1
“ขอให้พระผู้เป็นเจ้า ทรงรับลูกของพระองค์ขึ้นไปยังสรวงสวรรค์ ไปยังโลกแห่งนิรันดรด้วยเทอญ”
เมื่อเสียงบาทหลวงสวดภาวนาให้กับผู้ที่นอนนิ่งอยู่ในโลงไม้แกะสลักอย่างงดงามสิ้นสุดลง ทุกคนในพิธีต่างทำสัญลักษณ์ไม้กางเขน ท่านบาทหลวงโยนดอกไม้ลงไปในหลุมศพ ตามด้วยญาติของผู้เสียชีวิต เหมือนเป็นการอำลาครั้งสุดท้าย เป็นการส่งผู้ตายไปยังอ้อมกอดของพระผู้เป็นเจ้า
“ทำใจดีๆ ไว้นะริต้า”
หญิงสาวร่างเพรียวสวมชุดสีดำสนิทและมีหมวกสีดำใบเล็กประดับตาข่ายคลุมใบหน้าไว้เกือบครึ่งยามเจ้าตัวก้มหน้า เธอสวมเพื่ออำพรางใบหน้าที่แสนเศร้า พยักหน้ารับคำปลอบโยนนั่น นัยน์ตางามบวมช้ำจากการร้องไห้มาอย่างหนัก จมูกโด่งงามแดงเรื่อ เจ้าตัวเม้มริมฝีปากไว้แน่น
ริต้าหรืออมริตา พยายามที่จะไม่ร้องไห้ ในการมาส่งคนรักเป็นครั้งสุดท้าย...
เพื่อนสาวที่ยืนข้างๆ จับแขนของเธอไว้เมื่อพิธีสิ้นสุดลง อมริตายังมองนิ่งที่หลุมศพของแดเนียล มือเรียวลูบไล้แหวนทองคำขาววงเกลี้ยง ที่สวมไว้ตรงนิ้วนางข้างซ้ายอย่างเหม่อลอย เขาพึ่งจะหมั้นหมายกับเธอได้ไม่ถึงสามสิบหกชั่วโมง และอีกยี่สิบแปดชั่วโมงต่อมาเขาก็จากเธอไปอย่างไม่มีวันกลับ อมริตากล้ำกลืนน้ำตา พยายามข่มกลั้นความอาดูรอย่างลึกล้ำไว้
“จะกลับเมืองไทยเลยไหมริต้า” เธอพยักหน้าตอบรับ ก่อนจะพูดตอบเสียงแหบ...
“คงจะกลับเลย เราอยู่ที่นี่คนเดียวไม่ได้หรอก เราคิดถึงแต่เขา ซาร่า เรายังทำใจไม่ได้”
“โธ่! ริต้า”
ซาร่ารวบร่างเพื่อนสาวชาวต่างชาติมากอดไว้แน่นอย่างสงสาร และลูบผมยาวดำมันขลับของเธอเพื่อปลอบโยน อมริตาพึมพำเบาๆ และซบหน้าลงกับบ่าบอบบางของเพื่อน
“แดนนี่จากเราไปเร็วเหลือเกิน ซาร่า มันเหมือนฝันไป...ฝันร้าย”
“เธอกับแดนนี่พึ่งจะหมั้นกันด้วยริต้า นี่ถ้าจอนห์ไม่ชวนแดนนี่ไปเล่นสกี ก็คงไม่เกิดเรื่อง”
“อย่าโทษใครเลยซาร่า ไม่มีใครอยากให้เกิดเรื่องหรอก จอนห์เองก็ยังอยู่ในโรงพยาบาลอยู่เลย เป็นคราวเคราะห์ของแดนนี่เอง”
“แล้วเธอจะกลับเมืองไทยวันไหน ให้เราไปส่งนะ”
ซาร่าคลายกอด ร่างบางของอมริตาดูผอมเพรียวกว่าเดิมมาก จากที่ได้สัมผัสแบบนี้ เธอจับมือเย็น ๆ ของอมริตาไว้อย่างปลอบโยน
“อย่าคิดมากนะริต้า ยังไงแดนนี่ก็ไปสู้อ้อมกอดของพระเจ้าแล้ว แต่พวกเรายังอยู่ที่นี่ อยู่บนโลกนี้ เราต้องอยู่ให้ได้นะ”
“อืม ขอบใจมากซาร่า”
อมริตาฝืนยิ้มให้กับเพื่อนสนิท
อุบัติเหตุ ใช่ ! ไม่มีใครอยากให้เกิด แดเนียลเคราะห์ร้ายที่ไปเล่นสกีแล้วเกิดหิมะถล่ม จนร่างเขาจมอยู่ใต้กองหิมะ ใบหน้าหล่อเหลาของเขาดูสงบนิ่งเหมือนหลับสนิท ไม่เหมือนคนตายเลยด้วยซ้ำ เธอจะไม่มีวันได้เห็นนัยน์ตาสีมรกต ที่ฉายแววอบอุ่นและรักใคร่อีกต่อไปแล้ว
น้ำตาของอมริตาไหลรินออกมาอีกครั้ง เมื่อนึกถึงใบหน้าของชายผู้เป็นที่รัก มือลูบไล้แหวนทองคำขาวที่สวมติดนิ้วไว้ไม่ยอมถอดอีกครั้ง ความทรงจำแวบมาถึงตอนที่ เมื่อแดเนียลขอหมั้นกับเธอแล้ว อมริตาคิดอย่างเลื่อนลอย เผลอยิ้มเมื่อนึกถึงค่ำคืนอันแสนหวานระหว่างเขาและเธอ แม้จะเป็นเพียงแค่คืนเดียว แต่เธอก็สัญญากับตัวเองว่าจะจดจำคืนนั้นไว้ และไม่มีทางยอมให้ใครมาซ้ำรอยเขาได้อีก
เธอปาดน้ำตา ขณะเอาดอกลิลลี่สีขาวช่อใหญ่วางบนหลุมศพของแดเนียล ริมฝีปากอิ่มเอ่ยพึมพำกับหลุมศพของเขาเป็นภาษาไทยเบาๆ เพราะไม่อยากให้ใครรับรู้ถึงข้อความนั้น...
“ริต้าสัญญา แดนนี่ ริต้าจะมีแค่คุณคนเดียว และจะรักคุณคนเดียว ไม่มีทางรักใครได้อีกขอให้คุณรอริต้าบนสวรรค์นะคะ คุณหลับให้สบายนะที่รัก คุณเท่านั้นค่ะ ที่เป็นเจ้าของริต้าไม่มีทางจะมีคนอื่นได้อีก ริต้าสัญญา...”
สนามบินสุวรรณภูมิ บริเวณผู้โดยสารขาออก
หญิงสาวร่างสูงเพรียว สวมแว่นกันแดดอันโต สวมหมวกสีเขียวลายพราง เสื้อยืดสีขาวแขนสั้นพอดีตัวไม่มีลวดลาย กางเกงขาสั้นสีเดียวกับหมวก และรองเท้าผ้าใบง่าย ๆ ชุดแบบธรรมดาๆ ที่เจ้าตัวสวมใส่ กลับทำให้เธอดูดีอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งที่แต่งตัวไม่สะดุดตา
อาจจะเพราะร่างสูงเพรียวเตะตา และแม้จะซ่อนใบหน้าไว้ใต้แว่นกันแดดอันโต แต่ความงามนั้นยังคงฉายชัดจากเครื่องหน้าที่ดูงดงาม สมส่วน เธอมองกวาดตามผู้โดยสารขาออก และมองหาใครบางคน แล้วถอนใจสลับกับมองนาฬิกาข้อมือแบบผู้ชายสายหนังสีดำที่สวมไปด้วย และบ่นพึมพำกับตัวเองเบา ๆ
“ยัยริต้าตัวแสบ ป่านนี้ยังไม่มาเลย ไหนบอกว่าจะอยู่เที่ยวสักพัก แต่นึกจะกลับก็กลับแหะ ไม่รู้ว่าจะควงแฟนมาด้วยหรือเปล่านะ อยากเห็นหน้านายแดเนียลอะไรนั่นจริง ๆ ว่าจะหล่อเริ่ดเหมือนในรูปหรือเปล่า”
เมื่อผู้โดยสารเกือบจะออกมาหมดเป็นคนสุดท้าย แต่ก็ไม่มีวี่แววของคนที่เธอกำลังเฝ้ารอ เธอเกือบจะถอดใจกลับไปหาที่นั่งเพื่อนั่งรออีกครั้ง แต่เมื่อเห็นหญิงสาวร่างบาง สวมชุดเดรสสีดำ มีผ้าพันคอสีดำสลับขาวคล้องไหล่ไว้เสียก่อน จึงทำตาโตและวิ่งเข้าไปหาอย่างดีใจทันที พลางโถมกอดหญิงสาวไว้แน่น
“ริต้าดีใจจัง ไม่ได้เจอกันเกือบปีแนะ ไหนล่ะแฟนเธอ บอกว่าจะมาด้วยกันไม่ใช่เหรอ?”
“เอ่อ...”
อมริตาพยายามยิ้มให้กับเพื่อนสนิท และส่ายหน้า ก่อนจะกะพริบตาเร็วๆ เพื่อกล้ำกลืนน้ำตาที่กำลังจะเริ่มหยาดหยด คนที่กอดเธอไว้เริ่มรับรู้ถึงความผิดปรกติ เธอจึงถอดแว่นกันแดดออกเพื่อจะได้มองใบหน้าของอมริตาให้ชัดเจนมากขึ้น ใบหน้ารูปไข่ของหญิงสาวดูตอบลงมาก ใต้ตาดำคล้ำ จมูกโด่งก็แดงเรื่อ เหมือนคนที่ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนัก
“มีอะไรเหรอ? มีอะไรแน่ ๆ เลย ริต้าเกิดอะไรขึ้น”
เท่านั้นเอง อมริตาก็กลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เธอกอดเพื่อนสนิทแน่น ซบหน้ากับบ่ามนแล้วสะอื้นฮัก
“แคนดี้...เขาไปแล้ว...เขาไม่อยู่กับเราอีกแล้ว”
“อะไรกันริต้า”
แคนดี้ หรือคัคนานต์อุทานอย่างตกใจ พลางประคองเพื่อนรักไปที่ร้านกาแฟภายในบริเวณสายการบินทันที ดูเหมือนว่าอมริตาจะมีเรื่องใหญ่แน่ ๆ ปรกติเพื่อนของเธอคนนี้เป็นคนเข้มแข็ง ไม่เคยร้องไห้ง่าย ๆ เธอหยิบผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าสะพายใบโตส่งให้เพื่อน และตบหลังมือของอมริตาเบา ๆ
“มีอะไรเกิดขึ้น พอจะเล่าให้เราฟังได้บ้างหรือเปล่า ริต้า”
“แดเนียล เอ่อ...เขาเสียแล้ว”
อมริตาพูดเสียงแหบ ใจรวดร้าวยังไม่คลายเศร้าทุกครั้งที่พูดถึงคนรัก เขาเป็นรักแรกของเธอ และแน่นอน... อมริตาจะให้เขาเป็นเพียงรักเดียวของเธอเท่านั้น