6
เย็นของวันนั้นชีหนิงพาร่างอ้วนมาที่บ้านของหัวหน้าหมู่บ้านอย่างท่านลุงลู่เจียง
ชีหนิงมองบ้านไม้ที่ร่มรื่นของหัวหน้าหมู่บ้าน หน้าบ้านเต็มไปด้วยสวนบุปผาอย่างเหมยกุยอย่างงดงาม
"ท่านลุงอยู่ไหมเจ้าคะ" เสียงใสตะโกนขึ้นยามนั้นคนในเรือนต่างพากันกินข้าวอยู่
บุรุษร่างหนาพลันสาวเท้าออกจากเรือนสายตามองหน้ารั้วพบว่าเป็นสตรีร่างอ้วนภรรยาของลู่เยียน
"ชีหนิง" ลู่เจียงมองชีหนิงอย่างตกใจ เหตุใดหญิงอ้วนต้องมาบ้านเขาด้วยเล่า เกิดเรื่องอันใดขึ้น หญิงอ้วนนางนี้ไม่เป็นที่คบค้าสมาคมของหมู่บ้านสกุลลู่
เพราะนางมีนิสัยเสียชอบทำร้ายเด็กแฝดยังไม่พอนางยังขี้เกียจสันหลังยาวอีก ได้ยินมาว่าหากลู่เยียนสอบขุนนางได้ เขาอาจจะหย่ากับชีหนิงก็ได้
ลู่เจียงลืมไปเสียสนิทเลยว่าก่อนที่ลู่เยียนจะไปที่เมืองหลวงสอบขุนนางสั่งให้เขาดูแลเจ้าแฝด เขาลืมไปเสียสนิทเลย
"คารวะท่านลุง" หญิงอ้วนยกมือขึ้นคำนับเขาไม่น่าเชื่อคนที่เดินตามหลังลู่เจียงคือภรรยาอย่างนางหงอิงพลันตกใจปกติหญิงอ้วนเคารพใครเสียที่ไหนกันเล่า
"ข้ามีเรื่องจะขอร้องท่านลุงกับท่านป้าเจ้าค่ะ" น้ำเสียงหวานช่างสวนทางกับใบหน้าเสียเหลือเกิน
สองคนผัวเมียพลันสบตากันหญิงอ้วนไม่เคยพูดไพเราะเช่นนี้กับพวกเขา นางเพี้ยนไปแล้วรึ
"เจ้าว่ามาเถอะ" ลู่เจียงพลันได้สติเอ่ยถามชีหนิงว่าต้องการให้เขาช่วยเหลืออันใด
ชีหนิงไม่อ้อมค้อมรีบเอ่ยขึ้นมา "ข้ากับเจ้าแฝดจะเข้าเมืองหลวง ข้าจะไปซื้อชุดให้เจ้าแฝดเจ้าค่ะ อยากจะอาศัยรถเกวียนของท่านลุง" ชีหนิงพลันเอ่ยจบรีบหยิบเงินพวงให้ลู่เจียง
"ข้าไม่เอาหรอก เจ้ามีเมตตากับเจ้าแฝดก็ดีเเล้ว วันพรุ่งยามเช้าเจ้าก็พาสามแฝดมาที่บ้านข้าแล้วกัน" ชีหนิงยิ้มใบหน้าระรื่น
"ขอบคุณท่านลุงมากเจ้าค่ะ" ชีหนิงขอตัวลา สองคนผัวเมียมองร่างอ้วนเดินไปทางบ้านของนาง
"ขนลุกจริงๆ" หงอิงเอ่ยขึ้นในตอนเดินเข้ามาในบ้าน
"นางเป็นคนดีก็ดีแล้ว เวทนาพวกเด็กๆ มีบิดาอย่างลู่เย่ก็ไร้ประโยชน์รักแต่เมียอีกคนจนลืมสนใจลูก" ลู่เจียงกับลู่เย่เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน
สามแฝดนอนตื่นแล้วสายตามองไปนอกหน้าต่างเห็นพี่สะใภ้คนอ้วนเก็บผักกาดขาวที่กำลังออกดอกออกผลอย่างงดงาม
"พี่รองคิดว่าพี่สะใภ้จะพาพวกเราไปเที่ยวในเมืองรึไม่" เสี่ยวเอยเท้าคางเอ่ยถามแฝดพี่
"ข้าว่านางไม่โกหกเราหรอกนะ ดูจากความจริงใจที่นางมีต่อให้พวกเรา ข้าเห็นสายตาของนางมองท่านแม่กับพี่ลู่หยี ข้าว่านางคงจะรักและอยากปกป้องพวกเราจริงๆ" เสี่ยวอิงเป็นคนเอ่ยขึ้น
เสี่ยวต้าพลันลูบจมูกน้อยๆ ของตนเองเมื่อกี้นางยังเก็บผักอยู่เลยหายไปไหนเสียแล้ว
"กลิ่นหอมจัง" เสี่ยวเอยพลันเอ่ยขึ้น
"ข้ารู้สึกหิวแล้ว" เสี่ยวต้า
"ข้าด้วย" เสี่ยวทำจมูกฟุดฟิด
ชีหนิงผัดผักกาดขาวใส่ไข่ให้สามแฝดจัดใส่ชามเรียบร้อยอีกทั้งยังมีไข่เจียวหอมๆ
"พี่สะใภ้" ชีหนิงวางตะหลิวในกระทะหันไปมองสามแฝดจับขอบประตูพลันเห็นแต่หัวผักกาดน้อยๆ สามหัวโผล่ออกมาช่างน่ารักเสียจริงๆ
"ข้าทำอาหารหุงข้าวเสร็จพอดีกำลังจะไปเรียกพวกเจ้า"
ชีหนิงใบหน้าอ้วนเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อพลันยิ้มหวานให้พวกเด็กๆ ทั้งสามคน
สามแฝดเชื่อฟังนางอย่างว่าง่ายชีหนิงยกถาดอาหารสามแฝดช่วยนางยกชามข้าว มากินในห้องของนาลที่มีโต๊ะกลมกับตั่งเตี้ย
เสี่ยวต้าอดใจรอไม่ไหวคีบตะเกียบ
"โอ๊ย!!!" ชีหนิงใช้ตะเกียบตีมือน้อยๆ ของเขาทำให้เด็กหญิงแฝดอีกสองคนมองการกระทำชีหนิงด้วยความตกใจ
"ก่อนกินข้าวทุกครั้งพวกเจ้าทั้งสามต้องรักษาความสะอาดโดยการล้างมือเสียก่อนเพราะไม่รู้ว่ามือน้อยๆ ของพวกเจ้ามีเชื้อโรครึไม่ อาจทำให้ป่วยได้" ชีหนิงเอ่ยขึ้นด้วยความเป็นห่วง
"แต่พวกเราใช้ตะเกียบคีบอาหารนี่นา" เสี่ยวต้าแย้งขึ้นมา
"ใช้ตะเกียบก็ช่างถึงอย่างไรพวกเจ้าต้องไปล้างมือจับตะเกียบ พี่สะใภ้เป็นห่วงสุขภาพพวกเจ้านะ"
"ขอรับ/เจ้าค่ะ" เจ้าหัวผักกาดทั้งสามยอมเชื่อฟังนางแต่โดยดีโดยการไปล้างมือแล้วค่อยมากินข้าว
นับแต่ชีหนิงฟื้นขึ้นมาเป็นคนละคนนิสัยนางก็เปลี่ยนไปอีกทั้งทำอาหารอร่อยด้วย ชีหนิงไม่กินอาหารพวกนี้นางมองสามแฝดกินอิ่มนางก็มีความสุขแล้ว
"อร่อยมากพี่สะใภ้" เสี่ยวอิงยิ้มจนเห็นฟันหลอ
"ข้าชอบมาก" เสี่ยวต้ากับเสี่ยวเอยเอ่ยพร้อมกัน
"พวกเจ้ารอเดี๋ยวข้าไปเอาผลไม้มาให้" เจ้าหัวผักกาดทั้งสามมองพี่สะใภ้เดินออกไปแล้วมุ่งหน้าไปที่ห้องครัว
ชีหนิงมาที่ห้องครัวนางจับกำไลสีดำชั่วพริบตาเดียวนางหายเข้าไปในกำไลสีดำ ไม่นานนักนางออกมาพร้อมกับส้มสามผล
"พี่สะใภ้มาแล้ว" เสี่ยวเอยเอ่ยขึ้นด้วยดวงตาทีาแพรวพราวมองส้มสีทองสามผลในถาด
"พวกเจ้ากอนคนละลูกแล้วกัน" ชีหนิงนั่งที่ตั้งเตี้ยสามแฝดหยิบส้มคนละลูกขึ้นมา เสี่ยวอิงกำลังจะปลอกส้มแต่ทว่านางวางไว้ในถาดชีหนิงมองเด็กน้อยคนนี้
เหตุใดจึงไม่กินส้ม!!!
"พี่สะใภ้ข้าเช็ดหน้าให้ท่าน" เสี่ยวอิงหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาจากสาบเสื้อแล้วเช็ดให้ชีหนิง แฝดพี่ทั้งสองคนมองด้วยความรัก ชีหนิงยิ้มหวานอย่างมีความสุข
"พี่สะใภ้คนนี้จะปลอกส้มให้พวกเจ้า"