จากไปไม่มีวันกลับ
“ ใช่ เธอตั้งใจจะทำให้ยัยรีอับอาย คงเพราะรู้ด้วยว่ายัยรีท้อง เธอไปประจานยัยรีต่อหน้าเพื่อนและอาจารย์ ว่าเป็นได้แค่นางบำเรอของคุณดุล และคุณดุลก็ไม่ได้มียัยรีคนเดียว ยังมีผู้หญิงอีกมากมายหลายคนที่เป็นได้แค่นางบำเรอ แต่ยัยรีอยากได้คุณดุลก็เลยปล่อยท้องเพื่อหวังจะจับ ยัยรีเสียใจและอับอายมากก็เลยรีบหนีกลับบ้านและไม่กล้าไปมหาวิทยาลัยอีก ”
“ แล้วไอ้ดุลมันรู้ไหมว่าผู้หญิงของมันทำแบบนั้นกับยัยรี ”
“ ไม่รู้ว่ารู้หรือเปล่า ”
“ แม่หมายความว่ายังไง ”
“ ก็คืนนั้นคุณดุลก็ประสบอุบัติเหตุรถคว่ำเข้าโรงพยาบาล อาการโคม่า พร้อมกับ เอ่อ... ”
“ พร้อมกับอะไร ”
“ พร้อมกับผู้หญิงที่นั่งข้าง ๆ ไปด้วย ก็เลยทำให้ยัยรีเสียใจหนัก ว่าคำพูดของเธอที่ว่าเขามีผู้หญิงไปทั่ว และยัยรีก็เป็นแค่ของเล่นอีกชิ้น มันคือความจริง ” นักรบเผลอตบโต๊ะดังปังอย่างแรง เล่นเอาผู้เป็นแม่รีบคว้ามือเขาไว้
“ รบ แม่ไม่คิดว่าเรื่องมันจะเป็นแบบนี้ ถ้าใครจะผิดก็คงเป็นแม่ ที่หลงเชื่อผู้ชายอย่างคุณดุลง่ายนัก ”
“ แล้วตอนนี้อาการมันเป็นไง คู่หมั้นของมันยังมาราวีแม่อยู่หรือเปล่า ” นางส่ายศีรษะ
“ ไม่เคยหรอก จะว่าไปเธอก็ไม่ได้ผิดอะไร ก็นั่นมันคู่หมั้นของเธอนี่ แม่เองนี่แหละที่ผิดที่ไม่ควบคุมดูแลลูกสาวของตัวเอง ส่วนคุณดุลก็เห็นข่าวลงว่าเป็นอัมพาตเคลื่อนไหวไม่ได้ ”
“ ใช่ ผู้ชายสำส่อนมักง่ายอย่างไอ้เหี้ยอดุลวิทย์นั่นแหละที่มันเลวชาติ สมควรจะโดนกรรมสนองซะบ้าง ผู้หญิงกี่คนที่จะต้องเจ็บปวดเพราะการกระทำของมัน ”
“ หลังจากคืนนั้น ยัยรีก็ได้รู้ข่าวว่าคุณดุลเธอไปกับผู้หญิงคนอื่นและรถคว่ำ มันทำให้ยัยรีคิดมากและเครียด เลยตัดสินใจทำอะไรแบบนั้น ซึ่งแม่เองก็ตื่นตีห้ามาทำกับข้าวปกติ ประมาณแปดโมงจะขึ้นไปปลุกยัยรีลงมากินข้าว แต่ก็... ” คำพูดถูกกลืนเข้าไปในคอ กลายเป็นเสียงสะอื้นไห้แทน นักรบวางมือใหญ่ลงบนมือแม่และกระชับไว้ เขาเข้าใจในความรู้สึกนั้นเป็นอย่างดีแม้จะไม่ได้ร่ำไห้ออกมา เพราะเขาเองก็รู้สึกไม่ต่าง
ทั้งเจ็บปวด ทั้งเสียใจ แต่ที่มากไปกว่านั้นคือความโกรธแค้น !
แต่ยังไม่ทันจะได้พูดอะไรต่อ เสียงเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือของแม่ก็ดังขึ้น นางหยิบมันออกจากกระเป๋าแล้วกดรับ
“ สวัสดีค่ะ ”
นักรบไม่ทราบว่าปลายสายเป็นใครและพูดอะไร เขารู้เพียงว่าดวงตาดำคล้ำเพราะอดหลับอดนอนของผู้เป็นแม่นั้นเบิกกว้าง มือขวาถูกยกขึ้นมาปิดปากไว้ แล้วน้ำตาก็ไหลพร่างพรูราวทำนบแตก
“ ค่ะ จะไปเดี๋ยวนี้ ”
“ ใครโทรมาเหรอแม่ ” นางเงยหน้ามองบุตรชายด้วยน้ำตาอาบแก้ม เสียงพร่าสั่นเครือ
“ รบ พยาบาลโทรมาบอกว่า ยัยรีไปแล้วลูก ! ”
แล้วโลกทั้งใบก็ราวกับพังครืนลงมาทับ นักรบอ้าปากค้าง ตัวชา เจ็บปวดและเสียใจจนแทบบ้าในตอนนั้น
น้องสาวสุดที่รัก น้องสาวผู้เป็นแก้วตาดวงใจของเขา เธอจากไปแล้ว จากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ จากไปโดยที่เขาไม่มีโอกาสได้ปกป้องแม้แต่นิดเดียว...
***
คำว่าเวลาและวารี ไม่มีจะรอใคร ที่มีใครสักคนเคยกล่าวไว้นั้นไม่ผิดเลย
หลังจากความสูญเสียอันยิ่งใหญ่ น้ำตาและความเสียใจอันเป็นอนิจจัง มีพบก็ต้องมีจาก มีเกิดก็ต้องมีดับ เช่นเดียวกับที่ครอบครัวของนักรบต้องสูญเสียนารีไป แต่หากยังมอบแก้วตาดวงใจไว้ให้หนึ่งดวง ผ่านไปหนึ่งปี แก้วตาดวงใจนั้นกำลังน่ารักน่าชังอย่างที่สุด
“ ไง ไอ้เสือ วันนี้ยายไม่อยู่ วันพระ ไปวัดแต่เช้า อยู่กับลุงรบ อย่างอแงงุงินะเว้ย ถ้ามีปัญหา ลุงรบจะเอาเบียร์กรอกปากให้เมาแอ๋แล้วหลับไป ” เสียงทุ้มเอ่ยกับหลานตัวน้อยอ้วนกลมที่กำลังหัดเดินเตาะแตะ หัดพูดประจ๋อประแจ๋ ใบหน้าน้อย ๆ สีชมพู แก้มป่องออกมาเหมือนซาลาเปายิ้มแป้น ก่อนจะค่อย ๆ คลานตุ้บตั้บเข้ามาหาลุงที่นั่งอยู่กับพื้น ขะมักเขม้นกับการแต่งภาพในแม็คบุ้คที่วางอยู่บนโต๊ะญี่ปุ่นเตี้ย ๆ อีกทีหนึ่ง เพื่อจะส่งให้กับบริษัททางอีเมลล์
หลังจากที่นารี ผู้เป็นน้องสาวจากไป นักรบก็ตัดสินใจไม่ทิ้งแม่และหลานไว้เพียงลำพัง เขาไม่อยากให้คนในครอบครัวต้องเผชิญปัญหาโดยไม่มีเขาอีกแล้ว เงินเก็บในบัญชีที่เขาสะสมมาตลอดหลายปีที่ทำงานในต่างประเทศในหลักหลายสิบล้านมันน่าจะทำให้เขา แม่ และหลานชาย อยู่ได้อย่างสบายไปชั่วชีวิต และเขาเองก็กลับมารับงานช่างถ่ายภาพฟรีแลนซ์ในเมืองไทย ไม่มีหน้าร้าน รับงานเพียงทางเฟชบุ้ค กระนั้นเดือนหนึ่งก็แทบไม่มีเวลาว่าง เพราะชื่อเสียงอันโด่งดังจากต่างประเทศ เป็นใบเบิกทางให้เขาได้รับความนิยมจากลูกค้าทั้งรายบุคคลและบริษัท แต่นักรบก็เลือกงาน ไม่หักโหมจนเกินไป เพื่อจะได้มีเวลาให้แม่และหลานรัก