6. ห้องของใคร
“นี่คุณเลือดกำเดาคุณไหลแล้ว เช็ดหน่อย” ปากรณ์พูดบอกไปก็รู้สึกอาย เพราะเธอเล่นมองเขาจนเลือดกำเดาไหลออกมาเลยงั้นเหรอ เขาไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้ว
“อ่อ แล้วนี่คุณเข้าห้องฉันมาได้ยังไง ตอบมาสิ ไม่งั้นรอบนี้ฉันช๊อตคุณจริงๆนะ” นรินดาได้ยินเขาบอกแบบนั้นก็รีบเอามือเช็ดทันที ก่อนจะเอ่ยถามเขาไปแบบตรงๆด้วยเสียงอ่อนลง แล้วพยายามไม่คิดถึงไอ้นั่นของเขาที่มันยังคงวนเวียนฉายภาพซ้ำๆในหัวของเธอ เธอจะลามกไม่ได้ มันไม่ใช่เวลาเลย เขาเป็นใครก็ไม่รู้ แต่เธอมั่นใจว่าหน้าตาหล่อแบบนี้ก็ไม่ใช่โจรแน่ๆ
“เอ๊ะ ทำไมหน้าเขามันเหมือนกับไอ้หนุ่มร้านกาแฟของเธอตอนปีหนึ่งเลยนะ” นรินดาคิดในใจไปแบบสงสัย เมื่อได้มองหน้าเขาแบบชัดๆแล้ว ออร่าความหล่อเบอร์นี้ มันต้องใช่คนเดียวกันแน่ๆ เธอก็ใช้สายตามองแล้วก็พิจารณาไปแบบจดจ้อง หุ่มดูล่ำขึ้น แถมยังขาวกว่าเดิมขึ้นอีก ใบหน้าจากที่หล่ออยู่แล้วก็ดูอวบอิ่มแบบสมบูรณ์แบบ ใช่แล้ว เขาคือผู้ชายในร้านกาแฟนั่น เธอจำไม่ผิดแน่ เพราะเธอเคยไปแอบรออ่อยเขาตั้งหลายวันเพื่อที่จะจีบเขาให้เธอชนะยัยเบญจานั่น แต่ก็แห้ว เมื่อเขาไม่ได้มาร้านนั้นอีกเลย
“ ห้องของคุณอะไร นี่มันห้องผม คุณต่างหากที่ต้องออกไป อย่าให้ผมต้องเรียกยามมาเอาตัวคุณออกไปนะ ผู้หญิงอะไรยืนมองผู้ชายแก้ผ้าได้หน้าตาเฉย” ปากรณ์พูดไปก็เอามือมาปิดหน้าอกของเขาและอีกข้างก็เอามือปิดที่เป้าของตัวเองที่เธอกำลังมองตาเป็นมันแบบเขินๆ เพราะตอนนี้น้องชายของเขามันก็ยังไม่สงบลงเลย เป็นเพราะเธอมาโชว์จิมิกับก้นให้เขาดูโดยบังเอิญนั่นแหละ
“โอ้ มาย ก๊อต นายก็เห็นของฉันไหมล่ะ ไม่งั้นไม่โด่ขนาดนั้นหรอก อ่อ แล้วของดีๆแบบนี้ไม่ให้มองได้ไงล่ะ แล้วฉันต่างหากที่ต้องเรียกยามมาไล่นายออกไป เพราะนี่ห้องของฉัน นายน่ะเข้าห้องมาผิดแล้วย่ะ นู้นประตูจ้ะ เชิญ เก็ท เฮาท์ เอาหุ่นขาวๆ ของนายออกไปได้ละ ไม่งั้นโดนไอ้นี่แน่” นรินดาเอ่ยพูดไปก็เอามือหยิบเครื่องช็อตไฟฟ้าที่เธอซื้อมาไว้ป้องกันตัว ขู่เขาออกไปเพื่อที่จะไล่เขาออกไปแต่โดยดี เพราะเธอคิดว่าเขาน่าจะเข้าห้องมาผิดแน่ๆ แต่มันจะผิดได้ยังไงล่ะในเมื่อเขามีกะเป๋าเดินทางมาด้วย
“ไม่ออก นี่มันห้องของผม ผมจะเข้าผิดได้ยังไงในเมื่อเขาให้ใส่รหัสไว้ คุณมากับพี่ชายผมใช่ไหม ไปเรียกเขาตื่นแล้วพากันกลับไปซะ” ปากรณ์ทำหน้าจริงจังไปแบบไม่ยอม นี่มันห้องของเขา เธอมีสิทธิ์อะไรมาไล่เขากัน
“เดี๋ยวนะ พี่ชายของคุณ ใครมิทราบ” นรินดาถามด้วยความสงสัย แล้วคิดในใจว่าเขาคงไม่ใช่น้องของพี่ปาล์มพี่เปรมหรอกนะ เพราะเธอจำได้ว่าบ้านนี้มีหลานอีกคนที่ไปเรียนเมืองนอก แต่เธอจำชื่อไม่ได้แล้ว
“ก็พี่ปาล์มกับพี่เปรมไง สองคนนี้คุณมากับใคร ไปเรียกมา” ปากรณ์พูดบอกไปแบบแล้วมองหน้าหญิงสาวแบบปลงๆ สภาพก็โทรมขนาดนี้ คงจะถูกพี่เขาจัดหนักมาแน่ๆ ขนาดเครื่องสำอางเลอะก็ยังปิดดวงตาสวยๆคู่นี้ไม่ได้เลย
“อ่อ คุณคงเป็นน้องชายของพี่ปาล์มพี่เปรมสินะ ฉันไม่ได้เป็นผู้หญิงของพี่ชายคุณ ฉันแค่มาเช่าคอนโดนี้ก็เท่านั้น ถ้าคุณมีปัญหาก็ลองโทรไปหาป้ากันดูก็แล้วกัน เพราะป้ากันเป็นคนให้ฉันมาเช่าอยู่ที่นี่” นรินดาพูดบอกไปแบบดีๆ เพราะเข้าใจแล้วว่าเขาเป็นหลานชายของป้ากัน
“ป้ากันให้คุณมาเช่าคอนโดของผมเนี่ยนะ เฮ้อ เอาเป็นว่าผมจะไปตกลงกับป้าของผม ระหว่างนี้คุณเตรียมเก็บของออกไปได้เลย เพราะผมกลับมาแล้วคุณไม่จำเป็นต้องเช่าที่นี่” ปากรณ์พูดไปแบบไม่ทน เพราะนี่มันเป็นคอนโดของเขา เขาต้องการเป็นส่วนตัว ไม่ใช่เข้ามาในห้องแล้วเสื้อเสื้อผ้ากางเกงในตกอยู่ตามพื้นแบบนี้ จากนั้นเขาก็เดินหันหลังกลับไปแล้วเดินไปที่ประตูห้องของเขา ก่อนจะหันมาพูดกับเธอว่า
“อ่อ แล้วไอ้เสื้อผ้าที่คุณถอดทิ้งไว้น่ะ เก็บให้หมดนะ อย่าให้ผมต้องเห็นพวกมันอีก” ปากรณ์พูดบอกไปก็ปิดประตูห้องใส่หน้าของหญิงสาวตรงหน้าทันที จากนั้นก็โทรไปหาป้าสุดรักของเขา แล้วก็โวยวายเรื่องที่ผู้เป็นป้าให้คนมาเช่าคอนโดนี้ทันที จนป้าของเขากำลังจะรีบเดินทางมาที่คอนโดนี้เป็นการด่วน
“ชิ ไอ้คนเย็นชา หน้าตาก็ดีแต่คำพูดเย็นชาชิบ คิดว่าคนอย่างฉันจะยอมออกไปง่ายๆงั้นเหรอ ต่อให้นายเป็นเจ้าของห้องก็เถอะ ฉันก็จะอยู่ห้องนี้ต่อให้ได้” นรินดาพูดไปแบบมาดมั่น เพราะเธอเจอเขาแล้ว เธอก็ต้องได้ โอกาศแบบนี้มันไม่ได้มีบ่อยๆ ของแบบนี้มันต้องอ่อยกันบ้าง ถึงแม้เขาจะจำเธอไม่ได้ก็ช่างสิเธอไม่สน ไม่งั้นเธอก็จะไม่มีแฟนควงไปแก้แค้นยัยเบญจาที่มันหยามเธอมาจนถึงทุกวันนี้
หลังจากนั้นนรินดาก็เก็บเสื้อผ้าของตัวเองที่เธอถอดไว้เมื่อคืนเดินกลับเข้าห้องไปให้หมด ก่อนจะไปโทรหาแม่ของเธอแต่มันติดสายอยู่ ไม่รู้ว่าแม่ของเธอคุยกับใคร
ด้านกันติมาที่ถูกหลานชายโทรมาต่อว่าเรื่องให้คนอื่นมาเช่าคอนโดเสร็จ เธอก็โทรไปหาเพื่อนสาวอย่างปาริดาทันที เพราะถ้าหลานชายเธอโวยวายแบบนี้ สองคนนั้นคงจะเจอกันแล้วแน่ๆ เธอจึงต้องโทรมาคุยกับเพื่อนสาวซะก่อน
“ยัยดา เกิดเรื่องใหญ่แล้วเธอ ตาปาร์คหลานฉันกลับมาไทยแล้ว แล้วก็เจอกับลูกสาวเธอที่คอนโดแล้วด้วย ตอนนี้โวยวายอยู่ที่คอนโดนู้นน่ะ ไม่รู้ว่าหนูไวน์จะเป็นยังไงบ้าง ยังไงถ้าหนูไวน์โทรหาเธอก็พยายามยื้อให้พวกเขาอยู่ด้วยกันให้ได้นะ เดี๋ยวฉันจะไปหาสองคนนั้นที่คอนโดแล้ว” กันติกาพูดออกไปแบบตื่นเต้นๆ เพราะยังหาวิธีทำให้หลานชายของเธอยอมให้นรินดาอยู่คอนโดด้วยไม่ได้ แล้วไอ้ที่โวยวายเมื่อกี้ก็เพราะจะไล่นรินดาออกจากห้องด้วย เธอจึงต้องรีบไปหาทั้งสองเพื่อหาทางจัดการแบบเนียนๆ
“ไม่น่าล่ะยัยไวน์ถึงโทรมาหาฉันยิกๆ ดีนะที่เธอโทรมาบอกก่อน เดี๋ยวเรื่องลูกสาวฉันจะจัดการให้เอง แต่ถ้าเขาไม่ยอมอยู่ฉันก็ไม่บังคับหรอก งั้นเดี๋ยวฉันขอคุยกับลูกก่อนนะ แล้วยังไงเราสองคนค่อยคุยกันอีกที ว่าจะเอายังไง” ปาริดาบอกเพื่อนสนิทไปอย่างใจ หลานของกันติมายังโวยวายแล้วคนไม่ยอมใครอย่างลูกสาวของเธอมีหรือจะยอมอยุู่ เธอคงต้องหาคอนโดใหม่ให้ลูกสาวรอไว้แล้วละมั้งเนี่ย
“โอเคจ้ะ งั้นเดี๋ยวฉันคุยกับหลานฉันแล้วฉันจะโทรหาเธอนะดา แค่นี้นะ” กันติมาพูดไปก็กดโทรศัพท์วางสายไปทันที จากนั้นเธอก็มุ่งหน้าไปยังคอนโดของหลานชายสุดที่รักทันที
ส่วนปาริดาก็ทำหน้ากังวลใจ ก่อนจะกดโทรศัพท์กลับไปหาลูกสาวที่โทรมาตอนเธอคุยกับกันติมาพอดี แล้วเธอก็รอสายจนกระทั่งลูกสาวรับสายแล้วพูดออกมาแบบรัวๆ จนเธอต้องเอาโทรศัพท์ออก แล้วกดเปิดสปีคเกอร์โฟนแทน
“แม่คะ ไวน์ไม่ยอมนะ นี่แม่กับป้ากันตกลงอะไรกันยังไงคะ ทำไมหลานป้ากันมาทวงคอนโดกับหนูแบบนี้ รู้ไหมคะว่าตาบ้านั่นมันกวนโอ๊ยไวน์ขนาดไหน แถมยังมาว่าไวน์เป็นเด็กๆของพี่ปาล์มพี่เปรมอีก เฮ้อ นี่ถ้าไม่ใช่หลานของป้ากันล่ะก็ ไวน์เอาเครื่องช๊อตไฟฟ้าให้สลบคาห้องนี่ไปแล้ว” นรินดาพูดบ่นออกไปแบบโมโห เพราะเจ็บใจที่ไอ้หมอนั่นมันไล่เธอออกจากคอนโดแบบไม่แยแส ทั้งที่เธอก็สวยออกป่านนี้ ไม่เห็นแก่ความสวยความน่ารักของเธอบ้างเลยรึไงกัน แล้วไล่เธอขนาดนี้เธอจะใจกล้าอยู่ต่อได้ยังไง
“อ่อ ใจเย็นๆลูก แม่ก็พึ่งคุยกับป้ากันเมื่อกี้ เขาโทรมาขอโทษแม่แล้วล่ะ แล้วเดี๋ยวป้ากันเขาจะไปคุยกับหลานเขาให้ หนูไม่ต้องย้ายไปไหนเลยลูก ใจเย็นๆก่อนสิจ้ะ แม่เช่าที่นั่นแล้วยังไงหนูก็ต้องได้อยู่ พี่เขาก็ต้องเข้าใจสิห้องก็มีตั้งเยอะ แชร์ๆกันก็ไม่เห็นเป็นไรเลย” ปาริดาตอบไปแบบเนียนๆ เพราะไม่รู้ว่าลูกสาวจะเอายังไง
“นี่แม่จะให้หนูอยู่ที่นั่นต่อเหรอคะ แล้วอยู่กับผู้ชายเนี่ยนะ แม่คงไม่ได้จะจับคู่หนูกับเขาใช่ไหมคะ” นรินดาถามไปแบบสงสัย เนื่องจากแม่เธอเองก็หวงเธอไม่ต่างจากพ่อและพี่ชายเลย แต่ทำไมท่านถึงจะยอมให้อยู่กับผู้ชายคนนี้ง่ายจัง คงไม่จับคู่เธอกับเขาหรอกนะ เพราะไม่อยากนั้นแม่เธอก็คงจะสมหวังแน่นอน เพราะเขาคือผู้ชายที่เธอกำลังหมายตาไว้ในตอนนี้
“อ่อ จับคู่อะไรกัน ไม่มีหรอก แม่ก็เห็นว่าเขาเป็นหลานของป้ากันไงลูก เขาก็ต้องเหมือนกับพี่ปาล์มพี่เปรมของหนูสิ แม่คิดว่าเขาน่าจะไว้ใจได้ถ้าหนูอยู่กับเขา” ปาริดาพูดบอกไปแล้วรอฟังลูกสาวพูด
“แต่แม่คะ คนนี้มันไม่เหมือนกันค่ะ เขาไม่ใช่พี่ปาล์มพี่เปรมสักหน่อย แล้วไวน์ก็ไม่อยากนับถือคนแบบนั้นเป็นพี่ชายด้วย ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้ความจำก็ไม่ดี ปากก็จัด แถมยังเย็นชามากเลย” นรินดาบ่นให้ผู้เป็นแม่ฟังแบบน้อยใจที่เขาจำคนสวยๆอย่างเธอไม่ได้ พูดแล้วมันก็โมโห ขนาดเธอเห็นเขาแล้วยังจำได้เลย
“งั้นหนูจะไม่ยอมอยู่กับพี่เขาใช่ไหม แม่จะได้บอกป้ากันให้ แม่ไม่บังคับหนูหรอกนะ” ปาริดาพูดออกไป เพราะไม่รู้ว่าลูกสาวต้องการจะอยู่หรือไม่อยู่กันแน่ แต่ฟังๆดูแล้วลูกสาวเธอก็ดูไม่พอใจมาก
“อ่อ ไวน์ว่าไหนๆไวน์ก็ย้ายมาอยู่นี่แล้วก็อยู่ให้มันจบๆไปเลยก็แล้วกันค่ะ อีกแค่ปีเดียวเอง ไวน์ว่าไวน์น่าจะอยู่ได้ อีกอย่างไวน์ก็เสียดายเงินที่แม่จ่ายไปด้วย” นรินดาพูดไปแบบเนียนๆ ทั้งที่จริงแล้วเธอเองก็อยากจะอยู่ต่อ มันจะได้สะดวกต่อการอ่อยของเธอหน่อย คนใกล้ชิดกันยังไงสักวันมันต้องชอบกันบ้างสิ
“แน่ใจนะว่าลูกจะอยู่ต่อ ปกติลูกไม่ชอบอยู่ร่วมกับใครนิ” ปาริดายักคิ้วสงสัยทันที่ลูกสาวยอมอยู่ต่อ ปกตินี่ต้องโวยวายขอย้ายคอนโดแล้ว แล้วนี่นึกยังไงยอมอยู่ต่อ หรือว่าเห็นหลานชายของกันติมาคนนี้แล้วชอบ แต่ก็ไม่แปลกหรอกตอนที่กันติมาเอารูปมาให้เธอดู เธอก็คิดในใจเลยว่าหล่อๆดีกรีคุณหมอแบบนี้แหละ เหมาะจะเป็นลูกเขยของเธอที่สุด
“โธ่แม่คะ ไวน์โตแล้วนะคะ ความคิดมันก็ต้องเปลี่ยนบ้างสิ เอาเป็นว่าไวน์จะอยู่ต่อค่ะ แม่ไปบอกป้ากันเลยนะคะ เพราะไวน์ไม่ยอมให้อีตานั่นไล่ไวน์ออกจากคอนโดได้ง่ายๆหรอก” นรินดาพูดบอกไปแบบไม่ยอม เพราะเธอจะอยู่ที่นี่ต่อหากเขาทนไม่ได้เขานั่นแหละที่ต้องออกไป
“ถ้าเราอยากจะอยู่ต่อแม่จะคุยกับป้ากันเขาให้ แล้วเราก็ลุ้นเอาละกันว่าหลานเขาจะยอมไหม เพราะถ้าไม่ แม่ก็คงต้องให้ลูกย้ายออกมา แม่ไม่อยากให้ป้ากันเขาต้องลำบากใจ นี่ป้ากันเขากำลังจะไปหาหนูกับหลานชายเขาที่คอนโดด้วย ยังไงแม่จะโทรไปบอกป้าเขาไว้ก่อนก็แล้วกันนะ” ปาริดาพูดไป เพราะตอนนี้ลูกสาวของเธอจากที่เธอคิดว่าลูกสาวจะไม่ยอมอยู่ แต่นี่กลับยอมอยู่ต่อง่ายๆ แถมคำพูดคำจาก็ดูอยากจะเอาชนะเหลือเกิน เธอก็เลยกลัวว่าเดี๋ยวจะมีปัญหากันภายหลัง
“ได้เลยค่ะแม่ งั้นเดี๋ยวแค่นี้ก่อนนะคะ ไวน์ขอตัวไปอาบน้ำก่อน แล้วเดี๋ยวไวน์ค่อยโทรหาแม่ตอนที่ป้ากันกลับแล้วนะคะ” นรินดาบอกไปก็รอผู้เป็นแม่พูดต่อ
“ได้จ้ะ ทำตัวดีๆล่ะ” ปาริดาบอกลูกสาวไปก็กดวางสายไป แล้วก็ยิ้มแบบดีใจที่ลูกสาวยอมอยู่ต่อแบบง่ายๆ เธอก็จะได้ไม่ต้องหนักใจที่จะจับคู่ให้ลูกสาวของเธอเอง ทีนี้แหละโอกาสที่เธอจะได้ลูกเขยเป็นหมอก็จะสูงขึ้น ปาริดาคิดไปแบบดีใจก็รีบโทรไปเม้าท์กับกันติมาอีกครั้ง
จนกันติมาเองก็ดีใจไม่แพ้กันที่นรินดาจะยอมอยู่ต่อ ต่อไปก็เหลือแค่หลานชายของเธอเท่านั้น เธอจะต้องไปพูดให้หลานชายของเธอยอมให้ได้
ด้านนรินดาพอวางสายของแม่เสร็จ เธอก็รีบเข้าไปในห้องน้ำเพื่ออาบน้ำแต่งตัว แล้วต้องอึ้งกับสภาพหน้าของตัวเอง แล้วเข้าใจแล้วว่าทำไมเขาถึงจำเธอไม่ได้ ก็มันเน่าแบบนี้นี่เอง
“โอ๊ยยัยไวน์เอ้ย สภาพหน้าอย่างกับหมีแพนด้า เขาจะไปจำเราได้ยังไงเนี่ย ดูสิ คุยกันตั้งนาน เฮ้อ น่าอายจริงๆเลย” นรินดาพูดไปก็เอามือแตะอไลน์เนอร์ที่เปื้อนใต้ขอบตาของเธอแบบพิจารณา เพราะหน้าเธอมันเลอะเครื่องสำอางไปหมดแบบนี้ เขาจะไปจำหน้าสวยๆของเธอได้ยังไงกัน
“ไม่ได้การละ เดี๋ยวออกไปต้องสวยให้สุด” นรินดาพูดไปก็ยิ้มกริ่ม แล้วเธอก็รีบไปอาบน้ำและล้างหน้าล้างตัวให้กลับมาสดใสเหมือนเดิม
ด้านปากรณ์ที่ลากกระเป๋าเดินทางเข้าไปในห้องเพื่อแต่งตัวก็ไปนั่งถอนหายใจเหนื่อยใจ เพราะไม่คิดว่าชีวิตของเขาจะวุ่นวายตั้งแต่วันแรกที่กลับมาไทยอย่างนี้ ป้าของเขานี่ก็แสบจริงๆ เอาห้องของเขาไปให้คนอื่นเช่าได้ยังไง ทำอย่างกับคอนโดของเขามันถูกนักนิ เขาซื้อมาตั้งเกือบสามสิบล้านเพื่อจะได้มีพื้นที่กว้างๆสบายๆเป็นส่วนตัว แต่มันกลับถูกปล่อยเช่าไปนี่สิ จะไม่ให้เขาโมโหได้ยังไงกัน
“แม่ง แล้วยัยนั่นก็ดันมาเห็นอีก มันจะใหญ่หรือมันจะเล็กวะเนี่ย” ปากรณ์ก้มดูน้องชายที่แข็งตัวนิดๆหน่อยๆอย่างไม่มั่นใจ เพราะนี่เป็นครั้งแรกที่มีสาวเห็นน้องชายของเขาแบบจริงๆจังๆ แล้วเขาก็ไม่รู้ด้วยว่าสำหรับผู้หญิงจะมองยังไงว่าใหญ่กว่าหรือเล็กกว่า
“ก็คงใหญ่ละมั้ง ไม่งั้นยัยนั่นคงไม่ตาโตขนาดนั้นหรอก” ปากรณ์คิดไปแบบพิจารณา แล้วเอามือลูบท่อนเอ็นดูแบบสงสัย ก่อนจะสลัดความคิดนั้นทิ้งแล้วรีบแต่งตัวทันที เพราะเดี๋ยวป้าของเขาก็คงจะมาถึงแล้ว เขาจะไม่ยอมให้ป้าเอาคอนโดของเขาไปแบ่งให้ผู้หญิงคนนั้นเช่าเด็ดขาด คอยดูเถอะ
เวลาผ่านไปเกือบยี่สิบนาที
กันติมาก็มาถึงคอนโดของหลานชาย เธอก็รีบขึ้นไปหาทั้งสองทันที จนกระทั่งปากรณ์มาเปิดประตูด้วยใบหน้าบึ้ง กันติมาก็ตีเนียนเข้าไปกอดหลานชายอย่างคิดทันที
“ตาปาร์ค กลับมาสักทีนะลูก ป้าคิดถึงเราทุกวันเลยรู้ไหม” กันติมาพูดไปก็เข้าไปกอดหลานชายไว้ แล้วใช้สายตามองหานรินดาในห้องแต่ก็ไม่มีแล้ว หรือว่าหลานชายเธอจะไล่ออกไปแล้ว ไม่มั้ง ตาปาร์คคงจะไม่ใจร้ายกับน้องขนาดนั้นมั้ง
“ผมก็คิดถึงป้าครับ แต่อย่าเนียนครับป้า ผมต้องการรู้ว่าทำไมป้าต้องให้คนอื่นมาเช่าคอนโดของผมด้วย ป้าก็รู้นิครับว่าผมจะกลับมาไทยแล้ว ทำไมยังให้คนอื่นมาเช่าอยู่ด้วย” ปากรณ์ถอนกอดของผู้เป็นป้าแล้วมองหน้าด้วยสายตานิ่งๆ ก่อนจะเดินเข้าไปนั่งที่โซฟา
“ก็ป้าเห็นว่าห้องเรามันก็ใหญ่ดี แถมตอนนั้นเรายังไม่กลับมานิ ป้าก็เลยให้หนูไวน์เขามาเช่าแทน ห้องจะได้มีคนอยู่ไงปล่อยทิ้งไว้ก็เสียของ” กันติมาพูดไปก็เดินไปนั่งโซฟาฝั่งตรงข้ามของหลานชาย
“ไวน์งั้นเหรอ ทำไมชื่อมันโหลแบบนี้นะ” ปากรณ์คิดในใจแล้วอยากจะหัวราะ เมื่อชื่อของผู้หญิงคนนี้ดันเหมือนกับชื่อของยัยขนมไทยนั่น ถึงแม้มันจะผ่านมาสามปีแล้วแต่ชื่อและหน้าสวยๆของผู้หญิงคนนั้นก็ยังคงวนเวียนอยู่ในหัวของเขา
“จะยังไงก็ช่างนะครับป้า ผมต้องการให้เขาออกไป ผมไม่อยากอยู่ร่วมกับใครโดยเฉพาะผู้หญิง ถ้าคนอื่นรู้เข้าเขาจะมองผมกับผู้หญิงคนนั้นว่ายังไง เพราะฉะนั้นป้าคืนเงินค่าเช่าเขาไปซะ แล้วก็เอาตัวผู้หญิงคนนั้นออกไปด้วย” ปากรณ์พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ตาปาร์ค ถือว่าป้าขอนะลูก น้องเขาก็จะจบปีนี้แล้ว ให้เขาอยู่คอนโดกับหลานสักปีละกันนะ เขาเป็นลูกสาวของเพื่อนสนิทของป้า ป้ารับปากแม่เขาไว้ว่าจะให้เช่าอยู่ที่นี่แล้วป้าก็ไม่อยากกลับคำพูด จะให้ไปอยู่คอนโดของพี่ๆเราป้าก็ไม่ไว้ใจ สวยๆแบบหนูไวน์น่ะ ตาเปรมตาปาล์มก็คงไม่ปล่อยไว้” กันติกาพูดโกหกออกไปแบบทำเสียงน่าสงสาร เพราะหลานชายเธอมันต้องเจอลูกอ้อนแบบนี้
“นั่นสวยแล้วเหรอครับป้า เฮ้อ แบบนั้นพี่ปาล์มพี่เปรมไม่สนหรอก ผู้หญิงอะไรก็ไม่รู้ซกมกจริงๆ” ปากรณ์พูดไปแล้วนึกถึงใบหน้าที่เลอะเครื่องสำอางของเธอ จนแทบมองไม่เห็นความสวยเลยสักนิด เขามั่นใจว่าหน้าแบบนั้นพี่ๆของเขาไม่มีใครชอบแน่ๆ ขนาดเขายังสยองเลย ไหนจะการกระทำของเธอที่สุดแสนจะซกมกอีก เขารับไม่ได้หรอกถ้าต้องมาเจอเสื้อผ้าเรี่ยราดในห้องทุกวันๆ ยกทรงบ้าง กางเกงในบ้าง เขาคงได้หัวใจวายตากันพอดี เขาไม่ยอมให้ยัยนั่นมาอยู่ด้วยเด็ดขาด
“ดูพูดเข้าสิตาปาร์ค เรานี่ปากคอเราะร้ายจริงๆ น้องเขาออกจะสวยแล้วก็น่ารัก แถมยังออกงานช่วยป้าเป็นประจำ เรานี่ตาไม่ถึงเลยนะ ไม่รู้แหละ ป้าจะให้น้องอยู่ที่นี่กับเรานั่นแหละ ถ้าเราไม่อยากอยู่กับน้องก็ไปอยู่บ้านซะ แค่นั้นจบ” กันติมาพูดคำขาดออกไปแบบไม่ยอมเช่นกัน เอาสิ ให้มันรู้กันไปว่าหลานคนนี้จะขัดคำสั่งของเธอ
“ไม่ครับ นี่มันคอนโดของผมผมก็ต้องอยู่ที่นี่สิป้า ป้าจะรักเขามากกว่าหลานอย่างผม ผมก็ไม่ว่า แต่ผมซื้อคอนโดนี้เองป้าไม่มีสิทธิ์เอาไปให้ผู้หญิงคนนั้นเช่า เพราะฉะนั้นผมให้เวลาแค่วันนี้นะครับ ให้ผู้หญิงซกมกคนนั้นขนของออกไปจากห้องนั้นให้หมด” ปากรณ์พูดออกไปแล้วมองหน้าผู้เป็นป้าด้วยสายตาไม่ยอม ถึงเขาจะรักป้าของเขามาก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าป้าของเขาจะมาบงการชีวิตหรือออกคำสั่งกับเขาได้แบบนี้
“ตาปาร์ค หลานพูดกับป้าแบบนี้ได้ยังไงห้ะ เมื่อก่อนหลานไม่เคยขัดป้าเลยนะ ใช่สิ โตแล้วนิ ป้ามันไม่สำคัญสำหรับหลานแล้วนิ” กันติกาลุกขึ้นมาโวยใส่หลานชายเสียงดังแบบเล่นชุดใหญ่ไฟกระพริบเลย เพราะดูหลานชายเธอพูดเขาสิ มันน่าน้อยใจไหมล่ะ อุตส่าห์เลี้ยงมาแต่อ้อนแต่ออก มาพูดแบบนี้เธอก็เสียใจเหมือนกันนะ
“ขอโทษนะคะป้ากัน ถ้าเขาไม่อยากให้ไวน์อยู่ ไวน์ย้ายออกไปหาคอนโดเล็กๆเช่าเอาก็ได้ค่ะ คุณป้าไม่ต้องเกร็งใจคุณแม่ไวน์หรอกค่ะ ท่านต้องเข้าใจแน่ค่ะว่าหลานชายของคุณป้าเขาไม่อยากให้ไวน์อยู่ด้วย ไวน์ก็ไม่รบกวนพี่เขาหรอกค่ะ” นรินดาเดินออกจากห้องมาทันทีที่ได้ยินทั้งสองทะเลาะกันเสียงดัง เธอจึงพูดออกไปแบบสวยๆพร้อมกับมองไปที่ทั้งสองด้วยสายตาใสซื่อ ทั้งที่ในใจนี่กำลังอ่อยอีกฝ่ายไปแบบเนียนๆ
“ยัยขนมไทย” ปากรณ์พูดในใจด้วยสายตาอึ้งๆเพราะผู้หญิงคนนี้คือยัยขนามไทยเมื่อสามปีก่อน อะไรมันจะบังเอิญขนาดนี้ ก่อนหน้านี้เขาจำเธอไม่ได้เพราะหน้าตาเธอเลอะเครื่องสำอาง แต่ตอนนี้เขาจำเธอได้แบบขึ้นใจเลยว่าเธอคือผู้หญิงที่อยู่ในหัวของเขามาตลอดสามปีนี้ เธอดูสวยขึ้นมาก มากจนเขามองแล้วรู้สึกใจเต้นผิดจังหวะแปลกๆ ให้ตายเถอะ ยัยนี่เป็นแม่มดหรือไงเนี่ย
“เอาเลยดูซะให้เต็มตา ว่าฉันสวยแล้วก็น่ารักแค่ไหน ดูสิ แต่งมาสวยขนาดนี้จะจำเธอได้ไหม” นรินดาคิดในใจแบบมีชัยเมื่อเห็นเขามองมาที่เธอด้วยสายตาอึ้งๆ แถมเขายังไม่ละสายตาไปจากเธออีกด้วย เธอก็แกล้งทำเป็นใส่ซื่อมองเขาไปแบบยอมๆ ถ้าคนมันสนใจกันสักนิด มันก็น่าจะยอมให้เธออยู่ต่อบ้างแหละน่า
“โธ่หนูไวน์ ป้าขอโทษแทนหลานชายของป้าด้วยนะลูก เขาไม่ค่อยเข้าสังคมเท่าไหร่น่ะ” กันติมาหันไปมองตามเสียงที่เอ่ยขึ้นมาด้านหลังของเธอ ก่อนจะมองนรินดาที่แต่งตัวสวยสดใสออกมาจนเธอเองก็ยังต้องอึ้ง เมื่อคืนหนูไวน์ก็ยังไม่แต่งสวยขนาดนี้เลย หลานของเธอก็ไปว่าหนูไวน์ของเธอได้ยังไงกันว่าซกมก ออกจากสวยสะอาดตาขนาดนี้
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะป้ากัน เขาคงมองว่าไวน์เป็นผู้หญิงซกมกที่เขาไม่อยากจะอยู่ด้วย เดี๋ยวไวน์ไปอยู่คอนโดของเพื่อนไวน์รอไปก่อนก็ได้ค่ะ หาคอนโดได้แล้วก็ค่อยย้ายไป ไวน์ไม่อยากให้ป้ากับกับพี่เขาต้องทะเลาะกันเพราะไวน์ ยังไงไวน์ก็ขอขอบคุณป้ากันนะคะที่ให้ไวน์มาอยู่ที่นี่” นรินดาพูดไปก็ยกมือไหว์กันติมาไปแบบมีมารยาทอย่างน่ารัก กันติมามองแล้วก็เอ็นดูแล้วเข้าไปหานรินดา
ปากรณ์ที่ได้ยินเธอประชดกลับมากับคำพูดที่เขาว่าเธอซกมกก็อยากจะตีปากตัวเองจริงๆ เขานี่มันตาถั่วจริงๆที่จำเธอไม่ได้ ถ้ารู้แบบนี้เขาไม่โวยวายให้เสียเวลาหรอก จะยอมให้อยู่มากกว่าหนึ่งปีด้วยซ้ำไป แล้วทีนี้เอาไงดีล่ะ เขาก็เล่นใหญ่ไม่ยอมให้เธออยู่ท่าเดียว แล้วจะทำยังไงให้เขาไม่ต้องขายหน้าดีวะเนี่ย
“โธ่น่ารักจังเลยลูก ดูสิตาปาร์ค น้องน่ารักแล้วก็น่าสงสารจะตายไป เราจะยอมให้น้องอยู่ที่นี่ไปก่อนไม่ได้หรือไง อย่างน้อยก็รอจนกว่าน้องเขาจะหาคอนโดได้ก็ยังดี ป้าขอนะปาร์ค ถือว่าทำเพื่อป้านะลูก แค่ครั้งนี้ครั้งเดียวนะ” กันติมาหันไปพูดกับหลานชายแล้วก็เห็นสายตาที่หลานชายมองนรินดาด้วยสายตาอึ้งๆ เธอก็หันกลับมามองนรินดาอีกครั้ง เอ๊ะ สายตานี้ของตาปาร์คมันหมายความว่ายังไงกัน
“ไม่เป็นไรจริงๆค่ะป้า ไวน์ออกไปก็ได้ถ้าเขาไม่สะดวกใจจะให้ไวน์อยู่ อย่าไปบังคับเขาเลยค่ะ” นรินดาพูดเสริมไปก็ยิ้มออกไปแล้วมองเขาพร้อมกับชักสายตาหนีเหมือนไม่อยากจะมองหน้าของเขา เพราะของแบบนี้มันต้องอ่อยให้สุด
“เออๆ ผมยอมให้เขาอยู่ก็ได้ แต่เด็กนี่อ่อนกว่าผมเพราะฉะนั้นต้องให้เรียกผมว่าพี่ เพราะถ้าจะอยู่ด้วยกันเขาก็ต้องเคารพผม ไม่ใช่มาเรียกคุณๆฉันๆแบบนี้ผมไม่ชอบ ส่วนเรื่องการอยู่ร่วมกันผมจะตกลงกับเขาเอง ถ้าเขายังอยากจะอยู่ที่นี่กับผม” ปากรณ์พูดบอกไปแบบเนีบนๆ เมื่อป้าของเขาพูดเปิดทางให้เขาได้ยอมให้เธออยู่แล้ว เขาก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาต้องยอมด้วย แต่เขาคิดว่าถ้าเขาปล่อยโอกาสที่จะรู้จักเธอไป มันก็คงจะน่าเสียดายแน่ๆ มันค้างคาใจเขามาตั้งสามปี ขอเขาได้รู้หน่อยเถอะว่าผู้หญิงคนนี้มันพิเศษยังไง ที่ทำให้ใจของเขามันสั่นได้ขนาดนี้