บท
ตั้งค่า

บทที่1.ทาสในเรือนเบี้ย 3/3

นางเปรยขณะล้วงธนบัตรใหม่เอี่ยมในซองออกมานับ

“เอะ! ” เสียงแหวะดังไม่ใช่เล่น เมื่อมูลค่าสตางค์ในมือตนเองน้อยลงกว่าเดิม “ขาดไป1000 แกคิดจะอมเหรอนังอลิส”

ฉลวยกรรโชกเสียงขุ่น ยื่นธนบัตรในมือเกือบกระแทกหน้าอลิชา

“เดือนนี้อลิสต้องจ่ายค่าเรียนน่ะค่ะ เลยให้คุณป้าได้ไม่เท่าเดิม”

อลิชาเรียนมหาวิทยาลัยเปิด เธอลงเรียนเพื่ออนาคตตัวเอง หากวันหน้าเรียนจบ หน้าที่การงานเธอคงดีกว่านี้

“หล่อนจะเอาเงินไปทำอะไรฉันไม่สนหรอกนะแม่อลิส แต่ส่วนที่ต้องจ่ายให้ฉัน...ต้องเท่าเดิม ไม่อย่างนั้นก็ไสหัวออกไป...ไม่มีที่ไหนสบายเท่าบ้านฉันหรอกนะยะ”

เสียงแหวดังลั่น จนติ๋มที่กำลังซักผ้ายังต้องชะโงกหน้ามอง สาวใช้สูงวัยเบ้ปาก หล่อนอยากยุส่งให้อลิชาหอบผ้าไปอยู่ที่อื่นเสียเหลือเกิน กับแค่ที่หลับที่นอน อาหารเหลือๆ ที่ฉลวยหยิบยื่นให้ แลกกับหยาดเหงื่อของหญิงสาวเกือบทั้งหมด มันไม่เห็นจะคุ้ม

ธนบัตรยับๆ มูลค่าตามจำนวนที่ฉลวยเรียกร้อง อลิชากัดฟันยื่นให้ ก่อนจะก้มหน้าลง หลบสายตาดุดันของญาติคนสุดท้าย

“ต้องให้ฉันลำเลิก หล่อนถึงจะยอมดีๆ ...อย่าให้บ่อยนักล่ะ หากฉันเบื่อขึ้นมา ฉันคงอับเปหิหล่อนออกไปอยู่ข้างนอกนั่น ถ้าไม่ติดว่าเป็นลูกสาวน้องชายฉัน ฉันไม่เก็บหล่อนมาเลี้ยงให้เปลืองข้าวเปลืองน้ำหรอกนะ”

ฉลวยบ่นๆ นางเดินจากไปเมื่อได้สิ่งที่ต้องการ

มือผอมบางยกขึ้นกรีดหยดน้ำตาทิ้ง เก็บกดความเจ็บช้ำไว้ในใจ เมื่อตนเอง...เป็นแค่คนอาศัย ไร้ญาติมิตรเหมือนคนอื่นๆ

“อดข้าวเอาแล้วกันอลิส ไม่ตายหรอก”

เงินก้อนสุดท้ายที่เธอเจียดไว้สำหรับอาหารมื้อกลางวัน...เมื่อหยิบยื่นให้ฉลวย เธอคงต้องอดไปก่อน...

หญิงสาวจัดแจงล็อกประตูห้อง เดินลากขาไปทำงานด้วยความรู้สึกหนักอึ้งไปทั้งใจ

สายลมเย็นๆ พัดความสดชื่นปะทะใบหน้า เสียงนกตัวเล็กๆ ร้องกล่อมช่วยให้ความตึงเครียดผ่อนคลายลง รอยยิ้มอ่อนแต้มมุมปาก เมื่อสายตาทอดมองไปรอบๆ ตัว สิ่งมีชีวิตบนโลกใบนี้ ต่างไม่เคยหยุดนิ่ง แต่สิ่งต่อสู้เพื่อตัวเองแล้วเธอจะท้อไปทำไม...วันหนึ่งเมื่อสิ่งที่หวังสามารถคว้ามาอยู่ในกำมือได้ ความทุกข์ยาก เหนื่อยล้าก็คงจะหมดสิ้นไป...

“หนูอลิสๆ” แม่ค้าขนมครกหน้าปากซอยบ้านโบกมือเรียกอลิชาไหวๆ

“จ้าป้า...มีอะไรเหรอจ๊ะ อลิสสายแล้วเดี๋ยวคุณเพลินบ่น”

หญิงสาวขานรับ เดินไปหยุดหน้าร้านขายขนมครก ก่อนจะฉีกยิ้มแป้น

“เอาขนมนี่ไปกินลูก ผอมจนลมจะหอบขึ้นฟ้าไปอยู่แล้วเนี้ย...ไม่ต้องจ่ายป้า...ตอบแทนที่ช่วยสอนหนังสือไอ้แดงมัน”

แม่ค้าขนมครกยัดถุงพลาสติกใส่มืออลิชา นางตอบเสียงใส ยิ้มให้ทั้งที่กำลังยุ่ง เมื่อลูกค้ามายืนออเต็มหน้าเตาขนม

“ขอบคุณจ้ะป้า...กำลังอยากทานพอดี”

หญิงสาวรีบขอบคุณ เธอฉวยขนมครกร้อนๆ ใส่ปาก “ขนมครกป้าอร่อยที่สุดในโลก” ก่อนจะกล่าวชมเสียงร่าเริง

“กินเข้าไปเยอะๆ จะได้มีเนื้อมีหนังกับเขาบ้าง สตางค์น่ะ ไม่ต้องไปให้อีคุณนายนั่นนักหรอก แค่ที่ซุกหัวนอนเก็บเสียแพงเชียว”

ติ๋มชอบมาเม้าท์ให้คนนอกฟัง แต่ละคนที่รับรู้ล้วนเห็นใจอลิชา แต่ก็พูดไม่ได้มากเมื่อฉลวยเป็นคนอุ้มชูอลิชามาตั้งแต่ยังเด็ก คนอื่นๆ เป็นแค่คนนอก ได้แต่วิจารณ์แค่นั้นเอง

หญิงสาวยิ้มแหยๆ ให้ เธอรีบเอ่ยปากขอตัว “อลิสต้องไปแล้วป้า...สายโด่งแล้ว” หล่อนวิ่งฉิวไปทันทีที่พูดจบ

“เห้อ...คนดีมักโดนเอาเปรียบแบบนี้ล่ะ น่าสงสารจริงๆ”

แม่ค้าขนมครกยังบ่นตามหลัง

“หลานสาวบ้านหลังใหญ่สุดซอยใช่มั้ยป้า?” ลูกค้าหนึ่งในสองคนที่ยืนอยู่ร้องถาม

“อืม...ใช่ บ้านอีคุณนายฉลวยนั่นล่ะ”

“โตไวดีน่ะ ไม่ได้เรียนต่อหรือไง แต่งตัวเหมือนไปทำงานมากกว่าไปเรียน” หล่อนยังคงพูดต่อ

“ได้เรียนที่ไหนล่ะ อีคุณนายมันบอกไม่มีเงิน แต่...ส่งให้คนโง่เรียนแทน อย่างว่าแหละ ขี้จะดีกว่าไส้ได้ยังไงวะ” ป้าขายขนมบ่นพึม มือก็สาละวนแคะขนมครกร้อนๆ ในเตาไปด้วย

“น่าสงสารเนอะ...เสียดายมันสมอง”

ผู้คนในชุมชนรับรู้ความเก่งกาจของอลิชาแทบทั้งนั้น หล่อนหัวไว ฉลาดใฝ่รู้ และเป็นเด็กเรียนดีเสียดายที่ทางชีวิตของหล่อนไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel