บท
ตั้งค่า

4. จุกอก...

ผ่านไปสองวัน

ก็เป็นวันที่รับน้องใหญ่เสร็จสิ้น หลังจากที่รับน้องกันมานานเกือบเดือน รุ่นพี่ทุกคนก็ทำตัวใจดีมากกว่าเดิม จึงทำให้น้องๆไม่เกรงเวลาที่เจอหน้าหรือพูดคุยทักทายกัน ยิ่งกลุ่มแก้งค์ของนรินดาก็ยิ่งสนิทกันมากขึ้นไปอีก

“ยัยไวน์ แกไม่สมัครแข่งดาวคณะจริงอ่ะ นี่ไอ้โดนัทมันอุตส่าห์ลงประกวดเดือนเพื่อแก้งค์เราเลยนะ แกจะไม่ประกวดจริงอ่ะ” นาราเอ่ยถามเพื่อนสาวออกไป เพราะมีรุ่นพี่หลายคนมาถาม แต่นรินดาก็ปฎิเสธไปหมด

“ฉันไม่อยากแข่งอ่ะแก ขี้เกียจต้องมานั่งดูแลตัวเอง อีกอย่างฉันก็ไม่อยากไปแข่งกับยัยเบียร์อะไรนั่นด้วย ยัยนั่นอยากเป็นก็ให้มันเป็นไปเถอะ พวกแกไม่ต้องมาเชียร์แล้ว เพราะฉันไม่มีทางลงประกวด” นรินดาพูดบอกไปเพราะไม่อยากจะมีปัญหา

“เออๆ ไม่ลงก็ไม่ลง งั้นฉันลงเองก็ได้วะ อ่าวพี่ธาม หวัดดีพี่ มาทำไมเนี่ย” โดนัทพูดไปแบบงอนๆ ก่อนจะเอ่ยทักรุ่นพี่ที่เดินเข้ามาด้วยสายตากวนๆ ทั้งที่รู้อยู่แล้วว่าธีรภัทรมาหานรินดา

“จะมาคุยกับไวน์น่ะ รับน้องเสร็จแล้วไม่เลี้ยงสายรหัสได้ยังไงกันล่ะจริงไหม พี่ก็เลยแวะเอาที่อยู่ร้านมาให้น่ะงานมีอาทิตย์หน้า แล้วนี่ขนมจากพี่รหัสสุดหล่อครับผม อ่อ พวกน้องๆไปด้วยนะจะได้สนุกกัน ฟรีทั้งงานสำหรับเพื่อนน้องรหัสของพี่ ฮ่าๆ ไวน์จะพาแฟนที่มาวันนั้นไปด้วยก็ได้นะ พี่ไม่ว่า” ธีรภัทรบอกรุ่นน้องไปอย่างเอ็นดู พร้อมกับส่งที่อยู่ร้านที่เขาจะเลี้ยงสายรหัสให้กับนรินดาไป แล้วอยากจะถามเธอเรื่องที่เขาลือกันว่าเธอมีแฟนหล่อนั้นเป็นจริงหรือไหม แต่เขาก็แอบถามไปแบบเนียนๆแล้ว

“ป๋าไปอีกนะพี่ธาม ฮ่าๆ เป็นผมนี่รักพี่ตายเลยว่ะ ช่างเป็นพี่รหัสที่เปย์เก่งจริงๆเลย ถ้ามีแฟนจะเปย์ขนาดไหนเนี่ย คงไม่พากันไปต่างประเทศเลยเหรอ” โดนัทพูดประชดออกไปแบบเนียนๆ เพราะรู้ว่าธีรภัทรจะพาเบญจาไปเที่ยวต่างประเทศอาทิตย์นี้ และเขาก็ไม่อยากให้นรินดาตอบไปว่ามีแฟนหรือไม่มีด้วย เซ้นต์ของเขามันบอกว่าธีรภัทรกำลังหวงก้าง

“ฮ่าๆ มันแน่นอนอยู่แล้ว แต่น้องรหัสคนสวยของพี่ พี่ก็พาไปได้นะ ถ้าแฟนไวน์ไม่ว่าอะไร” ธีรภัทรพูดไปก็หันไปยิ้มใส่นรินดาแบบสดใส แล้วแอบด่าโดนัทในใจที่มันฉุดประเด็นแฟนของเขาขึ้นมา นรินดาเองก็มองแบบเขินอายที่ได้ยินแบบนั้น

“ขอบคุณค่ะพี่ธาม ไว้ไวน์จะรอทริปเที่ยวจากพี่หรัสสุดหล่อของไวน์นะคะ ฮ่าๆ” นรินดาพูดไปก็ยิ้มให้กับธีรภัทรแบบเขินไป แต่ก็ไม่ได้บอกเขาว่าเธอมีแฟนหรือเปล่า เพราะคิดว่าเขาก็แค่ถามไปงั้นๆ

“ฮ่าๆ ได้เลย พี่พาเที่ยวได้สบายๆอยู่แล้ว” ธีรภัทรพูดไปก็เอามือมาขยี้ผมของนรินดาอย่าเอ็นดู จนเพื่อนๆของเธอมองหน้ากันแล้วคิดว่าสองคนนี้ต้องคิดไปมากกว่าพี่น้องรหัสแน่ๆ ต่างจากโดนัทที่เบ้ปากใส่ธีรภัทรไปแบบมองบน

“พี่ธามคะ ไปกันได้รึยังคะ เบียร์รอนานแล้วนะคะ” เบียร์หรือเบญจาเอ่ยพูดออกไปอย่างไม่สบอารมณ์นัก เมื่อเห็นแฟนหนุ่มของตัวเองกำลังทำท่าทางเล่นๆกับชะนีภูธรนั่น อย่างไม่แคร์เธอที่กำลังยืนมองหัวโด่อยู่ตรงนี้ เธอจึงเดินเข้าไปดึงแขนของธีรภัทรออกมาเบาๆ แล้วก็ควงแขนของเขาต่อหน้าแก้งค์ภูธรที่เธอแอบตั้งให้

“จะเอาทั้งพี่ธามแล้วก็พี่ปาร์คเลยหรือไง อย่าหวังว่าจะได้แอ้มพี่ธามฉันเลย อีชะนีภูธร” เบญจาพูดไปแบบมาดมั่น เธอจะไม่ยอมเสียธีรภัทรไปให้กับคนอย่างนรินดาเด็ดขาด

“ยัยไฮโซนี่มากอดแขนพี่ธามของฉันได้ยังไง ไม่นะ มันต้องไม่ใช่แบบที่ฉันคิด” นรินดาก็มองทั้งสองที่ดูจะสนิทสนมกันด้วยสายตาอึ้งๆ เพราะปกติเธอไม่เห็นพี่ธามจะพูดหรือคุยอะไรกับเบียร์มากนัก ทำไมวันนี้ถึงมากอดแขนคลอเคลียกันแบบนี้ หรือว่าเธอตกข่าวอะไรไป

“เบียร์ พี่แค่คุยกับไวน์แล้วก็เพื่อนๆน้องเขาแปปเดียวเอง” ธีรภัทรหันไปตอบเบญจาด้วยความตกใจ

“งั้นเดี๋ยวพี่ไปก่อนนะทุกคน ไว้เจอกันตอนวันเลี้ยงสายรหัสเลยละกัน” ธีรภัทรพูดปัดไป เพราะยังไม่ต้องการบอกให้นรินดารู้ตอนนี้ว่าเขานั้นมีแฟนแล้ว

“อ่าวพี่ธาม ไม่บอกพวกเราก่อนเหรอว่าพี่เป็นอะไรกับเบียร์น่ะ” โดนัทเห็นโอกาสดี เลยรีบถามออกไป เพราะเขาต้องการให้เพื่อนสาวรู้ความจริงได้แล้ว ก่อนที่จะถลำลึกไปมากกว่านี้

“พี่ธามกับเบียร์เป็นอะไรกันเหรอคะ” นาราถามไปอย่างอยากรู้ และเธอก็มั่นใจว่าเพื่อนสาวก็อยากกจะรู้เช่นกัน นี่พวกเธอจะถูกยัยเบญจามันตามติดเป็นเงาไปถึงไหนเนี่ย แค่เห็นมันกอดแขนพี่ธามแบบนี้เธอก็รู้แล้วว่ามันต้องมีอะไรมากกว่านี้แน่ ไม่งั้นโดนัทมันไม่พูดถามแบบนั้นหรอก

“อ่อ พี่คงจะลืมบอกไปว่า เบียร์กับพี่เป็นแฟนกันน่ะ” ธีรภัทรเอ่ยบอกไปด้วยเสียงและใบหน้าหนักใจ เพราะเขารู้ดีว่านรินดาจะต้องตกใจกับเรื่องนี้ แต่เขาก็เปลี่ยนความจริงไม่ได้เพราะเขากับเธอคบกันมาก็หกเดือนแล้ว

ส่วนนรินดาเขายอมรับว่าเขาเผลอใจไปชอบเธอแล้ว แต่เขาไม่อยากให้แฟนที่ทำดีกับเขามาตลอดต้องเสียใจ เขาจึงพยายามที่จะไม่คิดอะไรกับน้องรหัสของตัวเองไปมากกว่านี้

“ฟะ แฟนเหรอคะ” นรินดาเอ่ยถามออกไปด้วยความตกตะลึง เพราะไม่คิดว่าเขาจะมีแฟนแล้วแบบนี้ ทั้งที่เขาก็ไปเฝ้าเธอที่โรงพยาบาลแทบทุกวัน เขาก็ไม่เคยมีใครโทรตาม นี่เขาไม่ได้คิดอะไรกับเธอเลยงั้นเหรอ แถมผู้หญิงคนนั้นก็ยังเป็นเบญจา คู่อริของเธออีก มันจึงทำให้เธอรู้สึกแค้นใจมาก

“หึ สมน้ำหน้าอีชนีภูธร ไงล่ะ เอ๋อแดกไปเลย สะใจจริงๆ” เบญจาคิดในใจแบบสะใจ เพราะมันคงจะจุกน่าดูที่รู้ว่าผู้ชายที่มันชอบคือผู้ชายของเธอ ซึ่งมันจะไม่มีวันได้เขาไปอย่างแน่นอน

“คือพี่” ธีรภัทรจะพูดอธิบายแต่แฟนสาวก็พูดแทรกขึ้นมาซะก่อน เขาจึงหยุดพูดไป

“ใช่จ้ะไวน์ เรากับพี่ธามคบกันมานานแล้ว แต่ที่เราสองคนไม่ได้บอกใครก็เพราะว่าเราไม่อยากให้เพื่อนๆพี่ธามต้องมาเกรงใจเวลาจะแกล้งอะไรเราน่ะ นี่ก็รับน้องเสร็จแล้วเราสองคนก็เลยเปิดตัวเต็มที่เลย ไวน์คงไม่โกรธนะที่พี่ธามเขาต้องปิดไว้น่ะ เบียร์หวังว่าเราสองคนคงเป็นเพื่อนกันได้นะ เพราะเราคงเป็นแฟนพี่ธามไปอีกนาน” เบญจาพูดไปก็ยิ้มมุมปากแบบเหนือกว่า เพราะเธอดูสายตาของนรินดาก็พอรู้ว่ามันคิดไม่ซื่อกับแฟนของเธอแน่ๆ ปล่อยให้ไปเฝ้ากันที่โรงพยาบาลเข้าหน่อย อย่าริอาจจะมาฉกผู้ชายคนเธอไปเชียว ไม่งั้นได้เห็นดีกันแน่

“อืม” นรินดาตอบไปแบบสั้นๆแต่จุกอยู่ในอก เพราะนี่ถือว่าเธออกหักครั้งแรกนับตั้งแต่โตมาเลยนะเนี่ย ให้ตายเถอะ เธอไม่เคยคิดเลยว่า สวยๆแบบเธอจะอกหักกับเขาด้วย โลกนี้ช่างไม่ยุติธรรมเอาซะเลย

“เออพี่ พวกผมต้องเข้าเรียนแล้วอ่ะไปก่อนนะ ไปไวน์” โดนัทพูดบอกไป เพราะเห็นว่าเพื่อนสาวคงไม่ไหวแล้ว เขาจึงจูงมือเพื่อนสาวออกมาจากตรงนั้น โดยมีนาราและสายหมอกตามมาแบบเงียบๆ

“หึ แค่นี้ก็ทำเป็นรับไม่ได้” เบญจาพูดในใจอย่างสะใจก่อนจะแสยะยิ้มออกมาอย่างพอใจ ที่เธอทำให้อีชะนีภูธรนี่รู้ว่าธีรภัทรน่ะเป็นของเธอ ไม่ใช่ของมัน

“งั้นเราไปกันเถอะ ” ธีรภัทรมองตามนรินดาที่ถูกเพื่อนหนุ่มพาออกไปด้วยความรู้สึกผิด เขาก็พอจะมองออกว่านรินดาเองก็มีใจให้เขา แต่เขาดันมีแฟนอยู่แล้ว แล้วเขาก็ไม่สามารถทำร้ายความรู้สึกของเบญจาได้

ด้านนรินดาที่ถูกเพื่อนๆพามาอีกฝั่งหนึ่งก็ยังคงไม่พูดจา จนเพื่อนทั้งสามคนสะกิดกันให้ถามเพื่อนสาวว่าเป็นอย่างไร

“แกไหวไหมไวน์ ร้องไห้ออกมาก็ได้นะ” นาราพูดออกไปเมื่อเพื่อนสาวยังคงนิ่งเงียบ แถมยังทำหน้าเหมือนใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

“ร้องไห้อะไร ทำไมฉันต้องร้องไห้ด้วย พวกแกนี่ก็แปลก” นรินดาตอบไปก็หลบสายตาเพื่อนๆ ก่อนจะนั่งลงบนโต๊ะหินอ่อน แล้วนาราก็เข้ามาจับไหล่ของเธอ

“พวกฉันรู้ว่าแกแอบชอบพี่ธาม แกไม่ต้องปิดความรู้สึกตัวเองหรอก เจอแบบนี้ไปแกคงจะไม่ทันตั้งตัวอ่ะ ไอ้พี่ธามนี่ก็ยังไง ตัวเองมีแฟนอยู่แล้วยังจะไปไล่ทำดีกับสาวๆคนอื่นอีก แบบนี้แม่ง ไมดีเลยอ่ะ” สายหมอกเองก็พูดเสริมออกไปแบบไม่ค่อยชอบใจนัก เพราะทำแบบนี้มันไม่แคร์ความรู้สึกของเพื่อนเธอเลย

“ฉันก็ไม่ได้เสียใจอะไรขนาดนั้นแก แต่แค่ไม่ทันตั้งตัวก็แค่นั้นแหละ ฉันชอบพี่ธามเหตุผลส่วนหนึ่งก็เพราะเขาช่วยชีวิตฉัน แล้วเขาก็คอยดูแลฉันมาตลอดสามสี่อาทิตย์ที่ผ่านมา มันเลยทำให้ฉันรู้สึกดีกับเขาก็เท่านั้น แต่ในเมื่อเขามีแฟนแล้วก็ช่างเถอะ สวยๆแบบฉันหาใหม่ก็ได้นิ จริงไหม” นรินดาพูดบอกไปตามความรู้สึกของตัวเอง เพราะหลังจากนี้เธอจะตัดใจจากเขาแล้ว และเธอจะหาผู้ชายที่ดีกว่าเขาให้ได้

“คิดได้แบบนั้นก็ดี แต่แม่งเสียดายว่ะ คิดยังไงไปเอาเบียร์เป็นแฟนวะ ปากก็ปลาร้า ดูถูกคนก็ที่หนึ่ง ไม่เห็นมีอะไรดีเลย” โดนัทพูดไปแบบไม่เข้าใจว่าธีรภัทรไปหลงตัวคบกับเบญจาได้ยังไง ทั้งที่เขายังไม่เห็นอะไรดีๆในตัวหล่อนเลย

“แกก็ดูที่นางพูดกับพวกเราตอนอยู่กับพี่ธามสิ พูดซะดูดีเลยแถมแอบจิกยัยไวน์มาเบาๆแบบผู้ดี้ผู้ดี ต่างจากตอนที่นางด่าพวกเราว่าเธอแก้งค์ภูธรซะอีก พูดแล้วก็หมั่นไส้ ตอแหลเก่งเวอร์” นาราพูดเสริมไปอย่างหมั่นไส้ กับการตีสองหน้าของเบญจา

“หมอกนะอยากให้ไวน์ลงประกวดแข่งกับนางจริงๆเลย มั่นหน้าว่าตัวเองสวยดีนัก ถ้าไวน์ประกวดแล้วชนะขึ้นมา หมอกล่ะอยากรู้จริงๆว่านางจะทำหน้ายังไง เมื่อรู้ว่าแพ้ชะนีภูธรอย่างพวกเรา ฮ่าๆ” สายหมอกพูดเสริมไปแล้วก็ขำ ต่างจากนรินดาที่ฟังเพื่อนสาวพูดแล้วก็ยิ้มออกมา

“ไวน์จะลงประกวดดาวคณะให้ยัยนั่นมันรู้ว่า ชะนีภูธรอย่างเราก็สวยไม่แพ้ใคร ถึงไวน์จะแพ้เรื่องความรัก แต่เรื่องการประกวดไวน์จะต้องไม่แพ้” นรินดาพูดไปด้วยวาวตามาดมั่น เธอจะไม่ยอมให้ผู้หญิงนั้นมาว่าอะไรพวกเธอได้อีก เธอจะเป็นสาวบ้านนอกที่ชนะความสวยจอมปลอมของไฮโซอย่างยัยนั่นเอง

ด้านปากรณ์ที่ทำคะแนนได้สูงสุดของรุ่น ก็ได้รับโอกาศจากมหวิทยาลัยเพื่อไปเรียนแลกเปลี่ยนที่อเมริกาเป็นระยะเวลาสามปี นั้นก็คือช่วงปีที่สามของเขาตอนนี้ไปจนถึงปีที่ห้า พร้อมกับบดินทร์ที่ได้คะแนนมาเป็นอันดับสองและเพื่อนผู้หญิงอีกคนหนึ่งที่ได้คะแนนมาเป็นอันดับสาม และพวกเขาจะได้กลับมาเรียนปีหกที่ประเทศไทยเพื่อดูแลและศึกษาเกี่ยวผู้ป่วยแบบปฎิบัติการจริง

“ไม่น่าเชื่อเลยว่ะว่าพวกเราจะมีโอกาศดีๆแบบนี้ เราก็เก่งเหมือนกันนี่หว่า สงสัยต้องไปเตรียมตัวรับมือกับสาวๆฝรั่งหน่อยแล้ว” บดินทร์เอ่ยพูดกับเพื่อนหนุ่มหลังจากที่ได้รับแจ้งข่าวอย่างเป็นทางการแล้ว ว่าพวกเขาได้เป็นนักศึกษาแลกเปลี่ยนไปเรียนที่อเมริกาสามปี เพื่อนำความรู้มาสานต่อให้กับทางมหาลัย

“หึๆ แกก็คิดแค่นี้ไอ้บาส ไอ้ลามก อ่อ แล้วหนังสือโป๊ของแกน่ะถ้าวันนี้ไม่ไปเอา ฉันจะเก็บไปทิ้งให้หมด” ปากรณ์พูดไปด้วยใบหน้าเข้ม เพราะเขาอุตส่าห์ยอมยกห้องนั้นให้มันนอนด้วย แต่มันกลับเอาหนังสือพวกนั้นมาไว้จนพี่ๆของเขาไปเจอ แล้วสุดท้ายเขาก็ต้องโดนล้อ แถมยังโดนบังคับอีกด้วย เพราะฉะนั้นเขาจะไม่ทนแล้ว

“เออๆ เย็นนี้ฉันไปเอาพร้อมกับแกเลย ป่ะๆ” บดินทร์พูดบอกไปก็กอดคอกับเพื่อนหนุ่มออกไป แต่พอเดินออกมาแล้วผ่านสวนสาธารณะของมหาวิทยาลัย อยู่ๆปากรณ์ก็หยุดเดินแล้วมองไปที่สาวสวยคนหนึ่ง จนบดินทร์ต้องแลสายตาไปมองตามว่าคือใครกัน

“ยัยนั่นมาทำอะไรที่นี่” ปากณ์คิดในใจแบบสงสัย เพราะเธอกำลังร่ายรำมโนราห์อยู่กับพวกเพื่อนๆ แล้วรอยยิ้มกับท่าทางอันอ่อนช้อยนั้นมันก็ทำให้เขาอดมองไม่ได้ ยิ่งเห็นเธอยิ้มแบบสดใสก็ละสายตาไปไม่ได้เลย ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงตามหลอกหลอนเขาแบบนี้นะ

“ที่รัก โดนัทมาแล้วครับ เอาอาหารมาให้ถึงที่เลย รำกันมานานแล้วพักก่อนดิ จะรีบซ้อมไปไหนยังไงไวน์ก็สวยที่สุดอยู่แล้ว” โดนัทเดินเข้าไปหากลุ่มเพื่อนๆ โดยเดินผ่านปากรณ์และบดินทร์ไปแบบไม่ได้สนใจว่าเป็นใคร พร้อมกับเอ่ยพูดแซวนรินดาไปแบบขำๆ แล้วเขาก็เดินไปจับมือนรินดามานั่งทานขนมที่เขาซื้อมาให้

“มีแฟนแล้วนี่หว่า แม่งก็ไม่แปลกหรอก ออกจะสวยน่ารักขนาดนั้น แกมองเขาแบบนี้ คงไม่ใช่ว่าแกชอบเขาหรอกนะไอ้ปาร์ค” บดินทร์เอ่ยถามออกไปแบบจับผิดเพื่อหนุ่ม

“ฉันเปล่า แกก็รู้ว่าสำหรับฉัน รักไม่ยุ่งมุ่งแต่เรียน ไปเถอะ มาดูคนอื่นเขาแบบนี้มันไม่ดีว่ะ” ปากรณ์บอกไปก็แลสายตามองหญิงสาวคนนั้นพูดคุยกับเพื่อนๆ โดยเฉพาะไอ้ผู้ชายคนนั้นที่เขาคิดว่าน่าจะเป็นแฟนของเธอ ไม่อย่างนั้นคงจะไม่สนิทสนมกันขนาดนั้นหรอก อีกอย่างเขาก็ไม่คิดจะจีบใครด้วย ถึงเธอจะโสดอยู่ก็เถอะ

“อะไรของมันวะ มันหยุดดูเขาเองนะ ไอ้นี่ แปลกคนจริงโว๊ย” บดินทร์พูดไปแบบไม่เข้าใจเพื่อนหนุ่ม เพราะมันหยุดมองเองแล้วมาพูดด่าเขาได้นี่สิ เฮ้อ แต่เอาเถอะ อย่างน้อยครั้งหนึ่งเขาก็ได้เห็นมันดูสาวเป็นครั้งแรกหลังจากที่เป็นเพื่อนกันมานับสิบๆปี ก็มีวันนี้แหละที่ปากรณ์มันเริ่มมองผู้หญิงคนอื่น ที่ไม่ใช่ผู้หญิงที่เข้ามาจีบมัน

หลังจากนั้นไม่ถึงเดือน

ปากรณ์ก็เดินทางไปเรียนแลกเปลี่ยนที่ประเทศสหรัฐอเมริกา และเขาก็เริ่มปรับตัวและใช้ชีวิตในแบบหนุ่มอเมริกัน พร้อมกับปรับเปลี่ยนแนวคิดอะไรหลายๆอย่าง เพราะที่นี่มันทำให้เขาได้รู้ว่า เขาจะมาใช้ชีวิตแบบไม่สนใจคนอื่นไม่ได้ ในเมื่อเขาเป็นหมอเขาก็ต้องพยายามเข้ากับคนอื่นให้ได้ด้วย

ส่วนนรินดาก็พยายามดูแลตัวเองทุกอย่างและเธอก็ได้ลงประกวดดาวคณะตามที่พูดไว้ พร้อมกับคว้ารางวัลดาวคณะมาครอบครอง ทำให้เบญจาเจ็บใจมากที่แพ้ให้กับชะนีภูธรอย่างนรินดา

นับตั้งแต่นั้นมานรินดาและเพื่อนๆก็กลายเป็นสาวนักกิจกรรมที่ใครๆต่างรู้จัก และให้การยอมรับกับความสามารถของเธอและเพื่อนๆ และเธอก็พยายามตัดใจจากธีรภัทรและตั้งใจเอาไว้เลยว่า เธอจะไม่มีทางกินผู้ชายต่อจากยัยเบญจาเด็ดขาด ต่อให้ธีรภัทรจะทำยังไงก็ตามเถอะ เขาจะเป็นเพียงแค่พี่รหัสสำหรับเธอเท่านั้น และเธอจะหาผู้ชายที่ดีกว่าธีรภัทรให้ได้

3ปีผ่านไป ณ ปัจจุบัน…….

ปาริดาแม่ของนรินดาก็ต้องปวดหัวอีกครั้งเมื่อลูกสาวคนสวยของเธอต้องการจะเปลี่ยนที่อยู่ เพราะทนกับข้างห้องที่เสียงดังครวญครางไม่ได้ พอตักเตือนไปก็ยิ่งเอาใหญ่เหมือนกับแกล้งกัน เธอจึงต้องขึ้นมากรุงเทพเพื่อหาดูคอนโดใหม่ให้กับลูกสาวคนสวย โดยไม่ให้สามีและพี่ชายของนรินดารู้ ไม่อย่างนั้นเธอคงถูกโวยที่แอบซื้อคอนโดใหม่ให้ลูกสาวแน่ๆ

จนกระทั่งเธอมาเจอเพื่อนสนิทอย่างกันติมาที่คอนโดที่เธอกำลังมาดูให้ลูกสาวโดยบังเอิญ เธอก็ไปนั่งคุยกันที่ล็อบบี้แล้วพูดเม้าท์กันไปถึงสมัยตอนยังสาวๆ

“พูดไปก็เสียดายนะที่เธอไม่มีลูก ไม่งั้นเราสองคนคงจะได้ดองกัน พูดแล้วก็มันน่าเสียดายจริงๆเลยเนี่ย” ปาริดาพูดไปก็ยิ้มแล้วทำหน้าเสียดายที่เธออดได้ดองกับเพื่อนสาว

“หือ เธอก็พูดซะ ถึงฉันจะไม่มีลูกอ่ะนะ แต่ฉันก็มีหลายชายถึงสามคนเลยนะ เธอลืมไปแล้วหรือไง ทำไมเราสองคนจะดองกันไม่ได้ล่ะจ้ะ ตอนนี้น่ะโตเป็นหนุ่มกันหมดแล้ว เธอเห็นแล้วเธอจะตกใจที่ยีนส์เด่นของฉันน่ะมันไปลอยอยู่บนหน้าของหลานๆ ฮ่าๆ ” กันติมาพูดไปแบบชมตัวเองเพราะหน้าตาของหลานชายก็ดูดีไม่แพ้เธอเลย

“หึ นี่เธอคงไม่คิดจะจับคู่หลานๆของเธอให้ยัยไวน์หรอกนะยัยกัน” ปาริดาทำหน้าสงสัยแล้วถามออกไป เพราะไม่คิดว่าเพื่อนของเธอจะคิดแบบเดียวกับเธอเลย ทั้งหน้าตาทางสังคมฐานะทางครอบครัวของกันติมาก็สามารถดูแลลูกสาวของเธอให้อยู่สุขสบายได้ ทำไมเธอจะไม่คิดจับคู่ให้ลูกสาวของเธอกันล่ะ

“ฉันก็เห็นหนูไวน์มาตลอดตั้งแต่ที่แกมาอยู่กรุงเทพ ฉันว่าลูกสาวเธอน่ะออกจะน่ารักแถมยังเข้ากับหลานชายทั้งสองคนของฉันอย่างดีด้วยนะ ถ้าเรามาดองกันคงจะดีใช่น้อยเลยไม่ใช่เหรอ” กันติมาพูดบอกไปแล้วก็ยิ้ม เมื่อนึกถึงตอนที่เธอไปเอาเครื่องประดับมาจากร้านของเพื่อนสาวโดยได้รับการดูแลอย่างดีจากนรินดา มันจึงทำให้ตลอดสามปีมานี้นรินดาได้สนิทสนมกับเธอและปริญกับปติภพเป็นอย่างดี

“แต่ฉันได้ข่าวว่าตาปาล์มก็คบกับดาราอยู่ไม่ใช่เหรอ ส่วนตาเปรมก็คงไม่คิดอะไรกับยัยไวน์หรอก พวกเขาคงมองลูกสาวฉันเป็นแค่น้องล่ะสิไม่ว่า” ปาริดาพูดไปตามความจริงเพราะลูกสาวก็เล่าให้ฟังตลอดว่าสองหนุ่มนั้นเอ็นดูเธอมาก

“ก็ใครว่าฉันจะให้หนูไวน์คู่กับเจ้าสองแสบนั่นล่ะ ฉันแค่บอกว่าหนูไวน์น่ะเข้ากับตาปาล์มตาเปรมได้ดีก็เท่านั้นเอง ไม่ได้หมายความว่าฉันจะจับคู่พวกเขาซะหน่อย หรือต่อให้ฉันจะจับคู่ให้พวกเขาก็คงไม่เอากันหรอก หัวแข็งจะตายไป แต่กับตาปาร์คหลานชายสุดที่รักของฉันต่างหากล่ะ ฉันคิดว่าเขาสองคนน่าจะไปด้วยกันได้นะเธอ เขายังไม่เคยเจอกันมาก่อน มันก็ต้องมีสปาร์คกันบ้างสิ ทั้งสวยทั้งหล่ออย่างนั้น” กันติมาพูดอธิบายบอกไป เพราะเธอคิดว่าสวยๆขี้อ้อนๆแต่ไม่ยอมใครแบบนรินดาน่ะ ต้องคู่กับหลานชายของเธอคนนี้ เพราะรายนั้นทั้งนิ่งๆ เงียบๆ ถ้าเจอลูกอ้อนไปคงจะแพ้ราบคราบ แค่คิดเธอก็สนุกแล้วเนี่ย อยากจะเห็นหลานชายมีแฟนดูสักตั้งดูสิว่ามันจะเป็นยังไง

“ที่ไปเรียนหมออยู่ที่อเมริกาน่ะเหรอ ก็เข้าท่าแฮะ แต่เราจะจับคู่ให้เขาสองคนยังไง ในเมื่อหลานเธอยังไม่กลับมาไทยเลยนะยัยกัน แล้วไหนจะยัยไวน์อีก รายนั่นคงยอมให้ฉันจับคู่ให้หรอก แล้วหลานเธอน่ะยังโสดอยู่รึเปล่าดีกรีคุณหมอขนาดนั้นคงไม่ได้มีแฟนแล้วหรอกนะ” ปาริดาพูดไปก็คิดว่าถ้าลูกสาวของเธอได้แต่งงานกับหมอมันจะเป็นยังไงนะ

“ตาปาร์คจะกลับมาอาทิตย์หน้านี้แล้วจ้ะ แล้วฉันรับรองเลยว่าตาปาร์คไม่มีแฟนแน่นอน เพราะตั้งแต่โตมาตาปาร์คมันยังไม่เคยพาผู้หญิงมาให้ฉันเห็นเลย ฉันถึงอยากจะได้หนูไวน์มาเป็นหลานสะใภ้ไงยะ แต่แผนจับคู่ของเรานี่สิ ฉันกำลังคิดอยู่ว่าจะเอายังไงดี” กันติกาบอกไปก็คิดว่าเธอจะทำยังไงดีให้ทั้งสองได้เจอกัน ได้เรียนรู้กันให้ได้มากที่สุด เพราะนิ่งๆแบบหลานชายของเธอคงไม่ไปจีบหนูไวน์แน่ๆ

“หลานแกคงไม่ใช่เกย์นะยัยกัน แบบนั้นฉันไม่สู้นะยะบอกเลย” ปาริดาพูดไปแบบคิดในใจว่ามันจะเป็นไปได้ยังไงโตมาไม่เคยมีแฟนเลย แบบนั้นมันแปลกมากๆ ขนาดลูกชายเธอยังพามาตั้งแต่เรียนมอปลายเลย

“บ้าเหรอ ไม่ใช่แน่นอน ตาปาร์คมันเป็นพวกตั้งใจเรียนแบบไม่สนผู้หญิงก็เท่านั้นเอง ฉันถึงต้องจับคู่กับลูกสาวเธอไง แล้วฉันคิดออกแล้วว่าฉันจะให้พวกเขารักกันยังไง เธอกำลังหาคอนโดใหม่ให้หนูไวน์ใช่ไหม งั้นไม่ต้องไปหาแล้วล่ะ ให้หนูไวน์มาอยู่ห้องเดียวกับตาปาร์คเลยก็แล้วกัน รับรองว่าได้เรียนรู้กันแน่ๆ”กันติกาพูดบอกไปก็ยิ้มให้กับเพื่อนสาวไป เพราะถ้าสองคนนั้นได้อยู่ห้องเดียวกันคงจะดีแน่ๆ

“จะดีเหรอ ลูกสาวฉันเป็นผู้หญิงไปอยู่ห้องเดียวกับหลานชายเธอคนอื่นจะมองว่ายังไง ถ้าสามีกับลูกชายฉันรู้ว่าฉันเอายัยไวน์มาจับคู่ล่ะก็ ฉันตายแน่ๆ สองคนนั้นหวงยัยไวน์จะตายไป” ปาริดาบอกไปตามความจริงเพราะสามีและลูกชายคงจะไม่เห็นด้วยกับเธอแน่ๆ แต่อีกใจเธอก็อยากจะดองกับเพื่อนสาว แล้วก็อยากให้ลูกสาวได้กับคนดีๆ ไม่ใช่ใครที่ไหนก็ไม่รู้

“เธอก็ไม่ต้องให้สามีกับลูกเธอรู้สิยัยดา อีกอย่างห้องของหลานชายฉันมีสองห้องนอนแยกกันอยู่จ้ะ แต่ฉันต้องการให้เขาอยู่ด้วยกันเพื่อให้เขาได้เรียนรู้ซึ้งกันและกัน เพื่อที่จะเขาจะได้รักกันและแต่งานกันในอนาคตไง สมัยนี้เขาอยู่กันก่อนแต่งก็เยอะแยะไปแก คนมันอยู่ด้วยกันทุกวันยังไงใจมันก็ต้องกร่อนบ้างแหละ โอกาสสุดท้ายที่เราสองคนจะได้ดองกันแล้วนะดา เธอจะไม่ลองสักครั้งเหรอ” กันติมาพูดบอกไปก็ยิ้มแล้วให้เพื่อนสาว เพราะนี่เป็นโอกาสสุดท้ายแล้วจริงๆ

“อืม ตกลง แต่ถ้าลูกสาวฉันไม่โอเค ฉันก็คงจะไม่บังคับเขานะ เพราะเธอก็พอจะรู้นิว่าฉันรักยัยไวน์มากขนาดไหน นี่ถ้าไม่ใช่หลานเธอฉันก็คงไม่ยอมให้ลูกสาวไปอยู่ด้วยหรอก บอกไว้เลยนะถ้าสองคนนั้นเกินเลยกันเมื่อไหร่จับหมั้นทันที ไม่มีข้อแก้ตัว” ปาริดาบอกเพื่อสาวไปก็ยิ้ม แล้วคิดว่าลูกสาวของเธอจะยอมอยู่กับผู้ชายแปลกหน้างั้นเหรอ มันไม่มีทางเป็นไปได้แน่นอน

“ได้เลยเพื่อนเรื่องนั้นไม่มีปัญหา ขอแค่ให้หลานฉันมันเอาผู้หญิงเป็นก่อนเถอะ ฮ่าๆ แต่ตอนนี้ฉันมีวิธีให้พวกเขาอยู่ด้วยกันแบบเนียนๆแล้วล่ะ แค่เราต้องเล่นละครนิดๆหน่อยเท่านั้นเอง แล้วพวกเขาจะจับไม่ได้ว่าเราจับคู่ให้พวกเขา” กันติกาพูดบอกไปก็ยิ้มมุมปาก เพราะมันต้องได้ผลแน่ ทั้งกับปากรณ์และนรินดา ทั้งสองจะต้องได้อยู่คอนโดเดียวกันให้ได้คอยดูก็แล้ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel