ตอนที่ 2.3
“พี่คีตะ”
เมื่อวิ่งตามมาจนเกือบถึงตัวเขา เธอก็เรียกหนุ่มรุ่นพี่เอาไว้ เจ้าของชื่อหันมามองสีหน้าแปลกใจเล็กน้อย มองป๊อปสลับกับทางเข้าด้านหลังร้านราวกับมีความคิดที่ว่า
เธอมาทำอะไรตรงนี้
เอาละ ตอนนี้เขาคงคิดไปแล้วว่าเธอเป็นผู้หญิงแบบไหน แต่มันไม่สำคัญ ป๊อปไม่คิดจะอายอยู่แล้ว ก็ในเมื่อตอนนี้มีเป้าหมายใหม่ก็ต้องรีบทำให้สำเร็จ นั่นคือการหาผู้ชายที่ตรงสเปกสักคนมาเอาอกเอาใจ
สเปกที่ว่านี้ก็เพิ่งจะรู้ตัวว่ามีเมื่อไม่กี่นาทีก่อน รู้ว่ามันคือเขา ตัวท็อปของคณะวิศวกรรมศาสตร์ หนุ่มฮอตระดับมหาวิทยาลัย นามว่า ‘คีตะ’ เท่านั้น
“พี่รับงานไหม”
เขาเลิกคิ้วแล้วอุทานเป็นคำถามในลำคอเบา ๆ คีตะไม่เข้าใจคำถามของคนตรงหน้า ก่อนที่จะนึกขึ้นได้ว่าตอนนี้เขาอยู่สถานที่แบบไหนถึงต้องร้องอ๋อในใจ แต่ไม่ทันจะอ้าปากพูดอีกฝ่ายก็เอ่ยขึ้นมาเสียก่อน
“คืองี้ ถ้าพี่คีตะรับงาน แกล้งควงเป็นแฟน ไปเที่ยว กินข้าวเป็นเพื่อนหน่อยสิ ปกติพี่คิดเรทพวกนี้เท่าไร”
“ฉัน ?”
เขายังคงทำหน้างงไม่เลิก แล้วชี้นิ้วมาที่ตัวเอง
ก็จะไม่ให้งงได้อย่างไร
เขาแค่มาส่งของให้คนที่เขาจ้าง เป็นงานพิเศษที่รับทำอยู่ตอนนี้ แล้วงานที่เขาทำก็ไม่ใช่งานที่สาวรุ่นน้องคนนี้เข้าใจ
เขาจำเธอได้ เพื่อนของเมียไอ้บูม ซึ่งไอ้บูมเป็นเพื่อนต่างคณะของเขา จำได้ก็เพราะว่าสวยนั่นแหละ เห็นครั้งแรกก็สะดุดตาแล้ว ถึงเขาจะไม่ค่อยสนใจใคร ไม่ค่อยพูดกับใคร แต่ก็เห็นคนนี้อยู่ในสายตาเวลาเจอกัน
เธอชอบยิ้มให้เขา...
เป็นครั้งแรกที่ป๊อปได้เห็นเขาในชุดอื่นที่ไม่ใช่ชุดนักศึกษา ใส่เพียงเสื้อยืดโอเวอร์ไซส์ธรรมดากับกางเกงคาร์โก้สีดำแบบที่ผู้ชายหุ่นดี ๆ เขาใส่กัน ยอมรับว่าเขาในชุดนี้ดูดีมากทีเดียว เป็นความธรรมดาที่โคตรจะพิเศษ
“อือฮึ พี่คิดเท่าไร ป๊อปจ่ายได้นะ” ก็ป๊อปมันลูกคนรวยและเขาก็คงรู้
ป๊อปไม่คิดว่าตัวเองต้องอายกับเรื่องนี้ ในเมื่อเขารับงาน เธอเองก็มีเงินจ่ายไม่จำเป็นต้องอ้อมค้อม เธอไม่คิดว่ามันเป็นเรื่องเห็นแก่เงินหรืออะไรทั้งนั้น งานแบบนี้มันก็มีมาตั้งนานแล้ว ผู้ชายที่ทำงานแบบนี้ก็ไม่ได้ดูแย่ในสายตาเธอ
“เธออยากให้ทำอะไร” เขาถามเสียงเรียบพลางคิดในใจ
ฉิบหายไหมไม่รู้ แต่ทำก็ทำวะ
กูจะมาเปลี่ยนงานตอนนี้เลยได้ไหม ที่จริงมันไม่ใช่แนว ที่ต้องมานั่งเอาอกเอาใจใคร แต่ใคร ๆ ก็พูดว่างานนี้เงินดี แล้วยายนี่ก็คนกันเองไม่เห็นมีอะไรต้องห่วง
เธอเสนอ เขาแค่สนอง
“ก็... ชวนคุย พาไปเที่ยว ไปกินข้าว ดูหนัง แล้วก็เดินควงได้ แบบฟิลแฟน”
คีตะฟังแล้วก็คิดอยู่ครู่หนึ่ง เรื่องราคาก็ไม่รู้เขาคิดกันอย่างไร งานนี้มันทำอะไรบ้างก็ไม่รู้ รู้แต่ว่าตอนนี้ ‘กูร้อนเงิน’ ต้องเอาเงินไปจ่ายค่ารักษาพยาบาลของแม่ถึงสองแสน ไหนจะค่าเทอม เทอมสุดท้ายนี้อีกที่เหลือเวลาถึงสิ้นเดือนเท่านั้น
จะขอไอ้ไคก็เสียหน้าแย่ ทำงานก็ได้น้อยนิด ไหนจะต้องเรียนหนักเทอมสุดท้ายนี้อีก เงินเก็บแม่ก็เหลือไม่กี่บาทแล้วพอก็แต่ค่าเดินทางไปโรงพยาบาลรายสัปดาห์ ยังต้องหาค่าผ่าตัดอีกหลักแสน
“สองแสน” มันคือจำนวนเงินที่เขาต้องใช้ในสิ้นเดือนนี้
ป๊อปเบิกตากว้างเมื่อได้รับคำตอบจากเขา ทว่าอีกฝ่ายไม่มีแววความขี้เล่นอยู่เลย และคนอย่างเขาไม่เหมาะกับคำว่าล้อเล่น ขึ้นชื่อว่ารับงานแต่ป๊อปยังไม่เห็นเขายิ้มเลย
ก็ดีนะ ดูจริงจัง เวลาเจอใครจะได้ไม่หลุด
“สองแสน ได้อะไรบ้าง”
ขึ้นเตียงด้วยไหม ถ้าได้ก็คุ้มอยู่
อันนี้ไม่ล้อเล่น เธอเอาจริง ถ้าเขาโสดเธอก็อยากให้มีข้อนี้ อยากรู้ อยากลอง ถ้าเป็นเขาสอนเธอก็พร้อมเรียนรู้
“เธออยากให้ทำอะไรฉันก็ทำ” ทำได้หมด
ประโยคนั้นของคีตะทำเอาคนฟังใจเต้นระส่ำ ไม่อยากคิดอะไรเรื่อยเปื่อยแต่ใครมันจะไม่คิด ที่ว่าทำได้หมดรวมถึงเรื่องขึ้นเตียงด้วยไหมนะ
“พี่แกล้ง ๆ เป็นแฟนได้ไหม คือแบบต้องเนียนเลยนะ แล้วเรทนี้มันได้กี่วันกี่เดือนล่ะ”
เขานิ่งไปครู่หนึ่งราวกับใช้ความคิด ก็เพราะไม่ทันได้คิด เรื่องเวลาไม่สำคัญ สำคัญที่ว่าจะจ่ายตอนไหนเพราะเขาต้องใช้มันสิ้นเดือนนี้แล้ว ถ้าไม่ได้เงินจำนวนนี้คงต้องแบกหน้าไปขอไอ้ไคมัน
ไคคือฝาแฝดของเขาที่แยกจากกันตั้งแต่ยังเด็ก แถมยังเกลียดกันตั้งแต่เด็กเพราะแฝดของเขามันขังเขารมควันเกือบตาย เพิ่งจะมาคุยกันดี ๆ เมื่อหลายเดือนก่อนนี้เอง ถึงแม้ตอนนี้จะเข้าใจกันแล้วแต่เขาก็ไม่อยากไปขอร้องอ้อนวอนมัน
จริงอยู่ว่ามันเต็มใจให้เพราะคือเรื่องของแม่ แต่เขาอยากหามันด้วยตัวเองก่อน
เธอมองท่าทางคิดมากของเขา เดาว่าอาจจะมาทำงานใหม่ยังไม่ได้คิดไว้ เงินที่เอ่ยมาอาจจะแค่ลองใจลูกค้า ป๊อปคงต่อราคาได้อีกหน่อยแต่ลองฟังระยะเวลาดูก่อน
“เธออยากได้เท่าไร”
เอาก็เอา เวลานี้มันมีทางเลือกสักกี่ทางกัน เขาร้อนเงินเธอเองก็เหงาน่าดู
สองแสน...
ป๊อปคิดในใจว่า อาทิตย์เดียวก็ออกจะแพงไป เด็กใหม่ด้วยจะเอาอกเอาใจเก่งบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ อย่าว่าแต่เป็นเด็กใหม่เลยเผลอ ๆ วันนี้เขาอาจจะมาสมัครทำงาน ก็ที่ผ่านมายังไม่เคยเห็นผ่านสื่อเลยสักครั้ง
ถ้าสักเดือนก็คงพอเหมาะพอดี แต่เดือนเดียวมันจะไปพออะไร เผลอ ๆ อาจทำให้ใครหัวเราะเยาะว่าป๊อปควงหนุ่มหล่อหน้าตาดีคนนี้ได้เดือนเดียวก็ถูกเขาเขี่ยทิ้ง
สามเดือนก็อาจจะกดราคาเขาเกินไป สงสารเขาอีก เพิ่งมาทำงานก็โดนหลอกเสียแล้ว อีกอย่างก็เรื่องแม่ของเขาที่ไม่สบายอาจจะต้องการใช้เงินในส่วนนั้น เธอรู้สึกเห็นใจ เงินสองแสนของเธอกับเขาคุณค่ามันคงต่างกัน
สำหรับเธอซื้อกระเป๋าแบบอันลิมิเต็ดได้แค่หนึ่งใบ บางทีอาจจะไม่พอด้วยซ้ำ แต่สำหรับเขามันสามารถต่อชีวิตได้อีกหลายเดือน
“งั้นเอางี้ไหม ป๊อปจ่ายให้พี่เป็นเดือน ๆ ไป เดือนละสองแสนโอเคไหมล่ะ” ถ้าทำงานไม่ถูกใจก็แค่เดือนเดียวพอ
แต่ถ้าโอเค ไปต่อ เธอพร้อมเปย์ผู้ชายหล่อราวกับเทพบุตรจุติลงมาเกิดแบบเขา
“...”
เขาไม่ตอบแต่นิ่งไปชั่วขณะหนึ่ง จากนั้นจึงพยักหน้ารับด้วยสีหน้านิ่งเรียบอีกเช่นเคย
มันมากเกินไปจนเขารู้สึกไม่ดี
“สองแสนหนึ่งปีก็ได้ แต่ฉันขอเบิกสิ้นเดือนนี้” หลังจากนั้นเขาค่อยหาวิธีเอาเงินมาคืนเธอ เพราะเรียนจบเขาก็ต้องออกไปทำงานแล้ว
ป๊อปส่ายหน้าไปมาพร้อมกับโบกมือว่าไม่เห็นด้วยกับความคิดเขา
“ไม่ มันน้อยไปหรือเปล่า หรือระหว่างนี้พี่รับงานอื่นด้วยเหรอ”
“ไม่มีเวลาขนาดนั้น” ราคานี้เขาพร้อมจะยกตัวเองให้เธอหมดเลย จะลูบจะคลำอะไรก็ได้หมด ขอแค่จ่ายจริงไม่เบี้ยวก็พอ
“งั้นก็ตามที่ป๊อปบอกนั่นแหละ พี่ไม่ต้องคิดมากหรอก สองแสนหนึ่งเดือน แต่รับแค่งานเดียวได้ไหม”
เธอคิดว่าเขาอาจจะเกรงใจเพราะเห็นว่าเธอเป็นเพื่อนของเฌอ แต่เธอไม่คิดแบบนั้นเลย งานก็คืองาน
“อืม”
“งั้นตอนนี้แปลว่าพี่ไปด้วยได้ใช่ไหมหรือร้านมีกฎอะไรหรือเปล่า”
“ไปไหน”
“ไปนั่งร้านอื่นกัน”