ตอนที่2
ตอนที่ 2
“ข่าวด่วนข่าวเด็ดค่ะคุณผู้ชมขา ขอบอกเลยว่าข่าวนี้ร้อนกว่าพระอาทิตย์เมืองไทยซะอีก เพราะว่าเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมาเองค่ะ เมื่อสักครู่นะคะมีคนพบเห็นหนุ่มสุดฮอตในตอนนี้นะคะนั่นก็คือคุณกาอิน นักแสดงซี่รี่ย์วายเรื่องฮิตที่เพิ่งจบไปหมาดๆ แล้วก็เพิ่งมีข่าวว่าทำร้ายนักแสดงร่วมค่ายอย่างคุณมาซาร์ ตอนนี้เขาอีกแล้วค่ะคุณผู้ชมขา เรียกได้ว่าไม่แผ่วเลยนะคะ เพราะว่าคุณกาอินเพิ่งก่อเรื่องที่ป้ายรถเมล์ จะเป็นยังไงไปชมค่ะ...อย่าถ่ายนะ...ถึงว่าล่ะ ทำไมถึงได้ออกตัวแรงนัก เจ้าตัวมาเองเลยนี่นา...มาซาร์ต่างหากที่โกหกทุกคน!!...ถ่ายเลย ถ่ายเอาไว้เยอะๆ...ผมไม่ได้ทำ ผมไม่ได้ทำ!!...แรงจริงค่ะคุณผู้ชมขา ขอบอก..” มือหนาปิดโทรทัศน์ก่อนจะถอนหายใจออกมา ข่าวที่ออกมาในแต่ละวันช่างไม่มีอะไรสร้างสรรค์เลยสักนิด คนอย่างกาอิน จะให้คนอย่างเขาสอนอะไรได้อีก คนที่เอาตัวเองเป็นศูนย์กลางจักรวาลแบบนั้น
ก๊อกๆๆ เสียงเคาะประตูดังขึ้น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าคนที่เคาะประตูนั้นเป็นใคร
“เชิญครับ”
“ลูกเห็นข่าวที่เพิ่งออกมาแล้วใช่ไหม” อินทรีย์กรอกตาไปมา ก่อนจะถอนหายใจอีกครั้ง
“นี่อาธีกับอาจันทร์ยังไม่กลับอีกหรอครับ ผมว่าผมพูดชัดแล้วนะว่ากาอินไม่เหมาะกับที่นี่”
“นี่ลูกแม่เป็นคนใจร้ายแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน”
“แม่..” อินทรีย์เรียกแม่เสียงอ่อย เป็นแบบนี้ทีไรเขาไร้แต้มต่อทุกที
“อาธีกับอาจันทร์เขาเดือดร้อนขนาดไหนลูกก็เห็น แต่ทำไมลูกถึงได้ใจจืดใจดำนัก ทำอย่างกับว่าเป็นคนแปลกหน้า”
“ผมก็บอกเหตุผลไปแล้วไงครับ”
“โอเค ต่อไปถ้ามีอะไร แม่จะได้ไม่ต้องเสียเวลามาหาลูกอีก” ธารรัตน์ว่าจบก็เดินออกจากห้องของลูกชายไปในทันที เธอรู้จักลูกชายของเธอดีกว่าใคร และนี่ก็เป็นมารยาหญิงที่เธองัดออกมาใช้กับลูกชายจอมหัวแข็งของเธอ ธารรัตน์เดินมายังชั้นล่างก่อนจะส่งยิ้มให้แก่เพื่อนทั้งสอง
“ไม่ต้องห่วงนะ ยังไงอินทรีย์ก็ต้องยอมช่วย”
“จริงหรอธารรัตน์” จันทร์วาดกุมมือผู้เป็นเพื่อนอย่างมีความหวัง หากเขาปล่อยให้กาอินอยู่ที่เดิมต่อไป คงได้ออกข่าวทุกวันแน่
“คอยดูนะ 5…4…3…2…1 บิงโก”
“ผมจะช่วยก็ได้ครับ” เสียงเข้มดังขึ้นก่อนธารรัตน์จะยิ้มออกมาอย่างพอใจ เธอปรับสีหน้าให้เป็นทุกข์ก่อนจะหันไปหาลูกชายหัวแก้วหัวแหวน
“นี่ลูกไม่ได้ล้อเล่นใช่ไหม”
“แต่ถ้ากาอินมาอยู่ที่นี่ ก็ต้องทำตามกฎของผม และให้ผมเป็นผู้ปกครองเขาโดยไม่มีข้อแม้”
“ได้สิ อายอมทำตามที่อินทรีย์ต้องการทุกอย่าง ขอแค่ให้กาอินมาอยู่ที่นี่” ธีรดลว่าพร้อมน้ำเสียงดีใจ
“ก็ดีครับ ผมจะถือว่าเราทั้งสองฝ่ายยินยอมต่อข้อตกลงแล้ว”
“ขอบคุณมากเลยนะอินทรีย์ อาทั้งสองขอบคุณมากๆเลยนะ” จันทร์วาดว่าพร้อมปาดน้ำตาของตัวเอง
“อีกสองวัน เราจะพากาอินมาส่งที่นี่”
“ครับ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมขอตัวก่อนนะครับ” ชายหนุ่มเดินกลับขึ้นไปยังห้องพัก ถึงแม้จะรู้ว่านี่คือละครที่แม่เล่น หากเขาไม่ยอมก็ดูจะใจร้ายเกินไป แต่เอาเถอะ คนในไร่นับร้อยเขายังดูแลได้ กับอีแค่คนอีกคนเดียว ทำไมเขาจะดูแลไม่ได้กัน
....................................................................................
“ผมไม่ไปครับ พ่อกับแม่จะให้ผมไปอยู่กับใครก็ไม่รู้ แถมไปอยู่ในไร่อีกต่างหาก” กาอินว่าก่อนจะหลับตาลงบนโซฟา
“แล้วแกจะอยู่ที่นี่เพื่อสร้างข่าวเสียๆหายๆไปวันๆน่ะหรอ” ธีรดลต่อว่าลูกชาย ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาปล่อยกาอินให้ทำตามใจตัวเองมามากพอแล้ว
“ก็ผมไม่ได้เป็นคนเริ่ม มาซาร์ต่างหากที่มันมายั่วโมโหผมก่อน ผมไม่ผิด” ชายหนุ่มว่าต่อก่อนจะหันหลังให้ผู้บังเกิดเกล้า
“แกรู้ไหมว่านักข่าวรอกันอยู่เต็มหน้าคอนโด แค่แกก้าวขาออกนอกห้อง นักข่าวพวกนั้นก็พร้อมที่จะใส่สีตีไข่แกแล้ว ดังนั้นหลบไปพักที่ไร่อินทรีย์ก่อนดีกว่า”
“พ่อจะให้ผมไปปลูกผักปลูกผลไม้อยู่ที่นั่นหรอครับ ผมไม่ไปหรอก” กาอินหยัดกายลุกขึ้นนั่งก่อนจะเถียงขาดใจ
“ถ้าแกไม่ไป ฉันจะอายัดเงินแกทุกช่องทาง”
“ไม่ได้นะครับ” ชายหนุ่มหันไปมองผู้เป็นแม่ก่อนจะส่งสายตาขอความช่วยเหลือ
“ไปเถอะนะลูก รอให้ข่าวเงียบแล้วค่อยกลับมา อย่างน้อยก็ไม่มีใครเล่นข่าวลูกได้อีก” จันทร์วาดว่าเสริม
“แม่”
“เก็บข้าวเก็บของซะ มะรืนฉันจะมารับแกไปส่งที่ไร่อินทรีย์เอง”
“ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่ไป”
“ถือว่าพ่อขอเถอะนะ ตอนนี้สังคมกำลังรุมประณามลูก พ่อไม่อยากให้มันเป็นแบบนั้น” กาอินเริ่มเงียบลง ใช่ ตอนนี้สังคมกำลังรุมประณามเขาจากคลิปแค่ไม่กี่วินาที และเขาไม่มีโอกาสแก้ตัวเลยสักนิด
“พ่อกับแม่เชื่อผมไหม...ว่าผมไม่ได้เป็นคนเริ่มก่อน” ธีรดลมองหน้าผู้เป็นลูกสลับกับภรรยาก่อนจะก้มหน้านิ่ง เขาเองก็ตอบไม่ได้เพราะเขาก็รู้จักนิสัยของลูกชายดี ขี้โมโห ใจร้อน เอาแต่ใจตัวเอง นั่นแหละกาอิน
“แม่เชื่อลูกนะ”
“โกหก” แม่ของเขาตอบก็เพื่อเอาใจเขาก็เท่านั้นเขารู้ดี ไม่มีใครเลยสักคนที่เชื่อเขาอย่างจริงใจ
“กาอิน..”
“พ่อกับแม่กลับไปเถอะครับ ถ้าการที่ผมไปอยู่ไร่บ้าๆนั่นมันทำให้พ่อกับแม่ไม่ต้องลำบากใจ ผมก็จะไป” กาอินว่าก่อนจะหันหลังให้พ่อกับแม่ น้ำตาของเขาเอ่อล้นเต็มดวงตาอีกครั้งก่อนที่เขาจะปล่อยให้มันไหลลงมาเงียบๆ
“พ่อกับแม่รักลูกนะ” ธีรดลว่าก่อนจะจับมือภรรยาเอาไว้
“วันมะรืนพ่อจะมารับแต่เช้า” ว่าเสร็จธีรดลก็จูงมือภรรยาเดินออกจากห้องของลูกชายทันที ชายหนุ่มค่อยๆทิ้งตัวนั่งลงก่อนจะกอดเข่าเอาไว้ น้ำตาที่ไหลออกมามันเจ็บปวดเสียยิ่งกว่าเรื่องที่เขาเจอก่อนหน้านี้เสียอีก คนอื่นไม่เชื่อเขา เขายังไม่โกรธเท่าคนที่เขารักไม่เชื่อเขาเลย สุดท้ายเขาก็เหลือแค่ตัวเองเท่านั้น อย่างที่บอกกันสินะ ว่าไม่มีใครรักเราเท่าตัวเราเอง เขาเพิ่งเข้าใจมันจริงๆก็วันนี้นี่แหละ
...........................................................................................
พระอาทิตย์ในยามเช้าสาดส่องเข้าไปยังม่านสีขาวสะอาดตา ปลุกให้ชายหนุ่มที่หลับใหลอยู่บนเตียงได้ตื่นขึ้น ร่างกำยำได้สัดส่วนบ่งบอกว่าเขาออกกำลังกายมาหนักแค่ไหน ส่วนสูงที่รับกับร่างกำยำได้รูป ทำให้เขาดูเหมือนรูปปั้นที่บรรจงสร้างขึ้นมา ผิวขาวที่ดูคล้ำนิดๆจากการถูกแดด แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขาดูดีน้อยลงสักนิด ดวงตาดุดันค่อยๆลืมตาขึ้นมา เขาจ้องมองไปที่นาฬิกาก่อนจะพบว่าตอนนี้เป็นเวลาหกโมงเช้าเสียแล้ว
ก๊อกๆๆ
“นายใหญ่ครับ มีแขกมาหาครับ” ชายหนุ่มหยัดกายลุกขึ้นก่อนจะเดินไปเปิดประตูด้วยใบหน้าบึ้งตึง
“ใคร”
“ดาราครับ มีดารามาหานายใหญ่อยู่ข้างล่างครับ” นพว่าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น ใบหน้าของเขาดูเป็นประกายจนน่าประหลาดใจ
“ดาราหรอ...หมายถึง”
“คุณกาอินครับ คุณกาอินมา นี่นายใหญ่รู้จักคุณกาอินด้วยหรอครับ ทำไมผมถึงไม่..” ชายหนุ่มไม่รอให้นพพล่ามจนจบ เขารีบเดินลงไปชั้นล่างทั้งๆที่สวมบ็อกเซอร์และเสื้อยืดสีขาวเท่านั้น ร่างสูงเดินลงมายังชั้นล่างก็พบกับกาอินที่กำลังจิบกาแฟอยู่บนโซฟาท่าทางสบายใจ
“นี่มันอะไรกัน” กาอินที่กำลังเพลิดเพลินอยู่กับบรรยากาศด้านนอกหันกลับมามองตามต้นเสียงที่ดังขึ้น ชายหนุ่มวางกาแฟในมือลงก่อนจะหยัดกายลุกขึ้นยืน
“สวัสดี..คุณอินทรีย์” กาอินเอ่ยทักทายก่อนจะมองชายหนุ่มที่ยืนอยู่ด้านหน้า
“ไหนบอกว่าอีกสองวันจะมาไง”
“ไหนๆก็ต้องมาอยู่แล้ว ผมขี้เกียจรอก็เลยมาก่อน” ร่างสูงท้าวเอวก่อนจะถอนหายใจออกมา แบบนี้มันมัดมือชกกันชัดๆ อินทรีย์มองชายหนุ่มร่างเล็กตรงหน้า ในทีวีว่าตัวเล็กแล้ว แต่ตัวจริงกลับเอวบางร่างน้อยอย่างกับผู้หญิงยังไงอย่างงั้น
“ไหนอ่ะห้องของผม ของผมเต็มไปหมดเลย จะได้ให้คนช่วยยกขึ้นไป” กาอินถามตาใส ผิดกับอินทรีย์ที่ตีหน้านิ่ง แต่สายตาของเขากลับดุดันจนน่ากลัว
“ไม่ใช่ที่นี่” เมื่อได้รับคำตอบกาอินได้แต่ทำหน้างุนงง หากไม่ใช่ที่นี่แล้วจะเป็นที่ไหนกัน
“แล้วที่ไหนล่ะ”
“นพ”
“ครับนายใหญ่”
“ฉันฝากดูแลแขกหน่อยนะ ไว้ฉันจัดการธุระส่วนตัวเสร็จ ฉันจะพาแขกไปดูที่พัก” พูดจบอินทรีย์ก็เดินกลับขึ้นไปชั้นบนทันที นพมองตามผู้เป็นนายไปจนสุดสายตาก่อนจะหันกลับมามองดาราชายที่เรียกได้ว่าเป็นระดับซุปเปอร์สตาร์เลยก็ว่าได้
“คุณกาอินตัวจริงทั้งหล่อทั้งน่ารักเลยนะครับ ถ้าคนงานในไร่เห็นต้องดีใจมากแน่ๆเลยครับ” กาอินยิ้มก่อนจะตอบกลับ
“งั้นก็ดีเลยครับ เพราะว่าผมจะมาอยู่ที่นี่สักพัก” ชายหนุ่มยิ้มเยาะก่อนจะจิบกาแฟในมือต่อ
“งั้นผมจะไปป่าวประกาศว่าไร่อินทรีย์มีดาราดังมาอยู่ รับรองเลยนะครับว่าถ้าหากว่าใครรู้เข้าต้องแห่กันมาขอลายเซ็นคุณแน่ๆเลยครับ” กาอินยิ้มรับ พลางนึกแปลกใจ คนที่นี่ไม่ได้ตามข่าวเขาอย่างนั้นหรือ
“ว่าแต่ เมื่อกี้คือคุณอินทรีย์ตัวจริงใช่ไหม”
“ใช่ครับ เป็นเจ้าของที่นี่ครับ”
“มิน่าล่ะ ดูวางมาดชะมัด” กาอินเบะปากให้กับท่าทางเข้มงวดนั่น
“นายใหญ่เป็นเจ้านายที่ใจดีมากเลยนะครับ แต่เรื่องงานก็เคร่งสุดๆเลยล่ะครับ”
“พวกบ้าอำนาจน่ะสิ” กาอินกระซิบกระซาบก่อนจะหัวเราะออกมา
“คุณกาอินนี่ตลกดีนะครับ รับรองเลยนะครับว่าถ้าอยู่ที่นี่จะต้องมีความสุขมากแน่ๆ” นพว่าก่อนจะมองข้าวของของกาอินที่เยอะกว่าข้าวของเขาเกือบสิบเท่า
“ว่าแต่คุณกาอินขนของมาทั้งหมู่บ้านเลยรึป่าวครับเนี่ย เยอะกว่าของผมเยอะเลย” นพเกาหัวก่อนจะยิ้มแหยๆ
“นี่ยังไม่ถึงครึ่งเลยนะ ผมเลือกเฉพาะที่จำเป็นมาน่ะ”
“แน่ใจนะครับว่าจำเป็น” นพมองเสื้อโค้ชที่วางอยู่บนกระเป๋าก่อนจะเกาหัวอีกครั้ง
“เชิญคุณกาอินพักผ่อนก่อนนะครับ อีกเดี๋ยวนายใหญ่ก็คงลงมา เดี๋ยวผมไปจัดการงานในไร่ก่อน ไว้เจอกันนะครับ”
“อือ” ชายหนุ่มพยักหน้ารับก่อนจะจิบกาแฟต่อ เขาหยิบหนังสือพิมพ์ที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาอ่าน ก่อนจะเจอข่าวของตัวเองโชว์หราอยู่เต็มหน้า
“เขียนข่าวกันสนุกเลยนะ” กาอินปิดหนังสือพิมพ์ก่อนจะโยนมันทิ้งลงถังขยะ
“ใครอนุญาตให้ทิ้งหนังสือพิมพ์นั่นกัน” กาอินสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อเสียงของอินทรีย์ดังขึ้น เขารีบหยิบหนังสือพิมพ์ขึ้นมาจากถังขยะก่อนจะวางมันไว้ที่เดิม
“ที่นี่ไม่ใช่ที่ที่นายจะทำอะไรก็ได้” ชายหนุ่มเดินมาหยิบหนังสือพิมพ์ไว้ในมือก่อนจะว่าต่อ
“ข้าวของทุกอย่างภายในไร่นี้คือของของฉัน คนงานทุกคนคือคนของฉัน รวมถึงนายด้วย”
“นี่ไร่หรือคุกกันแน่” กาอินถามกลับ ท่าทางหยิ่งผยองของอินทรีย์ทำเอาเขาเกลียดไม่น้อย
“เดี๋ยวก็รู้ว่าที่นี่คืออะไร” ชายหนุ่มวางหนังสือพิมพ์ลงตามเดิมก่อนจะว่าต่อ
“ฉันจะไปส่งที่พัก รีบเอาของขึ้นรถหน่อยนะ ฉันมีเวลาไม่มาก” สิ้นเสียงร่างสูงก็เดินไปที่รถที่จอดอยู่หน้าบ้าน ก่อนจะสตาร์ทรถและเข้าไปนั่งรอในนั้น กาอินมองชายหนุ่มด้วยความอึ้งเล็กน้อย ก่อนจะหันมามองข้าวของตัวเองที่มีมากมาย ดูเหมือนว่าเขาจะต้องขนทั้งหมดนี่คนเดียวซะแล้วสิ
“นี่มันบ้าอะไรกันเนี่ย” ชายหนุ่มก่นด่าเบาๆก่อนจะยกของไปไว้ท้ายรถ เขาใช้เวลาเกือบสิบนาทีก่อนที่ข้าวของทุกอย่างจะถูกเคลื่อนย้ายไป ร่างเล็กเหนื่อยหอบอยู่ไม่น้อย มือบางปาดเหงื่อบนใบหน้าก่อนจะเปิดประตูรถเข้าไปนั่งข้างคนขับ เพียงเสี้ยววินาทีอินทรีย์ก็ออกรถก่อนจะขับมันด้วยความเร็ว
“แล้งน้ำใจ” กาอินพูดขึ้นขณะหันไปมองข้างทาง
“ของของใคร คนนั้นก็รับผิดชอบเองสิ” ชายหนุ่มตอบก่อนจะค่อยๆชะลอรถเมื่อถึงจุดหมาย ตึกสองชั้นที่ตั้งอยู่ห่างจากบ้านเขาไม่ไกลนัก ตัวตึกสีขาวสะอาดตา มีห้องพักอยู่ราวๆยี่สิบห้องได้ บริเวณด้านหน้ามีที่จอดรถพร้อมกับที่นั่งสำหรับพักผ่อน กาอินมองตึกที่ตั้งอยู่ด้านหน้า เขารับรู้ได้ทันทีว่าต่อจากนี้ชะตากรรมของเขาจะเป็นอย่างไร
“นี่มันบ้านพักคนงานไม่ใช่หรอ”
“ฉลาดดีนี่ นึกว่าจะต้องให้พูดทุกเรื่องซะอีก” อินทรีย์เปิดประตูก่อนจะลงจากรถ เขายืนมองตึกชั่วครู่ แต่กลับไร้เงาของแขกคนสำคัญ ชายหนุ่มถอนหายใจก่อนจะเดินอ้อมไปอีกฝั่ง เขาเปิดประตูรถออกก็พบกับกาอินที่นั่งนิ่ง
“ลงมา”
“ผมไม่อยู่ที่นี่”
“ฉันสั่งให้ลงมา” อินทรีย์ว่าเสียงเข้ม แต่กาอินกลับนั่งนิ่ง เขาไม่ใช่คนใจเย็นสักเท่าไหร่ด้วยสิ
“จะไม่ลงมาใช่ไหม”
“ผมบอกแล้วไงว่าผมไม่อยู่ที่นี่”
“แล้วทำไมจะอยู่ไม่ได้”
“นี่คุณบ้าไปแล้วรึไง ผมเป็นดาราดังนะ จะให้มาอยู่ที่เล็กเท่ารูหนูแบบนี้ได้ยังไง”
“คนอื่นอยู่ได้นายก็ต้องอยู่ได้”
“ผมไม่อยู่ที่นี่” ร่างเล็กกอดอกก่อนจะเชิดหน้าไปอีกทาง ที่นี่เทียบกับที่ที่เขาเคยอยู่ไม่ได้เลยสักนิด จะให้เขาอยู่ที่นี่ได้ยังไงกัน แค่ของของเขาก็คงเต็มห้องไปหมด จะเหลือที่ให้เขาเดินรึป่าวก็ไม่รู้ หากเป็นแบบนี้เขายอมกลับไปอยู่คอนโดให้พวกนักข่าวเขียนใส่ความยังจะดีซะกว่า!!!
..................................................................................................