#บทที่ 2 เซอไพร้ซ์ไม่พัก ได้ชีวิตใหม่ ได้ลูกมา 1 แถมฟรีผัวอีก 1 คน?
ร่างที่เธอฟื้นขึ้นมามีชื่อว่า ซุนอ้ายเหนียงอายุ22 ปี เธอแต่งงานกับไป๋ต้า ตอนอายุ 18 ปี มีลูกสาวด้วยกันหนึ่งคนชื่อ ไป๋เป้ยเป้ย อายุ 3 ขวบซึ่งก็คือเด็กหญิงตัวกลมที่เธอพบตอนฟื้นมาในร่างของซุนอ้ายเหนียงนั่นเอง
ส่วนสาเหตุที่ทำให้ซุนอ้ายเหนียงได้รับบาดเจ็บจนถึงแก่เสียชีวิตนั้น
ตัวต้นเหตุก็คือ ไป๋ต้า สามีของเธอนั่นแหละ
สองสามีภรรยาทะเลาะทุ่มเถียงกัน ไป๋ต้าที่มีอาการมึนเมากลับมาที่ห้องพักฝั่งเรือนตัวเองซึ่งอยู่คนละปีกของลานบ้านอีกฝั่งหนึ่งแม่สามีของซุนอ้ายเหนียงและน้องๆของไป๋ต้าพักอยู่
ไป๋ต้ากลับจากทำงานในตัวอำเภอคงแวะดื่มเหล้าดองยากับเพื่อนหรือกับญาติบ้านไหนซักหลังจนมืดค่ำถึงย่างเท้ากลับเข้าบ้านตัวเอง
ฝ่ายภรรยาที่เหนื่อยจากการลงงานในแปลงนาใหญ่ของคอมมูนประจำหมู่บ้าน กลับมาก็หุงหาอาหารจนพาลูกสาวอาบน้ำเข้านอนไปแล้ว สามีก็ยังกลับไม่ถึงบ้าน
ไหนจะต้องทนฟังคำกระแนะกระแหนคำเหน็บแนมจากแม่สามีเช้า-เย็น เหนื่อยทั้งกายเหนื่อยทั้งใจ เห็นสามีเข้าบ้านจนมืดขนาดนี้
ซุนอ้ายเหนียงนั่งรอสามีจนค่ำข้าวปลาก็ยังไม่ได้กินสักคำรอทานพร้อมกับสามีเพราะมีเรื่องจะปรึกษาจะพูดคุย เจอไป๋ต้าเดินเซเข้าบ้านมา
ซุนอ้ายเหนียงลมออกหูทั้งหิวทั้งโมโหจึงตะเบ็งเสียงด่าไป๋ต้าอย่างรุนแรงไป๋ต้ารู้สึกอับอายเพราะถูกด่าเสียงดัง
ปกติซุนอ้ายเหนียงขึ้นชื่อว่าเป็นภรรยาที่สงบเสงี่ยมเก็บปากเก็บคำไม่เคยขึ้นเสียงกับสามีให้คนนอกได้ยินเลย พอถูกภรรยาด่าทอเสียงดัง
ไป๋ต้าจึงรู้สึกเสียหน้ามากเพราะคิดว่าแม่และบรรดาน้องๆที่อยู่อีกปีกหนึ่งของลานบ้านต้องได้ยินแน่ๆ ไหนจะบรรดาเพื่อนบ้านที่อยู่ละแวกใกล้เคียงกัน
พอซุนอ้ายเหนียงเข้ามาดึงทึ้งสามีด้วยความโมโห ไป๋ต้าเลยสะบัดตัวออกและเหวี่ยงภรรยาไปด้านหลัง และด้วยความมึนเมาไป๋ต้าไม่ได้ฉุกคิดเลยว่า
แรงเหวี่ยงนั้นมันแรงแค่ไหนผลักซุนอ้ายเหนียงพ้นตัวได้ไป๋ต้าก็หันหลังกลับเดินออกไปจากเรือนพักของตัวเอง มุ่งหน้าไปทางเรือนพักของแม่กะว่าจะไปทานอาหารและขอนอนกับน้องชายสักคืน
ไป๋ต้าเดินจากไปโดยไม่ได้หันหลังกลับมาดูเลยว่าซุนอ้ายเหนียงจะได้รับบาดเจ็บหรือเปล่า
แน่นอนว่า เจ็บ!จากการล้มลงหัวไปฟาดเอากับเหลี่ยมโต๊ะกินข้าวพอดีราวกับผีผลัก แล้วซุนอ้ายเหนียงก็ล้มลงไปเลือดไหลอาบพื้นและไม่ฟื้นขึ้นมาอีกเลย…
และไป๋ต้าเองก็ไม่ได้กลับเข้าเรือนพักมาอีกตลอดทั้งคืนจึงไม่ได้รับรู้เลยภรรยาตัวเองได้เสียชีวิตไปแล้ว…
ช้องนางที่เห็นภาพเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นในหัวก็ได้แต่ร้องสบถออกมา
"ไอ้ผัวเวร!ไอ้ผัวเฮงซวยยย!!"
ช้องนางมาฟื้นในร่างของซุนอ้ายเหนียงในเวลาใกล้เช้าแล้ว ลูกสาวของเธอที่ถูกแม่พาเข้านอนตั้งแต่หัวค่ำก็ตื่นขึ้นมาเดินเตาะแตะตามหาแม่ตามกิจวัตรในทุกเช้าถึงได้มาพบร่างแม่นอนอยู่กับพื้น เด็กหญิงตัวกลมก็ได้แต่คิดอย่างมึนงงว่า
'เอ๊ะ…หรือว่าหม่าม้าจะง่วงมากจนทนไม่ไหวจึงนอนอยู่ที่พื้นนี่เลย หรือที่พื้นบ้านนี่จะนอนอุ่นสบายกว่าฟูกที่อยู่บนเตียงเตากันนะ?'
เป้ยเป้ยตัวน้อยเห็นว่าหม่าม้าไม่ตื่นสักทีจึงร้องเรียกและพยายามปลุกแม่ของเธอ
เพราะโดยปกติแล้วซุนอ้ายเหนียงจะลุกมาเตรียมหุงหาอาหารให้ลูกและสามีของเธอได้ทานแต่เช้า สามีทานเสร็จจะปั่นจักรยานไปทำงานในอำเภอ
ส่วนเธอก็จะเอาลูกไปฝากไว้กับแม่สามีให้เล่นอยู่เรือนฝั่งนู้น พอช่วงพักเที่ยงพักงานเธอก็จะเดินกลับมาทานอาหารเที่ยงกับลูกสาวที่บ้านทำแบบนี้ทุกวัน
ซุนอ้ายเหนียงไม่เคยปล่อยให้ลูกสาวต้องอดหรือหิ้วท้องรอกินข้าวนานเลยสักครั้ง
ก่อนจะเล่าย้อนไปถึงปัญหาที่สั่งสมมาจนเป็นสาเหตุให้สามีภรรยาทะเลาะกัน ตอนนี้ช้องนางต้องแก้ปัญหาปากท้องของเด็กหญิงเป้ยเป้ยตัวกลมนี่ซะก่อน
ช้องนางลองขยับร่างกายลุกขึ้นดู โอเค ลุกได้ เดินได้ ไม่มีส่วนไหนหักถึงแม้จะมีอาการมึนๆหัวจากการเสียเลือดมากอยู่บ้าง
เอาล่ะ เข้ามาอยู่ในร่างเขามันก็ต้องทำหน้าที่แม่ดูแลลูกเขาให้ดีจริงไหม?
จากความทรงจำที่ปรากฏในหัวช้องนางรู้ว่าซุนอ้ายเหนียงรักลูกสาวของเธอมาก ไม่มีสักวันที่เธอจะละเลย ซุนอ้ายเหนียงใส่ใจเรื่องอาหารการกิน ความสะอาดสุขอนามัยของร่างกายของลูกสาวเป็นอย่างดี
เอาล่ะ แกต้องทำได้ช้องนาง เริ่มการแสดงโคฟเป็นแม่ 5… 4… 3… 2… 1
"เป้ยเป้ยคนเก่ง หยุดร้องนะลูกนะ… หม่าม้าขอโทษนะลูก หม่าม้าแค่ไม่สบายหม่าม้าก็เลยหลงๆลืมๆนะลูก ตอนนี้หม่าม้าหายแล้ว เป้ยเป้ยหิวแล้วใช่ไหมคะ?
เดี๋ยวม้าไปล้างหน้าก่อนนะแล้วม้าจะทำของอร่อยให้หนูทาน ดีไหมคะลูก? ฮึบลูกฮึบ ไม่ร้องนะคนเก่ง"
เสียง 3 เสียง 4 เสียง 7 เสียง 8 ขุดออกมาให้หมดยัยช้องนาง