จับฉันมาทำไม(1)
ตอนที่ 2
จับฉันมาทำไม
“ทำไมคุณพ่อถึงทิ้งเราไปแบบนี้คะ”
ไอรดาถึงแม้จะพยายามทำใจให้เข้มแข็งแค่ไหนแต่เธอก็ไม่สามารถจะเก็บซ่อนความอ่อนแอไว้ได้ น้ำตาหยดดังสายฝนที่ไหลออกมาไม่ขาดสาย ดวงตากลมโตคู่สวยมองปล่องควันที่ตอนนี้มีควันขาวโพยพุ่งออกมาเมื่อไฟกำลังเผาร่างของคนที่เธอรักให้เหลือเพียงแค่เถ้ากระดูกเพื่อเก็บเป็นอนุสรณ์แห่งความทรงจำ
“คุณพ่อจะอยู่ในใจของเราตลอดไป”
กานดาลูบหัวปลอบขวัญลูกเลี้ยง ความเสียใจที่เธอเสแสร้งมาหลายวัน วันนี้เธอไม่ต้องพยายามอีกแล้วเพราะถึงแม้จะรู้ว่าการจากไปของสามีจะทำให้ชีวิตของเธอดีขึ้นแต่ก็อดที่จะรู้สึกเหงาและว้าเหว่ไม่ได้เพราะเกือบ 5 ปีที่ใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน อนุสรณ์ทำให้เธอรู้สึกมีค่าเขาคอยดูแลเธอเสมอไม่เคยตำหนิหรือต่อว่าไม่ว่าจะเรื่องใด ๆ แม้ว่าสุดท้ายเธอจะคือคนที่ทำให้ชีวิตของเขาต้องเป็นแบบนี้ก็ตาม
“หนูไอไปหยิบของในรถให้น้าหน่อยได้ไหม น้าลืมไปเลยว่าคุณพ่อสั่งไว้ว่าหลังจากเผาร่างของท่านเสร็จให้เอาเสื้อผ้าตัวโปรดเผาตามไปด้วย”
ไอรดาถึงแม้จะสงสัยกับคำพูดของแม่เลี้ยงเพราะพ่อของเธอตัดสินใจจากโลกนี้ไปด้วยการฆ่าตัวตายแล้วทำไมถึงได้สั่งเสียทุกอย่างไว้แบบนั้นแต่ด้วยกลัวว่าไฟที่กำลังโหมลุกจะมอดดับไปเสียก่อนจึงรีบวิ่งไปที่รถทำตามในสิ่งที่กานดาบอก
“อุ๊ย ! …อือ…อือออ”
ไอรดาเดินไปถึงแต่ยังไม่ทันที่จะเปิดรถก็รู้สึกเหมือนมีอะไรบางอย่างมาปิดลงไปที่หน้าและจมูกเธอพยายามดิ้นสุดแรงแต่เพียงไม่กี่นาทีทุกอย่างก็ดับวูบลง
“คุณเป็นใครแล้วฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง”
ไอรดารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาพยายามมองรอบตัวแต่ตอนนี้สายตายังเห็นทุกอย่างไม่ค่อยชัดแต่ก็พอจะเดาได้ว่าตอนนี้ข้างกายมีผู้ชายตัวสูงนั่งอยู่
“หลับตามานานคงจะมองไม่ค่อยชัด ผมภูดิศผู้ชายที่ แม่เลี้ยงของคุณเอารูปคุณให้ดูไง”
ชายหนุ่มตัวสูงยกขาขึ้นมานั่งไขว่ห้างยกมือลูบลงไปที่ผมของสาวน้อยที่ตอนนี้พยายามดิ้นเพื่อให้มือของเธอหลุดจากเชือกที่ผูกมือไขว้หลังไว้
“อย่ามาแตะต้องตัวฉัน”
ไอรดาพยายามดิ้นออกมาอยู่ให้ไกลจากผู้ชายที่นั่งข้างๆเพราะถึงแม้เธอจะยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ก็พอจะเดาได้ว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้มันไม่ดีกับตัวเธอแน่
“คุณจับฉันมาทำไม”
หญิงสาวถึงแม้จะรู้สึกหวาดกลัวแต่ก็พยายามตั้งสติเพราะจากการใช้ชีวิตที่เมืองนอกตัวคนเดียวทำให้หญิงสาวมีความกล้ามากกว่าคนที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกัน
“คุณอยากรู้ไหมว่าเพราะอะไรพ่อของคุณถึงฆ่าตัวตาย”
ภูดิศไม่ใช่แค่เพียงพูดแต่เขาเอียงตัวมาหาหญิงสาว มือจับไปที่คางของเธอเงยหน้าไอรดาขึ้นและก้มหน้าตัวเองเข้าหาใบหน้าที่นวลสวยจนตอนนี้ทั้งคู่แทบจะได้ยินเสียงลมหายใจของกันและกัน
“ความจริงที่พ่อของเธอต้องรีบจากโลกใบนี้ไปคงมีเพียงแค่ผมเท่านั้นที่จะพูดความจริงให้คุณรู้แต่มันไม่ใช่ในเวลานี้”
“ไม่จริงหลังจากเสร็จงาน คุณน้าก็จะบอกว่ามันเกิดอะไรขึ้นคุณพ่อถึงได้คิดสั้น”
ไอรดาเอาหน้าออกจากมือหนาที่จับคางของเธอไว้ จากตอนแรกที่รู้สึกกลัวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตอนนี้มันเริ่มน้อยลงเพราะหญิงสาวเริ่มไม่แน่ใจในสิ่งที่ชายหนุ่มตรงหน้าพูดมันทำให้เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเธอกำลังกลัวเขาหรือกลัวความจริง
“ผู้หญิงอย่างกานดาคือคนที่จะไม่มีวันพูดความจริงกับคุณ”
“ฉันไม่อยากรู้แล้ว คุณปล่อยฉันไปเถอะ คุณคอยดู น้ากานดาจะต้องแจ้งความว่าฉันหายไปและตำรวจก็จะตามมาเจอว่าคุณคือคนที่จับตัวฉันมา”
“ฮ่า..ฮ่า ไปเรียนถึงเมืองนอกแต่ไม่น่าเชื่อว่าจะโง่เหมือนที่แม่เลี้ยงเธอบอกไว้จริง ๆ ”
ภูดิศพูดหัวเราะให้กับความใสซื่อของหญิงสาวที่ทำท่าเก่งไม่เกรงกลัวเขาเพราะทุกคำที่ไอรดาพูดมันแสดงให้มาเฟียหนุ่มเห็นว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในเวลานี้หญิงสาวก็ยังคงมองว่ากานดาเป็น แม่เลี้ยงที่แสนดี
“คุณเป็นบ้าอะไร ! จับฉันมาเพื่ออะไรกันแล้วไม่ต้องมาพูดจาให้ร้ายน้ากานดาแบบนี้เพราะฉันไม่มีทางเชื่อ”