Chapter.4 จูบหน่อย????
"เลขหมายที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้"
ตี๊ด
"เลขหมายที่ท่านเรียก "
ตี๊ด
ฉันหมดความพยายามโทรหาเพื่อนเลว มันเทฉันได้ลงคอนัดกันดิบดีว่าวันนี้จะไปเสม็ดด้วยกันดูทำสิ โทรหาก็ไม่ติด กดโทรศัพท์จนหน้าจอทัชสกรีนจะแหลกคามืออยู่แล้ว คงต้องไปคนเดียวอีกไม่กี่นาทีเครื่องก็จะออกแล้ว สาบานเลยว่าถ้าเครื่องยังไม่ออกฉันจะตามล่าอีเฟย์ให้ถึงที่สุด รับปากกันแล้วทำไมถึงทำกับอีแก้วได้ลงคอ ดวงฉันอะไรนักหนาวะ ต้นฉบับไม่ผ่าน แถมยังถูกเพื่อนเททิ้งลงทะเลอีก ต้องไปคนเดียว สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรกับฉันเลยกับการเดินทางคนเดียว ชินแล้วล่ะกับการทำอะไรคนเดียว คิดว่าจะมีเพื่อนสักคนร่วมเดินทางไปด้วยกัน สุดท้ายต้องไปคนเดียว
"เฮ้อ เมื่อไหร่ชีวิตจะเจอความสุขกับเขาสักที"
"โดนผู้ชายลากไปกินในน้ำหรือไง " ...ข้อความถูกส่ง... เพราะเรื่องพนันบ้าบอนั่นหรือเปล่า อย่างเฟย์เนี่ยนะจะหาผัว รักอิสระจะตายไม่มีวันทำสำเร็จหรอก
..........................
เสม็ด
ฉันเลือกมาที่นี่ก็เพราะบรรยากาศ คนไทยน้อยแต่ก็ไม่น้อยเท่าไหร่ หวังว่าที่นี่คงทำให้ฉันบิ้วต้นฉบับผ่าน เดือนหน้าจะเอาอะไรกินยังไม่รู้เลย ต้นฉบับก็ยังคาอยู่แบบนี้
ครืด ครืด
สายเข้า
แม่
"ค่ะแม่ "
"เป็นไงบ้างลูก รับปริญญาเมื่อไหร่ แม่จะได้เตรียมตัว " อย่างที่บอกฉันเพิ่งเรียนจบสดๆ ร้อนๆ คุณนายก็จะตื่นเต้นเป็นธรรมดากับการมางานรับปริญญา
"ยังไม่รู้เลยค่ะว่าจะเข้ารับหรือเปล่า"
"ทำไมล่ะลูก บอกวันมานะ แม่จะไป " แล้วพ่อล่ะ ฉันรู้ว่างานนี้พ่อไม่มาแน่ ในใจลึกๆ คาดหวังว่าอยากให้วันนั้นทุกคนในครอบครัวอยู่พร้อมหน้าพร้อมตา
"เดี๋ยวแก้วจะบอกอีกทีนะคะแม่ แม่โทรมามีอะไรหรือเปล่าคะ"
"จะโทรมาบอกว่า แม่โอนเงินของเดือนนี้ไปแล้วนะลูก เก็บไว้ใช้ งานเป็นยังไงบ้าง " คงมีแค่แม่คนเดียวที่คอยเป็นห่วงอยู่ตลอด เงินทุกบาทที่แม่โอนมาให้ ฉันเก็บแยกเอาไว้ต่างหาก ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ จะไม่เอาออกมาใช้ด็ดขาด
"ก็ มีปัญหานิดหน่อยค่ะแม่"
"แก้ว กลับบ้านไหมลูก "
"แก้วโอเคค่ะแม่ แก้วอยู่ได้ " พยายามกลั้นน้ำตากับคำว่าบ้านตลอด หนีมาเรียนที่เมืองไทยตั้งแต่มัธยม เพราะความบ้าของตัวเอง ไม่อยากเดินตามรอยที่พ่อวางไว้ให้ ก็เลยหนีมาอยู่ที่นี่ ฉันเขียนนิยายหาเลี้ยงตัวเองมาตลอดเพราะรักและชอบ มีความสุขกับการได้ทำตามความฝันของตัวเอง ถึงเงินที่ได้ไม่มากแต่ก็พอทำให้อยู่รอด แค่นี้ยังทำให้ฉันดีไม่พอในสายตาของพ่อหรอก ฉันจะทำให้พ่อรู้ว่าฉันก็เก่งได้ในทางเดินของฉัน
"เหนื่อยก็พักแม่เป็นห่วง แม่มีแก้วคนเดียวนะลูก ที่พ่อเขาทำก็เพราะรัก อย่าเกลียดอย่าโกรธพ่อเลยนะ"
"แก้วไม่เคยคิดแบบนั้นค่ะแม่ แก้วแค่อยากทำให้พ่อรู้ว่าแก้วก็ประสบความสำเร็จได้โดยที่ไม่ต้องเป็นนักธุรกิจ แก้วรักแม่นะคะ คิดถึงมากด้วย คิดถึงกับข้าวฝีมือแม่ " นานแล้วที่ไม่ได้กินกับข้าวฝีมือแม่ ครอบครัวที่เคยอบอุ่นเข้าอกเข้าใจกันเป็นแบบไหนฉันไม่เคยสัมผัส
"ว่างๆ ก็มาหาแม่บ้างนะลูก แม่จะทำกับข้าวรอ"
"ค่ะแม่ รักแม่นะคะ"
"คีย์การ์ดได้แล้วค่ะ "
"ขอบคุณค่ะ " ฉันยื่นมือไปรับคีย์การ์ดจากพนักงาน มาเที่ยวครั้งนี้ถือว่าโชคดีที่พี่เอื้อใส่ซองค่าที่พักกับค่าขนมมาให้นิดหน่อยเลยได้โรงแรมชั้นดี ห้องชั้นสิบ ก่อนอื่นขอนอนพักยาวๆ พักสมองพักเรื่องปวดหัว พักอารมณ์หงุดหงิดจากเพื่อนจอมเท คืนนี้อีแก้วจะเวให้มั่วเลยคอยดู
..................................
ผมนอนหลับตารับแสงแดดจากพระอาทิตย์ในช่วงบ่ายแก่ๆ ริมหาดทราย เก้าอี้ชายหาดตัวนี้ถูกผมยึดเป็นที่พักพิงมาหลายชั่วโมงแล้ว แว่นตากันแดดถูกสวมทับดวงตาที่โคตรดำคล้ำเอาไว้ เสียงคลื่นกระทบหาดทรายทำให้ผมผ่อนคลาย ผมชอบฟังเสียงคลื่นซัดชายฝั่งชอบกลิ่นอายของน้ำทะเล ชอบแสงแดดจ้าที่สาดส่องลงมากระทบทรายเม็ดเล็กสีขาว มันระยิบระยับเหมือนดวงดาว ผมว่ามันสวยดี
"หมอ น้ำมะพร้าวได้แล้ว"
"ขอบคุณครับ" ผมมีคนรู้จักอยู่ที่นี่ เธอเป็นเพื่อนของผมเอง เปิดกิจการอยู่ริมหาดขายน้ำมะพร้าวเป็นลูก ให้กับนักท่องเที่ยว ขายดีจนรายได้งามกว่าอาชีพหมออย่างผมซะอีก
"มาคราวนี้จะอยู่กี่วัน ดูโทรมมากเลยนะ "
"เจ้าของโรงพยาบาลเซ็นให้หยุดสองเดือน " หมอสิงห์มันบ้า สองเดือนบ้าไปแล้วผมนึกว่าแค่สิบวันหรือไม่ก็สิบห้าวัน คงอยู่ไม่ถึงสองเดือนหรอก คนไข้คิดถึงผมแย่เลย
"มีเรื่องไม่สบายใจใช่ไหม "
"นิดหน่อยน่ะ แล้วนี่ตัวเล็กไปไหน
"คุณยายมารับกลับบ้านไปแล้ว " เพื่อนแต่ละคนมีครอบครัวมีลูกมีเต้าจนหมดแล้ว หมอสิงห์อีกไม่นานก็จะตามมาติดๆ มีเมียเด็กแม่งโคตรน่ารักแถมยังขี้อ้อน เห็นรอยยิ้มของเพื่อนก็รู้ว่ามันมีความสุข
"ร้าน TNNN ยังเปิดอยู่ไหม คืนนี้อยากไปนั่งชิลสักหน่อย"
"ยังเปิดอยู่ อย่าดื่มหนักนะถ้ารู้ว่าคออ่อน"
"เข้าใจแล้ว " โดนแซวเรื่องคออ่อนตลอด ผมไม่ใช่นักดื่มนี่ ไม่ถูกกับเครื่องดื่มพวกนี้นิดๆ หน่อยพอได้ แต่ถ้าดวลแก้วต่อแก้วนี่ไม่ไหว
...............................
ปึก
"น้องเอามาอีก เหมือนเดิม"
"น้องครับเบียร์ขวดหนึ่ง" บรรยากาศที่นี่คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ผมเลือกดื่มเบียร์
"น้องเอามาอีก " ผมหันไปมองคนข้างๆ ที่เพิ่งกระดกเหล้าเพียวๆ ลงคอเหมือนกับว่ามันเป็นน้ำเปล่า แต่ก็ต้องร้องอ๋อทันที ไฟสลัวๆ แบบนี้แต่ก็ยังมองเห็นหน้าชัด แม่สาวชุดนอนคนนั้นคนที่ลวกไข่ผมเกือบสุก เธอกระดกเหล้าเข้าปากเหมือนกับว่ามันไม่มีรสขม ไปโกรธใครมา หรือว่าจะโดนผู้ชายเท ก็สมควรแล้วทำตัวประหลาดขนาดนี้ บอกตรงๆ ว่าผมยังกลัวเลย
"มาคนเดียวหรือครับ" อยากตบปากตัวเองจริงๆ แทนที่จะนั่งดื่มอยู่เฉยๆ ปากดันเผลอคุยกับเขา
"แล้วเห็นนั่งอยู่กับใครล่ะ อ๊ะ เดี๋ยวนะ หน้าคุ้นๆ "
"ผมเป็นหมอทำคลอดของเพื่อนคุณ เราเคยเจอกันแล้วที่โรงพยาบาล" วันนั้นเธอเกือบทำฉันสูญพันธ์จำไม่ได้เหรอ
"อ๋อ เข้าใจแล้ว พอดีเลย แก้วกำลังหาเพื่อนดื่มอยู่พอดี" อาการเหมือนคนเริ่มเมา แต่ก็ยังไม่เมา เธอหันแก้วมาทางผมก่อนที่ผมจะยกขวดเบียร์ชนเบาๆ ไปที่แก้วของเธอ เธอกระดกเหล้าในแก้วรวดเดียวจนหมด เชี้ย โคตรเจ๋ง
"น้องเอามาอีก ยกขวดมาตั้งนี่เลย "
"หมอชื่อไรอะ "
"หมอฟิกส์ครับ เรียกฟิกส์เฉยๆ ก็ได้ อยู่ข้างนอกไม่ต้องเต็มยศก็ได้ครับ"
"ถนัดเรียกหมอมากกว่า อากาศที่นี่มันค่อนข้างร้อนเนอะหมอว่ามั้ย" เธอพูดพร้อมกับถอดเสื้อคลุมตัวบางด้านนอกออก เผยให้เห็นผิวขาวๆ ผู้หญิงคนนี้แซ่บไม่เบาแถมความแรงยังไม่เป็นสองรองใคร ขนาดนักท่องเที่ยวต่างชาติยังไม่แซ่บเท่าเธอคนนี้เลย
"เอ่อ ผมก็ว่าอย่างนั้น ดื่มต่อดีกว่าครับ "
"หมอ เคยจูบกับผู้หญิงไหม"
"คุณว่าไงนะ "
"จูบแก้วหน่อยได้มั้ย แก้วอยากรู้ ว่าความรู้สึกของการโดนจูบมันเป็นยังไง" พูดอะไรของเธอ เมาหรือเปล่า? ผู้หญิงน่ากลัวอย่างเธอมาเรียกร้องการจูบกับผู้ชายที่เพิ่งรู้จักกันไม่กี่นาทีเนี่ยนะ เธอกำลังคิดอะไรอยู่
"คุณต้องการอะไร ผมไม่เข้าใจที่คุณพูด"
"หมอจูบแก้วหน่อยได้มั้ย "
"นะคะ " เธอยื่นหน้าเข้ามาใกล้ผมก่อนที่จะใช้สองมือคล้องมาที่คอแล้วดึงโน้มลงต่ำจนลมหายใจของเราเป่ารดกัน
"คุณกำลังเมา"
"จูบ "
"น้อง เช็กบิล ของคุณผู้หญิงด้วยนะ" ผมไม่ใช่ผู้ชายชอบฉวยโอกาส แต่บางทีการจูบครั้งนี้อาจจะทำให้ผมรู้อะไรมากกว่าการมานั่งถามหาเหตุผลจากคนที่กำลังเมาอย่างเธอในตอนนี้
"ยังไม่หมดเลยนะคะ "
"จะจูบกันต่อหน้าคนเยอะๆ ได้ยังไง"
.......................................
