บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 5

“n-a-m-k-h-a-n-g คุณชื่อ ‘นามแคง’ ใช่ไหมครับ”

เขากวาดสายตาไปตามตัวอักษรบนนามบัตร พินิจพิเคราะห์ตรงชื่อของเธอ สะกดชื่อออกมาทีละตัวอักษร เหมือนต้องการทดสอบทักษะภาษาไทยที่ได้ร่ำเรียนมาก่อนหน้า พร้อมๆกับเอ่ยออกมาเสียงดังด้วยความมั่นใจ

“ไม่ใช่ค่ะ ต้องออกเสียงว่า ‘น้ำ-ค้าง’ นะคะ ลองอีกทีค่ะ”

เธอสอน น้ำเสียงกลั้วหัวเราะ รู้สึกว่าฝรั่งคนนี้…จะว่าไปก็ดูน่ารักดี

“น้ำค้าง”

คราวนี้เขากล่าวออกมาได้อย่างชัดถ้อยชัดคำ ราวกับจะบอกให้รู้ว่าต่อจากนี้ไปอีกนานเท่านาน ในชีวิตของเขาจะไม่มีวันลืมชื่อนี้ ‘น้ำค้าง’

“ขอตัวก่อนนะคะ ถ้าต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม เบอร์โทรที่นามบัตรนะคะ”

เธอบอก ก่อนจะหมุนตัวแล้วก้าวออกมาจากตรงนั้น ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกันกับเสียงของเพื่อนสาวร่วมทัวร์ที่ดังขึ้น พร้อมกับใบหน้าที่ยื่นออกมาจากประตูรถทัวร์

“น้ำ…ลูกค้ารายนั้นโทรมายกเลิก เค้าป่วยกะทันหัน” เพ็ญหมายถึงลูกทัวร์รายที่ทุกคนกำลังตั้งตารอ

“ตายจริง!...”

หญิงสาวอุทาน ทอดสายตามองตามแผ่นหลังกว้าง ร่างสูงสง่าของชายชาวต่างชาติที่กำลังเดินจากไปช้าๆ

‘เอาไงดี?’

เธอถามตัวเองในใจ หากจะเพิ่มลูกทัวร์เข้าไปอีกหนึ่งคน แทนคนที่ไม่สามารถเดินทางได้ อันที่จริงก็ทำได้ ทว่าก็มีความยุ่งยากอยู่บ้าง เรื่องค่าใช้จ่าย ทั้งมัดจำล่วงหน้าครึ่งหนึ่งก่อนออกเดินทาง แต่เอาเถอะ ข้อนั้นเดี๋ยวค่อยคิด ดูจากสีหน้าท่าทางของฝรั่งคนนั้น เขาคงอยากร่วมทัวร์ไปด้วยจริงๆ

“คุณ…”

อะไรบางอย่าง ดลใจให้หญิงสาวตัดสินใจตะโกนเรียกตนตัวโตที่กำลังจะลับไปจากสายตา

“เดี๋ยวค่ะคุณ”

ร่างสูงใหญ่หยุดกึก เสียงหวานแว่ว แผ่วผ่านมากับสายลมหอบหนึ่งที่จู่ๆก็พัดพรูเข้ามาปะทะใบหน้าของเขา ราวกับจะเกิดลมฝน ใบแห้งของต้นประดู่ที่แผ่กิ่งก้านอยู่ริมฟุตบาท ร่วงกราวลงมาที่พื้น หว่านดอกดวงเล็กๆสีเหลืองลงบนลานฟุตบาท น่าแปลกที่ขณะนั้นบรรยากาศรายรอบก็หาได้มีทีท่าว่าฝนจะตกลงมาแต่อย่างใด

ในเสี้ยวขณะหนึ่ง…

ก่อนที่ชายหนุ่มจะหันกลับมา เขารู้สึกได้ว่าเสียงเรียกนั้นแผ่วเบาราวกับว่ามันดังกังวานมาจากห้วงอดีตอันไกลโพ้น ใครบางคนกำลังเรียกหากัน แผ่วเบาและแทรกสลับกันขึ้นมาอย่างสับสน จนไม่รู้ที่มาที่ไป อีกใจพยายามคิดว่าตัวเองหูฝาด หากเสียงนั้นก็ยังยืนยันด้วยกังวานสะท้อนรุนแรงอยู่ในความรู้สึกรับรู้อันแปลกประหลาดของตน เหมือนมีสิ่งที่อยู่เหนือคำอธิบาย…บันดาลให้มันเป็นไป

‘กลิ่นนั้น’

ใช่…กลิ่นดอกลั่นทม

ความรู้สึกอันแปลกประหลาดนี้มาพร้อมๆกับกลิ่นดอกไม้ที่หญิงสาวผู้นั้นบอก ‘ลีลาวดี’ หรือ ‘Frangipani’ ในภาษาอังกฤษนั่นเอง กลิ่นนั้นช่างหอมนัก เขาเพิ่งเคยเห็นรูปพรรณสัณฐานของมัน รู้ว่าเป็นกลิ่นเดียวกันกับที่ระลึกได้ในความฝัน แม้จะยังมองไม่เห็นที่มาของกลิ่น ทว่าก็รู้สึกได้ว่ามันลอยอวลมาพร้อมกับสายลม ผสานผสมอยู่ในบรรยากาศรอบๆ

ชั่ววูบสั้นๆ…

กลิ่นช่วยกระตุ้นความทรงจำที่ทับซ้อน เหมือนฉุดให้ย้อนระลึกไปในความฝัน…หลายๆครั้งที่ชายหนุ่มรู้สึกราวกับว่าเขากำลังถลำเข้าไปสู่ห้วงอาวรณ์ถวิลอันลึกซึ้งเกินกว่าจะอธิบายหรือบรรยายออกมาให้ชัด ว่าควรจะนิยามความรู้สึกนั้นว่าอะไร?

“คุณ…”

เสียงของหญิงสาว แผ่วเบาราวกับใครบางคนที่ตะโกนมาจากอีกฟากฝั่งของกาลเวลา

‘เธอเรียกเขา’ ชายหนุ่มค่อยๆหันกลับมาตามเสียงเรียก ด้วยแววตาที่ฉายประกายความหวังขึ้นมารางๆอีกครั้ง

“คุณเรียกผมใช่ไหมครับ” เขาตะโกนถามกลับมา

“ค่ะ…คุณนั่นแหละ”

เธอตะโกนตอบ ความรู้สึกบางอย่างสั่งให้เธอเหนี่ยวรั้งเขาเอาไว้ ‘เหมือนใครบางคนกำลังอ้อนวอนให้เธอช่วยยับยั้งการจากไปของเขา’

จากนั้นหญิงสาวก็ได้แต่นิ่งมองร่างสูงใหญ่ที่กำลังก้าวยาวๆกลับมาหาเธอ

ในใจของชายหนุ่มในขณะนั้น คิดแต่เพียงว่าหญิงสาวทำถูกแล้วที่เรียกเขากลับมา คิดว่ามันเป็นเรื่องสมควร ที่เธอยับยั้งการจากไปในครั้งนี้ ทั้งที่เขาเองก็ไม่แน่ใจว่าเหตุผลอันใดที่ทำให้เขารู้สึกอย่างนั้น รู้แต่เพียงว่าการที่เขาอุตส่าห์นั่งเครื่องบินรอนแรมมาไกลกว่า 5,000 ไมล์ในครั้งนี้ เขาไม่ได้ต้องการมาเพื่อจะฟังคำปฏิเสธใดๆจากเธอ ทั้งที่เขาเองก็จับต้นชนปลายไม่ถูก ว่าทำไมจึงอยากร่วมทัวร์ไปกับเธอนัก

“คุณอยากไปจริงๆใช่ไหม?”

เธอถามถึงความสมัครใจของเขาอีกครั้ง ว่าเขายังไม่เปลี่ยนใจ

“อยากครับ…อยาก”

เขารีบตอบอย่างไม่ลังเล ขณะสายตาจับอยู่ที่พวงแก้มซับสีชมพูระเรื่อ ริมฝีปากเป็นสีชมพูอิ่มเต็มไปทั้งบนล่าง คิ้วนั้น…พระเจ้าช่างบรรจงวาดเอาไว้ กรามได้รูปโค้งลงมารับกับคางและคำคอที่ยาวระหง ในดวงตารียาว แลเห็นจุดสีดำขลับกรอกไปมาตรงกลางตาขาว ภายใต้แพขนตางอนระยับมีหยาดแววแห่งชีวิตชีวาที่วาบวับ ประทับอยู่ในดวงตาคมประกายคู่นั้น เขาหลงรักดวงตาคู่นั้นตั้งแต่แรกเห็น

‘ช่างเป็นผู้หญิงเอเชียที่งามสะดุดตา’ ชายหนุ่มคิดในใจ

“ยังพอมีที่ว่างเหลืออยู่อีกที่นึงค่ะ”

ประโยคนั้นทำให้ใบหน้าหล่อเหลา ยิ้มระรื่นขึ้นมาในทันที

“จริงหรือครับ”

“ค่ะ”

หญิงสาวรับรู้ได้ถึงอาการดีใจของเขา

จากนั้นจึงรีบก้าวนำไปที่รถ เขารีบก้าวยาวๆ ตามหลังเธอมาโดยไม่ลังเล สายตาคมประกายมองตามลาดไหล่และแผ่นหลังตึงเต็ม แลเห็นสะโพกผายขยับไปพร้อมกับจังหวะสับปลายเท้า บางขณะที่เธอเอี้ยวลำตัวกลับมามอง ด้านข้างของเนินอกอวบก็ยวบไหว ในยามที่กระแสลมพัดแรงจนเสื้อตัวบางแนบไปกับเนื้อ คัดเรือนร่างรัดรึง แพรผมสีดำระยับสะบัดเบาๆ ในจังหวะที่เธอหันกลับมามองเขาอีกครั้ง เมื่อเดินมาถึงรถทัวร์

ทว่าไม่ทันที่ชายหนุ่มจะก้าวขึ้นมาบนรถ ด้วยความสูงจนโดดเด่น พอดีกับจังหวะสายตาของโชเฟอร์กวาดมาเห็นร่างของเขาเข้าพอดี

“Good Morning ครับ Mister”

ลุงแหลมผู้เป็นโชเฟอร์ เอ่ยทักทายเป็นภาษาอังกฤษปนไทย ด้วยคลุกคลีอยู่กับงานทัวร์มาหลายปี ได้พบได้เห็นชาวต่างชาติมาเยอะ ทำให้พอจะฟุดฟิดฟอไฟได้บ้าง มีหลายๆครั้งที่นึกอยากจะพูด ติดตรงที่แกผูกประโยคไม่เป็น ประโยคยาวๆจึงพูดไม่ได้ ลุงแหลมมักจะโพล่งออกมาเป็นคำๆ เพราะแกอาศัยการจดจำคำง่ายๆ ที่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel