ตอนที่ 4 “แฟนจำเป็น”[1]
“คุณธีมีเรื่องอะไรไม่สบายใจหรือเปล่าครับ?” เด่นชัยถามขึ้นหลังจากที่สังเกตอีกฝ่ายมาพักใหญ่แล้วพบว่าแม้จะมีสีหน้าเรียบนิ่งตามปกติ แต่มันก็แอบดูคล้ายจะเซ็งหรือไม่ก็หนักใจอยู่หน่อย ๆ
“ไม่ได้ไม่สบายใจ ก็แค่รำคาญ” กันต์ธีตอบ
“รำคาญ? มีเรื่องอะไรเหรอครับ? พอจะเล่าให้ผมฟังได้ไหม? เผื่อผมจะช่วยอะไรได้บ้าง”
สำหรับกันต์ธีเด่นชัยเป็นมากกว่าเลขา เขาเชื่อใจ ไว้ใจ และสนิทใจกับเด่นชัยมาก ดังนั้นพอหาทางออกด้วยตัวเองไม่ได้เขาจึงตัดสินใจปรึกษากับเด่นชัย เพราะอยากรีบจัดการปัญหานี้ให้จบ ๆ ไป
เรื่องของแม่กับซินดี้เขาไม่ต้องอธิบายอะไรกับเด่นชัยมากนัก เพราะอีกฝ่ายก็รู้อยู่แล้ว ดังนั้นเรื่องหลักที่เขาเล่าไปจึงเป็นคำแนะนำของคีตะวัน เขาบอกว่าเขารู้ว่าวิธีนี้จะสามารถจบปัญหาได้เลย แต่เขาก็ไม่ได้อยากมีแฟนเลยสักนิด
“อย่างนี้นี่เองสินะครับ การมีแฟนจะจบทุกปัญหาได้ แต่คุณธียังไม่อยากมีแฟน...”
ด้วยทำหน้าที่เป็นทั้งเลขาและที่ปรึกษา หลังฟังเรื่องมาเด่นชัยก็เริ่มคิดว่าเขาจะพอช่วยอะไรกันต์ธีได้บ้าง และพอคิดมาคิดไปเขาก็นึกถึงเรื่องงานไร้สาระที่ลูกชายพึ่งจะมาเล่าให้ฟัง
“จริงด้วยสิครับ ถ้างั้นเอาแบบนี้เป็นไง?”
“แบบไหน?” กันต์ธีถาม
“ผมพึ่งรู้จากลูกมาว่าสมัยนี้มันมีอาชีพแปลก ๆ อยู่น่ะครับ มันคืออาชีพรับจ้างแกล้งเป็นแฟน”
“ผมว่าถ้าใช้วิธีนี้น่าจะพอช่วยได้นะครับ ถ้าคุณธียังไม่อยากมีแฟนจริง ๆ แต่จำเป็นต้องมี การหาใครสักคนมาแกล้งเป็นแฟนแบบนี้น่าจะดีที่สุดแล้ว”
“หาคนมาแกล้งเป็นแฟนงั้นเหรอ...”
คำแนะนำนี้กันต์ธีคาดไม่ถึงมาก่อน มันเป็นวิธีที่ดีมากจนกันต์ธีแอบเผลอดีใจ เขาตัดสินใจที่จะใช้วิธีนี้แล้ว แต่พอมาคิดอีกทีเขาก็ดีใจได้ไม่สุด เพราะมันมีปัญหาใหญ่ขัดขวางอยู่
“ทำไมเหรอครับ? มีอะไรหรือเปล่า?” เห็นทั้งตอนกันต์ธีดีใจ ทั้งตอนที่อยู่ ๆ หน้าก็บึ้งตึงขึ้นมาเด่นชัยจึงสงสัยว่ากันต์ธีกำลังคิดอะไรอยู่
“ที่เสนอมาเป็นวิธีที่ดีเลยนะครับ แต่แม่ผมไม่ได้โง่นี่สิ... ถ้าอยู่ ๆ บอกว่าใครที่ไหนก็ไม่รู้เป็นแฟนท่านต้องไม่เชื่อแน่” กันต์ธีกล่าว ก่อนจะอธิบายเพิ่มว่า
ถ้าเขาอยากโกหกแม่ด้วยวิธีนี้จริงล่ะก็ มันต้องแนบเนียน คนที่จะมาแสร้งเป็นแฟนเขาต้องเป็นคนใกล้ตัว เพราะด้วยนิสัยเขาคงไม่ไปทำความรู้จักกับใครสุ่มสี่สุ่มห้า และคนนั้นก็ต้องไว้ใจได้ว่าจะไม่หลุดปากไปถ้าแม่เขาเล่นบทร้ายแสร้ง ๆ ยื่นเงินเพื่อแลกกับความจริง
และข้อสุดท้าย ข้อนี้สำคัญสุดเลยก็คือว่า คนที่เขาจะแกล้งเป็นแฟนด้วยต้องเข้ากันกับเขาได้ เพราะมันอาจจะต้องมีการไปทำกิจกรรมฉันคนรักทั่วไป
“คุณธีคิดได้ละเอียดดีนะครับ คุณพูดเหมือนมีคนในใจอยู่แล้วเลย”
กันต์ธีรู้ว่าเด่นชัยกำลังแซวเขา แต่เขาก็ไม่ได้ถือสาอะไร เพราะเขาไม่ได้มีใครในใจ แบบที่อีกฝ่ายแซว เขาก็แค่คิดตามความเป็นจริง
กันต์ธีนั่งเงียบหลังจากนั้น เพราะในหัวกำลังคิดอยู่ว่าจะไปหาคนแบบนั้นมากจากไหน แต่อยู่ ๆ ประตูห้องก็ถูกเคาะ เสียงของมันขัดความคิดเขา กันต์ธีจึงบอกให้อีกฝ่ายเข้ามา และเมื่อเห็นหน้าว่าคนที่มาคือใครกันต์ธีก็เหมือนจะรู้แล้วว่าเขาจะไปหาคนแบบนั้นมาจากไหน
“คุณเด่นชัย ผมไม่ได้มีคนในใจหรอกนะครับ”
“แต่ผมก็พอรู้แล้วล่ะว่าจะหาคนแบบนั้นได้จากไหน”