รักแรก
“เพิ่งจะมารักข้าหรือไรก่อนหน้านั้นก็ยังคงรักฝ่าบาท ยอมเป็นของฝ่าบาทข้าไม่รู้ว่าระหว่างฮองเฮากับฝ่าบาทตอนนี้เกิดอะไรขึ้น ก่อนหน้านั้นก็เห็นหวานชื่นกันดีนี่แล้วมาวันนี้ทำไมเอ่ยคำรักข้าได้เล่า”
“ข้ายังสาวยังสวย ไม่อยากมีชีวิตเดียวดาย ไร้สุขในตำหนักชิงหนิงกงท่านก็รู้ฝ่าบาทชรามากแล้ว”
“ข้าไม่ได้เหลือเยื่อใยกับท่านแล้ว…ฮองเฮา”กลืนน้ำลายลงคอยากเย็น
“ไม่จริงท่านไม่แตะต้องนาง แสดงว่ายังคิดถึงข้า ข้ามาแล้วข้าพร้อมจะเป็นของท่าน”
“รู้ได้อย่างไรข้าไม่ได้แตะต้องนาง หยุดคำพูดเลวทรามของท่านเสียข้าทนฟังคำพูดเช่นนี้ไม่ได้”
“โม่โฉว่ ข้ามีท่านคนเดียวตลอดมาและจะมีท่านคนเดียวตลอดไป”
“พอเสียที”เดินมายืนตรงหน้า เขย่งตัวกดริมฝีปากกับปากอุ่นของโม่โฉว่บดเบียดริมฝีปากเร่าร้อน โม่โฉว่เผลอยกมือขึ้นกอดรวบร่างบางเพียงครู่เดียว แค่เพียงอึดใจก็คลายอ้อมกอด จงยี้ยิ้มสาใจเสียงสั้นกระเส่า
“ข้าพร้อมเป็นของท่านข้ารู้ดีที่ท่านมีหญิงมากหน้าเพราะไม่เคยลืมข้า
ต้องการที่จะลืมข้า จึงใช้พวกนางเป็นที่ระบาย ข้าอยู่ที่นี่แล้วก่อนนั้นข้าทิ้งท่านไปลงทัณฑ์ข้าเถิดลงทัณฑ์ด้วยร่างกายของท่านข้ายินดีมอบร่างเหลือยเปล่าของข้าแทนการลงมฃทัณฑ์”โม่โฉว่ผลักร่างบางออกห่าง หันหลังไม่มองร่างเหลือยเปล่านั้น
“ท่านยังไม่ลืมข้ายอมรับวามจริงเสียหลับนอนกับหญิงเหล่านั้นก็เพื่อให้ข้าได้รุ้ว่าท่านยังคิดถึงข้า”โม่โฉว่ยิ้ม
“ท่านรู้แบบนี้ก็ดีแล้วตอนนี้ข้าคือโม่โฉว่คนใหม่ คืนนี้ท่านไปเสีย” หันมาเผชิญหน้า ดึงแขนจงยี้ออกไปนอกห้องโยนอาภรณ์ลงบนร่างเปลือยเปล่าก่อนจะสาวเท้าจากไปจงยี้กัดฟันจนรู้สึกเจ็บทั้งเจ็บใจและอายในสิ่งที่โม่โฉว่กระทำ
อิงฮวานั่งเท้าคาง เวลาช่างผ่านไปช้านานป่านนี้ท่านอ๋องผู้นั้นคงกำลังหวานชื่นกับ...ฮองเฮา ส่ายหัวไปมาไล่ความคิดฟุ้งซ่าน แค่เมื่อวานเขารุกล้ำร่างกายไปเสียหน่อยวันนี้ถึงกับมีใจปฏิพัทธ์เขาเชียวหรือไม่นะอิงฮวา เขาจะอย่างไรก็ช่างเขาสิเขาจะหลับนอนกับใครเรื่องนี้ก็ไม่อาจแพร่งพราย ไม่ต้องสนใจว่าเขาจะอยู่กับใครแค่สนใจว่ากำลังจะผ่านไปอีกวันแล้วก้จะเป็นเดือนและเป็นปีจนได้เมื่อนั้นจึงจะหลุดพ้นพบกับอิสระเสียที
มือบางถูกกระชากให้ลุกขึ้น โม่โฉว่ใช้ผ้าแพรสีดำปิดบังใบหน้าซีกขวาที่เป็นรอยแผลเป็น แต่กลับจงยี้เขาไม่ต้องปิดบังใบหน้า เขาอยากให้นางได้เห็นว่ามันอัปลักษณ์เพียงใด
“ข้าสัญญาข้าไม่บอกใครเรื่องที่ท่านกับฮองเฮา….. ทำอะไรกัน”ระล่ำละลัก มือเล็กกำมือไว้แน่นแข็งขืนแต่กลับถูกกระชากจนเซไปซบอกกว้างมือใหญ่บีบที่ปลายคางให้เงยหน้าขึ้นจนอิงฮวารู้สึกเจ็บ ริมฝีปากอุ่นทาบลงรุนแรงบดเบียดขยี้ริมฝีปากอวบอิ่มเต็มที่
ค่อยๆ โน้มร่างบางลงบนพื้นหญ้าหนานุ่มทาบทับร่างเล็กไว้ทั้งตัว บดเบียดเอวใหญ่ไปมา ไม่ปิดบังว่าบัดนี้เกิดความกระสันอย่างเต็มที่
“ข้าสัญญาว่าจะไม่บอกใครแล้ว ท่านก็ปล่อยข้าไปเถิด”เสียงสั่น โม่โฉว่ล้วงมือใหญ่เข้าไปบีบเคล้นประทุมถันชูชันอวบอิ่ม ดึงอาภรณ์ตรงอกสวยให้หลุดหลุยจมูกโด่งเป็นสันฝังลงไปบนเนินอกเนียน ปล่อยริมฝีปากเป็นอิสระก้มลงซุก”ว้ซอกคอขาวต่ำลงมาที่เนินถันขบกัดจนอีกคนบิดตัวหนี
“ได้โปรด ตรงนี้ไม่เหมาะ”โม่โฉว่ยิ้ม หญ้าสีเขียวนุ่มสบายแต่ที่ไม่เหมาะคือ เสี่ยวซันที่อาจมาเห็นนางต้องการที่เหมาะกว่านี้ หรือว่าแค่เพียงอยากให้เขาพานางไปที่แท่นอนแล้วลงมือกับนางเสีย
มือบางยันอกกว้างที่สูดกลิ่นกายสาวจากเนินอกไปยอมปล่อย ซอกซอนไปหาเม็ดบัวขบกัดจนอีกคนดิ้นหนีอาภรณ์หลุดหลุยอิงฮวาถอนหายใจ เมื่อมือใหญ่ปลดแกะอาภรณ์ของอิงฮวาออกจนเกือบหมด อิงฮวาก็สารวนกับการปกปิดสิ่งสงวนทั้งอายทั้งตื่นตกใจไม่รู้จะทำตัวอย่างไรดี
“ปล่อย” ขยับตัวถอยหนี รู้สึกอายเพราะเป็นที่โล่งแจ้ง โม่โฉว่เลียริมฝีปากก่อนจะลุกขึ้นดึงอาภรณ์ของอิงฮวาเข้าที่อิงฮวามองสบตาคมนิ่งไม่เข้าใจสิ่งที่เขาทำ
โม่โฉว่รู้ดีว่าเขาไม่อาจห้ามใจแต่ที่ไม่สานต่อเพราะต้องการความหวานมากกว่านี้ หาใช่การข่มเหงในยามที่อีกฝ่ายไม่ยินยอม ค่อยๆแทะเล็มจึงจะรู้สึกถึงรสอาหารว่ารสดีเพียงใดเขาจึงค่อยๆ สอนอิงฮวาไปทีละขั้นทีละตอน อย่างไรเสียจะหนีเขาพ้นได้อย่างไร ที่เขากลัวที่สุดตอนนี้คือประวัติศาสาตร์จะซ้ำรอย อิงฮวามีคนที่นางรักเช่นนั้นจึงยากจะได้ใจนาง