หอประมูลเทียนคง
สุ่ยปิงเอาเงินทั้งหมดที่มีสั่งทำโลงแก้วเพื่อใส่ร่างของเสด็จแม่ฮองเฮาหลังจากนั้นนำมันไปฝังไว้ยังกระท่อมป่ากลางสระบัวสถานที่นางใช้เงินซื้อมาตอนเสด็จแม่ยังคงมีชีวิตอยู่ ซึ่งนางก็ไม่คิดว่าจะกลับไปใช้ชีวิตในวังหลวงให้มันวุ่นวาย ผู้คนภายในวังต่างก็เสแสร้งแกล้งทำไร้ซึ่งความจริงใจแม้แต่คุณธรรมยังหามิได้ใครมันจะไปทนอยู่กัน
"ชีวิตของข้าก็ต้องเป็นคนกำหนดเองต่อให้เสด็จพ่อฮองเต้มาสั่งข้าก็ไม่สน!"สุ่ยปิงพูดขึ้นกับตัวเองอย่างจงใจให้องค์รักษ์เงาของฮองเต้ได้ยินแล้วเอากลับไปรายงานผู้เป็นนายเหนือหัว
"คิดว่าเราโง่เขลาเบาปัญญาหรือไรแค่องค์รักษ์เงากระจอกนึกว่าข้าไม่รู้รึไงกัน"
เช้าวันถัดมาสุ่ยปิงก็ยังคงใช้ชีวิตอาศัยอยู่ในกระท่อมป่ากลางสระบัวตามเดิม ด้วยการวางแผนอนาคตที่ว่าในไม่กี่วันนี้นางจะเปิดกิจการขายผักที่นางปลูกเอาไว้ไปขายในท้องตลาด และผักที่นางปลูกก็ไม่ธรรมดากะหล่ำลูกใหญ่โตที่มีมูลค่า 100 ตำลึงทอง ผักทองยักษ์ที่มีมูลค่าแตะ 1,000 ตำลึงทอง ไหนจะผักกาดยักษ์ ต้นหอมผักชีเอ่ย ล้วนแล้วแต่มีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 50 ตำลึงทอง ส่วนสาเหตุที่มันใหญ่กว่าปกติใครจะรู้ว่านางนำเมล็ดพันธุ์ไปปลูกลงในผืนดินที่ติดกับน้ำทิพย์ที่มีจำนวนมากมายมหาศาลชนิดที่ว่าชาตินี้ก็ใช้ไม่หมด สิ่งของที่กล่าวมาทั้งหมดล้วนแล้วแต่อยู่ในแหวนมิติของสุ่ยปิงซึ่งนางก็ได้รับพรมาจากเทพอีกทีซึ่งนางก็ชอบใจเอามากๆ
"คราวนี้ข้าคงจะได้กำไรไม่น้อย"สุ่ยปิงเดินออกจากกระท่อมกลางป่าสระบัวไปยังชุมชนค้าขายเพื่อนำผักของนางไปยังโรงประมูลเทียนคง
ณ หอประมูลเทียนคง
"คุณหนูท่านนำสิ่งใดมาประมูล"
สุ่ยปิงนำสิ่งที่นางเตรียมมาเข้าร่วมการประมูลออกมาเล่นเอาคนเห็นถึงกับตะลึงมิใช่น้อย เหล่าผักขนาดยักษ์แถมมีกลิ่นอายน้ำทิพย์เต็มเปี่ยมดูจากสายตาแทบจะเป็นของชั้นยอดในหมู่จอมยุทธทั้งหลาย
"คุณหนูท่านแน่หรือเจ้าค่ะที่จะประมูลสิ่งนี้"
"ข้าแน่ใจและยังมีอีกมากของแค่นี้ข้าไม่นึกเสียดายนำสิ่งนี้ไปให้แก่นายท่านเทียนเฉินว่าข้าแม่นางน้อยสุ่ยปิงมาเยี่ยม"
"เจ้าค่ะ"
"แปลกตาจริงๆข้าคงไม่ได้มาที่นี้เสียนาน"สุ่ยปิงมองไปยังสิ่งของตกแต่งที่ดูแปลกตาไปจากเมื่อก่อน
"คุณหนูนายท่านให้มาเชิญไปยังชั้นสองเจ้าค่ะ"สุ่ยปิงเดินตามสาวน้อยผู้หนึ่งขึ้นไปยังชั้นสองของหอประมูลเทียนคง
"ไงจ๊ะสาวน้อยข้าก็นึกว่าเจ้าถูกจับตัวกลับไปยังวังหลวงเสียอีก"นายท่านของหอเทียนคงที่ว่าคือชายหนุ่มรูปงามที่มีนิสัยเยี่ยงสตรีเพศ
"หึ! ข้าว่าคงยาก"
"นั้นสินะเจ้าเก่งกาจไปเสียทุกอย่างจะยอมโดนจับโดยองค์รักษ์เงาฮองเต้ข้าว่าไม่สมชื่อเจ้าเป็นแน่"
"ท่านก็ทราบว่าข้าไม่ชอบวังหลวงโดยเฉพาะฮองเต้บ้าอำนาจผู้นั้น"
"อย่างไรเสียพระองค์ก็คือพระบิดาของเจ้า"
"ใครจะสนหรือผู้คนทั้งโลกจะสนใจ แต่ยกเว้นข้า ข้าไม่สน!"สุ่ยปิงยังยืนกรานคำเดิมเสด็จพ่องั้นรึตั้งแต่ตื่นมาในร่างนี้ความรักรึก็ไม่เคยได้รับสายไยพ่อลูกรึก็ไม่มีความรักดั่งคราบครัวในฝันของนางเห็นทีจะมีเพียงเสด็จแม่ฮองเฮาเพียงเท่านั้น
"ว่าแต่มาคราวนี้เจ้านำสิ่งใดมาประมูลกัน"
"เหล่าผักยักษ์ที่ข้าปลูกเองเติมโตมาด้วยน้ำทิพย์และน้ำทิพย์อีกสามขวด"
"น่าสนใจข้าคิดราคา 100,000,000 ตำลึงทองเป็นไง"
"ตกลงข้าขายให้ท่าน"
สุ่ยปิงนำสิ่งที่เทียนเฉินต้องการออกมาวางไว้พร้อมรับหีบตำลึงทองลงแหวนมิติและไม่ลืมเอาใบสัญญาการค้าขายให้แก่เทียนเฉินไป
"ขอบใจของที่เจ้านำเอามาช่างยอดเยี่ยมเสียจริงๆ"
"ข้าจะรอส่วนที่เหลือหลังจบการประมูล"
"ไม่มีปัญหาเจ้ามารับได้ในวันพรุ่ง"เทียนเฉินนัดวันให้แก่สุ่ยปิงเพราะคืนนี้คงมีคนเข้าร่วมประมูลสิ่งของล่ำค่าอีกมาก
"งั้นข้าขอตัวก่อน"
ณ วังหลวงแคว้นจ้าว
"ทูลฝ่าบาทเรื่องทั้งหมดที่กระหม่อมได้กราบทูลไปล้วนแล้วแต่เป็นความจริงพะยะคะ"
"อืม...เจ้าทำได้ดีมาก"
"พะยะคะ"
"ตามดูองค์หญิงเอาไว้ไม่ว่านางจะทำสิ่งใดเจ้าต้องมารายงานข้าด้วยตนเองทุกๆสามวัน"ฮองเต้สั่งองค์รักเงาแม้ว่าจะนึกแปลกใจที่ธิดาของเขานั้นช่างเก่งกาจมากความสามารถได้มาจากที่ใดก็ในเมื่อที่ผ่านมานางน่าจะอยู่แต่ในตำหนักเย็นกับอดีตฮองเฮา
"ฝ่าบาทองค์หญิงจะเปิดกิจการจะให้กระหม่อมทำสิ่งใดมั้ยพะยะคะ"
"เจ้าไปจัดการหาที่ทำเลดีๆให้แก่ลูกหญิงของข้าเอาตามที่ข้าสั่งรีบไปจัดการเสีย"
"พะยะคะ"
"กงกงประกาศออกไปอีกห้าวันจะแต่งตั้งฐานะองค์หญิงสองอย่างเป็นทางการไม่ว่านางจะยอมหรือไม่ก็ต้องเอาตัวนางมาเข้าพิธีให้ได้ไม่ว่าจะต้องมัดลามโซ่หรือจับตัวมาก็ต้องทำนี้คือคำสั่งข้า!"
"พะยะคะฝ่าบาทกระหม่อมน้อมรับพระบัญชา"
สุ่ยปิงรู้สึกหวิวอย่างบอกไม่ถูกได้แต่คิดว่านางคงเป็นไข้หวัดไม่สบายจึงมีอาการร้อนๆหนาวจิตใจไม่สงบอย่างเดิมนางจึงเลือกที่จะนอนหลับไป โดยไม่รู้เลยว่าบุคคลปริศนากำลังจะเข้ามาเอาตัวนางออกไปจากกระท่อมป่ากลางสระด้วยวิธีอันโหดร้ายแม้ว่าบุคคลเหล่านั้นจะไม่อยากทำแต่ก็ต้องทำเพราะคือพระประสงค์ขององค์ฮองเต้
สุ่ยปิงนางหลับลึกจนไม่รู้สึกตัวด้วยกลิ่นหอมหลับใหลของดอกไม้นิทราที่องค์รักษ์เงานำมาใช้เพื่อทำให้องค์หญิงน้อยหลับสนิทพอนางหลับพวกเขาก็จะทำงานได้ง่ายขึ้นด้วยการมัดแขนมัดขานำตัวองค์หญิงกลับเข้าวังมันช่างโหดร้ายิ่งนักสำหรับเด็กสาวในวัย 14 หนาวเช่นนาง.
"ฝ่าบาทเรียบร้อยแล้วพะยะคะ"
"อืมดี!"
"เอ่อ...ฝ่าบาทองค์หญิงทรงโดนยาสลบจากดอกไม้นิทราคงอีกนานกว่าจะตื่นจะแก้เชือกออกก่อนมั้ยพะยะคะ"
"กงกงหากข้าไม่สั่งใครก็ห้ามแก้มัดให้นางโดยเด็ดขาด"เขาอยากจะรู้นักว่าลูกหญิงของตนจะทำหน้าเช่นไรเมื่อตื่นขึ้นมารู้ว่าตัวเองนั้นถูกนำตัวมาเข้าพิธีแต่งตั้งฐานะองค์หญิงสองอย่างเป็นทางการแค่คิดเขาก็สนุกแล้ว
"พะยะคะ"องค์หญิงอย่าโทษกระหม่อมเลยนะพะยะคะคำสั่งฮองเต้ใครก็ไม่กล้าขัดรับสั่ง