บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 4 [ ค้างคืนที่วัด ]

สืบศพสยบวิญญาณ

ตอนที่ 4

[ค้างคืนที่วัด]

"ท่านพาโยมสองคนนี้ไปหาที่พักด้วยนะ กุฏิยังว่างอยู่ห้องหนึ่งคงพอให้โยมนอนกันได้" หลวงปู่ที่เป็นเจ้าอาวาสเอ่ยกับพระภิกษุชรา

"ครับ…หลวงปู่" พระภิกษุชราตอบรับแล้วหันไปเอ่ยกับพวกเขาสองคน

"ตามอาตมา มาทางนี้"

"ครับหลวงพ่อ" เพลิงตอบสั้น ๆ ก่อนจะหันไปพยักหน้าให้ขุนพลแล้วรีบเดินตามพระภิกษุชรารูปนั้นไป

พวกเขาสองคนเดินตามพระภิกษุชราไปได้ไม่นานก็มาถึงกุฏิหลังหนึ่งที่อยู่หลังท้ายสุด ประตูกุฏิถูกปิดล็อคกุญแจไว้ จากสภาพของกุฏิหลังนี้น่าจะถูกปิดร้างมานานแล้ว พระภิกษุชราไขกุญแจเปิดประตู ทันทีที่ประตูถูกเปิดออกมา กลิ่นเหม็นอับในกุฏิก็โชยออกมาจากด้านใน พระภิกษุชราเดินเข้าไปในกุฏิแล้วเปิดไฟก่อนจะหันมาเรียกพวกเขาสองคนที่ยืนอยู่ข้างนอก

"เข้ามาสิโยม"

พวกเขาสองคนหันไปมองหน้ากันเลิกลักเหมือนกำลังตัดสินใจว่าจะเข้าไปดีหรือไม่เข้ากันแน่ แล้วเพลิงก็ตัดสินใจเดินเข้าไป ขุนพลจึงรีบเดินตามไป ทั้ง ๆ ที่ในใจไม่อยากเข้าไปสักเท่าไหร่นัก

"คืนนี้ก็พากันนอนที่กุฏินี้นะโยม อาจจะดูรกร้างไปหน่อย แต่มีไม้กวาดอยู่ตรงโน้น ทำความสะอาดกันก่อนแล้วค่อยนอน ห้องน้ำอยู่ด้านหลังนะ อาบกันได้ตามสบาย" พระภิกษุชราเอ่ยกับพวกเขาสองคนด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่า 

เพลิงกวาดสายตาสำรวจดูภายในกุฏิก็รู้ว่า กุฏิหลังนี้น่าจะไม่มีพระมาอยู่ที่นี่นานแล้ว เพราะในกุฏิมีแต่หยักไย่เต็มไปหมด ด้วยความสงสัยชายหนุ่มจึงอดที่จะเอ่ยถามพระภิกษุชราไม่ได้

"หลวงพ่อครับ กุฏิหลังนี้ร้างมานานแล้วเหรอครับ?"

พระภิกษุชรานิ่งอึ้งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบเพลิง

"อ๋อ…ร้างมาได้ปีกว่าแล้วโยม"

"กุฏิที่ไม่ร้างไม่มีเหรอครับหลวงพ่อ" ขุนพลเอ่ยถามขึ้นมาด้วยความอยากรู้

"ตอนนี้มันไม่มีกุฏิว่างเลย พระอยู่เต็มทุกกุฏิ เหลือว่างแค่กุฏิเดียว แต่ถ้าโยมจะไม่พักก็ไม่เป็นไร จะไปหาเช่าโรงแรมก็ได้นะ" พระภิกษุชราเอ่ยเสียงเรียบกับพวกเขาสองคนทำให้เพลิงกับขุนพลถึงกับนิ่งอึ้งไปครู่หนึ่งเหมือนกำลังคิดหนัก 

"ไม่เป็นไรครับหลวงพ่อ คืนนี้ผมจะนอนที่นี่แหละครับ นี่มันก็จะมืดค่ำแล้วด้วย ถ้าไปหาเช่าโรงแรมก็จะเสียเงินค่าเช่าอีก เพิ่งเดินทางมากันเหนื่อย ๆ อยากพักผ่อนแล้วครับ" เพลิงเอ่ยกับพระภิกษุชรา

"ถ้าอย่างนั้นก็นอนพักผ่อนกันตามสบาย อาตมากลับก่อนนะ อ้อ…ที่หน้าวัดมีร้านอาหารกลางคืนนะ ถ้าหิวก็ออกไปหาอะไรทานกันได้ อะนี่ลูกกุญแจกุฏิ" พระภิกษุชราเอ่ยกับเพลิงแล้วส่งลูกกุญแจให้

"ครับหลวงพ่อ" เพลิงยกมือไหว้แล้วรับลูกกุญแจมาใส่กระเป๋าเสื้อ

พระภิกษุชราเดินออกจากกุฏิไปแล้ว ขุนพลมองตามหลังไปด้วยแววตาและสีหน้าวิตกกังวลก่อนจะหันมาถามเพลิงที่กำลังหยิบไม้กวาดขึ้นมาทำความสะอาดห้อง

"เฮ้ย! ไอ้เพลิง คืนนี้มึงจะนอนในห้องนี้จริง ๆ เหรอวะ?

"เออ…ทำไมวะ อย่าบอกนะว่ามึงกลัว นอนแค่คืนเดียวเองดีกว่าไปเสียเงินเช่าโรงแรมนอน กูยิ่งไม่ค่อยมีเงินอยู่ด้วย" เพลิงเอ่ยกับขุนพลแล้วหันไปกวาดห้องต่อ

"กูว่ามันดูเงียบ ๆ และวังเวงน่ากลัว

ยังไงก็ไม่รู้ มึงไม่แปลกใจเหรอว่าทำไมเขาถึงปิดร้างไว้แบบนี้" ขุนพลเอ่ยกับเพลิงแล้วเหลียวซ้ายแลขวาไปรอบ ๆ ห้องด้วยแววตาและสีหน้าหวาดกลัว

"แล้วไง…มึงจะสงสัยอะไรนักหนา ก็ไม่มีพระมาบวชมาอยู่ มันก็เลยว่างไง ดีแล้วที่ยังมีกุฏิว่างให้นอน ดีกว่าไปเช่าโรงแรมเสียเงินเสียทอง ตอนนี้เราต้องประหยัดเงินไว้ก่อน ยังไม่รู้ว่าจะหางานได้ตอนไหน" เพลิงเอ่ยกับขุนพลก่อนจะเดินเอาขยะไปทิ้งหน้าห้อง

"กูบอกตรง ๆ เลยนะโว้ยไอ้เพลิง กูไม่อยากนอนในกุฏินี้เลย คืนนี้ไม่รู้จะนอนหลับหรือเปล่า" ขุนพลเอ่ยกับเพลิงด้วยสีหน้าที่วิตกกังวลอย่างเห็นได้ชัด

"มึงอย่าปอดแหกไปนักเลย ไม่มีอะไรหรอก" เพลิงเอ่ยกับขุนพลแล้วเหลียวมองสำรวจไปรอบ ๆ ห้อง

"มึงไปเอาเสื่อตรงโน้นมาเคาะฝุ่นออกดีกว่า จะได้ไว้ปูนอนกัน อย่าไปนอนทับบนเตียงของเขา เพราะมันเป็นที่นอนส่วนตัวของพระ เราแค่คนมาอาศัยเขานอน ก็ปูเสื่อนอนบนพื้นนี่แหละ เดี๋ยวกูไปอาบน้ำก่อนนี่มันจะหกโมงแล้วจะได้ออกไปหาข้าวกินกันแล้วค่อยกลับมานอน" เพลิงเอ่ยกับขุนพล แล้วหยิบสบู่ผ้าเช็ดตัวกับผ้าขาวม้าออกมาจากเป้ ก่อนจะเดินไปเปิดประตูห้องน้ำ ทันทีที่เปิดประตูออกมาเขาก็ถึงกับสะดุ้งตกใจ เมื่อมองเห็นจีวรเก่า ๆ แขวนอยู่ที่ราวผ้าในห้องน้ำ

"เฮ้ย! ตกใจหมดเลย" เพลิงอุทานออกมาอย่างตกใจ แล้วตั้งสติก่อนจะเดินเข้าไปดูใกล้ ๆ ก็รู้ว่ามันคือจีวรพระที่เก่ามากแล้ว แต่ที่น่าแปลกใจมากไปกว่านั้นก็คือจีวรผืนนั้นมีรอยคราบเลือดที่แห้งเกรอะกรังติดอยู่ ถึงแม้ว่าจะผ่านไปนานแล้วแต่ก็ยังพอดูออกว่ามันคือคราบเลือดของคน เพลิงรีบเดินเข้าไปหยิบจีวรขึ้นมาดู ก่อนจะเดินออกมาแล้วเอาตากไว้ที่ราวผ้าหน้ากุฏิ ในใจก็คิดบวกไว้ว่าเลือดที่เลอะจีวรพระน่าจะมาจากโดนมีดบาดมือก็ได้ เมื่อขุนพลมองเห็นเพลิงถือจีวรออกมาจากห้องน้ำก็รีบเอ่ยถามขึ้นมาทันที

"เฮ้ย! ไอ้เพลิงมึงไปเอาจีวรพระมาจากไหนวะ" 

"กูเห็นอยู่ในห้องน้ำ มันเก่ามากแล้ว เลยเอาไปตากไว้ข้างนอก พระคงไม่ได้ใช้แล้วละ" เพลิงเอ่ยกับขุนพลแต่ไม่ได้บอกว่าจีวรผืนนั้นมีรอยคราบเลือด เพราะเขาเกรงว่าขุนพลจะสงสัยและกลัว เพลิงเดินกลับมาในใจก็คิดว่าคืนนี้จะเจอกับอะไร และมีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเขาสองคนหรือเปล่า เมื่อคิดได้อย่างนั้นจึงเดินไปหยิบธูปที่วางอยู่บนโต๊ะข้างเตียงนอนมาสองดอกก่อนจะหยิบไม้ขีดที่วางอยู่บนโต๊ะขึ้นมาจุด แล้วหันไปเรียกขุนพลที่กำลังทำความสะอาดเสื่ออยู่

"ไอ้ขุนมานี่ก่อน" 

"มีอะไร มึงจุดธูปทำไม" ขุนพลเดินมาถึงก็รีบเอ่ยถามเพลิงด้วยความสงสัย

"อ้าว! เอาธูปไปดอกนึง กูจะไหว้บอกกล่าวเจ้าของห้องและขออนุญาต ผีบ้านผีเรือน ที่เขาอาศัยอยู่ในกุฏิหลังนี้ พูดตามกูนะ กูจะบอกเจ้าของห้อง และขออนุญาตเขานอนสักคืน เขาจะได้ไม่มารบกวนเรา" เพลิงพูดจบก็ยกมือขึ้นพนม ขุนพลทำหน้างง ๆ ก่อนจะนั่งลงแล้วยกมือขึ้นพนมตาม

"ข้าแต่พระภิกษุสงฆ์เจ้าของห้องที่เคยอยู่ในกุฏิหลังนี้ ตลอดจนผีบ้านผีเรือนคืนนี้ข้าพเจ้าสองคนขออนุญาตพักอาศัยหลับนอนสักคืน เราสองคนมิได้มีเจตนาจะมารบกวนหรือล่วงเกินท่านแต่อย่างใด ขอให้ท่านจงอนุญาตให้ข้าพเจ้าสองคนพักอาศัยหลับนอนในห้องนี้ด้วยเถิด" เพลิงและขุนพลกล่าวจบก็ปักธูปลงในกระถางธูปที่อยู่บนโต๊ะ ทันทีที่พวกเขาปักธูปเสร็จจู่ ๆ ก็เกิดลมพัดกระโชกมาอย่างแรง แล้วค่อย ๆ สงบลง ขุนพลทำหน้าเลิกลักตกใจหันไปมองหน้าเพลิงด้วยสีหน้าท่าทางตื่นกลัว ก่อนจะเอ่ยถามเพลิงขึ้นมาด้วยความแปลกใจ

"เฮ้ย! ลมอะไรวะทำไมมันพัดแรงจัง กูยิ่งกลัว ๆ อยู่"

"ไม่มีอะไรหรอกมึงก็กลัวไปได้ มันเป็นเรื่องของธรรมชาติของลมไม่มีอะไรหรอก" เพลิงแกล้งทำทีตอบขุนพลไปทั้ง ๆ ที่เขารู้ว่าดวงวิญญาณที่อยู่บริเวณนี้เขารับรู้ที่พวกเขาสองคนขออนุญาตพักอาศัยหลับนอนในกุฏิแล้ว

"เดี๋ยวเราไปจุดธุปบอกเจ้าที่เจ้าทางข้างนอกด้วย" เพลิงเอ่ยกับขุนพลก่อนจะหยิบธูปขึ้นมานับสิบดอก

"อ้าว! เมื่อกี้นี้ก็จุดไปแล้วนี่หว่าทำไมต้องไปจุดข้างนอกอีกวะ" ขุนพลเอ่ยถามเพลิงด้วยความสงสัย

"ข้างในเราบอกกล่าวเจ้าของห้อง กับผีบ้านผีเรือน ส่วนข้างนอก คือบอกเจ้าที่เจ้าทางและเทวดาฟ้าดิน มันไม่เหมือนกัน มึงเห็นมั้ย ข้างในใช้ธูปดอกเดียว แต่ข้างนอกเราต้องให้ธูปห้าดอก" เพลิงส่งธูปให้ขุนพลแล้วอธิบายให้ฟังก่อนจะเดินออกจากห้องไป ขุนพลทำหน้างง ๆ แล้วรีบเดินตามหลังไป เมื่อเดินออกมาถึงข้างนอก เพลิงก็จุดธูปแล้วส่งไม้ขีดให้ขุนพลจุดต่อ ทั้งสองคนนั่งลงคุกเข่ากับพื้น

"เอาละเดี๋ยวมึงว่าตามกูนะ" เพลิงหันไปเอ่ยกับขุนพลที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ก่อนจะหลับตาพนมมือ

"ข้าแต่เจ้าที่เจ้าทาง ทวยเทพเทพดา และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย คืนนี้ข้าพเจ้ามาขออาศัยหลับนอนในกุฏิหลังนี้ ขอให้ท่านจงรับรู้และโปรดช่วยปกป้องคุ้มครองข้าพเจ้าด้วยเถิด สาธุ" เพลิงกล่าวจบก็ปักธูปลงบนดินแล้วเงยหน้าขึ้นมา แต่แล้วเขาก็ถึงกับตกใจสะดุ้งสุดตัว

 

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel