บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 แผนกับดัก

หนึ่งอาทิตย์ต่อมากับการอยู่ที่บ้านหลังใหม่ สองพี่น้องต้องปรับตัวกันอย่างมาก พอร์ชย้ายมาเรียนที่ใหม่ก็สอบกลางภาคและรอปิดเทอม โชคดีที่เด็กชายหัวดีถึงทำให้เรียนตามเพื่อนคนอื่นๆ ได้โดยไม่มีปัญหา ส่วนเพียงฟ้าหลังจากที่พ่อห้ามไม่ให้ทำงานก็เกิดอาการเบื่อที่ต้องนั่งๆนอนๆแต่ในบ้านหลังโต ขืนอยู่แบบนี้ต่อไปคงฟุ้งซ่านกับอะไรหลายๆอย่าง เพียงฟ้าตัดสินใจถอนเงินที่พ่อโอนไว้ให้ซื้ออุปกรณ์ทำเบเกอรี่และทำขายผ่านโซเซียล เธอไม่อยากอยู่เฉยๆ แม้จะมีเงินมากมายในบัญชีก็ตามแต่ก็ไม่เคยสบายใจที่จะต้องนำเงินพวกนั้นมาใช้

“ทำขนมขายไปสักระยะหนึ่ง เดี๋ยวค่อยฝากคืนก็ได้”

เธอมองแอพพลิชั่นธนาคารและพูดคนเดียว เงินที่ไม่รู้ที่มาที่ไปเธอจะไม่เจียดมันออกมา แต่คราวนี้มันจำเป็นจริงๆ เพราะต้องซื้ออุปกรณ์ทำขนมและเงินเก็บที่หามาด้วยน้ำพักน้ำแรงก็เริ่มหมดลง อุปกรณ์ที่ต้องการจัดการซื้อมาครบถ้วนและก็ถึงเวลาที่จะโพสต์ขายขนมลงในแฟรตฟอร์มต่างๆ เพียงแค่เปิดเพจรับออเดอร์ขนมก็มีผู้ติดตามเกือบร้อยคนและโชคดีไปกว่านั้นมีลูกค้าทัก inbox สั่งขนม 100 ชิ้นคิดเป็นเงินก็ 4,500 บาท หากหักลบกำไรต้นทุนเธอจะได้ประมาณ 2,000 บาท

ว้าว!!! ทำขนมขายได้กำไรวันละ 2,000 หนึ่งเดือนมี 30 วัน ก็จะได้กำไรหกหมื่นบาทต่อเดือน ก็แค่คิดคร่าวๆ ในใจ คงไม่มีใครมาสั่งขนมได้ทุกวันหรอก

เพียงฟ้าเริ่มทำขนมตามที่คุณค้าสั่งเข้ามาในเพจ เป็นเจ้าแรกด้วยวันนี้คงต้องทำให้สุดฝีมือและต้องรีบให้เสร็จก่อน 4 โมงเย็น เธอตั้งหน้าตั้งตาทำอย่างขะมักเขม้น มันไม่ใช่เรื่องง่ายกับการทำขนม 100 ชิ้นภายในระยะเวลา 4 ชั่วโมงแต่ก็ไม่เชิงว่ายากไปเสียทีเดียว เมื่อมีวิชาติดตัวก็ต้องนำมาใช้ให้เป็นประโยชน์ จนในที่สุดขนมที่ตั้งทำในวันนี้ก็เสร็จทันตามกำหนดประจวบเหมาะกับน้องชายที่กลับมาจากการสอบกลางภาควันสุดท้ายพอดี

“พี่ฟ้าทำอะไร” เดินดุ่มๆ เข้าห้องครัวแต่กระเป๋านักเรียนไม่ยอมวาง กลิ่นขนมหอมๆมันช่างยั่วจมูกพอร์ช เด็กชายกำลังจะหยิบขนมเข้าปากแต่ก็โดนพี่สาวตีมือไว้ได้ทันไม่เช่นนั้นคงได้ลงท้องไปแล้ว

“หยุดเลยพอร์ช นี่ของลูกค้าพี่”

“ก็ผมหิวนิพี่ฟ้า” ลูบท้องแบบๆพอร์ชกำลังหิวหลังจากใช้พลังงานกับการทำข้อสอบ เมื่อได้ยินเสียงท้องร้องเพียงฟ้าก็เดินไปหยิบขนมที่รูปทรงไม่สวยแต่ก็อะไรเหมือนขนมในกล่องที่กำลังแพ็ก

“ถ้าจะกินก็กินอันนี้” ยื่นขนมให้น้องได้รองท้องไปก่อนเพราะถ้าจะทำอาหารให้ก็ยังไม่มีเวลา เพียงฟ้าจัดการแพ็กขนมต่อจนเสร็จและก็เหลือเวลาเพียง 30 นาทีที่ต้องนำไปส่งให้กับลูกค้า

“มีคนสั่งขนมพี่เหรอ”

“ก็ใช่ไง ไม่สั่งแล้วพี่จะทำไปทำไมเยอะแยะ และถ้าเราอิ่มแล้วช่วยพี่ถือขนมไปส่งลูกค้าด้วย” บอกน้องชายให้รีบกินเพราะใกล้ถึงเวลาที่ลูกค้าจะมารับขนมหน้าปากซอยแล้ว พอร์ชได้ยินเช่นนั้นก็ลุกจากเก้าดื่มน้ำและล้างมือตามลำดับ ถุงขนมที่บรรจุไว้ถุงละ 25 ชิ้นทั้งมี 4 ถุง สองพี่น้องช่วยกันถือคนละ 2 ถุงเดินออกไปยังหน้าปากซอยที่มีป้ายรถเมล์

“ถ้ามีคนมาสั่งแบบนี้ทุกวันคงดีนะพี่ฟ้า” ดีใจแทนพี่สาวที่ขนมขายออกตั้งหลายชิ้น คนเป็นพี่ก็ยิ้มอย่างดีใจเช่นกันหากมีคนสั่งแบบนี้ทุกวันอะไรๆ ก็น่าจะดีขึ้น

ป้ายรถเมล์ที่มีผู้คนสัญจรไปมา สองพี่น้องยังคงนั่งรอลูกค้าที่นัดหมายกันไว้และมันก็ผ่านไปเกือบ 20 นาทีก็ยังไม่มีวี่แววคนมารับขนม

“พี่ฟ้า ลูกค้าพี่ยังไม่มาอีกเหรอ” พอร์ชออกอาการหน้ามุ้ยที่ต้องมานั่งดมกลิ่นควันรถไหนจะฝุ่นที่ลอยฟุ้งไปมาจนแทบหายใจไม่ออก เพียงฟ้าชะเง้อคอมองหารถตู้คันสีดำจากการสนทนาลูกค้าบอกให้สังเกตและก็เห็นมันจอดเลยป้ายรถเมล์ไปเล็กน้อย

“นั้นไง รถลูกค้า” เธอชี้ให้น้องชายดูก่อนจะถือถุงขนมเดินตรงไปทางด้านซ้ายอีกไม่กี่สิบเมตร

เมื่อถึงรถตู้เพียงฟ้าพยายามมองหาคนด้านรถ แต่ด้วยฟิล์มสีดำที่ทึบจนมองไม่เห็นเธอจึงตัดสินใจเคาะหน้ารถเพื่อให้คนด้านในเปิดให้ จากหลังนั้นประตูก็ค่อยๆ เปิดออกอย่างช้าๆ แต่กลับไม่มีคนนั่งอยู่ด้านในเลยก็มีเพียงแต่คนขับรถผู้ชายที่ดูแล้วน่าจะอายุประมาณ 40 ปีขึ้นไป

“คุณน้าคะ เอาขนมไว้ตรงไหน”

“วางเบาะด้านหลังได้เลยหนู” เพียงฟ้าเหยียบเข้าไปในตัวรถและเดินแทรกไปยังเบาะหลังโดยมีพอร์ชถือตามขึ้นมาติดๆ เพียงแต่วางขนมลงได้จนครบ 4 ถุงประตูรถก็ปิดดังตึ้งพร้อมกับชายฉกรรจ์อีก 3 คนที่สวมแมสสีดำและแว่นตากันทุกคน

“รบกวนเปิดประตูให้ด้วยค่ะ ฉันกับน้องจะลงไป”

เสียงสั่นเล็กน้อยพยายามจะไม่คิดในแง่ลบแต่ก็อดคิดไม่ได้ เมื่อชายทั้ง 3 มีปืนเหน็บที่เอวคนละกระบอก

“พี่ฟ้า ผมกลัวพวกเขามีปืน” ความเป็นเด็กพอร์ชเริ่มตื่นกลัวและส่งเสียงโหวกเหวกโวยวาย

“หุบปากเดี๋ยวนี้ไอ้หนู ถ้าไม่อยากตาย” ชายหนึ่งคนขู่เด็กชายตัวน้อยทันที จนกระโจนเข้ากอดพี่สาวพอร์ชนั่งตัวสั่นหงกๆ อยู่ในอ้อมกอดพี่ เพียงฟ้าใช่ว่าจะไม่กลัวแต่ต้องทำเป็นใจดีสู้เสือและก็ยังสงสัยว่ามันเกิดอะไรขึ้น หวังว่าเรื่องทั้งหมดมันจะไม่เกี่ยวกับเงินที่พ่อโอนมาให้แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงแปลว่าเงินก้อนนี้พ่อต้องขโมยมาแน่ๆ ตลอดเวลาที่นั่งอยู่บนรถสองพี่น้องกอดกันแน่น เพียงฟ้าพยายามมองเส้นทางด้านนอกหากจำเป็นต้องโทรให้ใครสักคนมาช่วยก็จะได้บอกพิกัดถูก แต่มันก็ยากเสียเหลือเกินเมื่อรถคันนี้ดันเป็นม่านไฟฟ้าสามารถสั่งปรับระดับความมืดได้ตามที่ต้องการจนเธอไม่สามารถมองเห็นด้านนอกได้เลยว่ามันคือตรงไหน

ใช่สิ!!

ลืมไปเลยว่าพกมือถือมา เพียงฟ้าค่อยๆหยิบมันออกมาจากกระเป๋า แต่เหมือนโชคชะตาเล่นตลกจู่ๆ ในรถก็ไม่มีสัญญาณมือถือและถ้าเดาไม่ผิดรถตู้คันนี้สามารถตัดสัญญาณมือถือได้ อะไรกันเนี่ย!! นับจากนี้จะยังมีชีวิตรอดอยู่ไหม ผู้ชายบนรถต้องพาเธอกับน้องไปฆ่าแน่ๆ กระวนกระวายจิตใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว

“พวกคุณเป็นใคร พาฉันกับน้องขึ้นรถมาทำไม” ตัดสินใจถามให้รู้แล้วรู้รอดดีกว่านั่งคิดไปเองว่าจะเกิดอะไรขึ้นแต่กลับไม่มีเสียงตอบรับจากใครสักคน ชายฉกรรจ์ทั้งหลายยังนั่งเงียบพร้อมกับมือที่จับด้ามปืนข้างเอวไว้ตลอดเวลา มันไม่ปลอดภัยสำหรับตัวเธอและน้องชายจริงๆ แต่ในเวลานี้ไม่สามารถทำอะไรได้เลย

เวลาในตอนนี้มันช่างนานกว่าปกติ เพียงฟ้ายังไม่รู้จุดหมายปลายทางของตัวเองเลยสักนิดว่าจะถูกพาไปไหน ทำได้เพียงนั่งกอดน้องชายตัวสั่นไปด้วยกัน จนมาถึงปลายทางในความมืดรถตู้ขับเคลื่อนเข้าจอดในโกดังแห่งหนึ่งและไม่รู้เลยว่ามันคือที่ไหน

“พี่ฟ้า เขาจะเอาเรามาฆ่าหรือเปล่า” เด็กน้อยเอ่ยถามพี่สาวด้วยน้ำเสียงสั่นกลัว โกดังเก่าๆ ยิ่งมองก็ยิ่งหลอนหากถูกฆ่าตายจริงๆก็คงไม่มีใครรู้ ประตูรถตู้เปิดออก สองพี่น้องถูกลากเข้าไปด้านใน โดยมีชายฉกรรจ์ผลักด้านหลังให้เดินเข้าไปเรื่อยๆ สภาพโกดังที่มีแต่ฝุ่นหนาเตอะจนแทบหายใจไม่ออก แม้จะมองไม่เห็นแค่ก็พอเดาได้ว่ามันโคตรจะสกปรก จากนั้นก็ต้องชะงักฝีเท้าไว้เมื่อประตูโกดังถูกปิดลง

“พี่ฟ้าผมกลัว” พอร์ชกอดเอวพี่สาวและเพียงฟ้าก็ไม่รู้เลยว่ามันเกิดอะไรขี้นกับพวกเธอ ได้เพียงแต่ลูบหัวน้องปลอบให้คล้ายกับอาการตื่นตระหนกทั้งที่ตัวเองก็กลัวไม่แพ้กัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel