5
หรันอันเจียวได้รับความสนใจจากเด็กชายตัวอวบ เขาตามติดนางแจ คอยถามว่า นางอยากทำอะไรให้เขากินดี
ซึ่งเกือบหนึ่งสองปีเต็มๆ ที่หรันอันเจียวไม่ได้กินอาหารที่ดี และถึงได้เข้าครัวบ้าง หากสิ่งที่ทำก็ไม่พ้นโจ๊ก มันนึ่ง เผือกเผา ให้ดีหน่อยช่วงไหนได้แป้งขาวมานางก็ทำบะหมี่กินพอให้ท้องไส้ได้ลิ้มรสชาติอาหารคุ้นเคย พวกเนื้อสัตว์ต่างๆ นางแทบไม่ได้ลิ้มรส ยกเว้นว่าจะหาได้จากป่า จำพวกกระต่าย ไก่ป่า หรือนกตัวเล็กๆ ยามนี้ ดวงตากลมโตสำหรับวัตถุดิบในครัว และนางรู้สึกตื่นเต้น เหนืออื่นใด สิ่งที่นางถามซ่งเฟิงหัว ซึ่งฝ่ายนั้นให้คำตอบอย่างที่นางต้องการ
“ข้าพอจะทำอาหารได้ จึงอยากถามหัวเกอว่า อนุญาตให้ข้าช่วยเรื่องนี้หรือไม่”
ชายหนุ่มอมยิ้มในสีหน้า ตอนที่เขาซื้อซาลาเปาไส้ปลาเค็มให้นางกิน เห็นว่า สตรีคนนี้ แยกส่วนผสมพื้นฐานได้ ทั้งนางยังมีลิ้นรับรสชาติได้เยี่ยมยอด จมูกนางไวต่อกลิ่น เช่นนี้เขาจึงรู้สึกว่า การให้นางอยู่ในเรือนคงเป็นสิ่งที่ดีมากกว่าจะสร้างปัญหา สตรีคนหนึ่งฉายความฉลาดให้เห็น และลูกชายเขาก็ชอบนางมิน้อย
“ได้สิ แต่ต้องไม่สร้างปัญหา หรือทำให้คนในบ้านป่วย อย่าลืมว่าข้าดูแลคนไข้เยอะแล้ว ดังนั้นอารุ่ย คงไม่เพิ่มปัญหาเรื่องนี้อีก” ทั้งคำพูดเขา และการแสดงออกอย่างให้เกียรติ หรันอันเจียวจึงต้องยกมือคำนับอีกฝ่าย
“หัวเกอ น่านับถือยิ่ง” นางบอกเขาอย่างจริงใจ
“เสียดายข้าไม่บ้ายอ เอาล่ะ ในครัวพอจะมีของให้เจ้าแสดงฝีมืออยู่บ้าง หากขาดเหลือสิ่งใด จงจดรายการไว้ และข้าจะให้คนไปจัดหามาให้”
หรันอันเจียวยิ้มให้เขา ก่อนสารภาพว่า
“ขะ ข้าพออ่านได้เล็กน้อย แต่เขียนสิ่งใด ยังไม่คล่องนัก”
“อย่ากังวล ลูกหยานเขียนอักษรเป็นตั้งแต่อายุสามขวบ ให้นางช่วยเจ้าเรื่องนี้เถิด” ยามนี้ซ่งซินหยานไม่ได้อยู่ในครัว นางไม่ยอมกลับเรือนของตนนับแต่มาถึงที่นี่ และเกาะอยู่กับฮูหยินผู้เฒ่า ซึ่งยามนี้กำลังเรียกระดมพล
หรันอันเจียวย่อมรู้ว่า เด็กหญิงไม่ชอบนาง ทว่าไม่ได้เอ่ยขัดคนตัวโต ด้วยก่อนหน้านี้ คนงานในเรือนตรวจโรคที่อยู่ฝั่งทิศตะวันออกของเรือนซ่ง มาบอกว่ามีคนไข้มาซื้อยา และต้องการให้ตรวจอาการต่างๆ หลายคน
“อาหารที่เจ้าจะทำ ให้เน้นกินง่าย ย่อยง่าย สำหรับเด็กทั้งสอง ส่วนของข้าขอสิ่งที่สบายท้อง อ่อ... ก่อนถึงมื้อค่ำ หาของกินเล่นให้ลูกโฉวด้วย ฟันเขากำลังขึ้นใหม่ อย่าให้กัดของที่แข็งนัก และไม่ต้องหวานเกินไป”
ซ่งเฟิงหัวบอกนาง และเด็กชายยิ้มกว้างพร้อมเอ่ยเสริม
“กรอบๆ โฉวเกออยากกินของกรอบ ท่านแม่รุ่ย ทำได้หรือไม่ขอรับ”
หญิงสาวยกมือขึ้น ส่งสัญญาณเพื่อให้ซ่งโม่โฉวเอามือมาแปะฝ่ามือนาง
คนตัวอวบแก้มย้อมมองหญิงสาว และทำหน้าไม่เข้าใจ
“มันคือการยอมรับข้อตกลงของอีกฝ่าย เป็นการทักทายก็ได้ และแม่ยอมรับข้อเสนอของโฉวเกอ ทำของกินเล่นกรอบๆ แสนอร่อย”
เมื่อเข้าใจเช่นนั้น เขาจึงเอามือเล็กๆ มาแปะมือนาง จากการออกแรงน้อยๆ ก็เป็นการตีที่แรงขึ้น จนเรียกเสียงหัวเราะสนุกสนานทีเดียว
ซึ่งก่อนออกจากห้องครัว ซ่งเฟิงหัวได้ยกฝ่ามือใหญ่ๆ ของตนขึ้นบ้าง เด็กชายเลยกระโดดตัวสูง อยากแปะมือกับคนเป็นพ่อ
“มาๆ ๆ เร้ว ท่านพ่อ มาตกลงกับโฉวเกอ”
“ใจเย็นลูกโฉว พ่อกำลังจะทำข้อตกลงเป็นสัญญาใจกับอารุ่ยต่างหาก”
หรันอันเจียวสนใจชายหนุ่มในทันที และดูไปดูมา เขาทั้งฉลาด มีไหวพริบ แอบใช้สายตาซุกซนกับนางอยู่บ่อยครั้งเสียด้วย เรื่องนี้นางไม่ได้คิดเข้าข้างตัวเองอย่างแน่นอน
“เอ หัวเกอ อยากให้ข้าแปะมือด้วย สำหรับเรื่องอันใดเจ้าคะ”
“เมื่อเข้ามาอยู่ในเรือนหลังนี้ ต้องเป็นตัวอย่างที่ดีของเด็กๆ และเชื่อฟังข้า นอกจากนั้น เราจะไม่มีความลับต่อกัน อยากที่ข้าเคยตอบคำถามเจ้า ความจน ความรัก และความจริง มนุษย์ย่อมปิดบังไม่ได้”
ไม่รู้เหตุใดหรันอันเจียวถึงได้หน้าแดงระเรื่อ และเป็นตอนนั้นที่นางรีบแปะมือกับคนตัวโตเพื่อลดความขัดเขิน ห้วงเวลาดังกล่าว นางอาจคิดเลื่อนเปื้อนไปคนเดียวก็ได้ ทว่าสัมผัสที่รับรู้ รุนแรงเหลือเกิน จนหรันอันเจียวสะดุ้งโหยง รีบดึงมือกลับแทบไม่ทัน
“ท่านแม่เกิดสิ่งใดหรือขอรับ ท่านพ่อแกล้งหรือไม่ ทำไมตัวสั่น!”
หรันอันเจียวหลบทั้งสายตาคนเป็นพ่อ และเด็กชาย ก่อนเฉไฉไปเรื่องอื่น
“นี่ก็ใกล้ฟ้ามืดแล้ว ขะ ข้าต้องไปเข้าครัว ขอตัวก่อนนะหัวเกอ”
ฝ่ายเขายกมือขึ้นขยี้ผมเส้นเล็กบนศีรษะตน ท่าทางคงประหม่าอย่างเห็นได้ชัด
เนื่องจากเมื่อครู่คล้ายมีพลังงานบางอย่างที่พุ่งตรงผ่านฝ่ามือ แล้วจู่โจมหัวใจอย่างรวดเร็ว
เรื่องเช่นนี้ ไม่เคยเกิดกับเขามาก่อน !
“ลูกโฉว ดูอารุ่ยให้ดี อย่าให้นางใช้ของสิ้นเปลืองจนเกินเหตุ อีกอย่าง อาหารที่ขึ้นโต๊ะ ต้องอร่อย ถูกปากเราทุกคน”
เด็กชายพยักหน้ารับ แต่มิวายถามด้วยความอยากรู้ว่า
“ท่านพ่อ... เมื่อครู่ตอนแปะมือกับแม่รุ่ย... ท่านรู้สึกเหมือนถูกสายฟ้าฝาดหรือขอรับ เหตุใดหน้าซีด ปากเป็นสีคล้ำ และยังเหงื่อแตกเต็มหน้าผาก!”
ยอดอัจฉริยะน้อยเอ่ย และทั้งหมดนี้เคยเกิดกับเขา ในตอนที่ขโมยหอมแก้มแม่นางน้อยผู้หนึ่งเมื่อต้นปี
คำถามดังกล่าว ทำให้ผู้ใหญ่ทั้งสองคน ต่างแยกย้ายไปทำหน้าที่ของตนอย่างรวดเร็ว