3.ผู้หญิงขี้อ่อย
หลังจากที่นรินดาเข้าใจว่าธีรภัทรคือผู้ชายที่ช่วยชีวิตเธอและเขาคือผู้ชายที่เป็นจูบแรกของเธอ แล้วเขาก็คอยมาช่วยดูแลเธอตอนป่วย เธอก็แอบชอบเขามาโดยตลอดโดยที่เขาเองก็ไม่รู้ เพราะเธอไม่เคยได้บอกเขาเลย แม้กระทั่งเพื่อนๆของเธอที่ไม่มีใครได้รับรู้เลยสักคน และตลอดสามสี่อาทิตย์ที่ผ่านมา ความรู้สึกของเธอและธีรภัทรมันก็เริ่มจะก้าวข้ามไปมากกว่าพี่รหัสน้องรหัสแล้ว และเธอวันนี้เธอก็มาซื้อกาแฟไปให้กับพี่รหัสที่แสนดีของเธอ
“พี่คะ เอากาแฟดำแก้วหนึ่งค่ะ แล้วก็เอาชาเขียวปั่นอีกแก้วค่ะ อ่อพี่คะ เอาขนมไทยสี่กล่องนี้ด้วยนะคะ ลงชื่อไวน์ค่ะ” นรินดาเดินไปสั่งกาแฟตามปกติพร้อมกับจ่ายเงินเสร็จสรรพ ก่อนจะไปนั่งรอที่มุมนั่งชิวๆของร้าน เพราะมันเป็นร้านที่เธอมาเป็นประจำตั้งแต่มาเรียนที่นี่ แต่พอเธอหันไปมองด้านนอกร้านก็ถึงกับอึ้งกับหนุ่มหล่อที่กำลังจะเดินเข้ามาในร้าน
“หูย โคตรหล่อเลยอ่ะ แม่ง คนอะไรหล่อไม่เกรงใจมดลูกฉันเลย อ้าย” นรินดาคิดในใจไปก็กลืนน้ำลายลงคอทันที แล้วมองหนุ่มหล่อที่กำลังเดินเข้ามาแบบไม่ละสายตา เพราะดูรวมๆแล้วเขาคือผู้ชายที่เพอร์เฟคสำหรับเธอเลย นี่แหละสเปคของอีไวน์ หุ่นล่ำๆ สูงๆ ขาวๆ ดั้งโด่งๆแบบนี้เลย
“หูยแกหล่ออ่ะ ขาวตี๋น่ารักอ่ะแกดูนู้นสิ” สาวๆโต๊ะข้างพูดขึ้นมาแบบไม่แคร์ จนนรินดาหันไปมองแล้วก็ยิ้ม เพราะเป็นเธอเธอก็จะพูดออกมาแบบนี้แหละ แต่ไม่ได้ ในใจเธอมีแค่พี่ธามเท่านั้น คนอื่นก็ค่อยมองเป็นอาหารตาก็ได้
“สวัสดีค่ะ รับอะไรคะ” พนักงานในร้านรีบพูดต้อนรับหนุ่มหล่อแล้วก็ยิ้มให้แบบปากจะฉีกอยู่แล้ว แต่หนุ่มหล่อก็ยังคงทำหน้านิ่งและท่าทางเมินเฉย พร้อมกับมองไปที่ตู้เค้ก
“ผมเอาขนมไทยสี่กล่องนั้น แล้วก็เอาชาเขียวแก้วหนึ่งละกัน” ปากรณ์เอ่ยบอกพนันงานไปแล้วก็มองดูเมนูขนมในร้านที่เขาจะซื้อไปให้กับผู้เป็นป้า
“เสียงยังหล่อเลยอ่ะ พี่ธาม ขอนอกใจพี่ห้านาทีนะคะ นาทีนี้ไวน์ไม่ไหวแล้วจริงๆ เขาสเปคไวน์เลย” นรินดาที่แอบมองอยู่ก็พูดในใจไป แล้วกัดฟันมองหนุ่นคนนั้นแบบเขินๆ เพราะตั้งแต่มาเรียนที่นี่ก็พึ่งเจอช้างเผือกก็วันนี้แหละ
“อ่อ ต้องขอโทษจริงๆนะคะ ขนมไทยลูกค้าท่านนั้นสั่งไว้ก่อนหน้านี้แล้วค่ะ รับอย่างอื่นแทนได้ไหมคะ” พนักงานเอ่ยบอกไปแบบขอโทษ แล้วมองหน้าหนุ่มหล่อที่ยังคงเฉยๆอยู่
ปากรณ์ก็หันไปทางผู้หญิงที่พนักงานทำมือชี้ไป แล้วก็สบตากับหล่อนเข้าพอดี แล้วมันก็เหมือนกับไฟฟ้าช๊อตเขา เพราะผู้หญิงตัวเล็กตาโต หน้าตาจิ้มลิ้มแบบใสๆ กำลังนั่งมองเขาอยู่ พอเธอเห็นเขาก็ยิ้มออกมาแบบเป็นมิตร จนเขามองไปอย่างเพลินสายตา และพูดได้คำเดียวเลยว่า “สวย” สวยแบบใสๆจนเด่นกว่าสาวๆที่นั่งอยู่ในร้านนี้ซะอีก
“เขามองเราทำไมเนี่ย แม่ง ยิ้มอ่อยไปก่อนละกัน” นรินดาเห็นหนุ่มหล่อหันมามองที่เธอ เธอก็ยิ้มส่งให้เขาไปแบบอ่อยสุดฤทธิ์
“อ่อยเกินเบอร์ไปแล้วเม่คุณ” ปากรณ์พูดในใจไปก็รีบหันกลับมาพูดกับพนักงานต่อ เพราะเธอเล่นส่งยิ้มมาให้เขาแบบอ่อยสุดๆ จนเขาเองที่ต้องเขินที่ถูกมองแบบนั้น ทั้งที่กับผู้หญิงคนอื่นเขายังไม่เคยเขินอายแบบนี้เลย
“อะไรอ่ะ คนอุตส่าห์อ่อย ไม่สนใจเลยหรือไงเนี่ย” นรินดาคิดไปแบบเสียดาย ก็เลยทำหน้าทำตามองไปที่หนุ่มหล่อแบบถอนหายใจแรงๆ เพราะนานๆจะเจอคนถูกใจ แต่เขากับเล่นตัวซะนี่ แต่ก็อย่างว่าแหละ หล่อๆ ไม่เล่นหูเล่นตาสาวๆก็คงจะมีแฟนแล้วนั่นแหละ
“งั้นเอาอะไรมาก็ได้ครับสักสี่อย่าง” ปากรณ์พูดบอกไปก็พยายามไม่หันไปมองเธอ ไม่งั้นคงได้ปล่อยไก่ที่นี่แน่ๆ สาวๆคนอื่นก็มองเขาแล้วอ่อยเหมือนกับเธอ แต่ทำไมสายตาของเขาถึงรู้สึกสนใจเธอนักนะ ทั้งที่เธอก็แค่ผู้หญิงธรรมดาๆคนหนึ่ง
“ได้ค่ะ คุณลูกค้าชื่ออะไรคะ” พนักงานถามไปเพราะต้องเขียนชื่อติดแก้วที่เขาสั่งน้ำดื่มให้ไป
“ปาร์คครับ” ปากรณ์พูดบอกไปก็จ่ายเงินให้กับพนักงาน แล้วเขาก็เดินไปนั่งอีกฝั่งหนึ่ง แต่เขาก็ยังหนีไม่พ้นสายตาของสาวๆที่มองอยู่ดี ส่วนสาวสวยคนนั้นเขาก็มองไม่เห็นเธอแล้ว เพราะมีเสาบังอยู่
“คุณไวน์คะ ของครบแล้วค่ะ ” พนักงานก็เอ่ยเรียกชื่นรินดาออกไป เธอก็รีบลุกไปทันที ก่อนจะเดินไปที่พนักงานด้วยรอยยิ้มสดใสแบบเป็นกันเอง
“ตัวก็น่ารัก ชื่อก็น่าชิม หึๆ ของจริงจะอร่อยไหมนะ” ปากรณ์คิดไปก็แอบคิดลามกอยู่ในใจ ว่าถ้าเขาได้ลองชิมเธอจริงๆมันจะอร่อยเหมือนกับชื่อของเธอไหมนะ “ไวน์” เป็นชื่อที่ฟังแล้วเข้าหูจริงๆ
“ขอบคุณค่ะพี่ ไว้มาอุดหนุนใหม่นะคะ อ่อพี่คะ ช่วยเอาขนมนี่ใส่ถุงให้ผู้ชายคนนั้นด้วยนะคะ แบ่งๆกันเห็นเขาเองก็อยากกิน” นรินดาพูดกระซิบกับพนักงานที่เธอพูดคุยด้วยเป็นประจำไป ก็เอากล่องขนมออกให้กับพนักงานสองกล่อง
“แม๋น้องไวน์เห็นเขาอยากกิน หรือว่าเห็นเขาหล่อกันแน่คะ อิอิ” พนักงานพูดแซวไปแบบขำๆ แบบสนิทสนม
“ฮ่าๆ รู้ดีนะพี่เนี่ย ไวน์ไปแล้วค่ะ ฝากด้วยนะคะ” นรินดาพูดบอกไปก็ยิ้มอย่างน่ารัก ก่อนจะเดินถือกาแฟและชาพร้อมกับขนมออกไป ก่อนจะใช้สายตาแลมองหนุ่มหล่ออีกครั้งก่อนจะออกไป ขอมองให้ชื่นใจทีเถอะ ไม่รู้เมื่อไหร่จะได้เจอกันอีก
ปากรณ์ก็แลสายตามองเธอตั้งแต่เธอเดินไปแล้วเห็นเธอพูดกับพนักงานแบบสนิทสนมแล้ว เขาก็เห็นเลยว่าผู้หญิงคนนี้มีความน่ารักและความสดใสอยู่ในตัว แถมรอยยิ้มที่ยิ้มออกมาก็ยังน่ารักมากด้วย ปากรณ์คิดไปแบบเผลอๆ จนสายตาของเขาและเธอประสานกันตอนที่เธอกำลังจะออกจากร้านไป พร้อมกับรอยยิ้มมุมปากที่ส่งมาให้เขา
“คุณปาร์คคะ ของได้แล้วค่ะ” พนักงานพูดขึ้นแทรกความคิดของเขาพอดี ปากรณ์จึงรีบลุกขึ้นไปรับของ แล้วก็ขมวดคิ้วเมื่อเห็นกล่องขนมไทยอยู่ในถุงขนมของเขาด้วย
“เมื่อกี้คุณบอกว่าขนมนี่หมดแล้วไม่ใช่เหรอ” ปากรณ์ถามไปก็มองดูขนมในถุงไป เพราะก่อนหน้าพนักงานบอกว่าผู้หญิงที่ออกไปก่อนหน้านี้เหมาไปหมดแล้ว
“ใช่ค่ะ แต่พอดีน้องคนเมื่อกี้เขาฝากให้คุณน่ะค่ะ เขาบอกว่าแบ่งๆกัน” พนักงานเอ่ยบอกไปก็ยิ้ม แล้วมองหนุ่มตรงหน้าแบบชื่นชอบ
“อ่อ ขอบคุณครับ” ปากรณ์บอกไปก็รีบเดินออกมาจากร้าน แล้วมองหาผู้หญิงคนนั้นก่อนจะเห็นเธอขึ้นไปที่รถคันสีขาว แล้วขับออกไป เขาจึงรีบไปที่รถแล้วรีบขับตามไปทันที เพราะเขาไม่ชอบติดค้างอะไรใคร อย่างน้อยเธอให้ของเขามา เธอก็น่าจะเอาเงินไป
จากนั้นปากรณ์ก็ขับรถตามเธอมาจนถึงคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ แต่เธอก็ดันจอดรถแล้วเดินเข้าไปในคณะของเธอแล้ว เขาเองก็ช่างใจอยู่ว่าจะเอายังไงต่อ
“เอาวะ ไหนๆก็มาแล้ว เอาให้สุด” ปากรณ์พูดไปแบบคิดหนัก เพราถเขาไม่เคยทำแบบนี้มาก่อน ปกติสาวๆเอาของมาให้เขาก็ไม่ได้สนใจจะตามมาคืนแบบนี้ แต่กับคนนี้เขาคิดว่าเขาเอามาคืนเธอจะดีกว่า คิดได้ดังนั้นปากรณ์ก็เลยดับเครื่องยนต์แล้วลงจากรถไปตามหาผู้หญิงคนนั้นที่ชื่อว่า “ไวน์”
ด้านนรินดาที่ซื้อของไปฝากให้กับพี่รหัสก็เอาไปลงชื่อไว้แล้วฝากไว้กับพวกรุ่นพี่ที่จะเอาของไปให้กันเอง แล้วเธอก็ไปรวมตัวกับเพื่อนๆ ในกลุ่ม แล้วก็พูดเม้าท์กันแบบสนุกสนานจนกระทั่งเบญจาเข้ามาหาเรื่อง
“แก แก้งค์นางมารมานู้นละ เตรียมจ้ะ” นาราพูดบอกเพื่อนสาวที่นั่งตรงข้ามเธอให้เตรียมรับมือ เพราะยัยเบญจาอะไรนี่มาหาเรื่องได้ทุกวี่ทุกวัน ตั้งแต่ที่เพื่อนของเธอถูกรุ่นพี่ขอให้ลงประกวดดาวเดือนของคณะ
“นี่ยัยภูธร ถ้าเธอจะลงประกวดแข่งกับฉัน ฉันก็ไม่ว่านะ เพราะยังไงความสวยบ้านนอกๆแบบนี้ มันก็ต้องแพ้ความสวยของสาวเมืองกรุงอย่างฉันอยู่แล้ว” เบญจาที่มาพร้อมกับพวกเพื่อนๆเอ่ยพูดแซะนรินดาออกไป เพราะยัยนี่คือตัวเกร็งที่รุ่นพี่พยายามจะผลักดันส่งมาแข่งดาวคณะกับเธอ
“ฮ่าๆ นี่ตื่นรึยังจ้ะ ฝันไปรึเปล่า เธอน่ะสวยก็จริงนะ แต่ทั้งหน้าน่ะของปลอมทั้งนั้น ไม่ต้องมาอวดหรอก ฉันไม่ได้อิจฉาความสวยปลอมๆของเธอขนาดนั้น” นรินดาลุกขึ้นพูดแบบไม่ยอม เพราะเธอกับยัยนี่เป็นไม้เบื่อไม้เมากันมาตั้งแต่รับน้องแล้ว ไม่รู้ว่าทำไมแต่ยัยนี่ก็ชอบเข้ามาหาเรื่องและว่าพวกเธอตลอด
“แก อีชะนีภูธร แกรู้ไหมว่าพ่อฉันเป็นใคร กล้าดียังไงมาว่าฉันแบบนี้” เบญจาพูดด้วยเสียงโมโหอย่างไม่พอใจ
“จะไปรู้เหรอ พ่อเธอนิ ถ้าลืมก็เขียนติดไว้ที่หน้าก็ได้นะ ทีหลังฉันจะได้รู้ว่าเธอน่ะลูกใคร” นรินดาพูดตอกกลับไปแบบเจ็บแสบ ก่อนจะยิ้มมุมปากใส่พวกนั้นไป
“อุ๊ปส์ หนึ่งดอกเบาๆจ้า” สายหมอกพูดไปก็ยิ้มสะใจ สมน้ำหน้าชอบมาหาเรื่องดีนัก ไม่รู้ซะแล้วว่าพวกเธอน่ะเป็นสาวภูธรนักสู้ ไม่กลัวยัยนี้เหมือนกับคนอื่นๆเขา
“ตบมันเบียร์ แกจะยอมให้มันว่าแกเหรอ ” เคธี่เพื่อนสนิทของเบญจาเอ่ยเสริมเพื่อนสาวทันที เพราะเธอเองก็ไม่ชอบยัยภูธรนี่เหมือนกัน มันทำตัวเด่นตั้งแต่รับน้องวันแรกแล้ว
“อย่ามาหาเรื่องกันดีกว่า อยู่ใครอยู่มันไม่ได้หรือไงวะ” โดนัทพูดบอกไปแบบรำคาญ เพราะทนไม่ได้ที่เพื่อนสาวถูกหาเรื่อง
“นี่ไอ้โด ฉันเป็นเพื่อนนายมาก่อนยัยพวกนี้นะ ทำไมต้องปกป้องพวกมันด้วย อะไรที่ทำให้นายตาต่ำไปคบคนพวกนี้ห้ะ” เคธี่พูดไปแบบไม่พอใจ เพราะโดนัทเคยอยู่ในกลุ่มเดียวกับพวกเธอ แต่พอมาเข้ามหาวิทยาลัย เขากลับทำตัวห่างออกไป ไม่มาอยู่กลุ่มเดียวกับพวกเธอ
“จะสูงจะต่ำมันไม่ได้วัดกันที่ความรวยหรือความจนหรอกนะเคธี่ แต่มันวัดกันที่ใจต่างหาก ถ้าพวกเธอรวยแต่ทำตัวระรานคนอื่นไปทั่ว มันก็ไม่ต่างจากคนต่ำๆที่พวกเธอพูดถึงหรอก แล้วต่อไปอย่ามายุ่งกับเพื่อนของฉันอีก ไม่งั้นอย่าหาว่าฉันไม่เตือน” โดนัทพูดบอกไปแบบไม่แคร์ เพราะเขาทนไม่ไหวแล้วหลังจากที่ถูกกลุ่มเบญจาและเคธี่ระรานมาตลอด เขาก็พยายามจะนิ่ง แต่ครั้งนี้มันสุดๆจริง
“ดี งั้นนายก็ช่วยเตือนเพื่อนนายให้รู้ด้วยนะ ว่าอย่ามายุ่งกับของของฉัน เพราะฉันจะไม่มีทางปล่อยมันไปแน่” เบญจาเข้ามาใกล้โดนัท แล้วเธอก็พูดเสียงรอดไรฟันไปแบบจงใจให้ได้ยินกันสองคน เพราะทุกคนยังไม่รู้ว่าแท้จริงแล้วเธอและธีรภัทรเป็นแฟนกัน แต่ช่วงรับน้องธีรภัทรของให้เธอปิดไว้ เพื่อไม่ให้รุ่นน้องมาว่าเขาว่าลำเอียงเอาได้ เธอก็เลยอดทน แต่พอเห็นแฟนตัวเองไปสนิทกับยัยภูธรนี่เธอก็อดที่จะหวงเขาไม่จริงๆ
“ก็ไปบอกผัวเธอให้มันเลิกยุ่งกับเพื่อนฉันสิ เพราะฉันเห็นมีแต่มันที่เข้ามาหาเพื่อนฉัน” โดนัทพูดกลับไปแบบเบาๆเพราะไม่ต้องการให้เพื่อนสาวได้ยิน เพราะเขารู้ว่าเบญจาและธีรภัทรคบกันก่อนที่พวกเขาจะจบมัธยมปลาย
แต่ที่ผ่านมาธีรภัทรก็เป็นคนเข้าหานรินดามาโดยตลอด ถึงเขาจะมองออกว่านรินดาแอบชอบธีรภัทร แต่เธอก็ไม่เคยทำอะไรเสียหายมาก่อน แต่ถ้าเธอรู้ว่าธีรภัทรและเบญจาเป็นอะไรกัน เธอก็คงจะเสียใจ แต่เขาก็บอกเธอตอนนี้ไม่ได้ ทำได้เพียงแค่คอยกันไม่ให้มันเกินเลยไปมากกว่านี้เท่านั้น และคนที่ผิดคือธีรภัทรนู้นที่อ่อยแล้วก็เล่นกับความรู้สึกของสาวๆไปทั่วเพราะความเฟรนลี่ของมัน
ด้านปากรณ์ที่เดินตามหาผู้หญิงที่ชื่อไวน์อยู่นานก็เห็นเธอกำลังยืนคุยกับพวกเพื่อนๆอยู่ จึงเดินลงไปหา พร้อมกับสายตาของคนในคณะนี้ที่มองมาด้วยสายตาสงสัย จนเขาต้องรีบเข้าไปหาผู้หญิงคนนั้นทันที
“ไวน์ ผมมีเรื่องจะคุยกับคุณ” ปากรณ์พูดไปจนทุกคนหันไปมองเขา โดยเฉพาะนรินดาที่อึ้งแบบพูดไม่ออก เพราะเขาเล่นตามเธอมาถึงนี่เพราะอะไรกัน แถมยังเรียกชื่อเล่นของเธออีก โอ้มายก็อต นี่ฉันสวยถึงขนาดผู้ชายตามมาเลยเหรอ นรินดาคิดในใจไปแบบเข้าข้างตัวเอง
เบญจาก็หันไปมองเสียงที่เรียกชื่อของคู่อริของเธอ ก่อนจะตาโตอย่างตกใจที่เธอเห็นพี่ปาร์ค รุ่นพี่ที่เคยเรียนโรงเรียนเดียวกับเธอมาที่นี่ เขายังหล่อ และก็ยังดูดีเสมอเลย ให้ตายสิ เขาไปรู้จักกับอีภูธรนี่ได้ยังไงนะ คนละชั้นกันชัดๆ
“ยัยเบียร์ พี่ปาร์คนิ” เคธี่เอามือดึงแขนเพื่อนสาวแบบตื่นเต้นและเขินอาย เพราะปากรณ์คือหนุ่มสุดฮอตของโรงเรียนตั้งแต่ที่เธอจำความได้ แถมเขายังไม่เคยมีแฟนมาก่อน จึงทำให้เขากลายเป็นความท้าทายของสาวๆที่ลงทุนจีบเขากันทุกวิธี ยิ่งเขาสอบติดเป็นหมอ มันก็ยิ่งทำให้เขาดูดี น่าจับเป็นพ่อของลูกเข้าไปอีก
“เออ ฉันเห็นแล้ว” เบญจาพูดไปแบบอารมณ์เสีย เพราะเธออุตส่าห์เป็นแฟนกับธีรภัทรเพราะเขาดีที่สุดแล้ว
แต่พอปากรณ์โผล่มาเหมือนเป็นอะไรกับอีชะนีภูธรนี่ มันก็ทำให้เธอรู้สึกโมโห ที่ยัยนี่มันกำลังจะได้ผู้ชายที่เหนือกว่าเธอ เพราะปากรณ์เป็นถึงนักศึกษาแพทย์ที่อยู่ปีสามแล้วตอนนี้ เพราะเขาแก่กว่าพวกเธอสามปี
“ยัยไวน์แกไปรู้จักผู้หล่อๆแบบนั้นได้ไงอ่ะ” นารากระซิบถามเพื่อนสาวออกไปแล้วมองดูชายตรงหน้าที่ออร่าความหล่อมันเปล่งรัศมีออกมา
“ไว้คุยกันนะแก อ่อ คุณตามฉันมานี่” นรินดาพูดบอกเพื่อนสาวไป ก็หันไปพูดกับผู้ชายตรงหน้า แล้วเธอก็เดินนำเข้าออกมาจากคณะ ก่อนที่ทุกคนจะมองกันไปมากกว่านี้ เพราะตั้งแต่เขามาหยุดพูดกับเธอ ทุกคนก็มองเขาและก็ซุบซิบกันจนเธอกลัวว่าเธอจกลายเป็นข่าวเม้าท์ต่อไปน่ะสิ
เบญจาและเคธี่ก็ตามออกมาดูอย่างอดไม่ได้ เพราะต้องการรู้ความจริงว่านรินดาเป็นอะไรกับปากรณ์กันแน่ เพราะไม่อย่างนั้นพวกเธอคงจะอยู่ไม่สุขแน่ๆ ที่คนอย่างนรินดาจะได้ผู้ชายที่ดีกว่า
“คุณมีอะไรกับฉันคะ ทำไมถึงตามฉันมาที่คณะด้วย โรคจิตรึเปล่าอ่ะคุณ” นรินดาถามไปแบบกวนๆก็มองหน้าหนุ่มตรงหน้าแล้วทำหน้าสงสัย
“นี่คุณ ผมไม่ใช่โรคจิต ผมแค่จะเอานี่มาคืนให้คุณ ผมไม่ชอบรับของของใครฟรีๆ โรคจิตอะไรจะหล่อขนาดนี้เล่า” ปากรณ์พูดไปก็เอาขนมยื่นให้กับหญิงสาวไป เขาล่ะยอมใจเลยที่หล่อนคิดว่าเขาคือโรคจิตน่ะ
“อุ๊ปส์ มั่นหน้าไปอีก แต่ก็เอาเถอะมันก็เป็นความจริงนี่เนอะ ว่าคุณน่ะหล่อ” นรินดาพูดไปก็ยื่นหน้าไปใกล้ๆเขาแบบกวนๆ แล้วเธอก็ยอมรับเลยว่าเขาหล่อจริง ก่อนจะยิ้มให้เขาไปแบบเขินๆ จนปากรณ์มองแล้วอึ้งไม่คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะกล้าพูดกับเขาแบบนี้
“คุณนี่มัน เฮ้อ รับคืนไปซะ ผมจะได้กลับ แค่นี้คนก็มองเยอะแล้ว” ปากรณ์พูดบอกไปก็พยายามยื่นเอาถุงขนมไปให้กับเธอ เพราะตั้งแต่เดินตามกันออกมา ก็มีคนตามมาแอบดูกันเป็นแถว ไม่เข้าใจเหมือนกันว่ามันมีอะไรให้อยากรู้นักหนา
“ก็บอกแล้วไงว่าฉันให้คุณ แบ่งๆกัน ถ้าคุณไม่สะดวกใจก็เอาตังมาก็ได้ สองร้อยบาท” นรินดาพูกไปก็เอามือไปดันมือของเขาให้เอาของกลับไป เพราะเธอตั้งใจจะเอาให้เป็นการอ่อย เอ้ย เป็นน้ำใจก็แค่นั้น
“ แค่มือก็ยังนุ่มเลยนะคุณเนี่ย” นรินดาแซวไปเมื่อได้สัมผัสมือของเขา ผู้ชายอะไรยิ่งพูดยิ่งน่าขำ ยิ่งเย็นชายิ่งน่ารัก
“คุณมันผู้หญิงโรคจิต ผมไม่ได้พกเงินสด เอาของคืนไปก็จบเรื่อง” ปากรณ์พูดบอกไปแบบตรงๆ เพราะเขาลงรถมาก็ไม่ได้พกเงินติดตัวมาด้วย เขาคงไม่ได้มีเงินมาจ่ายเธอ
“ก็ฉันอยากให้คุณอ่ะ เอาไปเถอะ ไว้ถ้าครั้งหน้าบังเอิญเจอกันคุณก็ค่อยซื้อมาคืนฉัน เห้ย รุ่นพี่เรียกรวมตัวแล้วไปนะคุณ” นรัฝินดาพูดบอกไปก่อนที่จะได้ยินเสียงรุ่นพี่เรียกรวมตัว เธอก็บอกลาเขาแล้วรีบวิ่งออกไปทันที
“อ่าวเห้ย แล้วผมจะตามคุณมานี่เพื่ออะไรเนี่ย” ปากรณ์พูดไปก็ส่ายหน้าไปมา ก่อนจะถอนหายใจอย่างแรง แล้วมองร่างบางที่รีบวิ่งกลับเข้าไปในคณะของเธอแล้ว แล้วเขาก็คงตามเธอไปอีกไม่ได้ ถ้าเธอกำลังรับน้องอยู่ เขาจึงถือถุงขนมกลับไปดังเดิม ก่อนจะแอบยิ้มออกมากับความก๋ากลั่นของเด็กสาวคนนี้ ที่มันดูธรรมชาติไม่ได้แต่งเติมเหมือนสาวๆที่แคยเจอ
หลังจากที่ทุกคนเห็นมีหนุ่มหล่อมาหานรินดา ทุกคนก็พากันเม้าท์ไปว่าเธอนน่ะมีแฟนมาหาถึงคณะแถมยังหล่อมากๆด้วย เธอจึงขอประกาศพูดหลังจากที่รับน้องช่วงเย็นเสร็จทันที ว่าผู้ชายที่มาหาเธอไม่ใช่แฟน เป็นคนส่งขนมให้เท่านั้น คนที่ไม่รู้จักปากรณ์มาก่อนก็เชื่อและคิดว่าคนส่งขนมปังสมัยนี้หล่อมาก ต่างจากพวกเบญจาที่รู้ว่าตัวจริงของปากรณ์คือใครก็ไม่เชื่อ เพราะหล่อรวยแบบนั้นจะมารู้จักหรือคบกับผู้หญิงอย่างนรินดา มันเป็นไปไม่ได้ เรื่องนี้มันต้องมีอะไรแน่ๆ
“นี่แกไปรู้จักกับพี่ปาร์คเขาได้ไงวะไวน์ แกรู้ไหมว่านั่นน่ะเสือยิ้มยากเลยนะโว๊ย ฉันเคยเรียนโรงเรียนเดียวกับเขา ยังไม่เคยเห็นเขายุ่งกับสาวที่ไหนเลย ทำไมวันนี้เขามาหาแกได้วะ” โดนัทรัวถามเป็นชุดๆ เพราะเขาไม่เชื่อที่เพื่อนสาวพูด ลูกไฮโซอย่างปากรณ์เนี่ยนะจะเป็นคนส่งขนมปัง บ้าไปแล้ว
“ก็ไม่มีอะไร ฉันแค่เห็นว่าเขาหล่อดีก็เลยแบ่งขนมที่ซื้อมาให้เขาไปก็แค่นั้น ส่วนเขาไม่อยากรับของใครฟรีๆเลยตามมาเอาคืน ก็แค่นั้นไม่มีอะไร” นรินดาบอกไปตามความจริง จนเพื่อนๆมองหน้ากันแบบอึ้งๆ
“ฉันจะบ้าตาย นี่เพื่อนฉันมันกล้าอ่อยผู้ชายเบอร์นี้เลยเหรอเนี่ย” สายหมอกพูดไปแล้วมองหน้าเพื่อนสาวแบบไม่อยากเชื่อ
“อ่าว ก็นานๆฉันจะเจอสเปคฉันนิ ฉันก็เลยอ่อยไปแบบไม่มีกั๊กเลย เผื่อจะฟลุ๊คได้มาเป็นแฟนไงเล่า แต่อย่างว่าแหละเขาจะมาสนใจอะไรฉัน ดีไม่ดีเขามีแฟนอยู่แล้วละมั้ง ” นรินดาพูดไปก็ยิ้มเคลิ้มแบบเพ้อฝันถึงหนุ่มหล่อคนนั้น
“ไม่มีหรอก แล้วก็ไม่เคยมีด้วย ฉันคอนเฟริ์มได้เลย ไอ้พี่ปาร์ดมันไม่ค่อยสนใจสาวๆเท่าไหร่ แต่พอเห็นเขาตามแกมาวันนี้แล้ว ฉันว่าฉันคงต้องคิดใหม่แล้วล่ะว่ะ ” โดนัทพูดไปก็ยิ้ม แล้วเริ่มคิดในใจว่า ถ้านรินดาเปลี่ยนจากชอบธีรรภัทรมาชอบปากรณ์ได้ มันก็คงดีใช่น้อย
“เฮ้อ เขาไม่สนใจฉันหรอก หรือต่อให้เขาสนใจ เขาก็ต้องอกหักแล้วล่ะ เพราะคนสวยอย่างฉันมีผู้ชายในดวงใจแล้วย่ะ” นรินดาพูดบอกไปก้ทหน้าแบบเสียดาย เพราะคนหนึ่งก้เคยช่วยชีวิต อีกคนหนึ่งก็สเปคของเธอ
“จ้ะๆ ฉันล่ะยอมแกเลยไวน์ เฮ้อ” นาราพูดไปก็มองหน้าเพื่อนสาวแล้วส่ายหน้าไปมา เพราะไม่คิดว่าเพื่อนสาวจะใจกล้าบ้าบิ่นทำเรื่องแบบนี้ไปได้ แม่ง โคตรฮ่าเลย
“เรื่องฉันมันไม่มีอะไรหรอก ฉันว่าพวกเราไปกินชาบูกันดีกว่านะ วันนี้ร่างกายต้องกายไขมันมาก วันนี้ไวน์คนสวยเลี้ยงเอง ป่ะ ไปกันเถอะ” นรินดาพูดบอกไปเพื่อเปลี่ยนเรื่องคุย เพราะขืนคุยไปนานกว่านี้เพื่อนๆเธอคงได้ถามไม่จบไม่สิ้น โดยเฉพาะโดนัทที่ดูจะเชียร์ไอ้หล่อของเธอซะเหลือเกิน