บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 6

ได้ยินจนคุ้นหู ดีที่แกเก่งในเรื่องทำท่าทางประกอบ ยกไม้ยกมืออธิบายจนฝรั่งเข้าใจ หากไม่ไหวจริงๆจึงจะหันไปขอความช่วยเหลือจากน้ำค้าง ให้เธอช่วยอธิบายทุกครั้งไป

“Good Morning คร๊าบ”

เขาตอบกลับมาด้วยภาษาอังกฤษปนไทยเช่นกัน พร้อมกับรอยยิ้มจริงใจให้ลุงแหลม

“กระเป๋าสัมภาระเอาไว้ในช่องเก็บของด้านล่างจะดีกว่านะครับ คุณตัวใหญ่ สูงยังกะเสาไฟฟ้า จะได้นั่งสบาย เข้าออกสะดวก ไม่เกะกะ” ลุงแหลมบอกด้วยความหวังดี

“อะไรนะครับ”

ชายชาวต่างชาติขมวดคิ้ว พยายามทำความเข้าใจ เพราะลุงแหลมพูดเร็วไปหน่อย อีกทั้งสำเนียงก็ออกอีสาน

“กระเป๋าของคุณครับ”

เด็กหนุ่มอีกคนที่มักจะติดรถไปกับลุงแหลมเป็นประจำ มีชื่อว่าดำ รับหน้าที่คอยดูแลสัมภาระของผู้โดยสาร ปรี่เข้ามาอย่างรู้หน้าที่ รีบรับกระเป๋าเป้ใบใหญ่ที่สะพายอยู่ด้านหลังของชายหนุ่ม แล้วนำไปไว้ในช่องเก็บสัมภาระที่อยู่ด้านข้างของตัวรถในทันที

“ขอบคุณครับ”

ร่างสูงใหญ่หันไปกล่าวกับเด็กหนุ่มที่ช่วยเอาสัมภาระของตนไปเก็บ

จากนั้นขายาวๆก็ก้าวขึ้นไปบนรถ

เมื่อประมาณความสูงของเพดานหลังคารถคร่าวๆด้วยสายตา ชายหนุ่มรู้ว่าหากเขาเหยียดหลังให้สุดความสูง เชื่อว่าศีรษะต้องแตะเพดานหลังคารถอย่างแน่นอน เขาจำต้องก้มศีรษะเล็กน้อย เมื่อโผล่พ้นประตูเข้ามา ก็แจกยิ้มให้กับสายตาหลายคู่ที่จับจ้องมองมาที่เขาเป็นตาเดียวกันอย่างให้ความสนใจ เพราะความแปลกแยกแตกต่างทางชาติพันธุ์ ด้วยโครงสร้างร่างกายที่ใหญ่โต อีกทั้งความสูงเกินกว่า 180 เซนติเมตรของเขา ยิ่งชวนให้สะดุดตาต่อผู้พบเห็น

เมื่อรถเริ่มออกเดินทาง น้ำค้างได้อธิบายถึงรายละเอียดเรื่องค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้กับชายหนุ่มได้ฟังโดยคร่าวๆ เกี่ยวกับแพคเกจการเดินทางในครั้งนี้ พร้อมกับยื่นตารางทัวร์ให้กับเขา ก่อนจะฉุกคิดขึ้นมาได้ว่าตารางทัวร์ในกระดาษแผ่นนั้นเป็นภาษาไทย ขณะที่เธอกำลังจะอธิบายด้วยภาษาที่ชาวต่างชาติคนนี้จะเข้าใจได้ จู่ๆเขาก็สร้างความประหลาดใจ ราวกับอ่านความคิดของเธอออก เมื่อเขากล่าวขึ้นมาว่า

“ผมพอจะอ่านภาษาไทยได้ครับ”

“เก่งจัง”

มีความฉงนอยู่ในน้ำเสียงของเธอ ทำให้หญิงสาวแหงนใบหน้าขึ้นมองเขา ก็เห็นว่าดวงตาสีสนิมเหล็กคู่นั้นประสานมา

“คุณชื่ออะไรคะ”

น้ำค้างถามเบาๆ เมื่อนึกขึ้นได้ว่าเธอยังไม่รู้จักชื่อของเขา

“รอนนี่…แต่เรียกสั้นๆว่า ‘รอน’ ก็ได้ครับ”

เขากระตือรือร้นที่จะตอบ ชื่อเต็มของเขาคือ ‘รอนนี่ อัลวาโร’

“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะรอน”

กล่าวจบหญิงสาวก็บ่ายหน้าไปทางโชเฟอร์ พร้อมกับสั่งให้ออกรถ

“Let’s go ค่ะลุงแหลม”

จากนั้นรถก็เคลื่อนออกจากหน้าบริษัททัวร์ซึ่งตั้งอยู่ย่านสุทธิสาร เลี้ยวขวาออกถนนวิภาวดีรังสิต

ฝ่าการจราจรซึ่งยังไม่หนาแน่นมากนัก เนื่องจากเวลาในขณะนั้นยั้งเช้าอยู่มากและเป็นเส้นทางขาออก

รถแล่นเรื่อยขึ้นไปตามถนนสายเอเชียที่ทอดยาวไปสู่ตอนเหนือของประเทศ น้ำค้างหยิบแผ่นซีดีเพลงยื่นให้ลุงแหลมเปิดคลอเบาๆไปตลอดทาง เป็นที่รู้กันว่าจุดหมายปลายทางของรถทัวร์คันนี้คือจังหวัดสุโขทัย ด้วยรูปแบบของทัวร์ในครั้งนี้เป็นทัวร์วัฒนธรรม จึงไม่แปลกที่ผู้โดยสารส่วนใหญ่จะเป็นผู้ใหญ่ หากก็มีหนุ่มสาวปะปนมาประปราย

เรือนร่างระหงของหญิงสาวยืนอยู่ที่ด้านหน้าของรถทัวร์ เมื่อรถแล่นต่อมาได้อีกระยะหนึ่ง รอให้ลูกทัวร์ปรับสภาพจนคุ้นกับรถ จากนั้นน้ำค้างจึงริ่มแนะนำตัวเองกับลูกทัวร์ ผ่านโทรโข่งที่ถืออยู่ในมือ ทบทวนแผนการเดินทางโดยคร่าวๆ บอกถึงจุดหมายปลายทาง แต่ละสถานที่ซึ่งจะแวะชม รวมทั้งเรื่องอาหารและที่พักให้กับลูกทัวร์ได้ฟังอีกครั้ง ลูกทัวร์เกือบทั้งหมดเป็นคนไทย มีชาวต่างชาติเพียงคนเดียวคือรอนนี่

“ราชธานีเก่า อู่ข้าวอู่น้ำ เลิศล้ำกานท์กวี คนดีศรีอยุธยา”

เธอเริ่มชวนลูกทัวร์สนทนาด้วยการท่องคำขวัญประจำจังหวัดอยุธยา

“ที่น้ำท่องคำขวัญประจำจังหวัดอยุธยา เพราะว่าในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า เราก็จะก็ถึงอยุธยากันแล้วนะคะ จุดแรกที่รถจะหยุดก็คือพระราชวังบางปะอิน จากนั้นก็ไปแวะชมความสวยงามของตลาดน้ำอโยธยา ในบรรยากาศของศาลาเรือนไทยริมน้ำ สัมผัสกลิ่นอายของวิถีไทยในอดีต รับรองว่าทุกคนจะประทับใจอย่างแน่นอนค่ะ”

แม้ว่าตลาดน้ำแห่งนั้น น้ำค้างจะเคยเห็นมาแล้วหลายครั้ง เพราะนำทัวร์ก็หลายหน หากก็ยังคงรู้สึกประทับใจทุกครั้งที่ได้มาเยือน สภาพของบ้านเรือนและเรือพายขายของที่ล่องอยู่ริมน้ำ ล้วนจำลองขึ้นมาได้อย่างสมจริง

ฉากชีวิตเหล่านั้น ทำให้น้ำค้างรู้สึกราวกับว่าเธอได้ย้อนเวลากลับไปในอดีต ไม่คิดว่าบรรยากาศของตลาดโบราณจะสร้างความรู้สึกผูกพันและความคุ้นเคยอันแปลกประหลาดขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก

ทุกๆอย่างภายในตลาดน้ำทำให้เธอรำลึกย้อนไปถึงภาพที่เคยผุดพรายขึ้นในความฝันของเธอบ่อยๆ ทั้งที่เคยสงสัยถึงต้นสายปลายเหตุว่าอะไร? ที่ผูกพันเธอเอาไว้กับภาพอดีตเหล่านั้น

ทว่าท้ายที่สุด เมื่อไม่อาจหาคำตอบที่สมเหตุสมผลพอจะอธิบายได้ หญิงสาวกลับสรุปความสงสัยทั้งหลายทั้งปวงว่าอาจสืบเนื่องมาจากการที่เธอเรียนจบมาทางด้านประวัติศาสตร์ อ่านมาก รู้มาก ทำให้ซึมซับเข้าไปมาก อีกทั้งเธอยังชอบดูหนังละครย้อนยุคเป็นชีวิตจิตใจ แม้กระทั่งภายหลังจากเรียนจบ เธอก็ยังมายึดอาชีพไกด์นำทัวร์วัฒนธรรม ทุกครั้งที่รับงานทัวร์ หากต้องเลือกระหว่างทริปภูเขา ป่า ทะเล และแหล่งโบราณสถานที่เรียกกันว่า ‘ทัวร์วัฒนธรรม’ เช่นครั้งนี้ น้ำค้างก็มักจะเลือกอย่างหลังเสมอ คือทัวร์วัฒนธรรม

เมื่อจับต้นชนปลายถึงหลายๆเหตุการณ์ที่เธอพยายามผูกโยงเข้าด้วยกัน ก็พอจะอธิบายกับตัวเองได้ว่ามันคงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนัก หากความรู้สึกผูกพันกับอดีต จะยังคงวนเวียนอยู่ในความรู้สึกนึกคิด กระทั่งมันแทรกเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในความฝันของเธอเสมอมา

แต่แล้วจู่ๆ ความคิดนั้นก็ถูกค้านให้ต้องตกไป เมื่อหญิงสาวหวนระลึกขึ้นมาได้ว่าการฝันถึงภาพชีวิตในอดีตเหล่านั้น ‘มันเกิดขึ้นตั้งแต่ตอนที่เธอยังเป็นเด็กๆ ก่อนที่เธอจะได้เรียนและได้ทำงานมิใช่หรือ?’

ดังนั้นการที่เธอฝันถึงภาพในอดีตมาตั้งแต่เด็ก…ทำให้อีกหลายคำถามเกิดขึ้นตามมา

มีหลายครั้งที่น้ำค้างพยายามจะค้นหาความจริง อยากคลายปมเชือกของความสงสัยที่ขมวดเกลียวเอาไว้อย่างแน่นหนา ในบางเปราะบางปมของมันที่เธอพยายามคลี่คลายจนเกือบจะได้คำตอบ ทว่าสุดท้ายมันกลับขมวดเกลียวให้แน่นยิ่งกว่าเก่า ซึ่งมันทำให้เธอเริ่มเหนื่อยล้าที่จะหาคำตอบให้กับตัวเอง

“วันนี้เรามีชาวต่างชาติร่วมทัวร์มาด้วยนะคะ...” เสียงหวาน กังวานผ่านโทรโข่ง

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel