บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3.1

ตอนที่ 3 ความสบายใจ

ป๊อปคิดว่ามันออกจะดูบ้าไปสักหน่อย แต่ตอนนี้มันก็เป็นไปอย่างที่ต้องการแล้ว เธอได้ควงหนุ่มหล่อระดับท็อปของมหาวิทยาลัย เพื่อจะฉีกหน้าไอ้คนคุยเก่าที่มันยังตามตื๊อไม่เลิกและหน้าด้านหน้าทน แถมยังมาดูถูกว่าเธอจะโง่งมคุยกับมันคนเดียว

ก็ยอมรับว่าเคยโง่ แต่ต่อไปนี้มันจะไม่มีผู้หญิงโง่ ๆ คนนั้นอีกแล้ว

ก่อนออกมาจากร้านคิดว่าจะโดนเพื่อนด่าจนหูแฉะปากฉีก แต่ที่ไหนได้บอยมันบอกแค่ว่าขอบคุณที่เลี้ยงแล้วก็ปล่อยให้ป๊อปไปไหนก็ไป เพื่อนกันมันก็ศีลเสมอกันดี แต่ป๊อปรู้ว่ามันเข้าใจ

สุดท้ายป๊อปก็ออกมากับหนุ่มหล่อนามว่า คีตะ ที่ใครก็อยากเข้าหา โอ๊ย แล้วถ้าใครมันรู้ว่าป๊อปคนนี้เป็นลูกค้ารายใหญ่ รายแรกที่ได้ตัวคีตะมาควงตอนเขามาสมัครงานเป็นหนุ่มโฮสต์ คนทั้งมหาวิทยาลัยไม่รุมสาปรุมทึ้งแย่เหรอ

วาสนาป๊อปค่ะ ทุกคนโปรดเข้าใจด้วย

เธอนั่งยิ้มคนเดียวอย่างกับคนบ้า กระทั่งได้สติถึงต้องรีบหุบยิ้ม

“พี่คีตะมีแฟนหรือยัง” เท่าที่รู้มาเขาไม่มีแฟนแต่ต้องถามเพื่อความมั่นใจ

“ไม่” เขาตอบไปตามตรงไม่ได้โกหก

“ถามเผื่อไว้น่ะ กลัวว่าจะโดนตบเอา” ป๊อปพูดแล้วหัวเราะเบา ๆ

นี่คงเป็นเสียงหัวเราะแรกตั้งแต่เกิดเรื่องนั้นมาถึงแม้ว่าคนนั่งข้างกันที่ทำหน้าที่เป็นสารถีอยู่นี้จะหน้านิ่งมากก็เถอะ ก็ยังรู้สึกว่าโลกมันสดใสมากอยู่ดี อาจจะเป็นเพราะความหล่อเหลากับกลิ่นน้ำหอมอ่อน ๆ ในแบบของผู้ชายละมั้งที่ทำให้อารมณ์ดีขึ้น

แบบเขาต่อให้ฉีดน้ำหอมขวดละยี่สิบ เธอก็รู้สึกเหมือนได้กลิ่นของน้ำหอมราคาแพงติดตัวเขาเลย

“ทำไมถึงไปร้านนั้น”

ก็นึกว่าจะต้องเป็นเธอที่ชวนคุยอยู่ฝ่ายเดียว เอาเข้าจริงผู้ชายที่หลายคนบอกว่าเย็นชาขั้นสุดแบบเขาก็ชวนคุยเป็นเหมือนกัน แต่นั่นอาจเป็นเพราะหน้าที่ของเขากับงานที่รับไปหมาด ๆ

“เหงาค่ะ เพิ่งอกหักมา”

“...” เขาเงียบแล้วรอฟัง ก็รู้อยู่ว่าเหงาไม่อย่างนั้นคงไม่มาจ้างเขาทำอะไรอย่างนี้

เขาพอรู้มาบ้างว่าเธอฐานะทางบ้านร่ำรวย ไม่ได้คิดจะปอกลอก แต่งานนี้เธอก็เสนอให้เขาเอง ต่างฝ่ายต่างได้รับผลประโยชน์ในสิ่งที่ตัวเองต้องการ

อีกอย่างเขาก็ทำได้หมด แค่เธอเอ่ยปากเขาก็พร้อมจะสนองความต้องการให้เต็มที่

เวลานี้ ไม่มีอะไรต้องอายแล้ว ชีวิตแม่ของเขาสำคัญกว่า

“เล่าได้เหรอ มันก็มีแต่เรื่องไม่น่าฟัง”

“ก็เธอจ้างฉันมาแล้ว” มากกว่าเล่าเรื่องก็ยังได้ จะให้เช็ดขี้เช็ดเยี่ยวก็ยอมหมด

“...”

ไม่รู้ทำไมแค่คำพูดสั้น ๆ จากคนที่ไม่ได้สนิทกันถึงทำให้เธอรู้สึกอุ่นวาบที่หัวใจได้ขนาดนี้

ตามนิสัยของเธอแล้วไม่ได้ชอบเล่าเรื่องอ่อนแอให้ใครฟัง แม้จะเป็นเพื่อนสนิทมาก ๆ อย่างยายเฌอกับบอยก็ตาม ป๊อปถึงเป็นสาวมั่นในสายตาของคนรอบข้างได้ทั้งหมด อีกอย่างหนึ่งคือเธอไม่อยากแบกเอาความทุกข์ใจไปให้ใครก็ตามที่ตัวเองรัก

ไม่อยากให้ใครต้องมาเห็นเธอทุกข์ และทำให้คนคนนั้นต้องเป็นห่วง ทว่าตอนนี้ มันไม่เหมือนกับเมื่อก่อน ไม่เหมือนตอนที่ยังเป็นเด็ก ยิ่งโตความเจ็บปวดที่เกิดจากความรู้สึกมันก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น

การเก็บไว้คนเดียวมันเหมือนจะทำให้ตัวเองระเบิดเข้าสักวัน

“ถ้าเป็นพี่ พี่จะรับได้ไหม” ป๊อปเอนศีรษะไปกับเบาะ แล้วยิ้มออกมาแต่มันคงเป็นรอยยิ้มที่โคตรตลก

“...” เขารอฟังอย่างตั้งใจ

“ป๊อปไม่อยากจะประจานใครหรอก พี่ก็แค่ทำหน้าที่คนฟังที่ดีก็พอ ไม่จำเป็นต้องใส่ใจ”

เขาเงียบอย่างที่ชอบเป็น เธอเองก็ไม่ได้หันไปมองว่าตอนนี้สีหน้าของหนุ่มรุ่นพี่เป็นอย่างไร ไม่กล้าหันไปหรอก ก็ตอนนี้น้ำตามันรื้นเกาะขอบตาจนจะร่วงแหมะลงอาบแก้มแล้ว อีกแค่นิดเดียว นิดเดียวเท่านั้น

สุดท้าย มันก็ไหลลงมาจนได้

“ก่อนหน้านี้ป๊อปคุยกับผู้ชายคนหนึ่ง คุยกันมาหลายเดือนได้แล้วมั้ง อันที่จริงมันก็ไม่ได้มีความสัมพันธ์พิเศษอะไรขนาดนั้น ถ้าก่อนหน้านี้เลิกคุยกันไปก็ไม่เจ็บเท่าไร”

“...” เขายังคงเป็นผู้ฟังที่ดี คีตะไม่ใช่คนที่ปลอบใครเก่ง ปกติก็ไม่ค่อยอยากพูดอะไรอยู่แล้ว แต่ยายนี่ดันมาร้องไห้ต่อหน้า

กูต้องทำไงวะ ถ้าไม่เอาใจตอนนี้เขาจะไม่ให้กูทำงานต่อไหม

“เธอ” เขาพูดแค่นั้นแล้วก็เงียบเมื่ออีกฝ่ายเล่าต่อ

“แต่ที่มันเจ็บมากตอนนี้ก็เพราะเขาไปเอากับน้องรหัส น้องที่เรารัก ให้ความช่วยเหลือตลอด ไม่ว่ามันจะเจออะไรเลวร้ายมาเราก็พร้อมช่วยเสมอ ไม่ว่าจะเรื่องเงินหรือแรงกายแรงใจก็แล้วแต่”

“...”

“พวกเขาโคตรใจร้ายเลย”

ป๊อปพูดไปพร้อมกับปล่อยเสียงสะอื้นออกมา สายตามองเหม่อไปยังข้างทางที่คลาคล่ำไปด้วยผู้คนที่กำลังจับจ่ายใช้สอย หาของอร่อยทานยามดึก ก่อนที่รถจะเคลื่อนผ่านตรงนั้นไปถึงสะพานที่มีแม่น้ำสายใหญ่ไหลผ่าน

สารถีจำเป็นชะลอรถและจอดสนิท เขาเปิดประตูลงขณะที่ป๊อปยังคงมีอาการมึนงง ก็ถ้าจะลงไปยืนชมวิวชวนกันสักหน่อยก็ยังดี หรือเขารำคาญเสียงร้องของเธอตอนนี้กันนะ ไม่เคยร้องไห้ให้ใครฟังด้วยสิ มันทุเรศมากหรือเปล่าก็ไม่รู้

ทว่าอยู่กับความคิดของตัวเองได้ไม่นานนัก ประตูฝั่งของเธอก็ถูกเปิดพร้อมกับสายตาคมเข้มที่ส่งมาเป็นสัญญาณว่าให้ลงไป ป๊อปพยักหน้าแล้ววางมือถือที่มีแต่แจ้งเตือนของน้องรหัสกับผู้ชายสารเลวคนนั้นตลอดหลายวันที่ผ่านมา

ป๊อปไม่คิดจะเปิดอ่าน ไม่คิดจะรับสาย แล้วก็ไม่ได้ไปเรียนหลายวันแล้ว งานที่อาจารย์สั่งก็ขอจากเพื่อนในสาขา ทำใจที่จะไปเจอคนพวกนั้นได้เมื่อไรค่อยไป

“ถามจริง เมื่อกี้ร้องไห้น่าเกลียดไหม”

“อืม” อย่างกับเด็กอนุบาล

ป๊อปหลุดหัวเราะออกมาเพราะคำพูดที่ตรงไปตรงมา สั้น ๆ แต่ได้ใจความของเขา มันเป็นเสียงหัวเราะที่มาพร้อมกับน้ำตาที่มีอยู่ตอนนี้

“สรุปพี่รับงานเพื่อมาทำให้ป๊อปรู้สึกเครียดกว่าเดิมหรือเปล่าเนี่ย”

“ก็ถ้ายิ้มจะดีกว่า” น่ารักกว่ามากเลย

คีตะพูดแล้วหันมามองป๊อปเพียงไม่กี่วินาที แล้วเขาก็หันกลับไปมองยังแม่น้ำสายใหญ่ตรงหน้าที่กำลังไหลผ่านใต้สะพานไป

น่าแปลกที่คำพูดนั้นมันทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นมากทีเดียว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel