ตอน 4
“งั้นธารขอลองก่อนได้ไหมคะ” สาวหน้ารูปหัวใจ นัยน์ตากลมโตชวนหลงใหล ฉายาเจ้าหญิงนิทราขอลองก่อนเป็นคนแรก เธอชอบรถ ชอบประติมากรรมแห่งยานยนต์ “เปิดประตูซ้าย” หลังจากน้ำเหนือ กดรีโมทให้ประตูทั้งสี่บานปิดลง สายธารสั่งให้รถยนต์อัจฉริยะเปิดประตูซ้าย
“เฮ้ๆ นั่นเปิดจริงๆ ด้วย” ธาราตื่นเต้นกับสิ่งประดิษฐ์ล้ำอนาคตหลังจากสายธารสั่งการ
“ไหนน้ำลองมั่ง” แล้วสามสาวก็สนุกในการทดลองให้รถยนต์คันหรูเปิดประตู ซ้าย ขวา หน้า หลัง
“พอๆ ให้ดร.ได้สาธิตต่อ” นายตำรวจอาวุโส ต้องเข้ามาเป็นกรรมการเมื่อเห็นสามสาวจอมซนไม่มีทีท่าจะหยุดเล่นกับของเล่นใหม่
“ให้มันได้อย่างนี้น่าพวกเธอ ทำตัวเป็นเด็ก”
“อิอิ ไม่ชอบเด็กหรือไงคะ เจ้านาย” ทั้งสามหันมาทางหัวหน้าแล้วส่งยิ้มละลายใจให้ เล่นเอาทั้งสองหนุ่มหัวใจกระตุก นี่ถ้าพันตำรวจเอกอเนกไม่มีภรรยาคงหัวใจอ่อนยวบเป็นแน่ แต่น้ำเหนือสิจะทนทานได้นานสักแค่ไหน
แล้วชายหนุ่มเริ่มต้นทดสอบคุณสมบัติทั้งของรีโมทและของรถให้ชมทีละขั้นตอน ตั้งแต่กดปุ่มเปลี่ยนสีรถ เปลี่ยนป้ายทะเบียน เปลี่ยนล้อแม็ก กดให้อาวุธออกมาจากด้านข้าง เปลี่ยนพลังธรรมดาให้เป็นพลังเทอร์โบ อีกหลายอย่างที่มีดีกว่าคำว่ารถยนต์
“ในนี้มีอาวุธให้พวกคุณเลือกใช้ได้ตามสถานการณ์ อุปกรณ์ปฐมพยาบาลทุกชนิด”
“โห เจ๋งสุดๆ” ทั้งสามสาวตะลึงพรึงเพริดอีกครั้ง มุดเข้าไปในรถสำรวจโน่น นี่ นั่นเพื่อทำความคุ้นเคย
“เราขอลองขับได้ไหมคะ” สายธารหญิงสาวที่ชอบความเร็วเอ่ยขอเสียงหวาน ทั้งน้ำเหนือและเจ้านาย
“ผมว่ามันไม่เหมาะที่จะไปวิ่งตามถนนตอนนี้ล่ะมั้ง”
“อ้าว ทำไมล่ะคะ”
“มันดูไฮเกินไป คนทั้งถนนคงมองพวกคุณเป็นตาเดียว”
“เอาแบบธรรมดาสิคะ” ธาราอยากลองอย่างที่สายธารขอ น้ำรินพยักหน้ารับเห็นพ้อง สามสาวกรูกันเข้ามาส่งตาหวานให้เจ้านาย ส่งเสียงออดอ้อนที่ใครได้ฟังไม่ใจอ่อนถือว่าไม่ใช่คน
“ระวังหน่อยแล้วกัน”
“ไชโย เจ้านายใจดีจังเลยค่ะ” สายธารดีใจกว่าใครเพื่อน กระโดดโลดเต้นยิ่งกว่าได้เงินค่าจ้างหลายแสน ช่วยไม่ได้ เธอมันชอบความเร็ว รถแรงๆ สวยๆ นี่นา สิ่งที่แฝงไว้กับความอยากลองเทคโนโลยีของรถคันนี้คือ เธอต้องการประชันความเร็วกับใครก็ได้บนท้องถนน ถ้าโชคดีอาจจะมีพวกชอบอวดว่าตัวเองเจ๋ง ตัวเองแรงเพราะพ่อแม่รวยบนถนนยามนี้ก็เป็นได้
เพราะเธอเลือกถนนทางฝั่งตะวันออก เป็นเส้นทางทดสอบประสิทธิภาพของรถ ส่วนพวกอุปกรณ์ต่างๆ นั้นสายธารไม่สนเท่าไหร่ ต่างจากน้ำรินที่สนใจว่ามันติดตั้งตรงไหนทำงานอย่างไร ส่วนธาราสนใจแค่ว่ามันจะทำได้จริงอย่างที่ดร.สติเฟื่อง เงาะซ่อนรูป ที่เขามักส่งตาเยิ้มให้กับน้ำรินประจำนั้นจะเก่งจริงดั่งคำคุยหรือเปล่า แม้จะประจักษ์ต่อสิ่งประดิษฐ์นับชิ้นไม่ถ้วนแล้วก็ตาม หากว่าธารายังอยากทดลองร่วมไปกับเพื่อนๆ อยู่ดี
“ขอกุญแจหน่อยค่ะ ดร.เหนือ”
“ไม่มี”
“อ้าวไม่มีแล้วจะสตาร์ตยังไงล่ะคะ” หญิงสาวส่งแววตา กลมโตทอประกายให้ เล่นเอาน้ำเหนือใจกระตุก ทว่าเป้าหมายเขาไม่ใช่สายธารหากแต่เป็นสาวหน้าหวานคนนี้ราวตุ๊กตาคนโน้นต่างหาก กับทรงผมหยักศกนั่นน่ะ คนที่ทำให้หัวใจเขาอ่อนไหวยวบยาบได้ทุกคราเวลาจ้องมองดวงหน้าหวานและแววตาดุดัน
“เข้าไปนั่งในรถสิ”
“ยังไงล่ะเนี่ย” สายธารหญิงสาวที่อยากลองรถมากคราง คิดว่าดร. ตัวสูงกับแบบฟอร์มสีขาวยาวถึงหน้าแข้งคนนี้ ไม่ได้ถนัดแค่ประดิษฐ์สิ่งของยังถนัดเรื่องความเจ้าเล่ห์ด้วย สามสาวเข้าไปนั่งประจำที่โดยมีสายธารนั่งหลังพวงมาลัย น้ำรินนั่งข้าง ธาราอยู่เบาะหลัง
“ธารออกคำสั่งสตาร์ตสิ”
“สตาร์ตงั้นหรือ”
“อือ ฮึ” น้ำเหนือพยักหน้า “ระดับเสียงต้องได้เดซิเบลพอดี ผมตั้งใว้ให้ได้ระดับเสียงพวกคุณทั้งสามคน เชิญออกคำสั่งกับลูกน้องผู้ภักดีได้”
“สตาร์ต” สายธารออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่พอดีหนักแน่นจริงจังกับรถยนต์คันหรูไฮเทคโนโลยี คาดว่าน่าจะมีคันเดียวในโลกด้วยกระมัง เพราะดร.สติเฟื่องลงมือประดิษฐ์เองทุกขั้นตอน
“ว้าว จริงด้วย” เสียงหวานนั้นดังขึ้นพร้อมกันด้วยความตื่นเต้น “ดร.เนี่ยทำให้เราตื่นเต้นได้ทุกครั้งเลยเชียว”
“ไปนะคะ” น้ำรินยกมือทำท่าบ๊ายบายกับทั้งเจ้านายและดร. เขาส่งยิ้มกลับมาให้ด้วยมีความหมายแฝงนัยลึกๆ หญิงสาวสั่นสะท้านไปถึงขั้วใจอย่างประหลาด ทั้งที่ไม่ได้รู้สึกกับผู้ชายบุคลิก ต๊องๆ แบบนี้มาก่อน
“อย่าลืมนะรถคันนี้ทำความเร็วได้ถึงสามร้อย กิโลเมตร/ชั่วโมง ด้วยการกดปุ่มนั้น” ดร.น้ำเหนือชี้ไปตรงปุ่มสีแดงมีอักษรภาษาอังกฤษตัว ที (T) “ห้ามใช้จนกว่าจะเกิดกรณีฉุกเฉิน รับปากผมก่อน” เขาเอื้อมมือไปแตะพวงมาลัยห้ามไม่ให้พวกเธอออกรถไปจนกว่าจะรับปากจะไม่แตะปุ่มนั้น
เมื่อสามสาวไม่ได้แสดงทีท่าว่าจะทำตามเขาจึงส่งสายตาดุให้ มีเขาคนเดียวที่หยุดรถคันนี้ได้เพราะรีโมทควบคุมระบบทุกอย่างอยู่กับเขา ด้วยประสิทธิภาพเหนือชั้นเกินคำบรรยาย จึงจำเป็นต้องมีความลับบ้าง น้ำเหนือไม่ได้บอกใคร
“ค่า” เสียงรับปากและแววดูเหมือนว่าเชื่อคำพูดของชายหนุ่มดังขึ้นพร้อมกัน เชอะ พวกเธอเจ้าเล่ห์กว่านั้น
รถยนต์ไฮเทคทะยานออกจากโรงรถด้วยการกดปุ่มรีโมทขนาดเล็กในมือของน้ำรินที่นั่งข้างคนขับจอมระห่ำ ให้ประตูห้องทดสอบเปิดออกกว้าง นอกจากฉายาเจ้าหญิงนิทราแล้วสายธารยังได้พ่วงฉายา นักซิ่งตีนผีด้วยอีกหนึ่ง
“ไปไหนกันดี”
“ตามใจโชเฟอร์” ธาราซึ่งนั่งตรงเบาะหลังตอบ รู้ดีว่าถึงเสนออะไรไปสายธารก็คงไม่ไปตามทางที่ตัวเองเสนออยู่ดี สู้ตามใจเจ้าหล่อนดีที่สุด ยัยบ๊องเอ๊ย
“พัทยา” สนามประลองรถประจำที่หญิงสาวมักเตร่ไปในเวลาที่ไม่มีงาน ถึงแม้มีงานยังแอบไปบ้างบางครั้ง เธอสนิทสนมกับคนดูแลสนาม พูดง่ายๆ มันคิดจะจีบเธอ เธอจึงโปรยเสน่ห์เพื่อประโยชน์ในอนาคต
ณ ประเทศฮ่องกง
“เล่าเฟยจองตั๋วเครื่องบินไปเมืองไทยให้ผมหรือยัง” หยางฟง เล่ย เจ้าพ่อแห่งสื่อของฮ่องกง ถามเลขา สวย เอ็กซ์ เซ็กส์แตกที่ยืนรอแฟ้มเอกสาร เพราะเจ้าหล่อนนำเข้ามาให้เขาเซ็นเมื่อไม่กี่นาทีนี่เอง
“เรียบร้อยแล้วค่ะ อีกสองวันเดินทางได้เลย” หญิงสาวตอบด้วยท่าทีชะมดชม้อย หวังให้เจ้านายสนใจหันมามองรูปร่าง หน้าตา การแต่งตัวที่ออกจะยั่วยวนกิเลสตัณหาชายของเธอ สำหรับวันนี้แค่เบาๆ ด้วยชุดกระโปรงสั้นโชว์เรียวขาขาว ผ่าข้างสูงอีกต่างหาก ทั้งที่สั้นอยู่แล้ว เสื้อเชิ้ตสีขาวแขนกุด ไม่ติดกระดุมสองเม็ดบน เผยให้เห็นตับ ไต ไส้ พุง
“ขยับเข้ามาใกล้ๆ หน่อยสิ ผมไม่ได้ยิน ตอบชัดๆ” หญิงสาวร่างสะบึมขยับกายเข้าใกล้เจ้านายที่มีอานุภาพต่อความต้องการของเธอ ทุกครั้งที่ได้เข้ามาในห้องนี้ตามลำพัง ไร้เงาของบอดี้การ์ดหน้าโหดทั้งสี่ เธอจะยั่วยวนเจ้านายเพื่อให้ได้ในสิ่งที่หวัง (บางอย่าง)
“เรียบร้อยแล้วค่ะ” เล่าเฟย ก้มลงไปกระซิบข้างหูของผู้เป็นนายด้วยน้ำเสียงเย้ายวน แหบพร่า เบาหวิว ยั่วยุความอยากในร่างกายส่วนลึกของผู้เป็นนาย
ทันทีที่หยางฟงสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นเร่านั้น เขาก็เกิดแรงปรารถนาอันล้นเหลือต่อร่างอวบ ขาวราวซาลาเปาพลันความต้องการในกายเขาก็ลุกโชน ยกมือหนาและลำแขนแข็งแรง ตวัดเอวบางยั่วอารมณ์ดิบของเขาให้เข้ามาประชิด และยกร่างอวบนั้นขึ้นนั่งบนตักด้วยความกระหายหิว จับสะโพกมนกลมอวบใหญ่ของหญิงสาวให้หันหน้ามาเผชิญกับเขา จาบจ้วงด้วยริมฝีปากร้อนรนลงกับริมฝีปากสีแดงจัด
จนอีกฝ่ายต้องรีบตอบรับความต้องการที่มีมากพอกันด้วยการบดขยี้ริมฝีปากแดงจัดของตัวเองลงไปกับริมฝีปากอวบของฝ่ายชาย เสื้อเชิ้ตตัวจิ๋วรัดแน่นของเล่าเฟย ที่ปลดกระดุมลงมาสองเม็ด เผยให้เห็นหน้าอกหน้าใจที่ล้นหลาม เพื่อยั่วกิเลสเขาก็ถูกปลดกระดุมออกทุกเม็ด เขาชอนไชจมูกและลิ้นอุ่นกับซอกคอขาวระหง ไล่เรื่อยลงมาตามทรวงอกอวบอัดยัดทะนาน หญิงสาวบิดกายร้อนรนด้วยไฟปรารถนา
“เราไปตรงนั้นกันเถอะ” หยางฟงอุ้มร่างบางยั่วเย้าไปยังโซฟาตัวใหญ่นุ่มนิ่ม ขืนอยู่ตรงนี้เขาคงถูกอัดตายด้วยไฟราคะ ผู้ชายความต้องการสูงแบบเขาคงไม่ยอมให้บทรักอยู่ในที่คับแคบแบบนี้ เขาวางเลขาหน้าห้องสาวสวยที่ตอนนี้เสื้อเชิ้ตตัวเล็กได้หลุดออกไปจากร่าง มีเพียงกรวยลูกไม้บางๆ สีดำที่มันปกปิดอะไรไม่ได้เลยสักนิด ครอบความอลังการตรงหน้าไว้ กระโปรงสอบสั้นถูกรูดไปกองอยู่ปลายเท้าหลังจากที่แผ่นหลังของหญิงสาวสัมผัสกับโซฟาตัวนุ่ม ราคาแพง
“เธอล็อกประตูหรือยังสาวน้อย”
“แน่นอนค่ะ”
“เตรียมการมาพร้อมดีจังเลยนะ”
“หรือไม่ชอบคะ”
“ชอบสิ ชอบตรงที่เธอจะร้องแทบขาดใจใต้ร่างฉันนี่ละ”
“อุ๊ย ! ท่านหยางฟงก็” หล่อนส่งเสียงทำท่าทางเอียงอาย ทั้งที่จริงๆ แล้วผ่านบทรักกันมานับครั้งไม่ถ้วน ตั้งแต่วันแรกที่หล่อนก้าวเข้ามาเป็นเลขาให้กับเขา หลังจากเขาใช้ให้บอดี้การ์ดเสี่ยวเวิ่น ทำหน้าที่เลขาซึ่งขัดกับลูกตา จนต้องหาเลขาใหม่เป็นสาวสวยใต้ร่างหนาคนนี้แทน
สิ้นเสียงสนทนาสั้นๆ บทรักลีลาเร่าร้อนจึงเริ่มต้นขึ้นด้วยเสียงครางกระเส่าของคนทั้งคู่ หยางฟงจัดการกับเสื้อผ้าเลขาสาวจนไม่เหลือให้อยู่ติดร่าง ส่วนของเขาจัดการไปตั้งแต่เสี้ยววินาทีที่ได้คุยกันเรื่องประตูนั่นแล้ว เรื่องอะไรเขาจะยอมให้เสียเวลา เวลาของเขาเป็นเงินเป็นทอง ลิ้นอุ่นลิ้มเลียสองเต้าเต่งตึงอวบอัดขนาดคัพซี หญิงสาวใต้ร่างบิดเร่าๆ ด้วยความต้องการถึงขีดสุด เพราะไม่ใช่แต่ลิ้นอุ่นที่ทำหน้าที่ของมัน นิ้วมือแกร่งก็ทำหน้าที่กับส่วนล่างของเธอด้วยใจหฤหรรษ์รัญจวนของคน ที่โดนกระทำนั้นร้อนรน ทุรนทุรายแทบขาดใจ น้ำหวานตรงกลีบกุหลาบเริ่มหยาดเยิ้ม