ใจคอ
อิงฮวาขยับตัวถอยหนีมือใหญ่ที่สอดลึกลงไปในกลีบบุปฝารัดแน่นจนรู้สึกเจ็บเมื่อถูกรุกล้ำหนักหน่วงนิ้วยาวขยับขึ้นลง คนอะไรไม่ออมมือบ้างเลยหรือไร ริมฝีปากก็บดขยี้จนแทบแหลกละเอียด รู้สึกเจ็บจนแทบทนไม่ไหว เพียงครู่เดียวที่พายุอารมณ์โถมเข้าใส่กลับแปรเปลี่ยนเป็น ลมโชยแผ่วๆอกอูมถูกลิ้นสากเลียวนอ่อนโยนคราวนี้กลายเป็นอิงฮวาที่ บิดกายถอยหนีอย่างเสียวซ่าน มืออุ่นลูบไล้หน้าท้องอย่างอ่อนโยนสิ้นสุดการรุกล้ำเพียงแค่นั้นก่อนที่ร่างใหญ่ จะผุดลุกขึ้นโยนผ้าห่มคลุมกายเกือบเปลือยของอิงฮวาที่ได้แต่งงงงันว่าทำไมเขาถึงหยุดทุกอย่างไว้เพียงแค่นั้น ทั้งๆที่อิงฮวากำลังคล้อยตามเขาโอนอ่อนตามสัมผัสอ่อนโยนนั้นหรือว่าตั้งใจจะแกล้งอิงอวากันแน่
“พรุ่งนี้และวันอื่นๆ ยังมีเวลาอีกมากคืนนี้เจ้านอนเสียข้าจะค่อยๆ สอนเจ้าให้รู้ว่าต้องปรนนิบัติข้าเช่นไร”
อิงฮวาดึงผ้าห่มมาคลุมกาย รู้สึกใบหน้าร้อนผะผ่าว ด้วยความโมโหและเขินอาย เขาเห็นอิงฮวาเป็นเพียงหญิงที่ไว้สำหรับปรนเปรอความสุขเช่นนั้นหรือ
ร่างใหญ่ ลุกขึ้นจากแท่นนอน ก่อนจะหันกลับมากระชากร่างเล็กของอิงฮวาที่ยังไม่ทันจะสวมอาภรณ์ให้มิดชิดอกนุ่ม สัมผัสหน้าอกแน่นด้วยมัดกล้ามของเขา ใบหน้าที่ไม่อาจมองเห็นโน้มตัวลง ขบกัดปลายประทุมถันที่ชูชันน่าขบกัดลิ้นสากวนรอบอีกครั้งก่อนจะขบเบาๆ แต่อิงฮวาก็ไม่วายรู้สึกเจ็บอยู่ดี ดึงร่างบางที่เปลือยท่อนบนมาซบอกกดริมฝีปากเร่าร้อนรุนแรงก่อนจะถอนริมฝีปากออกช้าๆ
“หากคราวหลังยังทำเป็นนอนยั่วยวนข้าเช่นนี้เห็นทีจะไม่แคล้ว...โดนข้าเล่นงานแน่คราวหลังหากข้าสั่งเจ้าต้องรีบเร่งกว่านี้ไม่เช่นนั้นจะหาว่าข้าไม่เตือน รีบสวมอาภรณืของเจ้าเสีย”ดึงอาภรณ์ห่มคลุมเนินเนื้อให้ แล้วก็หันหลังจากไป อิงฮวาใฝบหน้าร้อนผ่าวทั้งอายทั้งรู้สึกว่าคำพูดของโมว่โฉวสร้างความวาบหวามให้ไม่น้อยทีเดียว
อิงฮวาทรุดกายลงบนแท่นนอนรีบ ดึงสายรัดเอวแน่นหนา จัดเสื้อผ้าให้เรียบร้อย
ทั้งๆ ที่ใจยังเต้นไม่เป็นจังหวะตื่นเต้นกับสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อครู่ จะนอนหลับไหมเล่าค่ำคืนที่ตื่นเต้นเหลือเกินนี้
ก่อนหน้านั้น
“ทำไมลูกต้องแต่งกับอ๋องโฉดผู้นั้น”มารดายกมือขึ้นปิดปากอิงฮวาส่งสัญญาณว่าไม่ควรก้าวล่วง
“บัญชาฝ่าบาทเจ้าต้องทำตามไม่เช่นนั้นท่านพ่อของเจ้าที่ต้องโทษประหารต้องตายและตระกูลเสิ่นของเรา คงต้องพบจุดจบไม่อาจรักษาชีวิตใครไว้ได้”มารดาสีหน้าเศร้าสร้อยจนน่าสงสาร
“เพียงแค่ฉ้อฉล ท่านพ่อแค่ฉ้อฉลไม่ได้ฆ่าคนวางเพลิง”
“ฉ้อฉลเจ้าคิดว่าอภัยได้ฟรือฝ่าบาทยอมอภัยหรือท่านพ่อทำเพื่อพวกเรา เงินในคลังหลวงทุกบาททุกสตางค์ที่พ่อของเจ้าได้มา ล้วนนำมาจุนเจือตระกูลเสิ่นที่เจ้าอยู่สบายจนถึงวันนี้ได้เพราะเงินเหล่านั้นนับว่าข้าเจ้าและคนในตระกูลต้องมีส่วนรับผิดชอบลำพังฉ้อฉลไม่เท่าไหร่แต่หากเจ้าปฏิเสธบัญชาของฝ่าบาท ก็ยิ่งจะทำให้ ฝ่าบาทยิ่ง มีน้ำโห”
“อ๋องผู้นั้นล้วนถูกกล่าวขวัญว่าโหดร้ายน่ากลัวแล้ว…. ข้าจะรับมือกับเขาได้อย่างไร”อิงฮวาในตอนนั้นเองก็นับว่ายังหยิ่งยะโสด้วยเป็นลูกขุนนางที่บิดามีเงินทองล้นมือใช้สอยอย่างไม่อัตคัตจึงทำให้อิงฮวาทำตัวเหนือกว่าผู้อื่น
“แต่งเข้าไปยอมเขาเสียหน่อย แค่เพียงให้ท่านพ่อของเจ้าไม่ต้องรับโทษออกจากคุกหลวงได้ จึงหย่ากับเขาเสีย หวังหมิ่นผู้นั้นตั้งรอคอยเจ้าข้าคุยกับเขาแล้วเขาไม่สนใจว่าเจ้าจะมีผู้ใดหรือเป็นของผู้ใดเขาพร้อมจะยื่นมือโอบอุ้มเจ้าไว้”
อิงฮวาคิดถึงใบหน้า แสนเศร้าของหวังหมิ่นเมื่อรู้ว่าอิงฮวาได้รับบัญชาให้แต่งกับท่านอ๋องโม่โฉวผู้ที่ถูกกล่าวขวัญแต่ในด้านเลวร้าย
“ไม่เป็นไร ข้ารอเจ้าเสมอ”อิงฮวา ไม่มีคำกล่าวใดเพราะทุกคำพูดถูกบีบกดลงไปในอกพร้อมจะกลั่นเป็นหยาดน้ำตา ยามนี้บ้านเสิ่นนับว่าตกต่ำเรื่องในบ้านเสิ่นทุกคนรู้ดีหวังหมิ่นเองยังมีน้ำใจไม่ทอดทิ้ง