3
อมริตายกจานขนมปังปิ้งและไข่ดาว ที่เธอตื่นขึ้นมาแสดงฝีมือทำเองแต่เช้า มาเสิร์ฟบิดา อุดมมองลูกสาวอย่างชื่นใจ ก่อนจะรับจานอาหารมาจากมือลูกสาว
“ดีจัง อาหารเช้าวันนี้มีแม่ครัวส่งตรงมาจากเมืองนอกเลยแบบนี้ แต่พ่ออยากทานข้าวต้มมากกว่า”
“แหม...พ่อก็”
อมริตาหัวเราะกิ๊ก พลางนั่งลงตรงโต๊ะอาหารข้าง ๆ บิดา มือเรียวหยิบกาต้มกาแฟเพื่อรินกาแฟใส่แก้ว ส่งกลิ่นหอมไปทั่วบริเวณห้องรับประทานอาหาร ส่งให้อุดมพร้อมกับน้ำตาลและครีม รินนมสดใส่ในกาแฟให้ด้วยอย่างรู้ใจ อุดมมองลูกสาวที่กำลังปรนนิบัติเขาอย่างสุขใจ ก่อนจะอมยิ้ม
“อืม...พ่อรู้สึกว่าวันนี้ต้องทำงานได้ดีแน่ ๆ เจรจากับลูกค้าก็คงจะได้ผลดี มีพลังเป็นอาหารเช้าชั้นดีขนาดนี้”
“พ่อจะกลับดึกไหมคะ อย่ากลับดึกมากนะริต้าเป็นห่วง”
อมริตานึกถึงบิดาที่เคยจำได้ว่าอุดมโหมงานหนักขนาดไหน อุดมหัวเราะเบา ๆ และยกกาแฟขึ้นจิบ
“ไม่ดึกหรอกลูก เดี๋ยวนี้บริษัทเรามีคนเก่ง ๆ มาช่วยมาก อ้อ ...รวมถึงนีน่าด้วยนะ”
นึกแล้วอุดมก็หัวเราะหึ หึ อมริตาย่นคิ้วทันทีเมื่อบิดาพูดถึงญาติของเธอนีน่า หรือนรีพร ลูกพี่ลูกน้องรุ่นราวคราวเดียวกัน
“นีน่าน่ะเหรอคะพ่อ”
“ใช่สิ เป็นเลขาของพ่อเอง” อุดมขยิบตาให้กับลูกสาว เมื่อเห็นอมริตาทำหน้าเหมือนไม่อยากเชื่อ
“นึกยังไงขึ้นมานี่คะพ่อ หรือว่าผีเข้า”
“ไปว่าเขาได้ยังไงอย่างน้อย ๆ ก็พิมพ์เอกสารให้พ่อได้บ้าง ถึงแม้จะมาทำงานบ้างไม่มาบ้างก็เถอะ”
“แล้วน้านางล่ะคะ”
เมื่อพูดถึงลูกสาว ก็อดคิดถึงคนเป็นแม่ขึ้นมาไม่ได้ เธอไม่เคยนึกจะชอบน้าของเธอเลย อนงค์วัลย์มีท่าทางสนใจอุดมจนออกนอกหน้า และบางทีค่อนข้างจะน่าเกลียดเสียด้วย ดูยังไงก็ไม่น่าไว้วางใจ อุดมอมยิ้มก่อนจะเสอ่านหนังสือในมือไปพลางทานอาหารเช้าไปพลาง
“เขาก็มาเรื่อย ๆ นั่นแหละ มาดูส่วนที่เป็นของเขา แม่เราเขายกให้นี่ บริษัทของเราพ่อกับแม่ช่วยกันสร้าง แบ่งให้น้องสาวเขาบ้างมันก็ไม่แปลก”
แต่ดูเหมือนว่าอยากจะได้ทั้งหมดมากกว่า
ประโยคนี้อมริตาพูดในใจ พลางเม้มปาก อนงค์วัลย์ยังไงก็ไว้ใจไม่ค่อยได้จริง ๆ …
“แล้วน้านางช่วยดูงานฝ่ายไหนคะพ่อ”
“ดูทางบัญชี ควบคุมการรับจ่ายนะ เห็นว่าเขามีความรู้ทางนี้ ก็เลยให้ช่วย ๆ กัน พ่อทำเองไม่ค่อยจะไหว แค่วางแผนกับการตลาด พ่อก็จะแย่แล้ว แก่แล้วนะริต้าสมองไม่ค่อยไหวเหมือนเมื่อก่อน”
“แหม...”
หญิงสาวหัวเราะเบา ๆ ขณะที่ยกกาแฟของตัวเองขึ้นจิบบ้าง สายตากลมหวานมองบิดาอย่างสำรวจ อุดมยังไม่มีเค้าความชรามากนัก นอกจากผมที่มีหงอกประปราย หน้าตาเขายังคมเข้ม นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มเหมือนบุตรสาวยังส่งประกายสดใส มีริ้วรอยบ้างเล็กน้อยที่หางตาและมุมปาก แต่ก็ยังดูหล่อเหลา บิดายังดูหนุ่มแน่นและเหมือนคนอายุสี่สิบปลาย ๆ มากกว่าจะห้าสิบสี่เหมือนที่เป็นอายุจริง
อุดมรักบุตรสาวและอนงค์พรภรรยาที่เสียไปมาก จนไม่ยอมมีใครใหม่ ดำรงความโสดไว้อย่างเหนียวแน่น ทำแต่งานเพื่อให้บริษัทนำเข้าส่งออกที่เขาทำอยู่ เติบโตและเป็นฐานให้ลูกสาวต่อไปในอนาคตเท่านั้น เขาโหมงานหนักเกือบทุกวัน หมู่นี้ร่างกายเขาเริ่มมีอาการผิดปรกติบ้าง มีอาการแน่นหน้าอกเหมือนหายใจไม่ออกบ่อย ๆ แต่อุดมไม่ได้สนใจ คิดว่าตัวเองพักผ่อนไม่พอเท่านั้นเอง แต่เมื่ออมริตากลับมาแบบนี้ คงจะต้องเพลา ๆ บ้าง อุดมคิดในใจ ไม่อย่างนั้นอมริตาคงไม่ยอมแน่ ๆ
“ริต้าว่าจะพักผ่อนสักเดือน แล้วจะช่วยพ่อทำงานนะคะ”
“ได้สิลูก ดีมากเลย” อุดมยิ้มกว้าง เขาปิดหนังสือพิมพ์ที่อ่านอยู่ทันที
“พ่อกำลังจะขอให้หนูมาช่วยงานพ่ออยู่พอดี”
“หนูเต็มใจมากที่สุดเลยค่ะ”
อมริตายิ้มตอบบิดา บางทีการทำงานอาจจะทำให้เธอไม่มีเวลาว่างก็ได้ ดีเหมือนกันจะได้ไม่ต้องคิดอะไรให้มากมายและฟุ้งซ่าน
“บริษัทพ่อก็สร้างไว้ให้หนูนั่นแหละลูก ดีเหมือนกันถ้าหนูอยากจะเรียนรู้การทำงาน พ่ออิ่มแล้วไปส่งพ่อที่หน้าบ้านดีกว่า”
อมริตาดื่มน้ำเย็น และลุกตามบิดาออกมาข้างนอก ช่วยถือกระเป๋าเอกสารให้กับอุดม เขายืนรอคนขับรถที่ไปนำรถมาให้พร้อมกับลูกสาวอยู่หน้าบ้าน
“ไปก่อนนะลูกสาว เตรียมตัวไว้ไปทำงานกับพ่อด้วย”
อุดมโบกมือให้กับอมริตาอย่างเย้า ๆ ขณะที่จะก้าวขึ้นรถ
แต่แล้ว ! บิดาที่ดูเหมือนแข็งแรงดีของเธอกลับยืนนิ่งขณะที่จะก้าวขึ้นลงและทรุดนั่งลงกับพื้น หัวใจเขาเจ็บร้าวแน่นหน้าอกกว่าที่เคยเป็นจนพูดไม่ออกบอกใครไม่ได้แค่ชั่วเวลาไม่ถึงนาทีเขาก็นั่งหน้านิ่ว และกุมบริเวณส่วนหน้าอกไว้แน่นด้วยความเจ็บปวด อยู่ข้างรถยนต์คันหรู อมริตาอุทานอย่างตกใจขณะที่วิ่งไปหาพลางประคองบิดาอย่างรวดเร็ว
“พ่อ พ่อคะ ! ลุงบุญคะ พ่อเป็นอะไรก็ไม่รู้ รีบพาพ่อไปโรงพยาบาลเร็วเข้า”