6
ฮูหยินผู้เฒ่าซ่ง ไม่ใช่คนคิดร้ายกับใครมันคือเป็นเรื่องจริง แต่สิ่งที่นางเข้มงวด และมักทำให้เกิดเรื่องหมางใจกับลูกชายคือ นางรักศักดิ์ศรี เรื่องไหนที่เชื่อว่าตนถูก นางก็จะยอมหักไม่ยอมงอ
อีกทั้งไม่อาจเสียหน้าต่อผู้ใด อย่างที่เคยกล่าว สตรีนางนี้เป็นฮูหยินของอดีตเจ้าเมือง เมื่อเขาตายนางกับลูกๆ จึงย้ายมาอยู่ที่เมืองฉิน ซึ่งนางเลือกจะอาศัยอยู่กับซ่งเฟิงหัว ลูกชายที่มีน้ำใจมากกว่าผู้ใด อีกทั้งเขาไม่มีภรรยามาให้ขวางหูขวางตาหญิงสูงวัย เพราะพวกนางล้วนไปเฝ้าเง็กเซียนฮ่องเต้กันหมดแล้ว
ที่เป็นเช่นนั้น ก็ต้องยอมรับว่า ซ่งเฟิงหัวมีดวงกินเมีย
สิ่งนี้เป็นข่าวซุบซิบซึ่งทำให้นางกลุ้มใจเสมอมา และพอมารดาของซ่งโม่โฉวตายหลังจากคลอดเขาได้ไม่ถึงสองปี ลูกชายคนที่สามได้เอ่ยปากว่า เขาจะอยู่เป็นพ่อม่ายเลี้ยงลูก และเขาทำได้ไม่นาน กระทั่งจู่ๆ วันนี้ก็คว้าสตรีไร้หัวนอนปลายเท้าเข้าเรือน
ถึงอย่างนั้น การเป็นพ่อม่ายของซ่งเฟิงหัว กลับสร้างความน่าปวดหัวยิ่งกว่า โรงหมอของเขามีคนไข้แวะเวียนมามิขาด ที่มาบ่อยไม่ขาดสายเห็นจะเป็นเหล่าสตรีซึ่งอยากชมใบหน้าหล่อเหลาของซ่งเฟิงหวง และพวกนางมักทอดสะพานเต็มที่ เรียกว่าไร้ยางอายคงไม่ผิด หญิงสาวเหล่านี้ใจกล้าหน้าด้าน ที่สำคัญกลับไม่กลัวว่าตนจะชะตาขาดเมื่อต้องใกล้ชิดหมอหนุ่มแห่งเมืองฉิน ทั้งที่เขามีดวงกินเมีย
“พวกนางมาพร้อมแล้วหรือ” เสวียนจิ้งถามสาวใช้
ฝ่ายไห่หลงมองซ้ายแลขวา ก่อนตอบว่า
“ครบทั้งสามคนเจ้าค่ะ แต่หนึ่งคนไปแวะเอาของไปเรือนหน้า ส่วนอีกสองคนคาดว่าไม่นานคงตบตีกันที่โรงตรวจคนไข้”
“เจ้าบอกพวกนางให้เข้าใจ สิ่งที่ข้าต้องการเรียบร้อยดีใช่หรือไม่”
ไห่หลิงพยักหน้ารับ และตอบนางสิงห์เฒ่า
“ไม่มีตกหล่นสักคำเจ้าค่ะ อีกอย่างพวกนาง ทราบข่าวเรื่องผู้หญิงที่อยู่ในเรือนหน้าแล้วด้วย แถมยังบอกว่า คนอัปลักษณ์หน้ามีแผล อย่างไรก็ไม่งามเท่าพวกนาง”
เสวียนจิ้งได้ฟังก็อยากหัวเราะเสียงดังๆ ผิดแต่ นางกลัวว่าทำสิ่งน่าเกลียดเกินไป
“สตรีแสนจุ้นจ้าน บอกเจ้าเยี่ยงนั้นหรือ”
“เจ้าค่ะ แต่ตามความคิดเห็นข้า แม่นางรุ่ย หากมองข้ามแผลที่แก้มนาง ต้องยอมรับว่า เป็นผู้ที่มีรูปโฉม ไม่เลวเลยจริงๆ โดยเฉพาะดวงตากลมโต ริมฝีปากอิ่มสวย ข้าเชื่อว่าบุรุษใดได้สบตานางย่อมหลงรักได้ในทันที”
“อืม อย่างน้อยหัวเอ๋อร์ ก็ยังไม่คว้าคนอัปลักษณ์จริงๆ เข้าเรือน ถึงอย่างนั้นข้ากลับไม่สบายใจ จนต้องยอมกลืนน้ำลายตน เรียกสตรีทั้งสามคนมาที่เรือนในคืนนี้!”
ซึ่งแผนของเสวียนจิ้งคือ ให้เหล่าสาวๆ ที่อยากเป็นลูกสะใภ้สามมาสร้างความปั่นป่วนจนหรันอันเจียวไม่อาจอยู่ที่นี่ได้นั่นเอง
“ตอนนี้ ก็มาลุ้นผลกันนะเจ้าคะว่าแม่นางถง (ถงนึ่ง) จะใช้วิธีสกปรกอันไหน เล่นงานสตรี ชั้นต่ำหวังปีนเตียงท่านหมอหัว”
เมื่อไห่หลิงกล่าวด้วยน้ำเสียงเกลียดชังอย่างปิดบังไม่มิด เสวียนจิ้งจึงตำหนิทันที
“ข้าสั่งให้เจ้าบอกพวกนางทั้งสาม เพียงแค่ทำให้โสเภณีข้างถนนอับอายเล็กๆ น้อยๆ จนหอบเสื้อผ้าหนีไปจากเรือนเงียบๆ มิใช่ก่อเรื่องใหญ่โต อีกอย่างข้าด่าแม่นางรุ่ยได้คนเดียว ส่วนเจ้าเป็นบ่าว อย่าได้ทำเกินหน้าที่ ห้ามไปซ้ำเติมผู้อื่น”
ไห่หลงอึ้งไปในตอนนั้น ก่อนถามเสวียนจิ้งกลับ
“ข้าแค่คันไม้ คันมือ เห็นนางอวดเก่งหลายอย่าง โดยเฉพาะจะทำอาหารมื้อเย็นนี้ เลยเผลอหลุดปาก”
“ฮึ! เช่นนั้นจงรีบไปสมทบ แม่นางถง... คอยสืบข่าวมาว่า ครัวในเรือนหน้าเกิดเรื่องใดบ้าง”
ไห่หลงได้รับคำสั่งแล้ว จึงยอบตัวจากเสวียนจิ้ง รีบตรงไปยังจุดหมายทันที
หรันอันเจียวทำให้ดีสู้เสืออย่างที่สุด แม่นางผู้มาเคาะประตูเรือนหน้าคือถงนึ่ง ซึ่งแนะนำตัวอย่างเร็วไวว่าตน เป็นเถ้าแก่ร้านขายของชำ ร้านของนางมีข้าวของมากมาย อีกอย่างซ่งเฟิงหัวชอบแวะเวียนไปซื้อเป็นประจำ บางครั้งยังให้นางมาช่วยทำอาหารเย็นที่ครัวแห่งนี้
ฝ่ายซ่งโม่โฉวมองถงนึ่ง เขาขยับปากคล้ายอยากกล่าวบางสิ่ง แต่ฝ่ายนั้นยื่นลูกอมรสหวานกับเปรี้ยวมาให้เขาเสียก่อน
“ของเพิ่งส่งมาจากเมืองหลวง เด็กๆ ในเมืองฉิน ต่างตื่นเต้นใหญ่ รสหวานนี่ราคาตั้งชิ้นละ 4 อีแปะ ส่วนรสเปรี้ยว... ถูกกว่า อร่อยเหมือนๆ กัน โฉวเกอไม่อยากลองชิมหรือ”
เด็กชายรับลูกอมมา แล้วแกะมันออก พอส่งรสหวานเข้าปาก เสียงร้องถูกใจก็ดังขึ้น
“อร่อยเหาะ... ป้านึ่ง ช่างยอดเยี่ยม”
ถงนึ่งยกมือขึ้นทาบหน้าอกอวบๆ ของตนทันที นางสมควรเป็นป้าของเขาตั้งแต่เมื่อใด อายุนางใกล้เคียงซ่งเฟิงหัว ไม่ได้แก่กว่าเขาสักหน่อย เพียงแต่เคยผ่านการหย่าร้างมาแล้ว ส่วนตอนนี้หัวใจนางอยู่กับหมอหนุ่ม
“เรียกเจี่ยนึ่ง*ดีกว่าไหม (พี่สาวนึ่ง) และอีกไม่นาน ค่อยเรียกว่า ท่าน...มะ..มะ...”
ไม่ทันที่ถงนึ่งจะสอนให้เด็กชายเรียกตนว่า ‘ท่านแม่’ อีกฝ่ายกลับคายลูกผมที่อยู่ในปากทิ้ง แล้วหันไปบอกหรันอันเจียว
“แม่รุ่ยขอรับ... ลูกอมหวานไป โฉวเกอกลัวปวดฟัน”
เขาบอกจบ ก็เข้าไปสนใจสิ่งที่หญิงสาวกำลังจะทำ คือการทอดมันฝรั่งที่หั่นเป็นลูกเต๋าขนาดเท่าๆ กัน ซึ่งคลุกแป้งเอาไว้เตรียมลงกระทะที่มีน้ำมันร้อนอย่างพอเหมาะ
“โฉวเกอ เหตุใดเรียกแม่นางรุ่ยเช่นนั้น” ถงนึ่งถามเสียงดังเชียวล่ะ
“ก็เพราะข้ากับท่านพ่อ ตกลงกันไว้เช่นนี้ขอรับป้านึ่ง คือให้นางเป็นท่านแม่ข้า”
ยามนั้นถงนึ่งอ้าปากค้าง และหากมีแมลงวันสักตัวบินผ่าน มันคงเข้าไปวางไข่ด้านในอย่างแน่นอน!