อ่อนแอ
อีกครึ่งชั่วโมงถัดมา ทั้งคู่ก็มาอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งใกล้โรงพยาบาลที่นารีรักษาตัวอยู่ นักรบสั่งอาหารโปรดของแม่มาเต็มโต๊ะ แถมลวกแล้วคีบให้อย่างที่เคยทำมาตลอด
" แม่ผอมลงมาก กินเยอะ ๆ นี่รบพึ่งจะไปถ่ายรูปให้นิตยสารชื่อดังของเนเธอแลนด์ ชื่อหมู่บ้านกีธูร์น ไม่มีถนน เวลาจะไปไหนเขาใช้เรือแล่นในคลองนะแม่ แล้วคลองเขาอย่างสวยอย่างสะอาด เดี๋ยวรบจะเปิดรูปให้แม่ดูนะ แม่ต้องชอบแน่ ๆ " นางยิ้มเซียว ๆ ก่อนจะคีบอาหารเข้าปาก บุตรชายเปิดภาพจากกล้องคู่ใจให้แม่ดู ภาพวิวและหมู่บ้านในต่างประเทศอันแสนงดงามราวกับในนิทาน ทำให้นางตื่นตาตื่นใจ นักรบชวนคุยเรื่องโน้นเรื่องนี้ จนนางสบายใจขึ้นและกินอาหารได้เยอะพอสมควร
“ อร่อยไหมแม่ อิ่มหรือเปล่า เอาเป็ดอีกจานไหม ” นางส่ายศีรษะพัลวัน
“ โอ๊ย ไม่เอาแล้วรบ พุงแม่จะแตก แม่ไม่เคยกินได้เยอะเท่านี้มาก่อน ”
“ งั้นเอาบัวลอยน้ำขิงตบท้ายหน่อยนะแม่ จะได้ท้องไม่อืด ”
“ ก็ดีเหมือนกัน ” นักรบเรียกพนักงานบริการมารับออเดอร์ ก่อนที่จะตัดสินใจถามผู้เป็นแม่เรื่องที่ค้างคาใจเขาอยู่
“ แม่ พยาบาลบอกผมว่าเด็กปลอดภัย มันเรื่องอะไรกัน เด็กอะไร ” นางนงนุชหน้าซีด ก่อนจะก้มหน้างุดคล้ายเด็กหนีความผิด
“ แม่ บอกรบมาเดี๋ยวนี้ มันเกิดอะไรขึ้น มีอะไรที่รบไม่รู้ มีอะไรที่แม่กับยัยรีปิดบังรบ ”
นางเงยหน้าขึ้นสบตากับบุตรชาย แววตาคมกล้าฉายแววเด็ดเดี่ยวอยู่ใต้ปีกคิ้วเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน รับกันดีกับริมฝีปากหยักได้รูป ภายใต้ใบหน้ายาวและไรเคราล้อมกรอบอีกที ทำให้เขาดูคมเข้มขึ้นเป็นกอง ยิ่งผสมผสานกับรูปร่างสูงใหญ่กำยำแล้วด้วย ยิ่งทำให้เขายิ่งดูดี
เขาหล่อ เขามีเสน่ห์เช่นเดียวกับพ่อของเขา ธงรบ สามีของนางผู้เป็นรั้วของชาติและได้จากไปในหน้าที่เมื่อสิบปีก่อน ชื่อนักรบ สามีของนางก็เป็นคนตั้ง ด้วยมาดหมายจะให้บุตรชายเดินตามตน ส่วนตัวนางเองนั้นเป็นเพียงแม่บ้าน ไม่ได้มีอาชีพอะไร เคราะห์ดีที่มีเงินบำนาญของสามีอยู่ก้อนหนึ่ง ประกอบกับนักรบผู้เป็นบุตรชายที่ตอนนั้นอยู่มัธยมปีที่หก กระนั้นเขาก็ออกไปทำงานพิเศษระหว่างเรียนอยู่เสมอ ทั้งส่งพิซซ่า ทั้งเป็นเด็กเสิร์ฟในผับยามค่ำคืน
จนกระทั่งเข้ามหาวิทยาลัย นักรบก็เลือกที่จะเรียนทางด้านการถ่ายภาพอย่างที่ชอบ เก็บเงินซื้อกล้องแล้วรับถ่ายภาพตามงานต่าง ๆ ด้วยฝีมือและความรับผิดชอบในหน้าที่ทำให้มีลูกค้าเข้ามาจนแทบไม่มีเวลาว่าง ทำให้เขาสามารถ หาเงินมาจุนเจือครอบครัว ส่งน้องเรียน ให้แม่ไว้ใช้จ่ายอย่างไม่ขัดสน จนกระทั่งผลงานของเขาไปเข้าตานิตยสารในต่างประเทศ ทันทีที่เรียนจบปริญญาตรีก็ถูกเรียกตัวให้ไปฝึกงานและได้งานทันที จากนั้นมาจนถึงอายุยี่สิบแปดปีในปัจจุบัน เขาทำเงินได้มากมาย ซื้อบ้านหลังใหม่และรถยนต์หนึ่งคัน รวมทั้งเงินใช้จ่ายให้แม่กับน้องได้ใช้อย่างสะดวกสบาย
แม้เขาจะไม่ได้ประกอบอาชีพตามที่บิดาคาดหวัง แต่เขาก็ไม่เคยทำให้ครอบครัวเสียใจ ตรงกันข้าม นักรบเป็นหัวเรี่ยวหัวแรง เป็นผู้นำของครอบครัวเสมอ
นักรบเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว ไม่ยอมใครมาแต่ไหนแต่ไร เท่า ๆ กับที่นารีขี้แย อ่อนแอ ไม่สู้คน และมองโลกในแง่ดีอยู่เสมอ แม้ว่าจะเป็นพี่น้องคลานตามกันมา แต่ทั้งสองช่างแตกต่าง จะว่าไปนักรบก็คงเข้มแข็งเหมือนพ่อ เช่นเดียวกับนารีที่อ่อนแอเหมือนกับนางผู้เป็นแม่ คิดได้ดังนั้นก็ยกมือขึ้นปาดน้ำตาที่มันเริ่มไหลเอ่อออกมาอีกแล้ว
“ หยุดร้องเถอะแม่ แล้วเล่าให้รบฟัง รบจะได้รู้ว่าปัญหามันคืออะไร แล้วเราจะแก้ไขมันยังไง ” เขาเอื้อมมือไปกุมมือผอมบางของแม่แล้วเอ่ยปลอบใจ
“ เป็นเพราะแม่แท้ ๆ เลยรบ เป็นเพราะแม่มันไม่เอาไหน แม่มันอ่อนแอจนปกป้องยัยรีไม่ได้ ” นักรบลอบถอนหายใจเบา ๆ แม่นิสัยเหมือนน้อง ที่จะต้องพิรี้พิไรอยู่นั่นแล้ว ไม่หาทางออก มีเพียงเขานี่แหละที่จะเป็นที่พักพิงให้ทั้งคู่ได้
“ ไม่ใช่ความผิดของแม่หรือของยัยรี ไม่ใช่ความผิดของพวกเรา ยัยรีเป็นแบบนี้เพราะกลับไปคบไอ้สารเลวนั่นอีกใช่ไหม ” นักรบหมายถึงไอ้ลูกนักธุรกิจชื่อดัง รูปหล่อบ้านรวยที่บิดาพึ่งตายและทิ้งมรดกมากมายให้มันถลุง ชื่อของมันคือ
' อดุลวิทย์ อัศวะมาฬา '