บทที่ 3
เมื่อสินเข้ามาถึงยังครัว เขาก็เริ่มที่จะเอะใจอะไรบางอย่างขึ้นมา
“ตายแล้ว... ลืมใบกะเพรา.. พริกเอย.. ไข่เอย.. กระเทียมเอย.. ลืมพวกมันหมดเลย” สินตบหน้าผากตัวเองไปหนึ่งช็อต และเมื่อเขานึกได้ว่าลืมอะไรไป ก็รีบนำไก่สดไปแช่ในตู้เย็นไว้ก่อน แล้วปั่นจักรยานออกไปตลาดอีกครั้งด้วยความหัวร้อน
หลังจากกลับไปตลาดเพื่อซื้อใบกะเพรา กระเทียม พริก หอมหัวใหญ่ ไข่สด เครื่องปรุงต่างๆ เงินของเขาก็ลดลงอย่างหน้าใจหาย เขาไม่เคยใช้เงินมากขนาดนี้ในแต่ละวัน แต่ด้วยความเชื่อมั่นว่าเขาจะสามารถทำอาหารออกมาได้อร่อยพอที่จะขายได้ จึงรีบปั่นจักรยานกลับบ้านทันที
“ให้ตายซิ ไปตลาดทั้งที.. ซื้อมาแต่ไก่.. ไอ้สินเอ๊ยไอ่สิน” เขาไม่รอช้า เขาจัดเตรียมวัตถุดิบตามสูตรที่ปรากฏอยู่ในหัวทันที
“ไก่ซอย 400 กรัม กระเทียมสับห้ากลีบ หอมหัวใหญ่ครึ่งหัวหั่นเป็นชิ้นอย่างสวยงาม ซีอิ๊วดำ 2 ช้อนโต๊ะ น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ พริกตำพอแหลก 7 เม็ด ใบกะเพรา พริกไทยป่นนิดหน่อย เอาล่ะครบ”
หลังจากนั้นเขาก็เริ่มทอดไข่ดาวด้วยเทคนิคพิเศษเฉพาะตัวไอ้สิน แล้วจึงเริ่มทำกะเพราไก่ต่อ เริ่มแรกหลังจากทอดไข่ดาวเสร็จแล้ว นำพริกกับกระเทียมที่ตำแล้วมาผัดกับน้ำมันด้วยไฟที่ไม่แรงจนเกินไป
ต่อไปก็ใส่เนื้อไก่ที่ล้างด้วยน้ำเกลือ และนำมาซอยลงไปผัดกับพริก และกระเทียมที่สีออกเหลืองทองกำลังดี เมื่อผัดจนได้ที่หรือไก่สุกแล้ว ก็ปรุงรสซีอิ๊วดำ น้ำปลา น้ำตาล พริกไทยนิดหน่อยเพื่อเพิ่มรสชาติเผ็ดแฝง และเมื่อคลุกจนได้ที่แล้ว ก็นำใบกะเพรา และหอมหัวใหญ่ตามลงไป ผัดเพิ่มอีก 20 วินาทีเป็นอันเสร็จ
“น่าทานแบบโอเว่อร์มาก กลิ่นหอมที่เด่นชัดของเครื่องปรุงชนิดต่างๆ ที่ขาดไม่ได้เลยคือกลิ่นของใบกะเพราส่งกลิ่นหอมเอามากๆ ......... จะทานแล้วนะครับ” สินตักแบ่งข้าวและกับให้สมส่วน ก่อนจะนำมันเข้าปาก
“อ่า...นี่มันอะไรกานนนน ใช่อาหารที่เราทำแน่เหรอวะเนี้ย” เขาสบทออกมาหลังจากที่เขาได้ลองทานมันเพียงคำเดียวเท่านั้น รสชาติที่เผ็ดจัดจ้าน และยังมีรสชาติเผ็ดแฝงของพริกไทยป่น แต่มันกับไม่เผ็ดจนเกินไป มันยังมีซีอิ๊วดำกับน้ำตาลมาช่วยตัดรสอีกด้วย
ส่วนที่ทำให้มันกลมกล่อมไปอีกระดับหนึ่ง คือรสชาติของน้ำปลาที่มันทำหน้าที่ผสมผสานรสชาติได้อย่างลงตัว มันอร่อยชนิดที่ว่าตั้งแต่เขาเกิดมายังไม่เคยกินอะไรอร่อยขนาดนี้มาก่อน
“แต่มันจะอร่อยพอขายได้หรือเปล่านะ.. จริงซิ.. เรามีหนังสือศาสตร์แห่งการชิม ลองอ่านมันดู และลองให้คะแนนสำหรับอาหารจานนี้ดูดีกว่า” เขารีบค้นหาหนังสือที่ว่าทันที และทันทีที่เขาตั้งใจจะอ่านก็มีเสียงเหมือนเมื่อตอนเช้าดังขึ้น
“ท่านต้องการเรียนรู้ตำราศาสตร์แห่งการชิม ใช่หรือไม่”
“ใช่.....โอ้ย!!... ลืมไป.. ปวดหัวเว้ย...” เวลา 3 นาทีผ่านไปอย่างรวดเร็ว ความเจ็บปวดที่ได้รับมันก็ค่อยๆลดลง และจางหายไปในที่สุด
“ต้องระวังการอ่านหนังสือให้มากกว่านี้ โดยเฉลี่ยแล้วในประเทศของเรามีคนที่อ่านหนังสือ และตายเพราะมัน เฉลี่ยคือศูนย์เปอร์เซ็นต์” เขาก็ไม่ต้องการ และอยากเป็นคนที่จะไปเปลี่ยนแปลงเปอร์เซ็นต์นั้น
“เอาละ ลองอีกคำล่ะกัน เพื่อความแน่ใจ อืมมม ... ก็อร่อยเหมือนเดิม ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงเลย คุ้มมั้ยเนี้ยกับความเจ็บปวดขนาดนั้นนะ” เขาบ่นกับตัวเองในใจ แต่เสียงในหัวก็พึ่งจะเด้งดังขึ้นแจ้งเตือนมาพอดี
“แจ้งเตือนเมนูกะเพราไก่ไข่ดาวระดับความยาก 2 ดาว ระดับวัตถุดิบ 2 ดาว ความอร่อย 4 ดาว คุณค่าทางอาหาร 4 ดาว”
“แล้วไอ้ระดับดาวเนี่ย มันสูงสุดที่เท่าไหร่กันละ” เขาบ่นออกมา
“ระบบขอแจ้งให้ทราบว่า.. คะแนนดาวในแต่ละหมวดที่ใช้เป็นเกณฑ์การตัดสินนั้น จะเริ่มต้นตั้งแต่ ระดับต่ำเท่ากับ 1 ดาว ระดับพอใช้เท่ากับ 2 ดาว ระดับปานกลางเท่ากับ 3 ดาว ระดับดีเท่ากับ 4 ดาว ระดับดีมากเท่ากับ 5 ดาว ระดับสุดยอดเท่ากับ 6 ดาว ระดับที่ไม่สามารถวัดได้คือระดับที่สามารถเป็นได้ทั้งห่วยมากๆ และตำนานค่ะ”
“แสดงว่าวัตถุดิบที่ใช้มีคุณภาพต่ำซินะ” เขาลองคิดตามเหตุผลที่มันควรจะเป็น ก่อนจะเลิกคิด เพราะเป้าหมายของเขา มันก็แค่ต้องการขายมันให้ออกเพียงเท่านั้น
“เอาล่ะ เราลองทำขายเล่นๆดูดีกว่า เผื่ออาจจะขายได้ขายดี ตอนเช้าก็มีคนมาออกกำลังกายหน้าสวนสาธารณะด้วยซินะ” บ้านของเขาที่อยู่ใกล้กับสวนสาธารณะของชุมชน และดูเหมือนว่าเขาต้องการขายมัน โดยตั้งขายมันที่หน้าบ้านนี่แหละ
“งั้นคงต้องไปตลาดอีกรอบ.. ลองทำหลายๆเมนูออกมาจะดีหรือเปล่านะ” สินตั้งคำถามกับตัวเองเล็กน้อย ก่อนจะเดินทางไปยังตลาดแห่งเดิมในช่วงเวลาบ่ายๆเกือบจะเย็นๆแล้ว เขาจึงจัดแจงรายการที่จะต้องซื้อ ของใช้ต่างๆ วัตถุดิบต่างๆ เพื่อที่จะได้เตรียมเปิดร้านของเขาในวันพรุ่งนี้ตอนเช้า
หลังจากที่เขานำวัตถุดิบของสดไปแช่ในตู้เย็นทั้งหมดแล้ว แล้วเขาจึงว่างไม่มีอะไรทำ
“หรือเราความจะอ่านตำราทั้งหมดเลยดีนะ” เขาถามตัวเองขึ้นอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะตัดสินใจได้ สินก็เริ่มอ่านหนังสือทั้งหมด ทีละเล่มๆ และมันต้องแลกด้วยความเจ็บปวด จนสลบไปจนถึงเวลาเช้าตรู่
เวลา 05.00 นาฬิกา
เช้าแล้วซินะ.. วันนี้คงต้องขยันทำงานอีกเหมือนเดิม” เขาไม่ลืมที่จะให้กำลังใจตัวเองเหมือนทุกๆเช้า ก่อนจะเอ่ยประโยคต่อไป เพื่อวางแผนในสิ่งที่เขาจะต้องทำให้เช้าวันนี้
“เอาล่ะ ผัดกะเพราไก่ไข่ดาว 10 กล่อง พะแนงไก่ไข่ดาว 10 กล่อง ข้าวมันไก่ 10 กล่อง ข้าวมันไก่ทอด 10 กล่อง แกงเขียวหวานไก่ไข่ดาว 10 กล่อง” จากนั้นเขาก็ลุกออกจากเตียงเพื่อทำธุระส่วนตัวในทันที