บท
ตั้งค่า

ตอนที่4

ตอนที่ 4

           ก๊อกๆ ๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้นพร้อมกับร่างเล็กที่สะดุ้งตื่นขึ้นมา มือบางคว้าโทรศัพท์มาดูก่อนจะพบว่านี่เป็นเวลาตีห้าครึ่ง กาอินขมวดคิ้วก่อนจะมองไปที่ประตูด้วยความหงุดหงิด

“ได้เวลาตื่นแล้วนะครับคุณกาอิน” นพตะโกนอยู่หน้าประตูพลางเคาะประตูปลุกคนข้างในไปด้วย

“อะไรกันเนี่ยพี่นพ” ชายหนุ่มบ่นอุบทันทีเมื่อเปิดประตูออกไป

“ได้เวลาไปทำงานแล้วนะครับคุณกาอิน รีบอาบน้ำอาบท่าแล้วไปกันเถอะครับ” ชายหนุ่มยังคงงุนงง เขาจะต้องรีบอาบน้ำไปเพื่ออะไรกัน เพราะเขายังนอนไม่อิ่มเลยสักนิด

“ส่วนนี่ชุดครับ นายใหญ่ให้เอามาให้ครับ” นพยื่นเสื้อแขนยาว กางเกงวอร์ม รวมถึงอุปกรณ์ใส่สำหรับกันแดดต่างๆให้เขา

“ผมว่าพี่นพน่าจะเข้าใจอะไรผิดไปนะครับ ผมว่าของพวกนี้ไม่ใช่ของผมหรอก” กาอินตอบกลับก่อนจะปิดประตู แต่นพก็ดันประตูเอาไว้

“รีบเถอะครับ ถ้าช้ากว่านี้นายใหญ่ได้ดุเอานะครับ”

“ก็ได้” มือบางรับข้าวของเมื่อครู่มาไว้ในมือ ก่อนจะส่งยิ้มไปที่นพ

“แค่นี้ใช่ไหมครับ”

“ผมจะรออยู่ข้างล่างนะครับ” นพส่งยิ้มก่อนจะเดินออกไปอย่างอารมณ์ดี กาอินกรอกตาไปมาก่อนจะปิดห้องพร้อมล็อคทันที เขาวางชุดเมื่อครู่ไว้ที่โต๊ะก่อนจะพาร่างกายของตัวเองลงไปนอนยังเตียงอีกครั้ง เมื่อคืนกว่าเขาจะข่มตานอนหลับได้ก็เกือบเช้าเข้าไปแล้ว ทั้งแปลกที่แปลกทางแถมอากาศที่นี่ก็หนาวเกินกว่าที่เขาคาดคิดเอาไว้ซะอีก ดวงตากลมหลับพริ้มลงอีกครั้ง แต่เพียงไม่นานประตูห้องของเขากลับดังขึ้นอีกครั้ง

ก๊อกๆ ๆ กาอินสะดุ้งตื่นอีกครั้ง ตอนนี้เป็นเวลาเจ็ดโมงเข้าไปแล้ว นพคงจะมาตามเขาอีกเป็นแน่

ก๊อกๆ ๆ เสียวเคาะประตูยังคงดังต่อเนื่อง กาอินลุกขึ้นจากเตียงด้วยความโมโห เขาเดินตึงตังไปที่ประตูก่อนจะเปิดมันออกด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว

“ผมบอกแล้ว..” คำพูดของเขาถูกกลืนหายไปในลำคอ เมื่อเห็นว่าคนที่ยืนอยู่ตรงหน้าไม่ใช่นพ มือบางรีบผลักประตูหวังจะปิดมัน แต่ช้าไปเสียแล้ว ชายหนุ่มที่ยืนอยู่หน้าประตูดันประตูเอาไว้ก่อนจะแทรกตัวเข้ามาอย่างรวดเร็ว

“ออกไปนะ”

“ที่นี่ไร่ฉัน ฉันจะอยู่ตรงไหนก็ได้” ร่างสูงกอดอกมองคนตรงหน้าด้วยสีหน้าไม่พอใจนัก

“ฉันให้นพมาตามแล้วรอบนึง แล้วทำไมถึงยังอยู่ที่นี่”

“ก็เพราะว่าผมไม่ใช่ลูกจ้างของคุณไง” ร่างเล็กตอบกลับก่อนจะกอดอกมองร่างสูงบ้าง

“ผมเป็นดารา ไม่ใช่คนงานของคุณ ดังนั้นคุณไม่มีสิทธิ์มาบังคับผมให้ทำตามใจของคุณ”

“แต่ตอนนี้ นายอยู่ในไร่ของฉัน ดังนั้นฉันมีสิทธิ์ทุกอย่าง”

“คุณนี่มันบ้าไปแล้วรึไง ถ้าพ่อกับแม่ผมรู้ คุณโดนด่าแน่” กาอินว่าก่อนจะหยิบโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมา อินทรีย์จะให้เขาไปทำงานในไร่งั้นหรอ ฝันไปเถอะ

“โทรไปเลยก็ดี เพราะพ่อกับแม่ของนายนั่นแหละ ที่ยกนายให้ฉันดูแล”

“พูดอะไรของคุณ”

“นี่ยังไม่รู้ตัวอีกรึไงว่าตัวเองสร้างเรื่องไว้มากขนาดไหน อย่าคิดว่ามีเงินแล้วจะทำอะไรก็ได้นะ เพราะว่าคนที่นี่ไม่เหมือนกับคนอื่นๆที่นายรู้จัก” ร่างสูงว่าเสียงดัง ก่อนมือหนาจะหยิบผ้าเช็ดตัวมาไว้ในมือพร้อมกับโยนใส่กาอินอย่างเหลืออด

“ถ้าคิดจะอยู่ที่นี่ ก็ต้องทำงาน ทำตามกฎของฉัน”

“...”

“ถ้าแค่นี้ยังทนไม่ได้ ก็กลับไปที่ที่นายอยู่ซะ” กาอินมองอินทรีย์ด้วยความโกรธเคือง ชายหนุ่มดูถูกเขาอีกแล้ว มือบางหยิบผ้าเช็ดตัวมาไว้ในมือก่อนจะกำมันเอาไว้แน่น

“ฉันให้เวลาแค่ห้านาที ถ้านายยังไม่ลงไปเจอฉันข้างล่าง ฉันจะขึ้นมาลากนายลงไปเอง” สิ้นเสียงอินทรีย์ก็เดินออกจากห้องไปทันที กาอินรับรู้ได้ว่าอินทรีย์ไม่ได้พูดเล่น หากเขายังต่อกลอนกับอินทรีย์อยู่แบบนี้ เขาเองนั่นแหละที่จะแย่ กาอินจำต้องยอมทำตามอินทรีย์อย่างช่วยไม่ได้ หากเขากลับไปที่ยังที่ที่เขาจากมาตอนนี้ก็คงไม่มีอะไรดีขึ้น ซ้ำชายหนุ่มก็คงจะหาเรื่องดูถูกเขาอีก อย่างน้อยการอยู่ที่นี่ก็ไม่มีนักข่าวที่ไหนมารุมเขียนข่าวของเขาได้

           รถกระบะคันเก่าแล่นออกจากที่พักด้วยความเร็ว กาอินจับเบาะเอาไว้แน่นเพราะดูเหมือนรถคันนี้จะพลิกคว่ำอยู่ตลอดเวลา

“เอานี่ไป” แซนวิชพร้อมกับนมจืดถูกโยนไปยังร่างเล็ก กาอินรับมันมาไว้ในมือก่อนจะเบือนหน้าหนี

“ถ้าไม่กินตอนนี้ ได้เป็นลมกลางไร่แน่” กาอินทำหน้ามุ่ยก่อนจะยอมกินมันแต่โดยดี ไม่นานนักรถของอินทรีย์ก็มาถึงยังจุดหมาย นั่นก็คือกลางไร่อินทรีย์ ตอนนี้คนงานต่างกำลังทำหน้าที่ของตัวเองอย่างขยันขันแข็ง กาอินมองภาพตรงหน้าราวกับว่ามันเป็นฝันร้ายในชีวิต เขาเปิดประตูรถก่อนจะเดินลงมาช้าๆ

“นี่คุณอินทรีย์ ผมขอร้องล่ะ”

“งานของนายรออยู่รีบไปทำซะ” ชายหนุ่มทำท่าจะเดินกลับขึ้นรถ กาอินจึงรีบวิ่งไปดักหน้าเอาไว้

“คุณบ้าไปแล้วรึไง” อินทรีย์ถอนหายใจทิ้งก่อนจะท้าวเอวด้วยความเบื่อหน่าย

“คุณเห็นแสงแดดนั่นไหม ผมเป็นดารานะคุณ คุณจะให้ผมไปทำงานตากแดดร้อนๆแบบนั้น ผิวของผมก็เสียกันพอดีน่ะสิ” กาอินถลกแขนเสื้อของตัวเองขึ้นก่อนจะยื่นผิวขาวนวลให้ชายหนุ่มดู

“รีบ ไป ทำ งาน ซะ” ชายหนุ่มไม่สนใจที่กาอินบอกเลยสักนิด เขากลับขึ้นรถก่อนจะขับมันออกไปในที่สุด ร่างเล็กอ้าปากค้างกับการกระทำของอินทรีย์ เขาชักจะใจร้ายเกินมนุษย์ไปแล้ว

“พร้อมลุยงานรึยังครับคุณกาอิน” เสียงนพดังขึ้นจากด้านหลัง กาอินหันหลับไปมองด้วยท่าทางหดหู่ เขาสู้อินทรีย์ไม่ได้เลย แม้แต่นิดเดียวก็สู้ชายหนุ่มไม่ได้

“พี่นพ” ชายหนุ่มเปลี่ยนเป้าหมาย หากเขาขอร้องนพดีๆ นพอาจจะยอมช่วยเขาก็ได้

“ว่ายังไงครับ”

“พี่นพรู้ใช่ไหมว่าผมเป็นดารา”

“รู้สิครับ เมียผมนะดูละครที่คุณกาอินเล่นตลอดเลยล่ะครับ” นพว่าพร้อมรอยยิ้มเช่นเคย

“ผมมาที่นี่ก็เพื่อพักผ่อน แต่นายใหญ่ของพี่นพน่ะสิไม่เข้าใจผมเลย”

“ให้ผมทำยังไงล่ะครับ” นพเอ่ยถามพลางทำตาแป๋ว

“พี่นพช่วยทำในส่วนของผมหน่อยได้ไหม เดียวผมจ้างพี่นพก็ได้ ผมให้มากกว่าสองเท่าเลย” นพทำท่าครุ่นคิดยกใหญ่ นั่นทำให้กาอินเสนอเงินเพิ่มขึ้นอีก

“ผมให้สามเท่าเลยก็ยังได้”

“ถ้าผมรับเงินคุณกาอิน นายใหญ่ต้องพอใจแน่ๆเลยครับ และอีกอย่างคุณกาอินไม่ควรทำแบบนี้เลยนะครับ ผมว่าคุณกาอินทำตามที่นายใหญ่ต้องการดีกว่าครับ” กาอินแทบไม่เชื่อหูของตัวเอง เขาเสนอเงินให้ตั้งสามเท่า แต่นพเลือกที่จะปฏิเสธ คนที่นี่เป็นบ้ากันไปหมดหรือไร

“ผมทำไม่ได้”

“คุณกาอินยังไม่ได้ลองเลยนะครับ ตอนที่ผมเห็นคุณในทีวี คุณดูเป็นหนุ่มไฟแรงไม่กลัวอะไร แถมคุณยังเคยบอกในทีวีอีก ว่าคนอย่างคุณไม่เคยยอมแพ้อะไรง่ายๆ แต่ทำไมตอนนี้ถึง..” นพทำหน้าเศร้าก่อนจะเดินหันหลังกลับไปทำงานต่ออย่างผิดหวัง ตอนนี้กลับกลายเป็นกาอินเสียเองที่รู้สึกผิด เขามองไปยังฝนที่กำลังทำงานด้วยรอยยิ้ม อีกทั้งคนอื่นๆต่างกำลังทำงานอย่างอดทน แต่เขาในตอนนี้กลับยอมแพ้มันเสียดื้อๆ ทั้งที่ยังไม่ได้ลงมือทำเลยสักนิด เท้าเล็กก้าวไปข้างหน้าอย่างรู้สึกผิด เขาตรงไปหานพก่อนจะเอ่ยบอกเสียงแผ่ว

“ผม...ต้องทำอะไรบ้างครับ” นพยิ้มออกมาก่อนจะหันไปหาภรรยาของตัวเองด้วยความดีใจ

“ตามผมมาเลยครับคุณกาอิน” พอเห็นนพยิ้มออก เขาก็รู้สึกเบาใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก อย่างน้อยนพก็คือเพื่อนที่ดีที่สุดของเขาในตอนนี้ ตอนนี้เขาก็คงต้องสู้ เพราะหากเขาไม่รู้ เขามันก็แค่คนขี้แพ้คนหนึ่ง เขาจะไม่ยอมเป็นแบบนั้นตลอดไปหรอก!!!

..............................................................................

           มือหนาปิดประตูรถก่อนจะเดินเข้าบ้านด้วยอารมณ์ที่ไม่ค่อยจะดีนัก ตั้งแต่กาอินมาอยู่ที่ไร่ ชีวิตของเขาก็เริ่มวุ่นวายขึ้นมาทันที นี่เพิ่งผ่านไปแค่วันเดียวเท่านั้น เขาไม่อยากจะนึกถึงวันข้างหน้าเลยว่าจะวุ่นวายขนาดไหน

“มีดารามาที่ไร่ทั้งที ไม่คิดจะบอกกันหน่อยรึไงครับ” เสียงใส่ๆเอ่ยถาม ก่อนจะปรากฏร่างของชายหนุ่มอายุยี่สิบห้า ส่วนสูงร้อยเจ็ดสิบพร้อมกับใบหน้ากลมได้รูป กำลังยิ้มกว้างใส่เขา

“ไม่เห็นว่าจะเป็นเรื่องสำคัญสักหน่อย” ร่างสูงตอบกลับก่อนจะทิ้งตัวนั่งลงที่โต๊ะทำงาน

“นั่นระดับซุปตาร์เลยนะครับ ลูกโซ่อยากเจอตัวจริงมานานแล้ว” ลูกโซ่ ชายหนุ่มที่เป็นเลขาอีกคนของอินทรีย์ เขาคอยจัดการเรื่องงานบัญชีและการติดต่อลูกค้าของไร่

“ถ้าอยากเจอก็ขับรถเข้าไปดูที่ไร่เองสิ”

“ไว้ผมเคลียร์เอกสารที่ออฟฟิศเสร็จ ผมจะขับรถเข้าไปดูให้เห็นกับตาเลยครับ” โซ่ตอบกลับพร้อมทำท่าทางทะเล้น ปกติที่ทำงานของเขาคือออฟฟิศที่อยู่ในตลาดกลาง เพราะเขาจะต้องคอยจัดการดูเรื่องผักและผลไม้ของไร่ที่ส่งออก โดยปกติแล้ว รถของไร่จะนำผักและผลไม้ไปส่งที่ตลาดกลาง เขาเลยต้องคอยดูงานอยู่ที่นั่น เว้นเสียแต่จะมีพ่อค้ามารับที่ไร่ ทางนี้อินทรีย์จะเป็นคนจัดการ แต่สิ่งหนึ่งที่เขาต้องทำคือการนำเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายมาส่งให้อินทรีย์ทุกวัน หรือวันไหนที่ไม่มีการซื้อขาย เขาก็จะเข้ามาช่วยงานในไร่ หรือวันไหนที่อินทรีย์มีงานให้เขาทำ เขาก็จะรีบมาที่นี่โดยเร็วไว

“งั้นก็รีบหน่อยนะ เพราะดารานั่นอาจจะอยู่ที่นี่อีกไม่นานสักเท่าไหร่”

“มาวันแรกนายใหญ่ก็ให้เข้าไร่เลยหรอครับ ไม่ใจร้ายไปหน่อยหรอ” ลูกโซ่ว่าพลางยื่นเอกสารให้แก่ชายหนุ่ม

“คนแบบนั้น ไม่มีอะไรให้น่าสงสารเลยสักนิด”

“เขาเป็นดารานะครับ”

“แล้วดาราไม่ใช่คนรึไง” อินทรีย์เถียงกลับ ก่อนจะเปิดเอกสารในมือดู

“ดาราก็คนครับ แต่นายใหญ่อย่าลืมนะครับ ว่าเขาไม่เคยทำอะไรแบบนี้ ผมว่าเรื่องบางเรื่องนายใหญ่ก็ต้องให้เวลาเขานะครับ”

“ออกรับแทนกันดีจังเลยนะ”

“ผมไปดีกว่า ขืนเถียงกับนายใหญ่ต่อ งานผมไม่เสร็จพอดี” ลูกโซ่หยุดการต่อล้อต่อเถียงไว้เพียงเท่านั้น เปลี่ยนใจอินทรีย์ยากกว่าเปลี่ยนน้ำเกลือให้เป็นน้ำเปล่าซะอีก ดูท่าพรุ่งนี้เขาจะต้องเข้าไปดูหน้าดาราดังสักหน่อย เพราะหากอินทรีย์ยังใจร้ายอยู่แบบนี้ กาอินคงอยู่ได้ไม่นานแน่

.................................................................................

“แหวะ..นี่มันขี้วัวขี้ควายไม่ใช่หรอพี่นพ” กาอินมองปุ๋ยที่ทำจากขี้วัวขี้ควายในมือพลางทำท่าผะอืดพะอม

“ปุ๋ยจากธรรมชาตินี่แหละครับ ดีสุดยอด”

“แต่มันเหม็นจะตาย” กาอินเอามือปิดจมูก สายตาของเขาเหมือนคนจะร้องไห้อยู่ตลอดเวลา

“อยู่นานไปเดี๋ยวก็ชินครับ” นพหัวเราะก่อนจะตักปุ๋ยใส่ต้นไม้ กาอินมองนพก่อนจะเริ่มทำตามด้วยความจำยอม ชีวิตเขามีทางเลือกไม่มากนักนี่นา

“อี๋..แหวะ” มือบางทำงานพร้อมกับปากที่ออกเสียงไม่หยุด การเริ่มต้นทำงานที่นี่ไม่ดีเลยสักนิด นี่แค่วันแรก วันต่อๆไปเขาได้ตายกลางไร่แน่นอน

“พรุ่งนี้ผมจะสอนคุณกาอินปั่นจักรยานเองครับ เผื่อเวลาอยากไปไหนจะได้ปั่นไปได้”

“จะไปไหนก็ต้องปั่นจักรยานรึไง ไม่มีรถยนต์หรือว่ารถรับส่งหรอ” มือบางอุดจมูก พร้อมมืออีกข้างที่ตักปุ๋ยใส่ต้นไม้

“จะมีก็แค่บางคนครับ แถมรถพวกนั้นก็เอาไว้ใช้เวลาไปข้างนอก แต่คนที่นี่ไม่ค่อยไปหรอกครับนอกจากวันหยุด พออยู่ในไร่ใช้จักรยานก็ประหยัดค่าน้ำมันได้เยอะครับ”

“ทำไมล่ะ”

“ที่นี่มีข้าวให้กินเช้ากลางวันเย็น ก็เลยไม่รู้จะออกไปทำไมน่ะครับ แต่ว่าทุกๆเดือนนายใหญ่จะไปซื้อของในเมือง ตอนนั้นถ้าใครอยากได้อะไรที่ที่นี่ไม่มี ก็ฝากนายใหญ่ซื้อได้เลยครับ”

“ไปในเมืองหรอ” กาอินครุ่นคิด หาเขาขอติดรถเข้าไปด้วย อินทรีย์จะยอมหรือไม่นะ

“แต่ถ้าคุณกาอินอยากซื้ออะไร ก็ไปซื้อที่ตลาดกลางได้ครับ ที่นั่นของเยอะไม่แพ้ในเมืองเลย แต่ว่าร้านค้าส่วนใหญ่เป็นของชาวบ้านนะครับ อาจจะปิดเร็วนิดนึง” ชายหนุ่มพยักหน้ารับก่อนจะมองปุ๋ยในมือ เขาถอนหายใจออกมาก่อนจะตักมันใส่ต้นไม้ต่อไป

“เอาวันนี้ให้รอดก่อนละกัน” ร่างเล็กบ่นพึมพำ แต่ก็ยังคงทำหน้าที่ของตัวเอง นพมองดาราหนุ่มข้างกายก่อนจะยิ้มออกมา กาอินไม่ใช่คนเลวร้ายเลยสักนิด ออกจะแคร์คนอื่นเกินไปด้วยซ้ำ หวังว่านายใหญ่ของเขาจะไม่ใจร้ายเกินไป และเขาก็ยังหวังว่ากาอินจะทนผู้เป็นนายของเขาได้เช่นกัน

“วันนี้มีต้มฟักใส่น่องไก่ด้วยนะครับ คุณกาอินต้องชอบแน่”

“ขอบคุณนะครับ อย่างน้อยก็คงไม่เผ็ดแบบเมื่อวาน” ทั้งคู่หัวเราะออกมา อย่างน้อยวันนี้เขาก็คงกินข้าวได้โดยไม่ทำให้ใครเดือดร้อน กาอินมองไปรอบตัว ที่นี่สงบมากจริงๆ ทุกคนต่างทำหน้าที่ของตัวเอง แม้แดดจะร้อน แต่ก็ยังคงมีลมพัดผ่านอยู่ตลอดเวลาพอให้ชื่นใจ กว่าข่าวจะเงียบ เขาจะต้องอยู่ที่นี่ไปอีกนานแค่ไหนกันนะ.....

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel