บทที่ 5 ผู้ชายปากร้าย
" ตฤณ! มาได้ยังไงนี่ จะมาทำไมไม่บอกพ่อก่อน พ่อจะได้จัดงานต้อนรับให้สมเกียรติลูกชายคนเดียวของพ่อเลี้ยงเทียน ฮ่า ๆๆ "
พ่อเลี้ยงกล่าวขึ้นอย่างตื่นเต้นดีใจที่เห็นลูกชายคนเดียวของเขากลับกลับมาจากเมืองนอกโดยไม่ได้บอกกล่าว
" ไม่ดีกว่าครับ ผมคิดว่าพ่อคงจะยุ่งอยู่กับผู้หญิง จนไม่มีเวลามาสนใจมากกว่า "
ตฤณตอบกลับพ่อเลี้ยงไปด้วยน้ำเสียงเยาะ ๆ ปรายหางตามองมายังหล่อนด้วยแววตาหยามหยัน
" อะไรกัน แกนี่ก็พูดไป พ่อมีเวลาให้แกเสมอนะ เออนี่ หนูแก้มลูกสาวของเพื่อนพ่อ เธอจะมาอยู่ที่นี่ในฐานะเลขาส่วนตัวของพ่อ หนูแก้มนี่ตฤณ ลูกชายคนเดียวของฉันเอง "
พ่อเลี้ยงเทียนแนะนำคนทั้งสองให้รู้จักกันด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม เขารู้สึกยินดีที่ลูกชายยอมกลับมาบ้าน ทั้ง ๆที่ก่อนหน้านั้นบังคับยังไงก็ไม่ยอมกลับมาเสียที
" สวัสดีค่ะคุณ ตฤณ "
กังสดาลยกมือขึ้นไหว้เขาอย่างนอบน้อม แต่หากตฤณกลับเมินเฉย ไม่ยอมรับไหว้เสียอย่างนั้น กลับยิ้มมุมปากน้อยๆ ใบหน้าหล่อเหลาปานเทพบุตรนั้นจ้องมองหล่อนตั้งแต่หัวจรดเท้าอย่างจงใจดูถูกดูแคลนด้วยสายตา
" เลขาส่วนตัวนี่ เจาทำงานบนโต๊ะหรือว่า....ทำงานบนเตียงครับพ่อ "
ตฤณกล่าววาจาส่อเสียดเธออย่างชัดเจนจนกังสดาลหน้าชาเหมือนถูกตบด้วยกำปั้นลืมแบเข้าฉาดใหญ่ ความรู้สึกโกรธพุ่งขึ้นจนถึงขีดสุด หล่อนกำมือแน่นพยายามระงับความไม่พอใจเอาไว้เพราะเกรงใจพ่อเลี้ยงเทียนนั่นเอง
" เจ้าตฤณ ปากดีเหมือนเดิมนะเรา พ่อล่ะแปลกใจจริงว่าผู้หญิงเขาชอบแกตรงไหนกัน หนูแก้มเขาจะทำงานตรงไหนมันก็ไม่ใช่เรื่องของแก มันเป็นเรื่องของพ่อ แล้วนี่แกมายังไงรึ ไปอาบน้ำอาบท่าให้หายเหนื่อยก่อนสิ จะได้มากินข้าวกินปลากัน พ่อจะสั่งให้แก้วใจเขาทำของโปรดให้แกด้วย "
พ่อเลี้ยงตัดบทเพราะเห็นว่า กังสดาลยืนกัดริมฝีปากและกำมือแน่น ราวกับว่าหากตฤณพูดอะไรออกมาอีกแค่คำเดียว หล่อนจะเอากำปั้นน้อย ๆ นั่นยัดปากลูกชายเขาอย่างนั้นแหละ
" แหม แตะต้องไม่ได้เลยนะครับคุณเลียขา เอ้ย เลขาคนใหม่ เบื่อแล้วขอจองต่อนะครับพ่อ อ่อ อีกอย่างที่พ่อถามว่า สาว ๆ เขาชอบผมตรงไหนน่ะ ผมมันก็ต้องมีส่วนดีส่วนแซ่บของผมล่ะครับ อยากลองบ้างไหมล่ะคุณเลียขาคนสวย "
ตฤณยังไม่วายกวนประสาทเธอเขาจ้องมองหล่อนด้วยสายตาดูแคลนอย่างชัดเจน ก่อนจะเดินออกจากห้องทำงานไปยังห้องนอนเดิมของตนเอง พ่อเลี้ยงถึงกับส่ายหน้าอย่างระอากับพฤติกรรมของลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของตน
" หนูแก้มอย่าไปถือสาลูกชายฉันเลยนะ แม่เขาเสียตั้งแต่ยังเล็กๆ ฉันก็เลี้ยงลูกอย่างตามใจเพื่อทดแทนที่เขาขาดแม่ไป ก็เลยเอาแต่ใจแบบนี้แหละ เห้อ "
พ่อเลี้ยงหนุ่มใหญ่วัยใกล้เกษียณกล่าวกับเธอพลางเดินมาตบไหล่หล่อนเบาๆอย่างปลอบโยน น่าแปลกที่หล่อนกลับรู้สึกอบอุ่นกับสัมผัสนั้นของพ่อเลี้ยง เหมือนท่านเป็นญาติผู้ใหญ่ที่เอ็นดูเธอคนหนึ่ง หล่อนไม่เคยรู้สึกถึงการถูกคุกคามหรือลวนลามจากท่านเลย
แต่ก็นั่นแหละนี่มันเป็นเพียงวันแรก ต้องรอดูต่อไปว่าต่อไปเธอจะต้องเจอกับอะไรอีกบ้างในวันข้างหน้า และคนที่ทำให้เธอรู้สึกประหม่า และไม่เป็นมิตรต่อเธอนั้นหาใช่พ่อเลี้ยงไม่ แต่มันคือ ตฤณ ลูกชายของพ่อเลี้ยงนั่นต่างหากล่ะ
" ไม่เป็นไรค่ะพ่อเลี้ยง แก้มไม่มีสิทธิ์ที่จะรู้สึกอะไรอยู่แล้วค่ะ "
หล่อนตอบออกไปด้วยน้ำเสียงหม่นเศร้า แต่ก็รู้สึกเจ็บอยู่ในใจกับคำพูดของตฤณ ที่ดูถูกเธอ
" อย่าคิดมากเลย เดี๋ยวฉันจะเรียกแก้วใจมาให้เขาไปจัดการเรื่องอาหารการกินให้เจ้าตฤณ เธออยากจะเข้าครัวด้วยไหมล่ะ ฉันรู้มาว่าเธอชอบทำกับข้าวไม่ใช่รึ "
พ่อเลี้ยงกล่าวขึ้นกับหล่อน ราวกับว่าเขาจะรู้ถึงความเป็นไปทุกอย่างในชีวิตเธออย่างนั้นแหละ หล่อนเอียงคอมองอย่างแปลกใจ
" ใช่ค่ะแก้มชอบทำกับข้าว แม่เคยสอนไว้ตั้งแต่เด็ก ๆ เลยค่ะพ่อเลี้ยงรู้ได้ยังไงคะ "
" เอ่อ พ่อเธอเคยเล่าให้ฟังน่ะ อีกอย่างแม่ของเธอทำกับข้าวเก่งและฝีมือดีมากทีเดียว หนูคงจะได้แม่มาบ้างล่ะน่า "
พ่อเลี้ยงกล่าวตัดบทก่อนจะโทรเรียกแก้วใจมาสั่งการเรื่องงานครัว กังสดาลจึงขอไปช่วยงานในครัวด้วย อย่างน้อยก็มีอะไรที่เธอชอบทำ จะได้ไม่มีเวลาให้คิดมากจนหดหู่ในใจ
