5 นินทา
"คือ..คือ หมอกลัวงูมากน่ะค่ะ" เธอรีบละล่ำละลักให้เหตุผล
คุณหมอปรางทิพย์รีบเอ่ยขอโทษคนไข้ ที่เผลอร้องออกมาเสียงหลงแบบนั้น จะไม่ให้เธอตกใจได้อย่างไร ก็ไอ้ลายสักสีดำเข้มรูปงูตัวใหญ่ที่พันอยู่รอบต้นขาเขา แล้วมันก็เลื้อยผ่านจนมาถึงเอวส่วนหัวมันน่าจะหายไปข้างหลัง เธอตกใจจนมือไม้สั่นไปหมด เพราะกลัวงูขึ้นสมองเลยก็ว่าได้ นี่ยังไม่นับรวมถึงแมลงสาบ จิ้งจก และอื่นๆ อีกด้วย
"ขอโทษครับ ที่ทำให้หมอตกใจ งู ของผม" คำว่างูของผม ทำให้คุณหมอได้สติกลับมากับตัวอีกครั้ง แล้วพลันคำนั้นก็ทำให้เธอสังเกตเห็นว่า งู อีกตัวของเขาก็ใหญ่โตไม่แพ้ไอ้ตัวดำที่พันรอบขานั่น ปรางทิพย์หน้าเห่อร้อนขึ้นทันที เธอไม่เคยประหม่าและเสียอาการขนาดนี้มาก่อน และไอ้งูที่เขาแกล้งทำเสียงให้ว่ามันจะหมายถึงอะไรนั่น เธอก็เคยเห็นของคนไข้มานักต่อนัก แต่กับของเขากลับทำเธอแทบไปไม่เป็น ขนาดว่ามันนอนนิ่งอยู่เฉยๆ ยังใหญ่โตขนาดนั้น จนเธอเผลอคิดถึงเสียงร้องอีกทั้งเสียงตำน้ำพริกสูตรเด็ดนั่นขึ้นมาเสียดื้อๆ หมอปรางรีบสะบัดความคิดนั่นออกจากหัว หันมาสนใจ คนไข้ตรงหน้า จนเธอต้องย้ำกับตัวเองอีกครั้งว่า คนไข้
นิ้วเรียวภายใต้ถุงมือยางค่อยๆ เอื้อมไปจับตรงส่วนที่คนไข้แจ้งอาการมาเบื้องต้น โคนอวัยวะเพศ แต่มันก็ต้องจับเจ้างูตัวใหญ่นั้นพลิกไปพลิกมาเพื่อที่จะดูตุ่มคล้ายสิวคล้ายหนองที่เขาบอกไว้ ว่ามันขึ้นตรงไหนบ้างแล้วหน้าตาจริงๆ ของเม็ดตุ่มที่เขาว่ามันเป็นอย่างไร ปลายนิ้วเรียวสะกิดตุ่มตรงโคนที่เขาว่าเพียงนิด เธอได้ยินเสียงในลำคอของเขาคล้ายตกใจเพราะไม่ทันตั้งตัว ทำเอาเธอเกือบตกใจไปด้วย เธอจับเจ้างูตัวใหญ่ของเขาพลิกซ้ายขวาอีกครั้งเพื่อความแน่ใจ แต่ทว่าเธอกลับรู้สึกได้ถึงความตื่นตัวของมัน เธอรีบปล่อยมือแล้วหยิบผ้าห่มขึ้นคลุมให้คนไข้อย่างเดิม พอพ้นฉากกั้นที่ต้องสบตากับเขา ทำเอาเธอรีบหลบสายตา
"เปลี่ยนเสื้อผ้าได้เลยค่ะ" เธอรีบบอกคนไข้ใบหน้าหล่อที่ยังทำหน้าสงสัยคล้ายไม่เชื่อใจหมอ แล้วก็เดินกลับมาที่โต๊ะ ทิ้งให้พยาบาลคอยช่วยเหลือคนไข้ต่อ
คนไข้กลับมาในชุดเรียบร้อยอีกครั้งนั่งที่เก้าอี้ข้างโต๊ะหมอ เธอละสายตาจากใบหน้าหล่อมองที่หน้าจอคอมพิวเตอร์สลับกับแฟ้มคนไข้
"คนไข้เป็นรูขุมขนอักเสบค่ะ ไม่ได้เป็นโรคร้ายแรงอะไร" หมอมองหน้าคนไข้แล้วก็ต้องรีบอธิบายต่อ
"คือบริเวณโคนอวัยวะเพศ จะเป็นส่วนที่มีรูขุมขนและต่อมไขมันมาก รอยโรคที่เกิดขึ้นเกิดจากรูขุมขนอักเสบค่ะ เดี๋ยวหมอสั่งยาปฏิชีวนะให้ เอ่อ.. แล้วก็ควรงดกิจกรรมทางเพศสักระยะค่ะ ป้องกันการอักเสบ" ในประโยคหลังหมอเอ่ยเสียงเบา อย่างไม่กล้าพูดมากนัก คนไข้ได้แต่ขมวดคิ้ว
"พาคนไข้รับยาได้เลยค่ะ" เธอรีบหันไปบอกพยาบาลสาว แล้วก็หันมายุ่งกับแฟ้มคนไข้ ตัวหนังสือภาษาอังกฤษที่อ่านไม่ออกถูกเขียนลงไปก่อนจะส่งแฟ้มให้พยาบาล
"ขอบคุณครับ"
"เอ่อ..ค่ะ"
เสียงขอบคุณของเขา เธอแทบจะรับคำไม่ทัน เผลอเงยหน้ามองคนไข้ตัวสูงที่ลุกขึ้นยืนแล้วก็ต้องรีบหลบสายตาอีกครั้ง พอคนไข้ออกจากห้องก็ได้แต่นึกโมโหตัวเอง จะอายเขาทำไมเขาเสียอีกที่ต้องอายเธอ นึกแล้วก็เจ็บใจตัวเองที่เผลอเสียอาการต่อหน้านายนั่นเสียได้ ฮึ แต่อย่างน้อยเสียงตำน้ำพริกนั่นหรือเสียงร้องโหยหวนหลังห้องคงจะหายไปอีกเป็นอาทิตย์
กว่าหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาปรางทิพย์ได้หลับอย่างเป็นสุขตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา จะเป็นเพราะเตียงเจ้าปัญหาถูกเปลี่ยนหรือเพราะอาการอักเสบของเขาก็ช่าง แต่ห้องข้างๆ เธอก็เงียบสงบขึ้นทันตา สงบในขั้นที่เรียกว่าแทบจะไม่มีคนอยู่ห้องเลยด้วยซ้ำ แต่เธอก็ไม่ได้ใส่ใจคอยสังเกตมากนัก ได้แต่รู้ว่าเสียงเงียบไปก็เท่านั้น วันหยุดในวันนี้จึงสดใสสำหรับเธอไม่น้อย
ในตอนสายของวันปรางทิพย์จึงได้เข้าไปที่ร้านกาแฟ จากคอนโดที่เธออยู่ไปถึงโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยนั่นก็ใช้เวลาร่วมครึ่งชั่วโมง
"พี่ปรางสวัสดีค่ะ วันนี้หยุดหรือคะ" ชิดชนกบาริสต้าของร้านเอ่ยทักทายเสียงใส
"จ้ะ วันหยุด เป็นไงกันบ้าง ยุ่งไหม"
"นิดหน่อยค่ะพี่ หนูทำบัญชีไว้ให้เสร็จแล้วนะคะ มีบิลที่ต้องจ่ายเงินด้วยค่ะ หนูวางไว้ให้บนโต๊ะ" ชิดชนกนอกจากจะชงกาแฟแล้ว เธอยังมีอีกหลายหน้าที่ตั้งแต่ผู้จัดการร้าน พนักงานบัญชี ในบางครั้งก็เป็นแม่บ้านเสียเอง แต่เงินเดือนที่จ่ายให้ก็เรียกได้ว่าคุ้มค่ากับตำแหน่ง แถมยังไว้ใจได้อีกต่างหาก
ปรางทิพย์หายเข้าไปที่ออฟฟิศด้านหลังอยู่พักใหญ่ กลับออกมาก็มาช่วยน้องๆ อีกสองคนชงกาแฟบ้าง เสิร์ฟบ้าง จนเกือบจะบ่ายโมง พีรพร หมออายุรกรรมประจำโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัยแห่งนี้เข้ามาที่ร้าน
"อ้าวแกมาร้านหรือ ไม่รู้ ไม่งั้นจะได้ลงมาตั้งแต่เที่ยง"
"อื้อ ได้วันหยุดน่ะ"
"หน้าตาสดใสขึ้นนะ ได้หลับเต็มตื่นล่ะซิ" พีรพรเอ่ยแซวเพื่อนสาวเพราะรู้เรื่องที่เพื่อนอดหลับอดนอนอยู่พักใหญ่เมื่อเดือนก่อน หมอปรางสั่งกาแฟให้เพื่อนอย่างรู้ใจ แล้วก็รีบลากแขนพีรพรไปที่โต๊ะริมด้านใน เพราะคันปากในเรื่องที่เพื่อนกระตุ้นขึ้นมา จนอยากเล่าเรื่องอีกเรื่องที่ยังไม่ได้เล่าให้ฟัง
"อะไรของแก ทำท่าเข้า มีเรื่องอะไรจะเมาท์อีก" พีรพรเอ่ยถามเมื่อนั่งลงที่โต๊ะ
"แกพูดเรื่องนั้นขึ้นมาก็ดีเลย เรื่องนี้เด็ดเลย อย่างฮา"
"ขนาดนั้นเลยไง" พีรพร ยิ้มขันอาการของเพื่อน ปรางทิพย์กำลังจะเอ่ยปากเล่าแต่พอน้องที่ร้านเอากาแฟมาเสิร์ฟให้ เธอจึงหยุดรอให้น้องเดินกลับไปก่อน
"เรื่องอะไรทำลับลมคมใน"
"ก็ไอ้ข้างห้องฉันน่ะ ที่มันตำน้ำพริกกันอ่ะ"
"เออ ทำไมล่ะ ก็เงียบไปแล้วไม่ใช่หรือ"
"นั่นแหละ เงียบเป็นเป่าสากเลยทีนี้ แกรู้ไหม อีตานั่น มันเป็นรูขุมขนอักเสบที่โคนไอ้นั่นน่ะ"
"แล้วไง แกรู้ได้ไง"
"ก็ตานั่นมันไปโรงพยาบาล แล้วเสือกเจอฉันพอดี"
"แกก็เลยชอบอกชอบใจอยู่นี่งั้นซิ"
"แหม ก็มันอดไม่ได้นี่ ฉันทำอดหลับอดนอนมาเกือบเดือน"