บทที่ 4 การกลับมาของตฤน
กังสดาลยืนมองร่างบางสมส่วนของตนในกระจกเงาบานใหญ่ หล่อนอยู่ในชุดเดรสสีครีมยาวพอดีเข่า ทรงเข้ารูปคอวีมองดูเรียบร้อยน่ารัก ผมสลวยดำขลับยาวลงมาละสะโพกผายกลมกลึง
" ก๊อก ก๊อก ก๊อก "
เสียงเคาะประตูดังขึ้น หล่อนหันไปมองพร้อมกับทอดถอนใจ ร่างบางก้าวเท้าออกไปเปิดประตู เป็นพี่แก้วใจ แม่บ้านสาวใหญ่แสนสวยนั่นเอง
" เรียบร้อยแล้วค่ะพี่แก้ว "
" งั้นก็ตามมาค่ะ "
แก้วใจกวาดสายตามองหญิงสาวตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า หล่อนยอมรับว่ากังสดาลเป็นผู้หญิงที่สวยมากทีเดียว สวยหวานเรียบร้อยบอบบางน่าทะนุถนอม ไม่น่าต้องมาจบอนาคตแบบนี้เลย หรือ คิดอีกแง่มุมหนึ่ง กังสดาลอาจจะรวมหัวกันกับพ่อของเธอเพื่อปอกลอกกอบโกยทรัพย์สมบัติของพ่อเลี้ยงก็ได้ เรื่องแบบนี้มองแต่ภายนอกไม่ได้หรอก รูปกายงดงามปานนางฟ้า แต่จิตใจเหมือนหมาข้างถนนก็มีถมไป
แม่บ้านสาวใหญ่เดินนำกังสดาลไปยังห้องทำงานของพ่อเลี้ยงเทียน เธออดไม่ได้ที่จะมองบั้นท้ายอวบงอน ของแก้วใจยามเยื้องย่างกรายส่ายไปมา ขวาซ้ายขวามันน่าเอามือตีก้นนักเชียว หล่อนคิดอย่างหมั่นเขี้ยว
" มาแล้วค่ะพ่อเลี้ยง "
แก้วใจนำหญิงสาวมาจนถึงหน้าโต๊ะทำงานไม้มะค่าที่ขัดเงาลงแลคเกอร์จนขึ้นเงาอย่างงดงาม พ่อเลี้ยงเงยหน้าขึ้นมาจากเอกสารที่กำลังพินิจพิจารณาอยู่ พลางยกมือขึ้นขยับแว่นสายตาให้เข้าที่เข้าทาง มองมายังร่างของกังสดาลด้วยสายตาชื่นชม
" เธอมีอะไรก็ไปทำเถอะแก้ว เดี๋ยวมีธุระอะไรฉันจะเรียกเอง "
พ่อเลี้ยงกล่าวขึ้นกับหัวหน้าแม่บ้านคนสนิทด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ไม่เข้มงวดเหมือนกับเวลาที่คุยกับคนรับใช้คนอื่น
" ค่ะพ่อเลี้ยง "
แก้วใจรับคำก่อนจะปรายตามองมายังหล่อนด้วยหางตา และเดินออกจากห้องไป
" เป็นยังไงบ้างล่ะ อาบน้ำอาบท่าสบายตัวสบายใจขึ้นบ้างรึยัง "
พ่อเลี้ยงเทียนหันมากล่าวกับเธอ สายตาที่มองมานั้นมันมีแววของความอาวรณ์ถวิลหาอะไรบางอย่าง ที่เธอก็ยากจะเข้าใจได้
" ดีขึ้นแล้วค่ะพ่อเลี้ยง ขอบพระคุณมากนะคะที่ให้ความกรุณาแก้มกับพ่อ พ่อเลี้ยงจะให้ทำงานอะไรบ้างคะ แก้มทำงานได้ทุกอย่างไม่เกี่ยงเลยค่ะ "
ขอเพียงอย่างเดียวอย่าให้หล่อนต้องไปทำงานบนเตียงเลย งานกลางแดดกลางดินอะไรหล่อนยอมทำให้ได้หมดทั้งนั้น แต่ก็นั่นแหละ เธอไม่มีสิทธิ์ที่จะต่อรองอะไรทั้งสิ้นในเมื่อพ่อขายเธอให้กับพ่อเลี้ยงไปแล้วนั่นเอง
" เธอมาช่วยงานฉันแล้วแต่ฉันจะบอกให้ทำอะไรก็แล้วกัน คอยอยู่ใกล้ ๆ ฉันก็พอ อืม เธอเหมือนนี่แม่ปาหนันมากๆ เลยนะ หากแม่เธอไม่เลือกดนัย เรื่องแบบนี้คงจะไม่เกิดขึ้นกับเธอแน่นอน "
พ่อเลี้ยงกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงแปร่งปร่าราวกับว่าเขายังคงรู้สึกเสียใจมาจนถึงทุกวันนี้กับการตัดสินใจของแม่เธอ
" ฉันนึกภาพไม่ออกเลย ถ้าหากไม่เป็นฉันที่รับเธอไว้ พ่อของเธอจะเอาเธอไปเร่ขายให้กับเจ้าของบ่อนคนไหน และคนพวกนั้นก็ไม่ได้มีมนุษยธรรมเท่าไหร่นักหรอกนะ "
พ่อเลี้ยงเทียนพูดขึ้นพร้อมกับทอดถอนใจ มองดวงหน้าของลูกสาวของคนที่เขาเคยรักปานดวงใจ แต่เธอกลับไม่ได้รักเขา มองเห็นเขาเป็นเพียงพี่ชายคนหนึ่ง เขาผิดหวังและเสียใจเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจตลอดมา ยังคงรักแม่ปาหนันไม่เปลี่ยนแปลง แต่ชีวิตยังคงดำเนินต่อไป พ่อเลี้ยงแต่งงานกับแม่ของ ตฤณ ในเวลาต่อมา ไม่ใช่ด้วยความรักแต่เพราะผู้ใหญ่เห็นดีเห็นงามจัดหาให้
จนกระทั่งภรรยาเขาตายจากไปหลังจากคลอดลูกชายได้ไม่นาน เขาก็ไม่เคยรักใครอีกเลย หาความสุขเพียงชั่วครู่ชั่วยามกับผู้หญิงมากหน้าหลายตา ทุ่มทุกอย่างด้วยความรักให้กับลูกชายคนเดียว ที่ตอนนี้เรียนจบแล้วก็ไม่ยอมกลับมาจากอเมริกาเสียที ยังคงเที่ยวตะลอน ๆ ใช้ชีวิตเป็นพ่อพวงมาลัยไปวัน ๆ ไม่ยอมลงเอยกับใครจนเขาเริ่มเป็นห่วง หากสักวันเขาจากไปเกรงว่าลูกชายคนเดียวจะยังไม่เป็นโล้เป็นพายอะไรสักอย่าง
" แก้มขอขอบพระคุณพ่อเลี้ยงที่กรุณาเมตตาค่ะ "
หล่อนยกมือเรียวขึ้นไหว้เขาอีกครั้ง น้ำตารื้นขึ้นมาจนตาพร่ามัว เธอรีบใช้มือปาดมันทิ้งไปโดยเร็ว
พ่อเลี้ยงเทียนยกมือขึ้นถอดแว่นสายตาออกวางลงบนโต๊ะ เขาเอนกายสูงใหญ่ล่ำสันลงพิงพนักเก้าอี้ทำงาน แล้วใช้นิ้วนวดบีบขมับตนเองเบา ๆ เพื่อไล่ความปวดมึนในสมองที่ก้มดูเอกสารเป็นเวลานาน
" เธอนวดไหล่เป็นไหม มานวดขมับนวดไหล่ให้ฉันทีสิ "
พ่อเลี้ยงเทียนกล่าวขึ้นพลางหลับตาลง
" ดะ ได้ค่ะ แต่แก้มไม่เคยนวดให้ใครเลยนะคะ นอกจากแม่ ไม่รู้จะถูกใจพ่อเลี้ยงหรือเปล่า "
" ไม่เป็นไร มานวดเถอะ หลังๆมานี่ฉันปวดหัวบ่อยมากเลย "
เธอเดินเข้าไปด้านหลังเก้าอี้ทำงานของพ่อเลี้ยง ใช้สองมือเรียวยาวบอบบางนวดเบา ๆ ที่ขมับทั้งสองข้างของพ่อเลี้ยง นวดขมับสักพักเธอจึงค่อย ๆ เลื่อนมือลงมากดนวดตรงบริเวณไหล่กว้างของเขา เธอได้ยินเสียงเขาถอนลมหายใจออกมาเบา ๆ หลับตาพริ้มลมหายใจเริ่มสม่ำเสมอ
' ท่านคงจะเคลิ้มหลับไปสินะ '
หล่อนคิดในใจพลางลอบมองใบหน้าที่ยังคงความหล่อเหลาตามวัยไว้เป็นอย่างดีของพ่อเลี้ยง พลางคิดในใจว่า เหตุไฉนแม่เธอถึงไม่รักพ่อเลี้ยง แต่ไปรักพ่อของเธอกันนะ
เสียงกรนเบา ๆ ของพ่อเลี้ยงเทียนทำเอาหล่อนยิ้มขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ ท่อนแขนของเขาที่พาดไว้กับที่วางแขนเลื่อนหลุดลงไปห้อยแกว่งไปมา หล่อนจึงค่อย ๆ จับแขนเขาขึ้นไปวางไว้บนตักแทน
" นี่น่ะรึ ผู้หญิงคนล่าสุดของพ่อ สวยนี่ ท่าทางคงจะอายุไม่เกิน20 แหงๆ หญ้าอ่อนน่าเคี้ยวเล่น คงจะพอดีคำ "
เสียงทุ้มของผู้ชายคนหนึ่งดังขึ้นที่ข้างประตูห้องทำงาน ร่างสูงใหญ่ของเขายืนพิงอยู่ที่ขอบประตู สายตาคมกริบจ้องมองมายังหล่อนด้วยแววตาเหยียดหยาม ใบหน้าหล่อเหลาคมเข้มละม้ายคล้ายคลึงกับพ่อเลี้ยงเทียนยิ่งนัก จะผิดก็ตรงที่เคราครึ้มสองข้างแก้มของเขา กับผมที่หยักศกดำขลับของเขานั่นแหละ เพราะพ่อเลี้ยงเทียนนั้นผมตรงโกนหนวดโกนเคราเกลี้ยงเกลา ดูมีเสน่ห์กันคนละแบบ
สายตาคมกล้าของเขาดึงดูดให้หล่อนจ้องมองเขาจนเพลินไปเลย จนกระทั่งพ่อเลี้ยงรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาเมื่อได้ยินคุ้นหู ของลูกชายที่ไม่ได้พบเจอมาเนิ่นนาน
