2
“หา!”
คัคนานต์อุทานอย่างตกใจ แล้วก็ต้องรีบลดเสียงลงเมื่อคนในร้านเริ่มหันมามอง บางคนชี้มาทางเธอแล้วซุบซิบกันอย่างจำได้ จนเจ้าตัวต้องเอาแว่นกันแดดมาสวมไว้ตามเดิม
“เราขอโทษ เสียใจด้วยนะริต้า”
“ไม่เป็นไร ยังไงเขาก็กลับมาอยู่กับเราไม่ได้อีกแล้ว”
อมริตาเม้มปาก เห็นนัยน์ตาเศร้า ๆ ของเพื่อนคัคนานต์ก็พลอยรู้สึกเศร้าไปด้วย
“หาอะไรทานก่อนกลับบ้านไหม เอ่อ ...เอาอย่างนี้ไหมริต้า ถ้าเราไม่มีถ่ายแบบสองสามวันนี้ เราจะพาเธอไปเที่ยวทะเล ไปพักผ่อนดีไหม”
“หืม...” อมริตาเลิกคิ้ว
“ถ่ายแบบ...ตอนนี้เธอเป็นนางแบบเหรอเพื่อนรัก มิน่าคนมองเราสองคนกันจังเลย เราก็นึกว่าเราร้องไห้เสียงดังไปหรือเปล่า ความจริงเราเดินกับนางแบบนี่เอง”
คัคนานต์ยิ้มเขิน ๆ ก่อนจะย่นจมูกให้
“นี่...ยังจะมีอารมณ์มาแซวเราอีกนะ ร้องไห้ไปหยก ๆ ย่ะ ! ตอนนี้คุณริต้ามีเพื่อนเป็นนางแบบแล้วนะ เราพึ่งจะมาทำงานนี้เอง แต่ก็เริ่มมีคนรู้จักมากแล้ว”
“เราก็ว่าเธอดูดีออก เราเคยนึกอิจฉาขาสวย ๆ ของเธอบ่อย ๆ ดีใจด้วยนะ”
“เรียนจบแล้วมีงานทำเลยก็ดีแหละ เราจะได้มีเงินให้พ่อกับแม่บ้าง ความจริงพ่อเราน่ะไม่ค่อยสนับสนุนหรอก แม่เสียอีกที่ไม่ว่าอะไร”
อมริตานึกแล้วก็อดขำไม่ได้ แม้จะยังมีน้ำตานองหน้า เมื่อนึกถึง ชาลส์ ผู้เป็นบิดาของคัคนานต์ฝรั่งชาวอังกฤษอาจารย์สอนภาษา ที่หลงรักเมืองไทยเข้าเต็มเปา แต่ดันหัวโบราณแบบคุณพ่อชาวไทยและหวงลูกสาวเป็นที่สุด
“เราก็คงจะทำงานช่วยพ่อเหมือนกัน”
อมริตาว่าแล้วซับน้ำตา
“เราไม่ค่อยไว้ใจน้านางเท่าไหร่ แต่ก็ไม่รู้ว่าพ่อจะว่ายังไง”
“ทำใจให้หายเศร้าก่อนเถอะนะริต้า เรื่องอื่นค่อยว่ากัน ถ้าเราปลีกตัวได้ เราจะมาอยู่เป็นเพื่อน”
คัคนานต์ว่าแล้วตบหลังมือเพื่อนรักเบา ๆ ก่อนจะยิ้มให้อย่างจริงใจ แม้จะไม่เคยมีความรัก เพราะผู้เป็นพ่อหวงลูกสาวมาก แต่เธอก็เข้าใจว่าความทุกข์จากความรักมันสาหัสขนาดไหน อมริตายิ้มตอบ ความรู้สึกห่วงใยอย่างจริงใจของคัคนานต์นั้น เธอรับรู้ได้เสมอ
“ขอบใจมากนะแคนดี้ แต่ยังไงเราก็ลืมเขาไม่ได้ เราจะเก็บเขาไว้ในหัวใจเพราะเขาเป็นรักแรกของเรา แต่เราจะไม่จมอยู่กับความเศร้าให้มากมายนักหรอก แดนนี่เองก็คงจะไม่สบายใจถ้าเราอยู่อย่างไม่มีความสุข”
“อืม...ถ้าอย่างนั้นก็ดีริต้า เดี๋ยวเราจะไปส่งเธอที่บ้านแล้วก็ขอทานข้าวเย็นด้วยสักมื้อนะ”
อมริตาพยักหน้า และหันไปเรียกบริกรเพื่อมาเก็บเงิน
คัคนานต์ลอบมองหน้าเพื่อนแล้วก็ถอนใจกับประโยคสุดท้ายที่เธอได้ยิน อมริตายังอาวรณ์แดเนียลอยู่มาก เพื่อนของเธอคงจะอยู่ได้อย่างที่เจ้าตัวว่า แต่จะอยู่อย่างมีความสุขหรือเปล่านั่นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ยังไงคัคนานต์ต้องช่วยให้อมริตากลับมาสดใสตามเดิมอีกครั้งให้ได้.....
........
“ยัยหนู กลับมาแล้วเหรอลูก”
ชายวัยกลางคนที่มายืนรอรับอมริตา อยู่หน้าบ้านหลังค่อนข้างใหญ่โตโอ่อ่าของครอบครัว สิทธิรุ่งพันธุ์ อุทานอย่างดีใจเมื่อเห็นหน้าลูกสาวคนเดียว เธอยกมือไหว้ผู้เป็นบิดาและโถมเข้ากอดร่างท่านไว้อย่างดีใจไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะกี่ปีผ่านไปแต่อุดมก็ยังดูดีเหมือนเดิม หญิงสาวมองบิดาอย่างรักใคร่และชื่นชม
“พ่อยังหล่อเหมือนเดิมเลยนะคะ”
อุดมหัวเราะ และกอดลูกสาวไว้แน่น ๆ ด้วยความคิดถึง และจุมพิตที่หน้าผากมนอย่างรักใคร่ สองพ่อลูกเดินเข้าไปในบ้านคุยกันด้วยความคิดถึง แทบจะลืมไปแล้วว่ามีใครอีกคนมาด้วย คัคนานต์มองตามหลังเพื่อนและพูดขึ้นอย่างล้อ ๆ
“ตายแล้ว! ลืมหนูกันไปหมดแล้วนะคะลุงอุดม อุตส่าห์พาริต้ามาส่งให้ พอมาถึงเท่านั้นแหละลืมโชเฟอร์ไปเลย”
“ขอโทษทีแคนดี้” อมริตาหัวเราะ และกวักมือเรียกเพื่อน
“มานี่สิ เรามัวแต่ดีใจที่เจอพ่อ”
อุดมเองก็อมยิ้ม ก่อนจะกล่าวขอบใจเพื่อนสนิทของลูกสาว ที่จูงมือกับอมริตาเข้าไปในบ้านพร้อม ๆ กัน
“ลุงขอบใจมากนะหนูแคนดี้ ที่พาแม่ตัวยุ่งมาส่งให้ นี่นึกจะกลับมาก็กลับมาเสียดื้อ ๆ ตอนแรกไหนบอกพ่อว่าจะอยู่อีกสองสามเดือนไง ทำไมกลับมาเร็วนัก”
“เอ้อ...”
อมริตาอ้ำอึ้ง นัยน์ตากลมโตของเธอสลดวูบ เมื่อนึกถึงสาเหตุที่ทำให้กลับมาเร็วกว่าที่ตั้งใจไว้เธอพยายามฝืนทำให้สดใส ขณะที่พูดกับบิดา
“ริต้าคิดถึงพ่อไงคะ เลยกลับมาเร็วกว่ากำหนด เบื่อลอนดอนแล้ว อยู่มาตั้งหลายปี”
“พ่อเองก็คิดถึงหนู”
อุดมว่า เขาลูบผมลูกสาวอย่างรักใคร่ ขณะที่เดินมานั่งยังโซฟาตัวนุ่มในห้องรับแขกด้วยกัน อมริตานั่งข้างๆ กับผู้เป็นบิดาและแนบแก้มกับบ่าของเขาอย่างประจบ ซ่อนสายตาเจ็บปวดไว้อย่างมิดชิด
“เราจะรอเธอเลี้ยงอาหารเย็นนะริต้า ตอบแทนที่เราไปรับไง ลุงอุดมอย่างว่าหนูตะกละนะคะ ก็ป้านิ่มแม่ครัวบ้านนี้อยากทำอาหารอร่อยทำไมก็ไม่รู้”
คัคนานต์ว่า ทำเอาสองพ่อลูกอดหัวเราะไม่ได้ แต่ก่อนที่จะได้พูดอะไรต่อเสียงโทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้น เจ้าตัวจึงขอตัวออกไปคุยธุระข้างนอก
“ลุงอุดม ริต้า ขอตัวแป๊บนะคะ เดี๋ยวมาคุยด้วยใหม่”
“ไหนว่ามีอะไรจะเซอร์ไพรส์พ่อด้วยไม่ใช่เหรอ? ว่าไงมีอะไรจะทำให้พ่อประหลาดใจ”
อมริตารู้สึกสะท้อนใจ กับประโยคที่อุดมพูด มือเรียวคลำแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายอย่างเหม่อ ๆ
ตอนนี้... ริต้าคงจะไม่มีอะไรทำให้พ่อประหลาดใจแล้วแน่ ๆ
แผนที่จะพาคู่หมั้นหนุ่มมาแนะนำให้รู้จักและตั้งใจจะทำให้อุดมประหลาดใจคงจะไม่มีอีกแล้ว....
อุดมมองลูกสาวที่ซบหน้ากับบ่าเขาแล้วนิ่งเงียบ ชายวัยกลางคนย่นคิ้ว ลูกสาวคนเดียวของเขาเงียบไปมากกว่าที่เคยจำได้ หรือว่าอมริตาอาจจะเพลียกับการเดินทางไกล และเปลี่ยนเวลาจากที่คุ้นเคย
“ไปพักก่อนไหมลูก เวลาเมืองไทยกับลอนดอนมันต่างกันมาก หนูคงจะยังไม่ชิน พ่อดูว่าหนูเพลีย ๆ เดี๋ยวพ่อจะบอกหนูแคนดี้ให้ว่าหนูขึ้นไปนอนแล้ว ดีไหมลูก”
“ค่ะพ่อ หนูคงจะเหนื่อย แต่พ่อคุยกับแคนดี้ไปก่อนนะคะ อย่าพึ่งให้กลับ ริต้าจะลงมาทานอาหารเย็นด้วย”
อมริตาฝืนยิ้มตอบบิดา ก่อนจะเดินขึ้นไปบนชั้นสองที่เป็นห้องส่วนตัวของเธอ
เมื่อเข้าไปในห้องที่จัดการปัดกวาดไว้อย่างเรียบร้อยเพื่อรอเจ้าของห้องมาอยู่เหมือนเคยได้ ร่างบางก็โถมตัวขึ้นไปบนเตียงนอนนุ่มทันที หญิงสาวเอาแหวนหมั้นที่สวมอยู่ติดนิ้วมาดูและพูดกับแหวนยิ้ม ๆ เหมือนจะให้สื่อไปถึงเจ้าของที่ให้ไว้เป็นสัญญารัก
“ถึงคุณจะไม่ได้กลับมากับริต้านะแดนนี่ แต่ริต้าก็สัญญานะว่าจะไม่มีใครสวมแหวนวงใหม่แทนที่คุณ ริต้าจะพยายามไม่เศร้า แต่ริต้าคงเลิกคิดถึงคุณไม่ได้นะคะที่รัก ถ้าคุณอยู่ใกล้ ๆ ก็มาอยู่เป็นกำลังใจให้ริต้าด้วย
นะคะ”