนต่อสู้

“ไปกับเราดี ๆ เถอะ อย่าดิ้นรนขัดขืนเลย”

ยมบาลผุดผ่องร้องบอกเธอ

“เจ้าเป็นดวงวิญญาณเร่ร่อน อยู่แบบนี้ไม่ได้”

ยมบาลโอเคก็พูดต่อทำให้เนริกามองหน้าทั้งสอง

“อะไรนะ! ดวงวิญญาณหรือ”

เนริการ้องถาม

“ใช่ ดวงวิญญาณ”

ยมบาลผุดผ่องยืนยันทำให้เธอถึงกับเข่าอ่อนทรุดลงแทบพื้น

“ดวงวิญญาณ หมายความว่า ฉันตายแล้วน่ะสิ”

เพียงแค่เธอนึกได้แบบนั้นก็ร้องไห้ออกมาแล้วก็กลิ้งไปกลิ้งมา

“เอา เอา ร้องทำไมนังหนู ลุกขึ้นมา อย่าเสียเวลา ท่านท้าวเวสสุวรรณรออยู่”

ยมบาลโอเคร้องบอกเธอ

“แล้วลุงสองคนเป็นใคร”

ยมบาลผุดผ่องย่อกายลงนั่งข้าง ๆ เธอ

“ข้าคือยมบาลผุดผ่อง”

“และข้าคือยมบาลโอเค”

เนริกามองหน้ายมบาลทั้งสองแล้วรีบถอยหลัง

“ผีสิ”

เธอร้องออกมาแล้วทำท่าทางหวาดกลัว

“ไม่ใช่ผี ยมบาล”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel