2 เสียงจากห้องน้ำ
เกือบหนึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมาเสียงตำน้ำพริกข้างห้องเงียบหายไป อีกทั้งผู้ชายตัวสูงขับรถหรูที่เธอเห็นก็ไม่ได้เห็นเขาอีกเลยในอาทิตย์ที่ผ่านมา มีเพียงสาวสวยห้องข้างๆ ที่สวนกันตรงทางเดินแล้วเธอแอบหันไปมองว่าสาวสวยคนนั้นเดินเข้าห้องไหน จึงได้รู้ว่าเป็นเธอคนนี้ สาวสวยคนนั้นน่าจะอายุราวๆ ยี่สิบต้นๆ ร่างอรชรสวยใสไปทั้งตัว แต่เรียกว่าสวยด้วยมีดหมอเห็นจะได้ ใบหน้าแหลมเรียวสะดุดตายังไม่เท่าหน้าอกหลายร้อยซีซีที่เธอแบกเอาไว้ ปรางทิพย์เดินพ้นหน้าห้องตัวเองออกมาแล้ว จึงทำให้เธอคนนั้นไม่ทันได้รู้ว่าเป็นห้องข้างๆ
เวรเช้าสัปดาห์ที่ผ่านมาจึงทำให้เธอได้นอนหลับเต็มตื่นไม่ต้องผวาตื่นกลางดึกเพาะเสียงสวาทราวเตียงแทบหักนั่น
ปรางทิพย์กลับมาจากโรงพยาบาลในช่วงเย็นของสุดสัปดาห์นี้ แค่เพียงออกจากลิฟต์มา ก็ได้ยินเสียงคนวุ่นวายกันอยู่ แล้วเสียงเหมือนจะมาจากแถวๆ ห้องเธอ พอเลี้ยวมาถึงทางเดินที่จะไปทางห้องตัวเอง จึงได้เห็นว่าห้องข้างๆ วุ่นวายคล้ายจะย้ายห้องหรืออะไรสักอย่าง เธอเดินมาถึงหน้าห้องกำลังค้นกระเป๋าหาคีย์การ์ด
"ขอโทษนะคะ พี่อยู่ห้องนี้ใช่ไหมคะ" เสียงใสทักทายจากข้างๆ ทำให้ปรางทิพย์หันไปมอง
"อ๋อ ใช่ค่ะ" เธอทำหน้าเหลอหลาเป็นเชิงถามใส่สาวสวยห้องข้างๆ ที่เอ่ยทัก อดไม่ได้ที่จะเผลอมองหน้าอกใหญ่โตของเธอ
"หนูขอเสียงดังสักแป๊บนะคะ พอดีกำลังจะเปลี่ยนเตียงค่ะ"
"อ๋อ ค่ะ" หยิบคีย์การ์ดได้พอดี กำลังจะแตะประตูแต่ก็ต้องชะงัก เมื่อเธอคนนั้นยังไม่จบแค่คำพูดนั้น
"ที่หนูเสียงดังตอนนั้น ต้องขอโทษอีกทีนะคะ พอดีแฟนหนู..เอ่อ..เขาแรงเยอะไปหน่อยค่ะ" น้ำเสียงขอโทษแต่เหมือนอวดผัว ปรางทิพย์ได้แต่ยิ้มแห้งๆ มุมปากให้ มือที่แตะคีย์การ์ดหน้าประตูได้แล้วกำลังจะเอ่ยขอตัวก็ต้องหยุดชะงักอีกครั้ง
"มีอะไรหรือเปล่าดา"
เสียงทุ้มต่ำที่ดังมาจากข้างหลัง ทำให้ปรางทิพย์หันไปมอง ผู้ชายร่างสูงที่เจอเมื่ออาทิตย์ก่อนนั้น ยิ่งยืนอยู่ใกล้ๆ แบบนี้ยิ่งรู้ว่าเขาสูงมาก ขนาดเธอสูงร้อยหกสิบสาม ยังเลยไหล่เขาไปเพียงนิดเท่านั้น เขาน่าจะร้อยแปดสิบกว่าเลยทีเดียว เผลอมองความสูงเขาจนเพลินพลันสายตาหันไปสบกับดวงตาคมดุคู่นั้น ในวันที่ไร้หน้ากากอนามัยของทุกคน ใบหน้าที่เธอเห็นว่าหล่อทะลุแมสก์ แต่พอวันนี้เห็นหน้าชัดๆ จึงได้รู้ว่าเขาหล่อมาก ใบหน้าเรียวสันกรามชัดรับกับแว่นตาใสอย่างเข้ากัน
"คุณที่เอากระดาษมาติดหน้าห้องใช่ไหมครับ"
เธอชะงักนิดหนึ่ง ก่อนจะปรับสีหน้าให้เรียบเฉย เขาซิควรละอายใจ ไม่ใช่เธอสักหน่อย
"ใช่ค่ะ" เสียงเรียบเอ่ยตอบ พร้อมเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย
"ผมจัดการปัญหาให้แล้ว ครั้งหน้าถ้ามีปัญหาอีก รบกวนสอดกระดาษไปที่ประตูแทนนะครับ อย่าเอามาติดแบบนี้อีก"
ปรางทิพย์ได้แต่อ้าปากค้าง ยิ้มเยาะให้ตัวเองน้อยๆ ขอโทษสักคำยังไม่มี กลับมาต่อว่าเธอเสียอีก คนแบบไหนกันนี่ มั่นหน้าอะไรกันเบอร์นั้น ผัวเมียคู่นี้
"คุณได้รับคำขอโทษจากห้องผมไปแล้ว" เหมือนเขาจะรู้ว่าเธอคิดอะไร ปรางทิพย์ได้แต่ยิ้มแห้งๆ ให้เขาอีกครั้ง อ้อ คำขอโทษของเมียพร้อมอวดผัว
"ค่ะ งั้นฉันคงต้องขอโทษที่เอากระดาษไปติดหน้าห้องคุณซินะคะ"
"ถ้ายังไงหนูขอโทษพี่อีกทีนะคะ แฟนหนูก็เป็นแบบนี้แหละ เขาพูดน้อยออกจะดุๆ สักหน่อย" กลายเป็นเมียที่ต้องเอ่ยขอโทษเธออีกครั้ง เพราะคนผัวเดินเข้าห้องไปเสียแล้ว ปรางทิพย์ได้แต่ฝืนยิ้มให้อีกครั้ง ก่อนจะผลักประตูเข้าห้องตัวเอง
เธอทิ้งกระเป๋าสะพายลงโซฟาอย่างแรงด้วยความโมโห ทำไมต้องมาอยู่ข้างห้องผัวเมียประสาทคู่นี้ด้วย พูดไปพูดมาคล้ายกับเธอเป็นคนผิดอย่างนั้น
น้ำขวดใหญ่ถูกกระดกเข้าปากไปหลายอึกด้วยความโมโห ก่อนจะกระแทกขวดน้ำลงที่โต๊ะอย่างแรง กว่าปรางทิพย์จะสงบสติอารมณ์ได้เกือบพักใหญ่ เสียงย้ายเฟอร์นิเจอร์เจ้าปัญหาของข้างห้องก็เงียบหายไปแล้ว เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหา พีรพร เพื่อนสนิทขอให้ได้ระบายออกบ้างสักนิดก็ยังดี
"แกคิดดูนังพี พูดไปพูดมากลายเป็นฉันผิด ทั้งที่ตัวเองเขย่ากันจนจะทะลุมาห้องฉันอยู่แล้ว"
(เออ เขาลงทุนเปลี่ยนเตียงให้แกก็ดีแล้ว ต่อไปก็คงไม่มีอะไรแล้วล่ะ) พีรพรได้แต่ปลอบเพื่อน เพราะเสียงจากปรางทิพย์บ่งบอกถึงอารมณ์ได้เป็นอย่างดี
"เปลี่ยนเป็นยี่ห้อแพงซะด้วยนะ แต่เห็นเมียตานั่นแล้วก็น่าจับกระแทกแรงๆ หรอก แม่งอย่างเอ็กซ์"
(ปากแกมันก็อย่างนี้แหละ ไปว่าเขา ตัวเองเถอะ)
"ทำไมยะ ฉันไม่น่ากระแทกตรงไหน ของแท้ทั้งตัว ถึงจะเล็กกว่านิดหน่อยก็เถอะ" คนปลายสายได้แต่หัวเราะ พร้อมเสียง เออๆ เห็นด้วยไปอย่างนั้น
(แกก็อย่าปากไวนัก อยู่ตัวคนเดียวแบบนั้น เผื่อวันหลังมีปัญหาอะไร จะได้พึ่งพาข้างห้องได้ ยิ่งไอ้รุตมันยังตามตื๊อแกไม่เลิกอย่างนั้นด้วย เดี๋ยวถ้ามันรู้ว่าแกอยู่ที่นั่นก็ได้ไปดักรออีกหรอก) เรื่องที่พีรพรเอ่ยเตือนทำเอาปรางทิพย์ถึงกับถอนหายใจเฮือกใหญ่ เพราะไอ้แฟนเก่าที่เลิกกันแล้วไม่ยอมจบของเธอมันตามตื๊อนี่แหละ ทำให้เธอถึงกับต้องย้ายห้องหนี นับว่ามันยังรู้เรื่องบ้างที่ไม่ไปตามเธอถึงที่ทำงาน ไม่อย่างนั้นเธอคงได้ลาออกสักวันแน่นอน